Super God Gene – ตอนที่ 2371

เมื่อหญิงแก่เผ่าไซเรนเห็นว่าหานเซิ่นยังคงยืนแข็งทื่อหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลันไห่ซิน เธอก็พูดขึ้นมา
“องค์ชาย สายเลือดขององค์ชายและท่านแม่ขององค์ชายต่างก็ไม่บริสุทธิ์พอ ดังนั้นถึงแม้องค์ชายจะรู้ที่อยู่ของโบราณวัตถุ องค์ชายก็เปิดใช้งานโบราณวัตถุไม่ได้ นั่นคือเหตุผลที่ท่านแม่ขององค์ชายปิดบังที่อยู่ของโบราณวัตถุกับองค์ชาย นางกังวลว่าองค์ชายจะทำร้ายตัวเอง”

 

หานเซิ่นเปล่งเสียงออกจมูกอย่างไม่พอใจและพูด “ข้าจะรู้ได้ยังไง ถ้าเกิดนางไม่ต้องการมอบโบราณวัตถุให้กับข้าตั้งแต่แรกล่ะ?”

 

หลันไห่ซินรู้สึกรำคาญ “เจ้าสงสัยในตัวแม่ตัวเองเนี่ยนะ? มันคงเป็นอะไรที่น่าอับอายยิ่งนักที่ต้องมีเจ้าเป็นลูก ข้ารู้สึกสงสารนางที่พยายามเลี้ยงดูเจ้าจนเติบใหญ่ขึ้นมา”

 

หญิงแก่เผ่าไซเรนพูด “องค์ชายกังวลมากเกินไปแล้ว ถ้าท่านแม่ขององค์ชายไม่ต้องการให้องค์ชายได้รับโบราณวัตถุ แบบนั้นนางจะตั้งระบบเปิดปราสาทคริสตัลโดยใช้เลือดขององค์ชายทำไม? นางแค่กังวลว่าองค์ชายจะรีบมาเอาโบราณวัตถุด้วยตัวคนเดียว และทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้เมื่อได้ด้วยความช่วยเหลือขององค์หญิง องค์ชายก็ควรจะเปิดใช้โบราณวัตถุได้ มันไม่มีความเสี่ยงอะไร นี่เป็นสิ่งที่ท่านแม่ขององค์ชายต้องการ”

 

‘ใช้เลือดอย่างนั้นหรอ? แต่ฉันไม่ใช่ไป๋อี้จริงๆ แบบนั้นเลือดของฉันจะเปิดปราสาทคริสตัลได้หรอ?’ หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ และเขาก็คิดกับตัวเองต่อ
‘บางทีปราสาทคริสตัลอาจจะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ อย่างน้อยๆเราก็ควรจะลองดู ถ้ามันไม่ได้ผล เราก็แค่ต้องบอกพวกเขาว่าเรายังยึดครองร่างกายของหานเซิ่นได้ไม่เต็มที่และมันยังมียีนของเขาหลงเหลืออยู่ เราจำเป็นต้องถ่วงเวลาเรื่องนี้เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้’

 

เมื่อหานเซิ่นคิดแผนการได้แล้ว เขาก็เดินเข้าไปหาประตูปราสาทคริสตัล ผีเสื้อเนตรม่วงในดวงตาข้างขวาของเขาหมุนอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขามองไปที่ประตูคริสตัลตรงหน้า

 

ประตูคริสตัลนั้นสูงสิบเมตรและมันก็ดูทรงพลังอย่างมาก มันมีวงแหวนวงหนึ่งอยู่รอบๆ และมันก็เต็มไปด้วยสีสันของสายรุ้ง มันดูเป็นอะไรที่ค่อยข้างมหัศจรรย์

 

ประตูบานทั้ง 2 ด้านนั้นมีรูปสลักของหญิงเผ่าไซเรนอยู่ จากสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของปราสาทหลังนี้ มันเห็นได้ชัดว่าปราสาทนี้ถูกทิ้งเอาไว้โดยเผ่าไซเรน

 

หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถหยดเลือดลงบนประตูและหวังให้มันเปิดออกได้ มันต้องระบบทำงานบางอย่างอยู่ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่หานเซิ่นกำลังมองหา

 

ด้วยการใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง ในที่สุดหานเซิ่นก็พบจุดหนึ่งบนประตูที่พิเศษ

 

ทั้ง 2 ด้านของประตูมีรูปสลักของหญิงเผ่าไซเรนอยู่ และแขนของไซเรนทั้ง 2 ก็ม้วนเข้าด้วยกัน มือทั้ง 4 นั้นกำลังถือขวดคริสตัลขวดหนึ่งเอาไว้ ขวดคริสตัลนั้นอยู่ที่จุดศูนย์กลางของประตู

 

สไตล์ของขวดคริสตัลนั้นทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว เพราะมันทำให้เขานึกไปถึงแผ่นกระจกของหอยสังข์คริสตัลสายรุ้ง

 

ขวดคริสตัลเป็นเหมือนกับงานแกะสลัก และที่ศูนย์กลางของขวดมีรูขนาดเล็กอยู่ ถ้าเขาไม่ให้ความสนใจกับมันล่ะก็ เขาก็คงจะไม่สังเกตเห็นมัน

 

แต่ด้วยวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง หานเซิ่นมองเห็นกระบวนการที่ขวดคริสตัลถูกสร้างขึ้นมา

 

หานเซิ่นเดินตรงไปที่ประตู เขายกมือขึ้นไปหางานแกะสลักของขวดคริสตัล และเมื่อเขากำลังจะสัมผัสกับมัน เขาก็ใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์เพื่อเปลี่ยนมือให้กลายเป็นน้ำ

 

นิ้วมือของหานเซิ่นสัมผัสกับรูเล็กนั่นและน้ำบางส่วนก็ถูกแยกออกไปจากนิ้วมือเพื่อไหลเข้าไปในรู หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ดึงมือกลับและก้าวถอยออกมา เขาจับจ้องไปที่ประตูของปราสาทคริสตัล

 

จากท่าทางของหลันไห่ซินและคนอื่น หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองทำถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงระมัดระวัง เขากำลังนึกถึงสิ่งที่จะพูดถ้าเขาไม่สามารถเปิดประตูของปราสาทคริสตัลได้

ขณะที่หานเซิ่นกำลังเตรียมคำอธิบาย ประตูของปราสาทคริสตัลก็ส่งเสียงออกมา มันเปิดเข้าไปด้านใน

 

หลันไห่ซินและคนอื่นยิ้มกว้างด้วยความปิติยินดี หานเซิ่นประหลาดใจอย่างลับๆ “เราเปิดมันได้?”

 

จริงๆแล้วหานเซิ่นคิดว่าตัวเองจะล้มเหลว เพราะความสำเร็จนั้นหมายความว่าความรู้สึกไม่สบายใจของเขาก็ยังคงอยู่ ซึ่งยิ่งเขาเข้าไปใกล้ปราสาทคริสตัลมากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นเท่านั้น

 

ประตูเปิดออกและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในปราสาทคริสตัล เหนือประตูบานใหญ่ไปนั้นคือห้องโถงสีทองที่ถูกทำขึ้นมาจากคริสตัลเช่นกัน ที่ปลายสุดของห้องโถงนั้นมีแท่นบูชาอยู่ ขวดคริสตัลเล็กขวดหนึ่งตั้งอยู่บนแท่นบูชานั้น บางสิ่งที่ดูเหมือนกับสายรุ้งหมุนวนอยู่ภายในขวด มันเป็นภาพที่น่าพิศวง

 

หลันไห่ซินและคนอื่นๆรีบเข้าไปในห้องโถงด้วยความตื่นเต้น

 

หานเซิ่นลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน เนื่องจากมีนกแดงน้อยอยู่ที่นี่ด้วย เขาและเป่าเอ๋อก็ควรจะปลอดภัย

 

ลิลลี่ยังคงหวาดกลัวและเดินประกบด้านข้างของหานเซิ่น หานเซิ่นเดินเข้าไปอย่างช้าๆและคอยสังเกตหลันไห่ซินกับคนอื่นๆ พวกเขายังคงไม่พบกับอันตรายอะไร

 

ภายในห้องโถงเงียบสงบอย่างมาก หลันไห่ซินและคนอื่นๆเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าแท่นบูชา หญิงแก่เผ่าไซเรนจ้องไปที่ขวดบนแท่นบูชาก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ใช่ ใช่แน่ๆ! นี่คือโบราณวัตถุของพวกเรา ขวดไซเรน… เผ่าพันธุ์ของพวกเราจะกลับมาผงาดนอีกครั้ง”

 

หลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมา เธอโค้งคำนับต่อขวดบนแท่นบูชาซ้ำๆด้วยน้ำตา

 

ไซเรนคนอื่นๆเองก็เริ่มจะโค้งคำนับตามหญิงแก่เผ่าไซเรน แม้แต่หลันไห่ซินก็ลดตัวต่อหน้าขวดไซเรน

 

หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะเข้าไปร่วมด้วย เขาแค่นั่งอยู่บนหลังกิเลนโลหิตและจ้องไปที่ขวด

 

ขวดนั้นมีขนาดพอๆกับมือคน ปีกกระจกนั้นบานออกทั้ง 2 ข้างของขวด ปีกทั้ง 2 ข้างของขวดแสดงให้เห็นถึงใบหน้าของหญิงเผ่าไซเรน ขวดนั้นมีขนาดเล็ก แต่มันก็ดูละเอียดอ่อนมากๆ ผู้หญิงเผ่าไซเรนทั้ง 2 บนขวดดูเหมือนกับว่ามีชีวิตจริงๆ

 

ขวดประดับอย่างสวยงามด้วยวงแหวนและมีสายรุ้งเรืองแสงออกมาจากภายใน มันดูเป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ทว่าเมื่อหานเซิ่นมองไปที่ขวด มันกลับรู้สึกให้ความรู้สึกที่น่ากลัว

 

“ไป๋อี้ เจ้ากับข้ารับขวดศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วในตอนนี้” หลันไห่ซินพูดกับหานเซิ่น แต่เธอยังคงยืนอยู่ตรงหน้าแท่นบูชา

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว ขวดไซเรนเป็นของดีอย่างเห็นได้ชัด วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงสามารถยืนยันเรื่องนั้นได้ วิญญาณอสูรผีเสือเนตรม่วงไม่สามารถวิเคราะห์ขวดๆนี้ได้ ดังนั้นมันต้องเป็นสิ่งของระดับเทพเจ้าอย่างแน่นอน

 

แต่ความรู้สึกชั่วร้ายของขวดไซเรนทำให้หานเซิ่นรู้สึกกลัว เขาไม่อยากจะเสี่ยงเข้าไป

 

เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นยังคงยืนอยู่ด้านหลัง หลันไห่ซินก็ขมวดคิ้วและพูด
“เจ้าต้องการโบราณวัตถุนี่มาตลอดไม่ใช่หรอ? ทำไมตอนนี้เจ้าถึงได้ลังเล?”

 

หานเซิ่นยิ้มและพูดออกมา “แน่นอนว่าข้าต้องการโบราณวัตถุนี้ แต่ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน เจ้าแน่ใจหรือว่านี่คือโบราณวัตถุที่ถูกต้องน่ะ?”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset