Super God Gene – ตอนที่ 2407

เมื่อพลังประหลาดนั้นไหลเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่นทั้งหมดแล้ว อายุขัยของเขาก็อยู่ที่ 1787 ปี ในเวลาไม่ถึงนาทีอายุขัยของเขาก็เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งสหัสวรรษ

 

“เขาเอาอายุขัยของเหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงที่เข้ามาไปทั้งหมดกี่ปีกัน? นี่ไม่มีทางเป็นอายุขัยทั้งหมดที่เขาเอาไป” หานเซิ่นถามชุดเกราะคริสตัลสีดำ

 

ชุดเกราะคริสตัลสีดำเมินเฉยต่อคำพูดของหานเซิ่น มันกลับเข้าไปในจิตของเขา และเหมือนกับก่อนหน้านี้มันลอยตัวอยู่ที่มุมๆหนึ่งอย่างไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ

 

ในจังหวะที่ชายที่กล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นพระเจ้าถูกทำลาย ในปราสาทลึกลับที่ไกลแสนไกล ชายคนหนึ่งขมวดคิ้วและพูด
“ถึงแม้ตุ๊กตาพระเจ้าของข้าจะล่วงละเมิดเจ้า เจ้าก็แค่ทำลายดวงตาของเขาก็น่าจะพอแล้ว แต่เจ้ากลับฆ่าเขา เจ้าคิดว่าข้าคนนี้จะหวาดกลัวเจ้าอย่างนั้นหรอ?”

 

บนถนนสายหนึ่ง หมอดูมองบทความเกี่ยวกับชุดชั้นในที่ถูกทำลาย หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยมันไป มันสลายกลายเป็นผุยผง เขาถอนหายใจออกมาและพูด
“น่าเสียดาย มันเป็นเรื่องยากกว่าที่จะหาของแบบนั้นมาได้”

 

เขาหยิบถ้วนบะหมี่ที่ร่วงลงไปกับพื้นขึ้นมาและเช็ดถ้วยจนสะอาดด้วยผ้า หลังจากนั้นเขาก็เก็บถ้วยไป เขายกป้ายที่อ่านได้ว่า‘โชคชะตา’ขึ้นมาและเดินไปตามถนน

 

หานเซิ่นมองดูชายคนนั้นสลายกลายเป็นผุยผง และในขณะที่เขาทำแบบนั้น เขาก็รู้สึกตัวว่าเวลากำลังจะหมดแล้ว เขาวิ่งลงจากชิ้นที่ 7 ขณะที่คิดกับตัวเอง ‘ถ้าเอ็กซ์ตรีมคิงพบว่ารูปปั้นถูกทำลาย พวกเขาคงจะไม่สงสัยว่าเราเป็นคนทำหรอกใช่ไหม?’

 

เมื่อหานเซิ่นลงมาชั้นที่ 6 เขาก็เห็นว่ารูปภาพเหล่านั้นที่ยังคงแขวนอยู่กับกำแพง แต่จิตแห่งน้ำได้หายไปแล้ว ตอนนี้พวกมันเป็นเพียงแค่รูปภาพธรรมดาๆ

 

มันเป็นเหมือนกันหมดทุกชั้น รูปภาพทั้งหมดสูญเสียจิตของพระเจ้าไป ตอนนี้พวกมันไม่ได้พิเศษอะไรอีกแล้ว

 

‘แปลกจริงๆ ราชินีจิ้งจอกบอกว่ากระจกไนน์สปินเดสทินี่อยู่ภายในหอคอยนี้ แบบนั้นทำไมเราถึงไม่เห็นมันเลย?’
หานเซิ่นมองดูเวลาและรู้สึกตัวว่าเขายังคงเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจมองหารอบๆหอคอย

 

ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหานเซิ่นเดินขึ้นลงหอคอยหลายต่อหลายครั้ง แต่นอกจากรูปภาพแล้ว ชายคนนั้นก็เป็นเพียงสิ่งอื่นสิ่งเดียวที่อยู่ที่นี่ มันไม่มีกระจกบานไหนอยู่

 

‘นี่ราชินีจิ้งจอกหลอกเราอย่างนั้นหรอ? แต่นั่นไม่สมเหตุสมผล การหลอกเราเกี่ยวกับเรื่องกระจกไม่ได้ทำให้เธอได้ประโยชน์อะไร’
หานเซิ่นขมวดคิ้วและคิดกับตัวเอง ‘นี่หรือว่ามันจะเป็นราชินีจิ้งจอกที่ถูกหลอก? บางทีข้อมูลที่เธอได้มาอาจจะไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนั้นนั่นอาจจะหมายความว่าตัวตนที่แท้จริงของราชินีจิ้งจอกถูกเปิดโปงเรียบร้อยแล้ว’

 

‘แต่ราชินีจิ้งจอกนั้นชาญฉลาด การจะหลอกคนอย่างเธอดูจะเป็นเรื่องยาก’
หานเซิ่นพยายามมองหาทุกซอกทุกมุมในหอคอยแห่งโชคชะตาอย่างละเอียด แต่เขาก็ยังไม่พบอะไรที่น่าจะเป็นกระจก

 

มันไม่มีกระจกไนน์สปินเดสทินี่อยู่ มันไม่มีอะไรอยู่ในหอคอยเลยด้วยซ้ำ หานเซิ่นมองเห็นทุกซอกทุกมุมของหอคอยแต่ละชั้น ถ้ามันมีกระจกอยู่จริงๆ เขาก็คงจะต้องเห็นมันไปนานแล้ว

 

“ภายในหอคอยนี้ไม่มีที่ไหนให้ซ่อนสิ่งของ นอกจากรูปปั้นคนที่เหมือนกับมนุษย์ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่มนุษย์นั่นแล้ว มันก็ไม่เห็นมีอะไรอย่างอื่นอยู่ที่นี่”
ขณะที่พูดออกมาแบบนั้น หานเซิ่นก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจำได้ว่าชายคนนั้นนั่งอยู่บนแท่นหินแท่นหนึ่ง เขารีบกลับขึ้นไปบนชั้นที่ 7 ของหอคอย

 

ถ้ามันจะมีบางสิ่งถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในหอคอยนี้จริงๆ มันก็ต้องเป็นภายในแท่นหินนั้น

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้คิดจะช่วยเหลือราชินีจิ้งจอก ถ้ามันมีสมบัติอย่างกระจกไนน์สปินเดสทินี่อยู่จริงๆ เขาก็จะเอามันไปเป็นของตัวเอง เพราะยังไงซะกระจกไนน์สปินเดสทินี่ก็เป็นสิ่งของที่ราชินีจิ้งจอกเชื่อว่าถ้านำกลับไปได้ มันก็จะทำให้เผ่าจิ้งจอกกลับมายิ่งใหญ่ในจักรวาลอีกครั้ง

 

เมื่อกลับมาถึงชั้นที่ 7 หานเซิ่นก็มองออกไปยังแท่นหินที่ชายคนนั้นเคยนั่งอยู่ มันดูเป็นแท่นหินธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ มันทำขึ้นมาจากหินเดียวกันกับส่วนอื่นๆของหอคอยแห่งโชคชะตานี้

 

หานเซิ่นยื่นมือออกไปกดลงบนแท่นหิน แท่นหินไม่ได้รับความเสียหายอะไร เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่บางสิ่งที่จะถูกทำลายได้ง่ายๆ

 

“น่าเสียดายที่เราใช้พลังจิ้งจอกไนน์สปินไปจนหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะใช้พลังนั้นเพื่อเรียกกระจกออกมาได้”
หานเซิ่นเงียบไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นนิ้วมือไปเหนือแท่นหินและปล่อยให้เลือดของตัวเองหยดลงไป เลือดนั้นผสมด้วยพลังของวิชาโลหิตชีพจร

 

แท่นหินเริ่มสั่นไหวในทันที และเมื่อหยดเลือดละลายเข้าไปข้างใน แท่นหินก็สั่นไหวอย่างรุนแรงยิ่งไปกว่าเดิม

 

ทันใดนั้นแท่นหินก็ลอยขึ้นสู่อากาศ และขณะที่มันลอยตัวอยู่นั้น ชิ้นหินเปลือกนอกก็เริ่มแตกร้าวและหลุดออกมาจากการสั่นไหวที่รุนแรง ไม่นานโฉมหน้าที่แท้จริงของแท่นหินก็ถูกเปิดเผยออกมา

 

หลังจากนั้นกระจกหินที่อยู่ภายในก็ถูกเผยออกมา และเมื่อหานเซิ่นหยดเลือดของตัวเองลงไปอีกหยด แสงสีเงินก็ส่องสว่างออกมาจากกระจก ภายในผิวสะท้อนแสงของกระจก หานเซิ่นมองเห็นเงาของจิ้งจอกเก้าหางสีเงิน หางทั้ง 9 ของมันส่ายอย่างเบาๆขณะที่ดวงตาของจิ้งจอกมองมาที่หานเซิ่น

 

กระจกหินเริ่มบินหมุนวนรอบๆตัวหานเซิ่น กระจกหินนั้นมีขนาดพอๆกับครก แต่มันย่อขนาดลงเรื่อยๆจนกระทั่งมีขนาดพอดีกับมือของหานเซิ่น มันบินลงมาบนฝ่ามือของเขา หลังจากนั้นแสงที่ส่องสว่างออกมาก็หายไปเช่นเดียวกันเงาจิ้งจอกเก้าหางบนกระจก

 

หานเซิ่นยกกระจกขึ้นมา และเขาก็รู้สึกตัวว่ามันไม่ได้สะท้อนอะไรอีกแล้ว มันเป็นเพียงแค่ชิ้นหินสีเทา

 

ที่ด้านหลังของกระจก หานเซิ่นพบรอยแกะสลักรูปจิ้งจอกเก้าหางอยู่ มันเหมือนกันกับเงาที่หานเซิ่นเห็นในตอนที่กระจกเรืองแสงขึ้นมา

 

หยดเลือดของหานเซิ่นหายไปเช่นกัน ดูเหมือนว่ามันจะหายไปในตอนที่กระจกทำงานขึ้นมา หานเซิ่นตรวจดูกระจกหินอยู่อีกสักพัก แต่เขาก็ไม่เจอวิธีที่จะใช้มัน เขาไม่สามารถเปิดใช้งานพลังของกระจกหินนี้ได้

 

‘เราควรลองใช้เลือดเพื่อควบคุมมัน บางทีมันอาจจะจดจำเราได้ในฐานะเจ้าของเหมือนอย่างเจดดรัม’
หานเซิ่นเก็บกระจกหินไปและรอคอยจนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องกลับออกไป เมื่อเวลานั้นมาถึงหอคอยแห่งโชคชะตาก็เปิดออก และหานเซิ่นก็รีบวิ่งออกไปด้านนอก

 

ทางเอ็กซ์ตรีมคิงดูเหมือนจะไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหอคอยแห่งโชคชะตา ซึ่งนั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขาบอกลาคนอื่นและเดินทางกลับเมืองใต้น้ำบนดาววอเทอร์โซน

 

“ถ้าเจ้าทรงพลังถึงขนาดนั้น เจ้าก็ควรจะลงมือให้เร็วกว่านี้ ถ้าสถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง เจ้าไม่จำเป็นต้องรอ ฆ่าพระเจ้าอีกสัก 2-3 คนและพวกเราจะมีชีวิตอยู่ยาวนานขึ้นอีกมาก”
หานเซิ่นพูดกับชุดเกราะคริสตัลสีดำในจิตเมื่อเขากลับมาถึงห้องแล้ว

แต่ชุดเกราะคริสตัลสีดำไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร มันนิ่งสนิทอย่างกับวัตถุที่ไม่มีชีวิต

 

เมื่อเห็นว่าชุดเกราะคริสตัลสีดำไม่ตอบสนอง หานเซิ่นก็ปล่อยมันไป เขาพักอยู่ที่บ้านอีกหลายวันเพื่อดูก่อนว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในหอคอยแห่งโชคชะตาไหม

 

โชคดีที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้เรื่องที่รูปปั้นคนในหอคอยแห่งโชคชะตาถูกทำลาย นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา

 

หานเซิ่น: ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด
ร่างจีโนต่อสู้: ยีนกลายพันธุ์(ดยุก), มนตรา(ดยุก), ตงเสวียน(ราชัน), กายหยก(ดยุก)
ระดับ : ราชัน
ยีนระดับราชัน: 22
ความก้าวหน้าแห่งเทพเจ้า: 12%
อายุขัย: 1787 ปี

 

“เขายังไม่ตายอย่างนั้นหรอ?” ราชินีจิ้งจอกประหลาดใจ เมื่อได้รู้ว่าหานเซิ่นยังมีชีวิตอยู่และเพิ่งจะกลับออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset