“เจ้าดูไม่เหมือนกับคนที่จะกลายเป็นคนทรยศ เจ้าจะบอกข้าเกี่ยวกับอดีตของเจ้าได้ไหม?”
หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขายังคงนั่งอยู่ด้านหลังยูนิคอร์นเทียนเซีย ขณะที่พวกเขาทำการเดินทางออกไปจากระบบระบบเทียนเซีย
หานเซิ่นคิดว่าเรื่องราวที่เลอตู้สังหารอาจารย์ของเขานั้นมีอะไรมากกว่าที่ตำนานกล่าวเอาไว้ ด้วยพลังของเลอตู้ การจะลอบสังหารยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
แถมมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องฆ่าอาจารย์ของตัวเอง ด้วยการทำแบบนั้นมันก็มีแต่จะทำให้เขาถูกเกลียดชังโดยเผ่าพันธุ์ของตัวเองและคนอื่นๆก็จะไม่เชื่อใจเขาอีก มันไม่ได้มีผลประโยชน์อะไร
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าคือคนทรยศที่ฆ่าอาจารย์ของตัวเองจริงๆ” เลอตู้พูดอย่างไร้ความรู้สึก
“เจ้าพอจะบอกข้าได้ไหมว่าทำไม?” หานเซิ่นถาม
เลอตู้ดูลังเล หานเซิ่นสังเกตเห็นเลยรีบพูดขึ้นมา
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะฆ่าอาจารย์ตัวเองโดยไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะบอกข้า นั่นก็ไม่เป็นอะไร ข้าจะไม่บังคับเจ้า”
เลอตู้คิดอยู่สักพัก แต่สุดท้ายเขาก็พูดขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าข้าพยายามจะเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ เพียงแค่ว่าถ้าข้าบอกคนอื่นไป พวกเขาก็ไม่เชื่อข้าอยู่ดี”
“ข้าจะเชื่อเจ้า” หานเซิ่นพูดอย่างหนักแน่น
“ถ้าข้าบอกเจ้าว่าข้าคืออาจารย์ของข้า เจ้าจะเชื่อข้าไหม?” เลอตู้ถามขณะที่หันหลังมามองหานเซิ่น
“ข้า…ไม่แน่ใจว่าควรจะคิดยังไงกับประโยคนั่น เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?” หานเซิ่นถาม
เลอตู้หันกลับไปมองด้านหน้าอีกครั้ง พวกเขายังคงเดินทางต่อไปอย่างเงียบสงัด
ความอยากรู้อยากเห็นของหานเซิ่นเพิ่มสูงขึ้นอีก เขากลัวว่าเลอตู้จะปฏิเสธในการพูดถึงเรื่องนี้ไปมากกว่านั้น แต่โชคดีหลังจากผ่านไปสักพัก เลอตู้ก็เริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าเห็นรอยสักมังกรนรกปีศาจบนหลังข้าใช่ไหม? เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร?”
“ข้าไม่รู้” หานเซิ่นส่ายหัว “นั่นเป็นสมบัติบางอย่างไม่ใช่หรอ?”
เลอตู้อธิบายถึงพื้นฐานของรอยสักมังกรนรกปีศาจและการทำงานของมันให้หานเซิ่นฟัง หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “ผู้คนคิดว่าอาจารย์ของข้าพยายามอย่างหนักเป็นเวลาหมื่นปีกว่าจะได้รับรอยสักมังกรนรกปีศาจมา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว เขาพบหนทางที่ง่ายกว่า”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกหนาวขึ้นมา เขาพอจะคาดเดาได้แล้วว่าเรื่องนี้จะดำเนินต่อไปยังไง
เลอตู้พูดต่อ “ในตอนแรกเขาลองมันกับตัวเอง แต่ความเจ็บปวดนั้นมันมากเกินไป แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็ทนไม่ได้ เพียงไม่นานเขาก็ล้มเลิกความคิดนั่นไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องการจะชิงตำแหน่งมาจากดราก้อนวัน เขาจำเป็นต้องมีพลังมากขึ้นเพื่อทำแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงคิดแผนการหนึ่งขึ้นมา และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าอยู่ที่นี่ในวันนี้”
“เพื่อจะสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจให้สำเร็จ มันจำเป็นต้องมีร่างกายเป็นฐาน แต่ดราก้อนทูพบหนทางที่จะหลีกเลี่ยงการต้องต่อความเจ็บปวดนั้น เขาใช้ยีนของเขาเพื่อสร้างร่างจำลองของตัวเองขึ้นมา และเขาก็ใช้ร่างโคลนนั้นในการสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจ เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็มีแผนที่จะเอารอยสักไปเป็นของตัวเอง และเนื่องจากร่างโคลนเกิดขึ้นมาจากยีนของเขาเอง มันจึงไม่มีปัญหาเรื่องความเข้ากันไม่ได้ มันจะเหมือนกับว่าเขาสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจขึ้นมาด้วยร่างกายของตัวเอง”
“นั่นหมายความว่าคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลาหมื่นปีก็คือเจ้าอย่างนั้นสินะ?” หานเซิ่นถาม
เลอตู้พยักหน้า “เนื่องจากข้าเป็นเพียงแค่โคลนจากยีนของเขา ข้าไม่ได้มีพลังระดับเทพเจ้า ก่อนที่ข้าจะเริ่มสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจได้ ข้าจำเป็นต้องมีพลังระดับราชันเป็นอย่างน้อย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเริ่มจากการสอนวิชาให้กับข้า และเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่รอยสักมังกรนรกปีศาจจะเข้ากันกับเขาไม่ได้ เขาจึงได้สอนวิชาทุกอย่างที่เขาได้เรียนรู้มาให้กับข้า”
“ข้าเป็นแค่ร่างโคลนที่ถูกสร้างขึ้นมา ข้าไม่มีความทรงจำและคิดด้วยตัวเองไม่ได้ ข้าเหมือนกับเด็กทารกคนหนึ่ง พลังของข้าเป็นสิ่งที่เขามอบให้มา ดราก้อนคนอื่นเชื่อว่าข้าเป็นลูกศิษย์คนโปรดของเขา ทุกคนคิดว่าเขาปฏิบัติกับข้าเหมือนกับลูกและมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับข้า เขาสอนวิชาลับทุกอย่างของตัวเองให้กับข้า แต่ไม่มีใครรู้ว่าเหตุผลที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะต้องการจำลองตัวเองขึ้นมาภายในตัวข้า ถ้าเขาไม่ฝึกข้าให้เหมือนกับที่เขาฝึก เขาก็คิดว่ามันอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นในตอนที่เขาพยายามจะเอารอยสักมังกรนรกปีศาจไป”
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เมื่อได้ฟังแบบนั้น ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งสร้างและล้างสมองเด็กทารกคนหนึ่ง ทั้งหมดก็เพื่อที่เขาจะให้เด็กคนนั้นทนต่อความเจ็บปวดแทนเขา
เลอตู้คงจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทุกข์ทรมาน
“ถ้าเจ้าเป็นร่างโคลน พวกเจ้าก็ต้องดูเหมือนกันไม่มีผิด แต่ทำไมถึงไม่มีใครสังเกตได้ถึงเรื่องนั้น?” หานเซิ่นถาม
เลอตู้ยิ้มและรอยยิ้มนั้นเป็นอะไรที่หนาวเย็น “การเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของคนๆหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร เขาแค่จำเป็นต้องเปลี่ยนยีนจำนวนเล็กน้อย สำหรับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแล้วนั่นเป็นงานง่ายๆ”
“อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่เขาคิด เขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงยีนของข้าเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของข้า แต่ทว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าความแตกต่างเพียงเล็กน้อยนั้นจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง”
“แต่ถึงข้าจะเป็นร่างโคลน สภาพแวดล้อมที่ข้าถูกเลี้ยงดูนั้นแตกต่างไปจากช่วงเวลาสมัยเด็กของดราก้อนทู ยิ่งเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงอันเล็กน้อยที่เขาทำกับยีนของข้าก็ถูกรวมกับความแตกต่างทางสภาพแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ”
“น่าเสียดายที่ในอดีตข้าไม่รู้เรื่องอะไร และข้าก็เชื่อว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ของเขาจริงๆ ข้าแค่ต้องการจะแสดงความกตัญญูต่อสิ่งที่เขาทำให้กับข้า ข้าต้องการจะช่วยเขาสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจขึ้นมา ไม่ว่าข้าจะต้องประสบกับความเจ็บปวดแบบไหน ข้าก็บังคับตัวเองให้ทนต่อไป ข้าฝืนตัวเองอย่างหนักจนข้าสูญเสียความรู้สึกทุกอย่างในร่างกายไป”
หลังจากนั้นเลอตู้ก็หัวเราะออกมา แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าเลอตู้แค่ฝืนหัวเราะ มันเป็นหนทางที่เลอตู้แสดงออกว่าเขาไม่หวาดกลัวต่อสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว
เลอตู้หยุดพูดไปแค่นั้น หานเซิ่นสามารถคาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปได้ ดราก้อนทูคงจะเผยแผนการที่จะชิงรอยสักมังกรนรกปีศาจไปจากเลอตู้ และเลอตู้ก็คงจะต่อสู้กับเขาเพื่อชีวิตของตัวเอง ซึ่งนั่นคงเป็นเหตุผลที่ดราก้อนทูถูกฆ่าตาย
แต่หานเซิ่นยังคงไม่เข้าใจว่าเลอตู้ฆ่าดราก้อนทูสำเร็จได้ยังไง ถึงแม้เขาจะเป็นร่างโคลนของดราก้อนทู แต่เขาก็ไม่ได้มีพลังระดับเทพเจ้าของดราก้อนทู
เลอตู้ดูเหมือนจะสังเหตเห็นคำถามในใจของหานเซิ่น เขาส่ายหัวและพูด
“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด ข้าไม่ได้ต่อสู้กับเขา ข้าได้ถ่ายทอดรอยสักมังกรนรกปีศาจไปให้กับเขา เขาทนรอต่อไปไม่ไหวและเริ่มกระบวนการผลักดันรอยสักให้ไปสู่ขั้นสุดท้าย กระบวนการนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น รอยสักมังกรนรกปีศาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์ และเขาก็ใช้เลือดของตัวเองเพื่อสกัดมัน ทุกอย่างดูจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากที่รอยสักมังกรนรกปีศาจพัฒนาถึงระดับเทพเจ้า เขาก็พบว่ารอยสักมังกรนรกปีศาจเข้ากันไม่ได้กับร่างกายของเขา”
“ลองจินตนาการถึงคนที่เพิ่งผ่านการปลูกถ่ายหัวใจมาและค้นพบในภายหลังว่ามันเข้ากันกับร่างกายของเขาไม่ได้ ดราก้อนทูเป็นบ้าไปและเขาได้ใช้เลือดมากกว่าครึ่งเพื่อผลักดันรอยสักมังกรนรกปีศาจไปสู่ระดับเทพเจ้า นั่นทำให้รอยสักมังกรนรกปีศาจแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเอง”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศล่ะ?” หานเซิ่นยังคงไม่เข้าใจ
เลอตู้พูดขึ้นมา “ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ทนต่อความคิดที่ว่าตัวเองต้องตายไม่ได้ เขาพยายามจะชิงร่างกายของข้าเพื่อความอยู่รอดและควบคุมรอยสักมังกรนรกปีศาจ”
“ข้าไม่ชอบเรื่องนี้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ
“ข้าเองก็ไม่ชอบเช่นกัน” เลอตู้พูด
หานเซิ่นต้องการจะพูดอะไรอย่างอื่นอีก แต่บางสิ่งปรากฏตัวออกมาตรงหน้าพวกเขา มันมุ่งตรงเข้ามาทางพวกหานเซิ่นอย่างรวดเร็ว
“เดม่อนระดับเทพเจ้า?” เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้มากพอที่จะเห็นร่างกายได้ชัดๆ หานเซิ่นก็ขมวดคิ้ว