“อยู่ที่นี่จริงๆด้วย” ดราก้อนนั้นตัวใหญ่เกินกว่าที่จะบินลงมาบนเกาะได้ ดังนั้นมันจึงบินวนอยู่ด้านบน ชายเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงที่ยืนอยู่บนหัวมังกรกำลังมองลงไปที่เกาะ
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจและคิดกับตัวเอง “ทางเอ็กซ์ตรีมคิงส่งคนมาที่นี่เร็วถึงขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นไม่รู้จักชายเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงที่ยืนอยู่บนหัวมังกร แต่เขาพอจะระบุถึงมังกรตัวใหญ่ยักษ์ที่อยู่ใต้เท้าของชายคนนั้นได้ ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่เขารู้จักชื่อของมัน มันคือมังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลที่มีชื่อเสียง มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าและมันก็เป็นสัตว์ขี่ของเหมิงเลี่ย
เหมิงเลี่ยเป็นพี่น้องรวมสายเลือดกับราชาไป๋ และเขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้ามาเป็นเวลานานแล้ว เขาเป็นหนึ่งในสิบคนที่มีฝีมือสูงสุดในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง
การที่คนอย่างเหมิงเลี่ยมาที่ระบบเทียนเซียเพื่อล่าหานเซิ่นด้วยตัวเอง นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการตัวหานเซิ่นมากแค่ไหน
แต่หานเซิ่นไม่ได้โทษอะไรเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง บุตรชายของกษัตริย์ถูกฆ่าตาย ถ้าหานเซิ่นไม่ได้รับโทษในสิ่งที่เขาทำ ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะถูกทำลาย
“หานเซิ่น! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าต้องการจะออกมาด้วยตัวเอง หรือเจ้าต้องการให้ข้าลงไปลากตัวเจ้าออกมา?”
เสียงของเหมิงเลี่ยดังกระหึ่มในอากาศขณะที่เขาจ้องมองลงมายังบ้านไม้
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขารู้ว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะส่งคนมาตามล่าตัวเขาหลังจากที่เขาส่งวิดีโอออกไป แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วขนาดนี้
หานเซิ่นคาดคิดว่าเดม่อนสปิริตจะอยู่บริเวณใกล้เคียงในตอนที่คนของเอ็กซ์ตรีมคิงมาถึง แบบนั้นพวกเขาก็ต้องรับมือกับเดม่อนสปิริตก่อน แต่ในตอนนี้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมันก็ไม่มีวี่แววของเดม่อนสปิริต
“ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาตามหาเจ้าถึงที่นี่ด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นอะไรที่เจ้ารับมือไม่ได้” ผู้หญิงชุดเหลืองมองมาที่หานเซิ่นด้วยความสนใจ
ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบอะไร มังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลก็เริ่มรวบรวมพลังมังกร มันค่อยๆกลายเป็นลูกไฟสีม่วงที่จะแผดเผาทั้งเกาะจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
แสงสีแดงในตะเกียงที่ผู้หญิงชุดเหลืองถืออยู่สว่างไสวขึ้นกว่าเดิม แสงสีแดงนั่นเข้าปกคลุมทั้งเกาะและป้องกันลูกไฟสีม่วงเอาไว้ การโจมตีของมังกรไม่สามารถเจาะทะลวงแสงนั่นเข้ามาได้
ไฟสีม่วงลุกไหม้อย่างร้อนแรง และแสงสีแดงก็สั่นคลอน แต่ถึงอย่างนั้นไฟสีม่วงก็ไม่สามารถผ่านโล่ป้องกันเข้ามาได้
มังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลดูโกรธขึ้นมา มันพ่นไฟสีม่วงออกมาอีก แต่ไม่ว่ามันจะพยายามยังไง มันก็ไม่สามารถทำลายแสงสีแดงได้
ผู้หญิงชุดเหลืองไม่สั่นคลอน เธอยกตะเกียงขึ้นและยื่นมือเข้าไปข้างใน เมื่อเธอดึงมือของตัวเองกลับออกมา หานเซิ่นก็เห็นเปลวไฟน้อยๆริบหรี่อยู่บนนิ้วมือของเธอ
เธอดีดมันออกไปใส่มังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ เปลวไฟน้อยๆนั้นพุ่งขึ้นไปด้านบนจนกระทั่งมันถูกตัวของมังกร
ตูม!
หานเซิ่นมองดูสิ่งที่เหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์ระเบิด ร่างกายอันใหญ่โตของมังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลถูกกลืนกินด้วยทะเลไฟสีแดง มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและกระพือปีกอย่างบ้าคลั่งเพื่อพยายามจะดับไฟที่กำลังแผดเผาร่างกายของมัน
แต่ยิ่งมันกระพือปีกมากเท่าไหร่ ไฟสีแดงนั่นก็ลุกไหม้มากขึ้นกว่าเดิม
หานเซิ่นอึ้งไป ในฐานะซีโน่เจเนอิคธาตุไฟระดับเทพเจ้า มังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลควรจะกินไฟเป็นอาหารเช้า แต่ตอนนี้มันกลับกรีดร้องอย่างเจ็บปวดจากการถูกแผดเผา มันยากที่จะจินตนาการได้ถึงความน่ากลัวของเปลวไฟนั่น
ผู้หญิงชุดเหลืองยืนอย่างสงบนิ่งราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อะไรที่พิเศษ เธอยังคงถือตะเกียงสีแดงขณะที่มองมังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลกับเหมิงเลี่ยที่อยู่นอกหน้าต่าง
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นเหมิงเลี่ยพับแขนเสื้อของเขา หลังจากนั้นมันก็เหมือนกับว่าชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นหลุมดำ เปลวไฟบนตัวมังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลถูกดูดเข้าไปในหลุมดำนั้น พวกมันทั้งหมดถูกดูดหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่กลุ่มควัน
‘เหมิงเลี่ยคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
“เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมเจ้าถึงปกป้องผู้หลบหนีอย่างหานเซิ่น?”
เหมิงเลี่ยที่ยืนอยู่บนหัวมังกรปีศาจเอ็กซ์ตรีมเพอเพิลเมองลงมาที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง
“นี่เป็นบ้านของข้า” ผู้หญิงชุดเหลืองตอบอย่างง่ายๆ
“เจ้าจะมาที่นี่และเผามันตามใจชอบไม่ได้”
เหมิงเลี่ยมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพูด “หานเซิ่นมีความแค้นฝังลึกกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะทำให้เขาชดใช้ด้วยเลือด ถ้าเจ้ายอมให้ข้าเข้าไปในบ้านของเจ้าเพื่อจับตัวเขาออกมา พวกเราเอ็กซ์ตรีมคิงจะซาบซึ้งอย่างมาก”
“และถ้าข้าไม่ยอมล่ะ?” ผู้หญิงชุดเหลืองนั้นไม่พอใจกับโทนเสียงของเหมิงเลี่ย
เหมิงเลี่ยขอให้เธอถอยออกไป แต่มันฟังดูเหมือนกับว่าเขากำลังออกคำสั่งกับเธอ
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องบังคับให้เจ้าหลีกไป ตอนนี้เอ็กซ์ตรีมคิงมาถึงที่นี่แล้วและมันก็ไม่มีใครหยุดข้าได้” เหมิงเลี่ยพูดอย่างโอหัง
เมื่อได้ยินเหมิงเลี่ยพูดแบบนั้น หานเซิ่นก็เกือบจะหัวเราะออกมา
เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมีกำลังมากพอที่จะสยบเผ่าพันธุ์มากมาย และยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ถือเป็นภัยที่ใหญ่หลวงต่อเผ่าพันธุ์ต่างๆ
แต่เหมิงเลี่ยมาหาเรื่องผิดคนแล้ว ผู้หญิงคนนี้มาจากยุคสมัยของผู้นำเซเคร็ด ในยุคสมัยนั้นแม้แต่อัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้คนหนึ่งของผู้หญิงอย่างเธอ และตอนนี้ทายาทของเอ็กซ์ตรีมคิงกลับมาพูดจากับเธอแบบนี้ เมื่อตัดสินจากโทนเสียงที่ขาดความเคารพของเหมิงเลี่ยแล้ว หานเซิ่นก็รู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป
“เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงคงจะต้องยิ่งใหญ่มากสินะ ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าทายาทของเอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่งจะบังคับให้ข้าหลีกไปได้ยังไง”
ผู้หญิงชุดเหลืองพูด เสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก
เหมิงเลี่ยขมวดคิ้ว เอ็กซ์ตรีมคิงเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวาล นอกจากนั้นเหมิงเลี่ยยังเป็นพี่น้องของกษัตริย์องค์ปัจจุบันอีก นอกจากเผ่าเวรี่ไฮและแอนเชี่ยนท์ก็อตแล้ว มันก็ไม่มีใครที่จะกล้าพูดกับพวกเขาแบบนั้น
เหมิงเลี่ยสะบัดมือละเริ่มดันมันออกไปทางเกาะ
ฝ่ามือนั้นกลายเป็นแผ่นอักษรโบราณที่ลุกไหม้ด้วยแสงแห่งเทพที่อ่านได้ว่า‘คิง’ และมันก็อัดแน่นไปด้วยพลังที่พร้อมจะบดขยี้ทั้งท้องฟ้าและผืนดิน
ก้อนเมฆของระบบเทียนเซียสั่นสะเทือนโดยแผ่นอักษรนั่น ก้อนเมฆที่อยู่ใกล้เคียงถูกพัดออกไป และมิติรอบๆก็ฉีกขาดภายใต้พละกำลังของแผ่นอักษร ทั้งบริเวณแห่งนั้นปั่นป่วนด้วยพลังทำลายล้างของแผ่นอักษร
ในสายตาของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าทั้งโลกจะถูกบดขยี้โดยแผ่นอักษรนั้น ทั้งเกาะจะถูกบดขยี้จนเละเทะเหมือนกับไข่ฟองหนึ่ง
“พวกเจ้าขโมยเวิลด์ปริ้นท์ไป และตอนนี้เจ้ายังกล้ามาแสดงมันที่นี่อีกอย่างนั้นหรอ?”
ผู้หญิงชุดเหลืองมองมันด้วยความดูถูก เธอยกมือขึ้นและแผ่นอักษรน้อยก็ปรากฏขึ้นบนนิ้วมือของเธอ เธอผลักมันออกไปปะทะกับแผ่นอักษรขนาดใหญ่ที่กดลงมาสู่เกาะ
แผ่นอักษรขนาดเล็กและแผ่นอักษรขนาดใหญ่ปะทะกัน สัญลักษณ์ประหลาดแว็บขึ้นมาบนแผ่นอักษรที่เล็กกว่า หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าสัญลักษณ์นั่นหมายถึงอะไร แต่ภาพของพวกมันเป็นอะไรที่น่ากังวล มันเหมือนกับว่าชะตากรรมของจักรวาลในตอนนี้อยู่ภายในแผ่นอักษรน้อยๆนั่น
ตูม!
แผ่นอักษระน้อยพุ่งชนแผ่นอักษรใหญ่ หลังจากนั้นแผ่นอักษรใหญ่ที่น่ากลัวก็แตกสลายไป มันไม่สามารถทนต่อพลังของแผ่นอักษรเล็กๆได้
“นั่นเป็นไปได้ยังไงกัน?” สีหน้าของเหมิงเลี่ยเปลี่ยนไป วิชาคิงปริ้นท์ของเขาสามารถสยบฟ้าดินได้ และมันก็ไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนที่ควรจะหยุดมันได้ แต่ตอนนี้แผ่นอักษรที่เล็กกว่าสามารถบดขยี้มันได้ นั่นทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อ
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อสังเกตการณ์การต่อสู้ แผ่นอักษรขนาดเล็กของผู้หญิงชุดเหลืองนั่นมีโครงสร้างที่เหมือนกับแผ่นอักษณขนาดใหญ่ของเหมิงเลี่ย แต่พลังของมันหนาแน่นกว่ามาก
ผิวเผินพวกมันดูเหมือนกัน แต่เมื่อพวกมันปะทะกัน มันก็เหมือนกับเหล็กกล้าชนเข้ากับดินเผา คิงปริ้นท์ของเหมิงเลี่ยนั้นแตกกระจายอย่างง่ายดาย มันไม่สามารถเทียบชั้นกับเวิลด์ปริ้นท์ของผู้หญิงชุดเหลืองได้