สภาพของราชานกยูงเทียนเซียดูไม่สู้ดีนัก ขนส่วนใหญ่ของมันฉีกขาดและมีเพียงแค่ขนนกไม่กี่เส้นเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่บนหางของมัน มันดูเหมือนกับไก่ที่ถูกถอนขน
ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและหลายบาดแผลดูสาหัสมาก
แต่ไม่ว่ามันจะบาดเจ็บหนักสักแค่ไหน นกยูงตัวนี้ก็ยังเป็นศัตรูระดับเทพเจ้าอยู่ดี เจ้านกยูงเริ่มจะปลดปล่อยโซ่สสสารแสงแห่งเทพสีรุ้งที่ก่อตัวเป็นอาณาเขตที่ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรก็ตามที่อยู่ภายในอาณาเขตนั้นจะถูกสลายกลายเป็นผุยผงในไม่กี่นาที
โชคดีที่หานเซิ่นและคนอื่นๆอยู่ภายในวาฬขาว ผิวของวาฬขาวนั้นทนทานมากๆ แต่เมื่อแสงแห่งเทพสีรุ้งส่องลงมา ผิวของวาฬขาวก็เริ่มสลายกลายเป็นผุงผง แต่มันเป็นไปอย่างช้ามากๆ
ส่วนทางก้อนเมฆสีน้ำนมและเป่าฉินกำลังแย่ เมื่อแสงแห่งเทพส่องมาถูกก้อนเมฆสีน้ำนม มันก็เริ่มจะสลายกลายเป็นผุยผง ชุดเกราะของเป่าฉินก็ไม่สามารถทนต่อแสงแห่งเทพสีรุ้งได้เช่นกัน ชุดเกราะเริ่มเปลี่ยนเป็นผงธุลีอย่างช้าๆ แต่มันเป็นชุดเกราะจีโนของเป่าฉิน ถ้ามันได้รับความเสียหายที่เกินกว่าจะฟื้นตัวได้ ร่างกายของเขาก็จะได้รับความเสียหายอย่างถาวร
เป้าหมายของราชานกยูงเทียนเซียคือก้อนเมฆสีน้ำนม ดวงตาของมันดูเหมือนจะโฟกัสไปที่ก้อนเมฆ เจ้าก้อนเมฆสีน้ำนมดูหวาดกลัวและรีบบินออกไป แต่แทนที่จะพยายามหนีออกไปจากอาณาเขต มันกลับบินไปหลบใต้วาฬขาวแทน
แสงแห่งเทพสีรุ้งของราชานกยูงเทียนเซียส่องมาที่วาฬขาวและเกือบที่จะเจาะทะลุผิวของมัน
“โอ้ไม่นะ! ทำไมเมฆเฮงซวยนั่นถึงได้เกลียดฉันมากขนาดนี้?” หานเซิ่นบ่น หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับเป่าเอ๋อ
“เร่งความเร็วขึ้นอีก! หนีจากมันให้ได้!”
เป่าเอ๋อเร่งความเร็วของวาฬขาวจนถึงขีดสุด วาฬขาวปลดปล่อยเสียงของวาฬออกมา หลังจากนั้นมันก็พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ก้อนเมฆสีน้ำนมถูกเปิดเผยอีกครั้ง แสงแห่งเทพสีรุ้งของเจ้านกยูงก็ส่องลงมาบนก้อนเมฆและทำให้มันละลายอย่างรวดเร็ว
ไม่นานต้นเศรษฐีเรือนนอกก็เผยออกมาให้เห็น เมื่อแสงแห่งเทพสีรุ้งส่องลงมาถูกต้นเศรษฐีเรือนนอก มันก็ดูเหมือนว่าพืชนั้นจะทนต่อพลังของแสงแห่งเทพสีรุ้งได้
เป่าฉินพาตัวเองหนีไปทางตรงกันข้าม เขาหนีไปหลบซ่อนตัวในก้อนเมฆก้อนหนึ่ง และเมื่อเขาหันกลับไปเห็นต้นเศรษฐีเรือนนอก เขาก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์! นั่นมันหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์!”
โดยไม่คิดซ้ำสอง เป่าฉินรีบส่งโซ่สสารของตัวเองออกไปทางต้นเศรษฐีเรือนนอก
เป้าหมายของราชานกยูงเทียนเซียคือต้นเศรษฐีเรือนนอก เมื่อมันเห็นว่าเป่าฉินพยายามจะขโมยพืชนั้นไป แสงแห่งเทพสีรุ้งก็ส่องตรงไปที่เขาราวกับแสงเลเซอร์
เป่าฉินยกพิณของตัวเองขึ้นเพื่อป้องกันแสงแห่งเทพสีรุ้ง แต่สมบัติระดับเทพเจ้าก็ถูกทำลายอย่างรวดเร็วโดยการโจมตีที่ทรงพลังของเจ้านกยูง
ผงธุลีร่วงหล่นจากร่างกายของเป่าฉิน เขาดูเสียใจอย่างมากกับความพ่ายแพ้ ความปรารถนาที่จะได้พืชนั้นมายังคงแสดงอยู่บนใบหน้าของเขา แต่ทว่าเขาไม่ได้พยายามจะชิงต้นเศรษฐีเรือนนอกมาอีกต่อไป เขาฉีกช่องว่างของมิติและเทเลพอร์ตหายตัวไป
เขาไม่สามารถเทียบกับคนอย่างเหมิงเลี่ยได้ ด้วยเหตุนั้นถึงแม้ราชานกยูงเทียนเซียจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่มีทางจะต่อสู้กับมันได้อยู่ดี ซึ่งตัวเขารู้เรื่องนั้นดี
หลังจากที่เป่าฉินหนีไป ราชานกยูงเทียนเซียก็หันกลับมาที่ต้นเศรษฐีเรือนนอกอีกครั้ง มันต้องการจะกินต้นเศรษฐีเรือนนอกเข้าไป แต่ก่อนที่มันจะโฉบลงไปหาพืชนั้นได้ ต้นเศรษฐีเรือนนอกก็บินออกไปภายใต้แรงบางอย่างที่มองไม่เห็น
ราชานกยูงเทียนเซียมองไปทางที่ต้นเศรษฐีเรือนนอกถูกดึงไปและเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆยืนอยู่บนวาฬขาว ในมือของเธอถือน้ำเต้าสีทองอยู่และมันเป็นน้ำเต้านั้นที่กำลังดูดต้นเศรษฐีเรือนนอกไป
ราชานกยูงเทียนเซียตกใจกับสิ่งที่เห็น แต่มันไม่ใช่แค่เจ้านกยูงคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น หานเซิ่นเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน เขาไม่รู้เลยว่าเป่าเอ๋อออกไปด้านนอกและใช้น้ำเต้าดูดต้นเศรษฐีเรือนนอกตั้งแต่เมื่อไหร่
ราชานกยูงเทียนเซียกรีดร้องด้วยความโกรธ แสงแห่งเทพสีรุ้งของมันปะทุราวกับภูเขาไฟ มันดูโกรธมากๆ แม้แต่ตอนที่เหมิงเลี่ยจู่โจมมัน มันก็ไม่ได้โกรธถึงขนาดนี้
แสงแห่งเทพสีรุ้งส่องออกไปทุกหนทุกแห่ง มันเหมือนกับท้องฟ้าสีรุ้งได้ตกลงมาทับทุกสิ่งทุกอย่าง
หลังจากที่เป่าเอ๋อปีนกลับเข้ามาในวาฬขาว หานเซิ่นก็เร่งความเร็วเต็มกำลัง แต่ไม่ว่าวาฬขาวจะบินออกไปเร็วสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถหนีจากแสงแห่งเทพสีรุ้งของราชานกยูงเทียนเซียได้พ้น
แสงแห่งเทพสีรุ้งที่น่ากลัวพุ่งมาถูกวาฬขาว และผิวของยานก็เริ่มจะสลายอย่างรวดเร็ว ผิวของวาฬขาวละลายด้วยแสงแห่งเทพสีรุ้งจนเผยให้เห็นโครงสร้างภายในของมัน
“พวกเรากำลังจะตาย! พวกเรากำลังจำตาย! ฉันขอพวกนายล่ะ… คืนอะไรก็ตามที่พวกนายขโมยมา…” หนิงเยวี่ยร้องขอขณะที่จับขาของหานเซิ่น
เมื่อสังเกตเห็นว่าวาฬขาวถูกย่อยสลายอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นก็รู้ว่ามันไม่สามารถทนไปได้ตลอด
แต่หลังจากที่เห็นปฏิกิริยาของของเป่าฉินต่อต้นเศรษฐีเรือนนอก หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าต้นเศรษฐีเรือนนอกจะต้องเป็นอะไรที่มีค่ามาก เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์มาก่อน แต่ในตอนนี้เขาไม่ต้องการจะทิ้งมันไป
ถึงอย่างนั้นราชานกยูงเทียนเซียก็ยังคงเป็นซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัว และแสงแห่งเทพที่มันปลดปล่อยออกมาก็ดูไร้เทียมทาน หานเซิ่นและพวกพ้องของเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานสิ่งมีชีวิตแบบนั้นได้
เหล่าโจรสลัดและอัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงที่ถูกขังมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยความหวาดกลัว
ถ้าวาฬขาวถูกทำลาย มันก็ไม่มีพวกเขาคนไหนที่จะหนีรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ พวกเขาจะถูกสลายกลายเป็นผุยผงด้วยแสงแห่งเทพของนกยูงเทียนเซีย
“เป่าเอ๋อ โยนสิ่งนั้นออกไป…” หานเซิ่นไม่สามารถคิดหาหนทางอื่นที่จะจัดการกับราชานกยูงเทียนเซียได้
ถึงแม้เป่าเอ๋อจะไม่ต้องการ แต่เธอก็ไม่ขัดคำสั่งของหานเซิ่น เธอนำต้นเศรษฐีเรือนนอกออกมาจากน้ำเต้าและมอบมันให้กับหานเซิ่น
“ราชานกยูงเทียนเซีย รับสิ่งนี้และปล่อยพวกเราไป!” หานเซิ่นโยนต้นเศรษฐีเรือนนอกออกไปจากวาฬขาว
เมื่อราชานกยูงเทียนเซียเห็นต้นเศรษฐีเรือนนอก มันก็รีบบินเข้าไปหาพืชนั้นอย่างเร่งรีบ มันไม่สนใจที่จะโจมตีใส่วาฬขาวอีกต่อไป
หานเซิ่นควรจะโยนต้นเศรษฐีเรือนนอกออกไปให้ไกลกว่านั้น แต่ราชานกยูงเทียนเซียรวดเร็วเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ มันปรากฏตัวถัดไปจากต้นเศรษฐีเรือนนอกในฉับพลัน มันอ้าปากขึ้นและกลืนต้นเศรษฐีเรือนนอกเข้าไปในคำเดียว
หลังจากที่ราชานกยูงเทียนเซียกลืนต้นเศรษฐีเรือนนอกเข้าไปแล้ว มันก็ส่งเสียงร้องขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงร้องนั้นดังลั่นจนสั่นสะเทือนทั้งเทียนเซีย หานเซิ่นไม่เข้าใจภาษาของนก แต่เขาจินตนาการได้ว่าพืชชั้นดีนั้นอร่อยขนาดไหน ถึงทำให้ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าร้องออกมาอย่างพึงพอใจถึงขนาดนั้น
ราชานกยูงเทียนเซียส่งเสียงร้องอยู่เป็นเวลานาน แต่เสียงร้องนั้นก็ถูกตัดไปโดยเสียงเรอ เจ้านกยูงนั้นดูอิ่มหนำสำราญ
หานเซิ่นยังคงพยายามหนีไปจากบริเวณนั้นด้วยวาฬขาว แต่ก่อนที่เขาจะไปได้ไกล เขาก็ได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมา มันทำให้เขาหันกลับไปมองที่ราชานกยูงเทียนเซีย
เจ้านกยูงนั้นเรอซ้ำๆหลายต่อหลายครั้ง มันดูเหมือนกับว่าราชานกยูงเทียนเซียกำลังทุกทรมานราวกับว่ามันกินมากเกินไป
ที่แปลกที่สุดก็คือท้องของเจ้านกยูงพองขึ้นมา มันเหมือนกับผู้หญิงที่ผอมเพรียว แต่จู่ๆก็กลายเป็นผู้หญิงที่ตั้งท้อง 8 เดือน
หานเซิ่นอึ้งไป แต่ขณะที่เขามองไปที่ราชานกยูงเทียนเซีย เขาก็คิดอะไรบางขึ้นมาได้ “นี่จิ้งหรีดดำกำลังทำอะไรบางสิ่งภายในท้องของเจ้านกยูงอย่างนั้นหรอ?”