Super God Gene – ตอนที่ 2430

“ต้นเรเควี่ยมกำลังจะมีลูก? นี่ต้นเรเควี่ยมเป็นซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นหรอ” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน

 

คุณหญิงมิร์เรอร์ส่ายหัว “ข้าไม่รู้ว่าต้นเรเควี่ยมเป็นซีโน่เจเนอิคหรือไม่ แต่มันไม่ได้กำลังจะมีลูก ไข่ของต้นเรเควี่ยมคือเป็นยางของต้นไม้ ยิ่งต้นเรเควี่ยมได้รับพลังงานมากเท่าไหร่ มันก็จะผลิตยางออกมามากเท่านั้น ยางทั้งหมดจะถูกนำมารวมกันอยู่ในรูของต้นเรเควี่ยมและกลายเป็นบางสิ่งที่เหมือนกับไข่มด นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันถูกเรียกว่าไข่ต้นเรเควี่ยม”

 

“ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของชายที่เคยได้รับไข่ต้นเรเควี่ยมที่มีขนาดพอกับเล็บมือ เขาเป็นเพียงแค่ระดับราชันขั้นแรกเท่านั้น แต่เขาใช้พลังของไข่เรเควี่ยมเพื่อเลื่อนขึ้นไปถึงระดับเทพเจ้าได้ ตั้งแต่นั้นมาไข่ต้นเรเควี่ยมก็กลายเป็นสมบัติผู้คนแสวงหามากที่สุดในจักรวาล แต่ความสามารถในการทำให้ราชันเลื่อนสู่ระดับเทพเจ้าได้นั้นเป็นเพียงแค่ความสำคัญรอง สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจพวกมันยิ่งกว่านั้นคือความจริงที่ว่าพวกมันช่วยให้บุคคลระดับเทพเจ้าวิวัฒนาการ” คุณหญิงมิร์เรอร์หยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ
“แต่เมื่อคำนึงถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่ ข้ากลัวว่าไข่เรเควี่ยมที่อยู่ในรูของต้นไม้จะถูกเอาไปเรียบร้อยแล้ว”

 

“บางทีมันอาจจะยังอยู่ที่นี่” ไนท์วินด์พูด หลังจากนั้นเขาก็ลอยตัวขึ้นสู่อากาศและบินไปที่รูของต้นไม้ เขามองตรงเข้าไปข้างในรูของต้นไม้

 

“รูของต้นไม้นี้แปลกประหลาดจริงๆ ข้ามองตรงไปข้างใน แต่ข้ามองไม่เห็นอะไรที่อยู่ข้างในเลย” ไนท์วินด์พูด

 

“ต้นเรเควี่ยมเป็นต้นไม้ที่แอนเชี่ยนท์ก็อตมานิพพาน พวกมันมีพลังที่ไม่ธรรมดา แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็มองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ในรูของต้นเรเควี่ยม โชคดีที่รูของต้นเรเควี่ยมนั้นไม่ได้อันตรายอะไร เจ้าแค่ต้องยื่นมือเข้าไปข้างใน” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

ไนท์วินด์ลังเล แต่เขาก็ทำตามที่ถูกบอก เขาห่อหุ้มมือของตัวเองด้วยพลัง หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าไปในรู

 

คุณหญิงมิร์เรอร์บอกว่ารูของต้นไม้ไม่ได้อันตราย แต่ใครจะรู้ว่ามันจะมีอะไรซ่อนตัวอยู่ข้างในรูนั้นหรือเปล่า เมืองแห่งนี้นั้นต้องสาบ ดังนั้นไนท์วินด์คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ถ้ามันจะมีแมลงพิษประหลาดซ่อนตัวอยู่ภายในรูของต้นไม้

 

เมื่อเห็นไนท์วินด์ยื่นมือเข้าไปในรู หานเซิ่นก็รู้สึกกังวลแทนเขา ถ้ามันมีบางสิ่งอยู่ภายในรูของต้นไม้และดึงไนท์วินด์เข้าไปข้างใน นั่นก็จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ

 

แต่หลังจากที่ไนท์วินด์ยื่นมือเข้าไปในรู รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาตะโกนขึ้นมา
“มันมีบางสิ่งอยู่ในนี้! มันเป็นทรงกลมและให้ความรู้สึกเหมือนกับก้อนหิน แต่ข้าไม่รู้ว่ามันใช่ไข่ต้นเรเควี่ยมหรือเปล่า”

 

“สัมผัสมันด้วยมือของเจ้า ถ้ามันเป็นไข่ต้นเรเควี่ยมจริง มือของเจ้าจะมีกลิ่นหอมของมัน” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

ไนท์วินด์สัมผัสมัน หลังจากนั้นเขาก็ดึงมือออกมาจากรู

 

เขาไม่จำเป็นต้องนำมันมาที่จมูกของเขา แม้แต่หานเซิ่นและคุณหญิงมิร์เรอร์ที่อยู่ด้านล่างของต้นไม้ก็ได้กลิ่นหอมที่น่ารื่นรมย์ของมัน เพียงแค่กลิ่นของมันก็มากพอที่จะทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังตื่นขึ้นหลังจำการจำศีลในฤดูหนาวที่ยาวนาน เซลล์ทั่วร่างกายของเขารู้สึกผ่อนคลายและมีชีวิตชีวา

 

“ไม่เลว! นั่นเป็นกลิ่นหอมของไข่ต้นเรเควี่ยม ไม่อยากเชื่อเลยว่าไข่ต้นเรเควี่ยมจะยังอยู่ที่นี่ ดึงเอามันออกมา!” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

ไนท์วินด์รีบยื่นมือเข้าไปในรูอีกครั้งเพื่อดึงเอาไข่ต้นเรเควี่ยมออกมา แต่เมื่อเขาพยายามดึงมือกลับออกมา มือของเขาก็หยุดชะงักไปกลางคัน ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถดึงไข่ออกมาได้

 

“ไข่มีขนาดใหญ่เกินไป! ข้าดึงมันออกมาไม่ได้” ไนท์วินด์พูด เขาใช้ดาบแห่งความมืดฟันใส่รูของต้นไม้เพื่อจะทำให้รูกว้างขึ้น

 

แต่เมื่อดาบแห่งความมืดฟันถูกเปลือกของต้นไม้ มันก็ทำได้แค่ทิ้งรอยขาวบางๆเอาไว้เท่านั้น

 

“การพยายามจะตัดมันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์! ต้นเรเควี่ยมเป็นที่นิพพานของแอนเชี่ยนท์ก็อต แม้แต่ต้นเรเควี่ยมขนาดเล็กก็ยังไม่สะทกสะท้านต่อพลังของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า และต้นไม้นี้มีขนาดใหญ่มหึมา” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

“เขาบีบไข่ให้แตกเพื่อนำมันออกมาไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“ไข่นั้นแข็งแรงยิ่งว่าต้นเรเควี่ยมซะอีก อย่างนั้นแล้วเขาจะทำให้มันแตกได้ยังไง?”
คุณหญิงมิร์เรอร์กรอกตาของเธอ เธอหันไปพูดกับไนท์วินด์อีกครั้ง “ไข่ต้นเรเควี่ยมใบนี้ใหญ่แค่ไหนกัน?”

 

“ใหญ่มาก…” ไนท์วินด์พูด

 

“ไอ้ใหญ่มากมันใหญ่แค่ไหน? ใหญ่พอๆกับสมองอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามพร้อมกับหัวเราะ

 

ไข่ต้นเรเควี่ยมขนาดเท่าเล็บมือสามารถเปลี่ยนยอดฝีมือราชันคนหนึ่งให้กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ ถ้ามันมีไข่ต้นเรเควี่ยมขนาดเท่าสมองอยู่จริงๆ มันก็คงจะเป็นจุดเริ่มต้นสงครามที่จะกลืนกินทั้งจักรวาล

 

“ถ้าสมองของเจ้ายาวหนึ่งเมตรล่ะก็นะ” ไนท์วินด์พูด หานเซิ่นสังเกตว่าดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้างมากๆ

 

“อะไรนะ? ใหญ่ขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นถาม ดวงตาของเขาเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า

 

“เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นคือไข่ต้นเรเควี่ยม ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นน่ะ?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถามด้วยความตกใจ แม้แต่เธอก็ไม่สามารถเชื่อในเรื่องนั้นได้

 

ไม่มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับไข่ต้นเรเควี่ยมที่ใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน แม้แต่ไข่ต้นเรเควี่ยมที่เล็กก็ถือเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่นี่…

 

ความคิดที่ว่ามันมีไข่ต้นเรเควี่ยมยาวหนึ่งเมตรอยู่นั้นเป็นอะไรที่มากพอจะทำให้เลือดของคนเดือด พลังของสิ่งแบบนั้นเป็นอะไรที่อยู่เหนือจินตนาการ

 

“ข้าไม่รู้ ท่านหญิงควรจะมายืนยันมันด้วยตัวเอง” ไนท์วินด์ลงมาจากรูของต้นไม้ เขายังคงดูตกใจขณะที่พูดกับคุณหญิงมิร์เรอร์

 

มันน่าแปลกที่จะได้เห็นไนท์วินด์มีสีหน้าแบบนั้น แต่การได้พบไข่ต้นเรเควี่ยมแบบนั้นก็เป็นอะไรที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ยากจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

 

เพียงแค่ไข่ต้นเรเควี่ยมขนาดเท่าเล็บมือก็สามารถช่วยให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก้าวหน้าอย่างมาก ถ้ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้รับไข่ใหญ่ขนาดนี้ไป พวกเขาก็น่าจะกลายเป็นเทพสปิริตได้อย่างง่ายดาย

 

คุณหญิงมิร์เรอร์บินขึ้นไปที่รูของต้นไม้ เธอยืนมือเข้าไปและเริ่มสัมผัสรอบรูของต้นไม้ ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็อ้าปากค้างไป

 

“มันเป็นไข่ต้นเรเควี่ยมจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะมีไข่ที่ใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วย”
ในที่สุดคุณหญิงมิร์เรอร์ก็พูดขึ้นมาหลังจากที่อ้าปากค้างอยู่นาน สีหน้าของเธอดูไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกยังไง

 

“มันเป็นไข่ต้นเรเควี่ยมจริงๆงั้นหรอ” หานเซิ่นและไนท์วินด์พูดพร้อมๆกัน

 

“ใช่ มันมีทรงกลมและมีขนาดราว 1-2 เมตร” คุณหญิงมิร์เรอร์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“น่าเสียดายที่รูของต้นไม้มีขนาดแค่กำปั้นเท่านั้น ถ้ามันเป็นไข่ต้นเรเควี่ยมขนาดเล็ก พวกเราก็จะนำมันออกมาได้ ตอนนี้พวกเรารู้ว่ามันมีไข่ต้นเรเควี่ยมอยู่ที่นี่ แต่ทว่าพวกเราไม่มีหนทางที่จะเอามันออกมา”

 

“เดี๋ยวก่อนนะ! บางทีอาจจะมีหนทางที่พวกเราจะเอามันออกมาได้” จู่ๆไนท์วินด์ก็พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

 

“เจ้ามีหนทางที่จะขยายรูของต้นไม้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นหันไปมองไนท์วินด์ คุณหญิงมิร์เรอร์เองก็มองไปที่เขาเช่นกัน

 

แทนที่จะตอบคำถาม ไนท์วินด์ใช้นิ้วมือชี้ไปที่จุดหนึ่งของต้นไม้ด้วยความตื่นเต้นและพูด “ดูนั่น”

 

หานเซิ่นและคุณหญิงมิร์เรอร์มองตามนิ้วมือของไนท์วินด์ไปและเห็นรอยที่ลากยาวบนต้นไม้ มันเป็นรอยแหว่งที่ยาวถึง 3 ฟุตและลึก 3 นิ้วเป็นอย่างน้อย

 

“รอยดาบนั่น” ดวงตาของหานเซิ่นเป็นประกายขึ้นมา

 

รอยดาบนั่นดูเก่าแก่ และถึงแม้ต้นไม้จะฟื้นตัว มันก็ยังคงเหลือรอยแผลเอาไว้ ซึ่งเมื่อดูจากรอยแผลนั่นแล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะถูกสร้างขึ้นโดยดาบใหญ่ที่พวกเขาพบก่อนหน้านี้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset