“เผ่าไซย่า!” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป
ถ้ามันมีเผ่าพันธุ์ที่สามารถขับยานรบเข้ามาในระบบเทียนเซียได้ล่ะก็ มันก็ต้องเป็นเผ่าไซย่า
เมื่อดูจากความทันสมัย เผ่าไซย่าจะอยู่ใน 20 อันดับสูงสุดของจักรวาลจีโน ส่วนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของพวกเขาถูกจัดเป็นอันดับที่ 6 ของจักรวาล
แม้แต่เทคโนโลยีของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับเผ่าไซย่า
เมื่อหานเซิ่นเห็นสัญลักษณ์เหล็กที่เป็นตัวแทนของเผ่าไซย่าบนตัวยาน เขาก็สามารถบอกได้ทันทีว่ามันเป็นยานของเผ่าไซย่า แต่ถึงจะไม่ได้เห็นสัญลักษณ์นั่น เขาก็คงจะรู้อยู่ดี มันมีเพียงแค่เผ่าไซย่าเท่านั้นที่สามารถขับยานรบลำใหญ่เข้ามาในระบบเทียนเซียได้โดยปราศจากอุปสรรค
หานเซิ่นลังเลและคำนึงว่าควรจะขับวาฬขาวไปทางอื่นดีไหม ยานรบเผ่าไซย่ายิงลำแสงออกมา แต่โชคดีที่มันไม่ได้โจมตีมาที่วาฬขาว ลำแสงนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาและมันก็แสดงภาพของสิ่งมีชีวิตในชุดเกราะ มันเป็นภาพโฮโลแกรมที่ถูกส่งมาจากระยะไกล
“หานเซิ่นที่รัก ข้าคือองค์ชายอัลเบิร์ตจากเผ่าไซย่า กษัตริย์ของเราได้ส่งให้ข้ามาเชิญเจ้าในฐานะแขกคนพิเศษของเผ่าไซย่า” สิ่งมีชีวิตในชุดเกราะพูดและโค้งคำนับให้กับหานเซิ่น เขาดูสง่างามมากๆ
“ขอบคุณสำหรับคำเชิญ แต่ข้าต้องขอปฏิเสธ ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งและไม่มีเวลาไปเยือนเผ่าของพวกเจ้าได้” หานเซิ่นพูดจากภายในวาฬขาว
องค์ชายอัลเบิร์ตพูด “ได้โปรดอย่ากังวล พวกเราไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร พวกเราแค่ขอให้เจ้าช่วยอวยพรให้กับองค์ชายของพวกเราเท่านั้น ถ้ามันมีอะไรที่เจ้าต้องการ ได้โปรดบอกพวกเรามา บางทีพวกเราอาจจะตกลงราคาสำหรับความช่วยเหลือได้”
“ข้ากลัวว่าพวกเเจ้าจะเข้าใจผิด ข้ามอบพรให้กับพวกเจ้าได้ แต่การเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้านั้นเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้” หานเซิ่นพูด
องค์ชายอัลเบิร์ตหัวเราะ “พวกเรารู้ในเรื่องนั้น อย่าได้กังวล พวกเราจะไม่บังคับให้เจ้าทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กษัตริย์ของพวกเราเพียงแค่ต้องการให้เจ้าช่วยอวยพรให้กับองค์ชายของพวกเรา ความก้าวหน้าของพวกเขาคือทั้งหมดที่พวกเราคาดหวัง พวกเราไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่านั้น”
“ข้าเข้าใจแล้ว แต่ข้ากำลังยุ่งจริงๆ ในตอนนี้ข้าไปเยือนเผ่าของพวกเจ้าไม่ได้” หานเซิ่นไม่เชื่อในสิ่งที่องค์ชายอัลเบิร์ตกำลังบอก
“ถ้านั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆ พวกเราก็จะไม่บังคับเจ้า แต่ถ้าเจ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ ได้โปรดหาเวลามาเยือนเผ่าไซย่า ถ้าเจ้าอวยพรให้กับองค์ชายของพวกเรา พวกเราจะเป็นหนี้เจ้าอย่างมาก”
องค์ชายอัลเบิร์ตพูดต่อ “เจ้ากำลังถูกตามล่าโดยเอ็กซ์ตรีมคิง ข้ากลัวว่าหนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอันตราย ข้าจะช่วยเคลียร์เส้นทางเพื่อที่เจ้าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย”
หลังจากนั้นยานรบขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนกับดวงดาวก็หันกลับและมุ่งหน้าไป หานเซิ่นลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจขับวาฬขาวตามหลังยานรบยักษ์ไป
ถ้าองค์ชายอัลเบิร์ตมีแผนที่จะบังคับให้เขาไปที่เผ่าไซย่า แบบนั้นหานเซิ่นก็จะไม่มีทางเลือกมากนัก ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงตามไปเพื่อดูว่าจริงๆแล้วพวกเขาต้องการอะไร
น่าประหลาดใจที่เผ่าไซย่าแค่พาพวกหานเซิ่นออกไปจากระบบเทียนเซียจริงๆ
เนื่องจากยานรบของเผ่าพันธุ์ธรรมดาไม่สามารถเข้าไปในระบบเทียนเซียได้ เผ่าไซย่าจึงมีความได้เปรียบในการทำในสิ่งที่เผ่าพันธุ์อื่นทำไม่ได้ พวกเขารู้จักที่แห่งนี้ดีกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ แถมด้วยเทคโนโลยีนี่ล้ำหน้า พวกเขาก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นหลายอย่างได้
ภายในหนึ่งเดือน หานเซิ่นก็ออกจากระบบเทียนเซียภายใต้การปกป้องจากยานรบของเผ่าไซย่า
“หานเซิ่นที่รัก ข้าหวังว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะไปเยื่อนเผ่าไซย่าของพวกเรา”
องค์ชายอัลเบิร์ตพูด หลังจากนั้นยานรบใหญ่ยักษ์ก็เคลื่อนจากไป เขาไม่ได้พยายามจะจับตัวหานเซิ่น
“เผ่าไซย่าที่น่าสนใจจริงๆ” หานเซิ่นมองดูยานรบเผ่าไซย่าหายไปในอวกาศด้วยความประหลาดใจ
“กัปตันสุดยอดไปเลย แม้แต่องค์ชายอัลเบิร์ตที่เป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าไซย่าก็ยังมีมารยาทกับกัปตัน”
“กัปตันมีชื่อเสียงเกรียงไกร พวกเรารู้สึกโชคดีที่ได้ติดตามกัปตันและกัปตันน้อย”
เหล่าโจรสลัดพูดประจบเหมือนอย่างทุกที แต่พวกเขารู้สึกตกใจจริงๆ
หานเซิ่นฆ่าองค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิง และทำให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการตัวเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถูกปฏิบัติอย่างมีมารยาทโดยเผ่าพันธุ์อื่น ชื่อเสียงของเขาดูเหมือนจะอยู่เหนือเหตุผล
หานเซิ่นรู้ว่าที่องค์ชายอัลเบิร์ตและเผ่าไซย่าปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีนั้นเพราะความสามารถในการอวยพรของเขา แต่หานเซิ่นซาบซึ้งในสิ่งที่พวกเขาทำ
‘ถ้ามีโอกาส ฉันจะไปเยือนเผ่าไซย่า แต่มันจะเป็นการไปเยือนที่ราคาสูงสำหรับพวกเขา’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
หานเซิ่นไม่รอช้าและให้เป่าเอ๋อรีบขับวาฬขาวผ่านเข้าไปในระบบจักรวาลเคออส เขาต้องการจะทิ้งระยะห่างให้ได้มากที่สุด
เนื่องจากเผ่าไซย่านำทางให้กับพวกเขา หานเซิ่นจึงออกมาจากระบบเทียนเซียได้เร็วกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ทุกคนที่กำลังตามล่าตัวเขาคงจะคิดว่าเขายังคงอยู่ในระบบเทียนเซีย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้เดินทางต่อไปยังระบบจักรวาลเคออส
การเดินทางจากเมืองดูก็อตไปยังปราสาทนภาไม่ใช่การเดินทางที่ยาวนานเท่าไหร่นัก แต่ทว่าการเดินทางเป็นเส้นตรงนั้นเป็นอะไรที่อันตรายเกินไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องใช้เส้นทางอ้อม
แต่เห็นได้ชัดว่าเส้นทางที่เขาเลือกไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หวังเอาไว้ และระบบเทียนเซียที่ถูกเชื่อกันว่าเป็นอะไรที่ปลอดภัยมากกว่าระบบจักรวาลเคออสก็มีหน่วยอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงประจำการอยู่ที่นั่น ดังนั้นการเดินทางผ่านที่นั่นจะเป็นอะไรที่ยากลำบาก
ในตอนที่หานเซิ่นเข้าไปในระบบจักรวาลเคออส เขาคิดว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะยังไม่รู้ว่าเขาออกมจากระบบเทียนเซียเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงคิดจะใช้ประโยชน์จากความล้าช้าของข้อมูล หานเซิ่นเลือกเส้นทางที่จะพาเขาลึกเข้าไปในดินแดนนั้น แต่หลังจากที่เดินทางไปได้ไม่นาน มันก็มีใครบางคนกำลังยืนอยู่ในอวกาศขวางเส้นทางของหานเซิ่น
“ไป๋อู๋ฉาง ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ถ้าเขามาอยู่ที่นี่ นั่นหมายความว่าทหารของเอ็กซ์ตรีมคิงก็คงจะอยู่ที่นี่เช่นกัน” หานเซิ่นแปลกใจ
“หานเซิ่น ออกมาเดี๋ยวนี้! ไม่จำเป็นต้องกลัว ข้ามาที่นี่เพียงคนเดียว! ในตอนนี้ข้าจะต่อสู้กับเจ้า” ไป๋อู๋ฉางส่งเสียงเรียกจากด้านนอกวาฬขาว
หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็บินออกไปจากวาฬขาว เมื่อเขาเข้าไปใกล้กับไป๋อู๋ฉาง เขาก็ถามขึ้นมา “เจ้ารู้ว่าข้าอยู่ที่ไหนได้ยังไง?”
หานเซิ่นไม่ได้เกรงกลัวไป๋อู๋ฉาง แต่เขาคิดว่าการพบกันระหว่างพวกเขาเป็นอะไรที่ประหลาด เขาไม่รู้ว่าไป๋อู๋ฉางมาดักรอเขาอยู่ที่นี่ได้ยังไง มันดูเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป
“ข้าขอให้ราชครูกู่เยวียนช่วยคำนวณหาเส้นทางของเจ้าให้กับข้า เขาบอกให้ข้ามารอเจ้าที่นี่ ซึ่งเขาก็พูดถูกต้อง! เจ้ามาที่นี่จริงๆ” ไป๋อู๋ฉางพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นรู้สึกตกตะลึง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าใครบางคนจะคาดเดาได้ว่าเขาจะมาปรากฏตัวในที่แห่งนี้ และไม่เพียงแค่นั้นเขายังบอกให้ไป๋อู๋ฉางมาดักรออีก นั่นเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป