หานเซิ่นอธิษฐานแบบนั้นก็เพราะเขาอยากจะรู้จริงๆว่าหานจิงจือปู่ทวดของเขาอยู่ที่ไหน ถ้าหานจิงจือเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขาก็คงจะตายไปจากโลกนี้แล้ว ซึ่งพระเจ้าก็คงจะไม่สามารถหาที่อยู่ของเขาได้ อย่างมากพระเจ้าก็ทำได้แค่บอกถึงที่ฝังศพของเขา
แต่ถ้าปู่ทวดของหานเซิ่นเป็นบุคคลในตำนานจริง ชายที่กล่าวอ้างว่าเป็นพระเจ้าก็ควรจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตามหาคนแบบนั้น หานจิงจือหนีรอดจากพลังของพระเจ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาจะต้องเป็นคนที่ทรงพลังคนหนึ่ง
บนดวงดาวแห่งหนึ่งที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในจักรวาล หมอดูคนหนึ่งกำลังนั่งกินบะหมี่เสียงดัง
ทันใดนั้นสีหน้าของหมอดูก็เปลี่ยนไป และบะหมี่ที่เขาถืออยู่ก็หล่นลงบนพื้น “ใครกันที่มาหลอกข้า!”
นิ้วของหมอดูกระตุกอยู่ชั่วขณะ เมื่อเขาพูดอีกครั้งเสียงของเขาก็ฟังดูโกรธ
“ไอ้คนทรยศคนนั้นหลอกข้า!”
หลังจากนั้นหมอดูก็รีบนำบางสิ่งออกมาจากกระเป๋า เขากัดนิ้วกลางของตัวเองและหยดเลือดลงบนของสิ่งนั้น
“น่าเสียดายจริงๆ ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้สมบัตินี้มา เมื่อข้ากลับไปเมื่อไหร่ ข้าจะส่งสอนบทเรียนให้กับไอ้เวรนั่น”
จิ้งจอกคนหนึ่งเดินตามถนนมา และเธอก็เห็นหมอดูคนนั้นกำลังถือบทความเกี่ยวกับชุดชั้นในลายดอกไม้อยู่ในมือ เขาดูเหมือนกับว่ากำลังเจ็บปวด เธอจ้องมองไปที่เขา แต่หมอดดูนั้นดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นถึงเรื่องนั้น ใบหน้าของเขายังคงบิดเบี้ยวอย่างไม่สบายใจ
ในหอคอยแห่งโชคชะตา ชายที่กล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นพระเจ้ามองไปที่หานเซิ่น ภาพสะท้อนในดวงตาของเขากำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เมื่อหานเซิ่นทำการอธิษฐานเสร็จแล้ว ชายคนนั้นก็สามารถใช้พลังของเขากับหานเซิ่นได้ การแกะรอยสายเลือดของหานเซิ่นถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะมันก็เป็นแค่พลังพื้นฐานธรรมดาๆ มันไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษอะไรเลย
ขณะที่พลังในการแกะรอยกำลังทำงาน ชายคนนั้นก็คำนึงถึงหนทางที่จะได้รับผลประโยชน์จากหานเซิ่นมากที่สุด
ขณะที่ชายคนนั้นกำลังคิด ภาพสะท้อนในดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ประกายของพลังนั้นคงที่ แต่ภาพที่อยู่ภายในเริ่มหมุนวนเร็วขึ้น
“อ้า!” ชายคนนั้นส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาเอามือกุมดวงตาของตัวเอง
หานเซิ่นขมวดคิ้วและมองไปที่ชายคนนั้น เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา ดวงตาของชายคนนั้นระเบิดและทิ้งรูโบ๋เอาไว้เบื้องหลัง
จากความว่างเปล่าภายในห้องมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา
“เจ้ากล้าดียังไงมาสะกดรอยข้า! ครั้งนี้ข้าจะแค่ทำลายดวงตาของเจ้า แต่ถ้ามีครั้งต่อไปข้าจะทำลายร่างกายของเจ้า”
“เป็นไปไม่ได้! เจ้าจะเป็นทายาทของเขาไปได้ยังไง?! นั่นมันเป็นไปไม่ได้!” ชายที่ดวงตาถูกทำลายกรีดร้องออกมา
“ทายาทของใคร?” หานเซิ่นถาม
ตอนนี้เขามองเห็นบาดแผลได้อย่างชัดเจน รูโบ๋ในดวงตาของชายคนนั้นไม่ใช่เนื้อหนัง พวกมันปกคลุมไปด้วยสสารที่เหมือนกับหยก ดวงตาของเขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ มันไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
ในตอนนี้ชายที่ไร้ดวงตานั้นดูน่าสยดสยองอย่างมาก รูที่ว่างเปล่าจ้องมาที่หานเซิ่นขณะที่เขากัดฟันของตัวเอง
“มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นทายาทของเขาหรือไม่ เจ้าได้ทำการอธิษฐานไปแล้ว ดังนั้นเจ้าจะต้องจ่ายคืนให้กับข้า! แถมมันก็ไม่มีทางที่เจ้าจะเป็นทายาทของเขาไปได้”
“ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเขาอยู่ที่ไหน” หานเซิ่นพูด
“เขาอยู่ในที่ที่เขาควรจะอยู่” ชายคนนั้นพูดเคร่งขรึม
“นั่นมันไม่ถูกต้อง ท่านกำลังแหกกฎ!” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“กฎมันง่ายๆ ข้าได้ทำตามที่เจ้าขอแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องจ่ายคืนให้กับข้า” ชายคนนั้นดูค่อนข้างโกรธ
“และถ้าข้าไม่ยอมจ่ายคืนล่ะ?” หานเซิ่นถามขณะที่จ้องไปที่ชายคนนั้น
“นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า” ชายคนนั้นหัวเราะ แสงเริ่มส่องสว่างออกมาจากร่างกายของเขาราวกับออร่าของพระเจ้า
สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไปทันที เขาสังเกตได้ว่าอายุขัยของตัวเองกำลังลดลง
สิ่งมีชีวิตปกติในจักรวาลจีโนไม่สามารถสังเกตเห็นอายุขัยของตัวเองได้ แต่หานเซิ่นมาจากก็อตแซงชัวรี่ เขาเห็นอายุขัยของตัวเองได้
อายุขัยของหานเซิ่นกำลังลดลงไปเรื่อยๆทีละนิด มันถูกเปลี่ยนเป็นแสงที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตัวเปล่าและลอยเข้าไปหาชายคนนั้น
“ถ้าที่นี่ไม่ใช่หอคอยแห่งโชคชะตา เจ้าจะต้องมอบให้ข้ามากกว่าแค่เวลาไม่กี่ปี!” ชายคนนั้นกัดฟันด้วยความโกรธ
“นั่นเป็นอะไรที่โชคไม่ดีเลย ข้าทำการอธิษฐานไป แต่นอกจากข้าจะไม่ได้รับอะไรกลับมาแล้ว อายุขัยของข้ายังถูกขโมยไปอีก สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้านี้ช่างกลับกลอกซะจริงๆ”
หานเซิ่นรู้สึกโกรธ และเขาจะเริ่มลงมือในทันที เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองสูญเสียอายุขัยมากไปกว่านี้ได้ ตอนนี้เขาสูญเสียไปเป็นสิบปีแล้ว และชายคนนั้นก็ยังคงดูดอายุขัยของเขาไปอีกเรื่อยๆ หานเซิ่นไม่รู้ว่าอายุขัยมากเท่าไหร่กันที่ชายคนนั้นคิดจะเอาไปเพื่อเป็นค่าตอบแทน
แต่ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมเหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงที่เข้ามาในหอคอยแห่งโชคชะตาถึงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมาจากคำอธิษฐานของพวกเขา อายุขัยส่วนหนึ่งของพวกเขาถูกเอาไป แต่พวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ แต่พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอายุขัยของตัวเองถูกขโมยไปมากเท่าไหร่
ขณะที่อายุขัยกำลังถูกดูดออกไป หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ทรงพลังภายในจิตของเขา จู่ๆชุดเกราะคริสตัลสีดำที่อยู่ภายในจิตของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
ชุดเกราะคริสตัลสีดำปรากฏออกมาและลอยตัวอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น ชุดเกราะสีดำดูเหมือนกับว่ามันสามารถดูดซับแสงสว่างทั้งหมดได้
หานเซิ่นหยุดชะงักไปขณะที่มองไปที่ชุดเกราะคริสตัลสีดำ เมื่อชุดเกราะลอยอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น อายุขัยของเขาก็ไม่ได้ถูกดูดออกไปอีก การเชื่อมต่อระหว่างเขากับชายคนนั้นขาดไปราวกับว่ามันมีกรรไกรมาตัด
“มันเกิดอะไรขึ้น? ข้าเพิ่งจะเอาอายุขัยมาได้แค่สิบกว่าปี แต่มันควรจะได้รับอายุขัยทั้งหมด 153 ปี ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?”
ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของชุดเกราะคริสตัลสีดำ เขาดูสับสนอย่างมาก และดวงตาที่กลวงโบ๋ของเขาก็จ้องมาที่หานเซิ่น
ชุดเกราะคริสตัลสีดำที่ลอยตัวอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นยกแขนหุ้มเกราะของมันขึ้นมา ในจังหวะนั้นมันดูเหมือนกับเป็นคนจริงๆแทนที่จะเป็นชุดเกราะที่ว่างเปล่า
ชุดเกราะคริสตัลสีดำเดินไปตรงหน้าชายตาโบ๋ แต่เขาดูจะไม่สังเกตเห็นถึงเรื่องนั้น เมื่อชุดเกราะคริสตัลสีดำไปอยู่ตรงหน้าชายตาโบ๋ มันก็ชกหมัดออกไปข้างหน้า
ตูม!
ร่างกายของชายคนนั้นระเบิด เขาเป็นเหมือนกับหินที่ถูกทำลายกลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา
ชายที่กล่าวอ้างว่าเป็นพระเจ้านั้นแหลกสลายในหมัดเดียว
พลังที่หานเซิ่นแทบจะมองไม่เห็นลอยออกมาจากร่างกายที่ถูกระเบิดและกลับเข้ามาในร่างกายของหานเซิ่น
“อายุขัย +1, อายุขัย +1”
อายุขัยของหานเซิ่นเริ่มจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่กี่วินาทีเขาก็ได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยปี เขาได้รับอายุขัยมากกว่าที่สูญเสียไป และพลังนั้นก็ยังคงไหลเข้ามาในร่างกายของเขาเรื่อยๆ
“200 ปี, 300 ปี, 500 ปี” หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวขณะที่มองดูอายุขัยของตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ