Super God Gene – ตอนที่ 2391

ถึงแม้หานเซิ่นจะเชี่ยวชาญในวิชาคลื่นหยินหยาง แต่ราชินีจิ้งจอกใส่พลังเข้ามาในตัวเขาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะควบคุมพลังที่มากขนาดนั้น

 

สัญลักษณ์จิ้งจอกเงินเก้าหางปกคลุมร่างกายของหานเซิ่นราวกับเงาปีศาจ กลิ่นหอมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมันเกือบจะเหมือนกับว่าพวกมันกลายเป็นสิ่งที่มีรูปธรรมและสัมผัสได้

 

“เปล่าประโยชน์! พลังของเจ้ามีขีดจำกัด ถึงจะไม่มีดยุกคนไหนที่เทียบชั้นกับความแข็งแกร่งของเจ้าได้ แต่เมื่อเทียบกับข้า เจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไป เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่าจะใช้พลังของข้าเป็นเหมือนกับของตัวเองได้? เจ้าคงจะต้องล้อเล่นแน่ๆ” เสียงของราชินีจิ้งจอกดังในหัวของหานเซิ่น

 

ราชินีจิ้งจอกกอดหานเซิ่นเอาไว้แน่น ริมฝีปากของเธอยังคงประกบกับริมฝีปากของหานเซิ่นขณะที่เธอพ่นพลังจิ้งจอกไนน์สปินเข้าไปในตัวของเขา เธอควบคุมพลังที่ไหลเข้าไปในตัวของเขาและค่อยๆใช้มันเพื่อเปลี่ยนหานเซิ่นให้กลายเป็นร่างโคลนจิ้งจอกไนน์สปิน

 

หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะชักนำพลังจิ้งจอกไนน์สปิน แต่มันแตกต่างไปจากอะไรที่เขาเคยเจอ เขาไม่สามารถแย่งมันจากการควบคุมของราชินีจิ้งจอกได้ เขาตัดสินใจจะลองใช้กลยุทธ์ใหม่ แต่จู่ๆเขาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา พลังที่น่ากลัวแพร่ขยายบนแผ่นหลังของเขา

 

หานเซิ่นสะดุ้งด้วยความประหลาดใจ จู่ๆก็มีพลังที่ไม่รู้แหล่งที่มาออกมาจากแผ่นหลังของเขา พลังนั้นไม่ได้เป็นของหานเซิ่น และมันก็ไม่ได้เป็นของราชินีจิ้งจอกด้วยเช่นกัน

 

บางสิ่งสีแดงปรากฏบนขึ้นแผ่นหลังของหานเซิ่น เขาเปิดใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและสังเกตเห็นผิวบนแผ่นหลังที่แต่เดิมถูกปกคลุมด้วยสัญลักษณ์จิ้งจอกกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง สีของเลือดเข้มขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมันเผยรูปภาพออกมาให้เห็น

 

“นั่นคือ…แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้” หานเซิ่นตกใจ

 

สัญลักษณ์สีแดงบนหลังของหานเซิ่นเป็นรูปของผู้หญิงที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์และร่างกายท่อนล่างเป็นงู หัวของเธอมีเขางอกออกมา มันเป็นภาพที่ดูน่าเกลียดน่ากลัว และหานเซิ่นก็มั่นใจว่ามันคือแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้

 

‘นี่คือภาพที่คนที่ถูกล่ามโซ่วาดไว้บนหลังของเราในตอนที่อยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์?’ หานเซิ่นรู้ว่าภาพนั้นมาจากไหน

 

ในตอนนั้นเขาไม่สามารถมองดูแผ่นหลังของตัวเองได้ ซึ่งก่อนที่มันจะหายไป เป่าเอ๋อบอกกับเขาว่ามันเป็นภาพของผู้หญิงที่น่าเกลียด นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นมีโอกาสได้เห็นมัน เขาไม่รู้สึกตัวมาก่อนเลยว่าภาพวาดจะยังอยู่บนหลังของเขา และเขาไม่เคยคิดว่ามันจะทำงานขึ้นมาในตอนนี้

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าภาพวาดนั้นทำอะไรได้ แต่พลังที่ออกมาจากภาพวาดแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าพลังที่ราชินีจิ้งจอกปล่อยเข้ามาในตัวของเขา มันผลักสัญลักษณ์จิ้งจอกไนน์สปินออกไปและเข้ายึดครองทั้งแผ่นหลังของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นรู้สึกปวดร้อนแผ่นหลังราวกับว่าถูกเหล็กร้อนจี้ใส่

 

ขณะที่ภาพของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ดูละเอียดขึ้นเรื่อยๆ เงาของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ก็ปรากฏออกมา มันยืนตรงข้ามเงาของจิ้งจอกเก้าหาง มันปกคลุมแผ่นหลังของหานเซิ่น ขณะที่จิ้งจอกปกคลุมอกของหานเซิ่น พลังทั้ง 2 ต่อสู้กันเพื่อความเป็นใหญ่ในตัวของเขา

 

“รูปปั้นเซเคร็ดบลัด! ทำไมเจ้าถึงมีรูปปั้นเซคร็ดบลัดได้?” ราชินีจิ้งจอกตกตะลึง

 

ราชินีจิ้งจอกดูหวาดกลัว เธอพยายามจะออกมาจากร่างกายของหานเซิ่น แต่ตอนนี้มีบางสิ่งดึงเธอเอาไว้ เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้และพลังของเธอก็กำลังเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่นอย่างควบคุมไม่ได้

 

“รูปปั้นเซเคร็ดบลัดคืออะไร?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว สถานการณ์บานปลายเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้ รูปภาพสีเลือดยังคงอยู่บนแผ่นหลังของเขาและหัวใจของเขาก็เริ่มเจ็บปวด

 

ราชินีจิ้งจอกตัวสั่นด้วยความกลัว “เป็นไปไม่ได้! เซเคร็ดถูกทำลาย… และผู้นำของเซเคร็ดก็ได้ตายไปแล้ว! มันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะวาดรูปปั้นเซเคร็ดบลัดได้อีก… นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

 

“รูปปั้นเซเคร็ดบลัดคืออะไร?” หานเซิ่นถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าราชินีจิ้งจอกยังคงพูดไม่รู้เรื่อง

 

ราชินีจิ้งจอกพยายามสงบสติ แต่เธอยังคงตกตะลึง เธอพูดขึ้นว่า
“มันเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ผู้นำเซเคร็ดจะควบคุมคนของเขา ถ้ารูปภาพของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดถูกวาดลงบนตัวใครก็ตาม ร่างกายนั้นจะถูกกลืนกินได้ทุกเวลา ตราบใดที่รูปปั้นเซเคร็ดบลัดไม่ทำงาน มันจะไม่มีอะไรผิดปกติ และบางครั้งภาพวาดอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอีกด้วย มันจะทำให้ร่างกายของคนๆนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างเงียบๆ แต่ตอนนี้เมื่อรูปปั้นเซเคร็ดบลัดทำงานขึ้นมา มันก็จะเริ่มกลืนกินพลังและเนื้อหนังจนกระทั่งพวกมันถูกกินไปจนหมด”

 

“ทำไมเจ้าถึงมีรูปปั้นเซเคร็ดบลัด? และมันยังเป็นรูปภาพของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้อีก? ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้? เจ้ากำลังจะทำให้ข้าถูกฆ่า!”
ราชินีจิ้งจอกกัดฟันและรวบรวมพลังของตัวเอง เธอต้องการจะใช้พลังเพื่อดึงตัวเองออกจากร่างกายของหานเซิ่น แต่ภายใต้อิทธิพลของรูปปั้นเซเคร็ดบลัด พลังของเธอเหมือนกับถูกแม่เหล็กดูด ราชินีจิ้งจอกไม่สามารถดึงตัวเองออกมาไปได้ และพลังของเธอก็ไหลออกไปสู่ร่างกายของหานเซิ่นอย่างต่อเนื่อง

 

ตอนนี้หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงรูปปั้นเซเคร็ดบลัดบนหลังอย่างชัดเจน มันกำลังกัดกินพลังและเนื้อหนังของเขาราวกับผีที่หิวกระหาย ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายของเขาก็จะถูกกลืนกินโดยรูปปั้นเซคร็ดบลัดในอีกไม่นาน

 

แต่พลังของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดนั้นรวมเป็นหนึ่งกับร่างกายของหานเซิ่นเรียบร้อยแล้ว และพลังของมันก็อยู่ภายในร่างกายของเขา ดังนั้นถ้าเขาพยายามจะทำลายรูปปั้นเซเคร็ดบลัด นั่นก็หมายความว่าเขาทำลายร่างกายตัวเอง

 

“เวรเอ้ย! ผู้นำเซเคร็ดมันเป็นคนโรคจิต คนแบบไหนกันที่จะคิดวิชาจีโนแบบนี้ขึ้นมา?” หานเซิ่นสาบแช่ง

 

เมื่อราชินีจิ้งจอกรู้ตัวว่าไม่สามารถดึงตัวเองออกจากหานเซิ่นได้ เธอก็ตัดขาดการเชื่อมต่อกับพลังของตัวเองแทน เธอเริ่มกระอักเลือดออกมาในทันทีและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือก การตัดการเชื่อมต่อกับพลังของตัวเองทำให้เธอออกมาจากหานเซิ่นได้ แต่มันก็ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

 

เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากพลังของราชินีจิ้งจอก สัญลักษณ์จิ้งจอกเก้าหางบนตัวหานเซิ่นก็เริ่มจะปั่นป่วน ตอนนี้หานเซิ่นมีพลังไม่พอที่จะต่อสู้กับเงาแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ เขากำลังจะถูกกลืนกิน

 

“มันจบแล้ว…มันจบสิ้นแล้ว…” ราชินีจิ้งจอกดูตื่นกลัว ความพยายามที่จะขโมยของออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาของเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า

 

ราชินีจิ้งจอกมองหานเซิ่นด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ก่อนที่เธอจะเดินจากไป

 

รูปปั้นเซเคร็ดบลัดทำงานเรียบร้อยแล้ว และสิ่งเดียวที่รอหานเซิ่นอยู่ก็คือความตาย ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ต่อและถูกค้นพบเข้า มันจะกลายเป็นว่าเธอเป็นคนฆ่าองค์ชายสิบหกของเอ็กซ์ตรีมคิง ซึ่งนั่นจะไม่เป็นผลดีต่อเธอ

 

ขณะที่ราชินีจิ้งจอกจากไป เธอก็รู้สึกหดหู่ เธอคิดว่าจะชิงกระจกไนน์สปินเดสทินี่กลับคืนมาได้ แต่โอกาสนั้นหายไปเพราะความโลภมากของตัวเธอเอง

 

แถมตอนนี้เธอก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ถ้าไม่มีสิ่งของระดับเทพเจ้าช่วย มันจะใช้เวลาเป็นปีๆกว่าที่เธอจะฟื้นตัว

 

“หานเซิ่น ข้าไม่ได้ต้องการจะฆ่าเจ้า เจ้าโชคร้ายเอง” ราชินีจิ้งจอกรีบเดินทางออกจากดาววอเทอร์โซน เธอไม่อยากใครมาเห็นเธออยู่ที่นั่นในตอนที่หานเซิ่นตาย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset