“ไม่เห็นมันจะมีสุสานอยู่แถวๆนี้เลย ใครกันที่ตายและถูกฝังเอาไว้ในที่แบบนี้? หรือบางทีเถ้าถ่านของเขาจะถูกนำมาโปยลงในมหาสมุทร?” หานเซิ่นสงสัย
บอกตามตรงหานเซิ่นไม่ได้เชื่อในคำกล่าวอ้างของคุณหญิงมิร์เรอร์ แต่ด้วยการที่มียอดฝีมือมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ มันก็ต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่
ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์อื่นต่างก็หวาดกลัวคุณหญิงมิร์เรอร์ มันไม่มีใครเข้ามาใกล้เธอ
แต่พวกเขาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆกับทะเล พวกเขาทั้งหมดกำลังรอให้บางอย่างเกิดขึ้นเช่นเดียวกับคุณหญิงมิร์เรอร์
แต่หลังจากผ่านไปหลายวัน มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หานเซิ่นไม่เห็นวี่แววของงานศพที่คุณหญิงมิร์เรอร์พูดถึงเลย
ตอนนี้มันผ่านมา 6 วันแล้ว และหานเซิ่นก็อดไม่ได้อีกต่อไป
“คุณหญิงมิร์เรอร์ งานศพยังไม่เริ่มอีกอย่างนั้นหรอ?”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณหญิงมิร์เรอร์ถูกบริการเป็นอย่างดีโดยคนของเธอราวกับว่าเธอมาที่นี่เพื่อพักร้อน เธอเพลินเพลินกับอาหารชั้นเลิศและผู้คนของเธอก็บริการเธอทุกอย่าง พวกเขาเกือบจะเคลื่อนย้ายอ่างอาบน้ำมาให้กับเธอที่นี่ เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ขณะที่หานเซิ่นและกิเลนโลหิตไม่ได้กินอะไรเลย ในตอนนี้หานเซิ่นถึงขั้นต้องดูดซับพลังงานจากดวงดาวเพื่อความอยู่รอด แต่ถึงแม้เขาจะอยู่รอดได้ มันก็รู้สึกไม่สบายอยู่ดี
“เจ้าจะเร่งรีบไปทำไม? เขายังไม่ตายสักหน่อย” คุณหญิงมิร์เรอร์ตอบอย่างลวกๆ
ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้าง เขาคิดกับตัวเอง ‘นี่พวกเขาคิดจะจัดงานศพให้กับคนที่ยังไม่ตายอย่างนั้นหรอ? แถมผู้คนมากมายก็มารออยู่ที่นี่เรียบร้อยแล้ว และพวกเขายังดูไม่รีบไม่ร้อนอีก? ถ้าคนที่กำลังจะตายรู้เรื่องนี้ล่ะก็ เขาคงจะโกรธมากๆถึงขนาดที่เขาอาจะหัวใจวายตายทันที’
หานเซิ่นคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้แปลกมากๆ แต่คุณหญิงมิร์เรอร์ไม่คิดจะตอบคำถามอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้
“คุณหญิงมิร์เรอร์ ข้าขอไปเดินเล่นรอบๆได้ไหม? ข้ารู้สึกหิวและอยากจะหาอาหารกิน ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่ไปไกล” หานเซิ่นมองไปที่คุณหญิงมิร์เรอร์
“เจ้าจะไปที่ไหนก็ได้ แต่เจ้าต้องกลับมาก่อนงานศพ”
หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าคุณหญิงมิร์เรอร์จะตอบตกลงง่ายแบบนั้น มันเป็นการตอบที่รวดเร็วราวกับว่าเธอไม่ได้คิดจะจับตัวเขาเอาไว้
“ขอบคุณคุณหญิง” หานเซิ่นหันหลังและเดินลงจากยอดเขา หลังจากที่เดินออกไปได้สักพัก เขาก็หันกลับมามองและสังเกตเห็นว่าคุณหญิงมิร์เรอร์ไม่ได้หันมามองเขา เธอไม่แม้แต่จะส่งคนของเธอมาคอยจับตาดูเขาเอาไว้ มันดูเหมือนกับว่าเธอไม่สนใจจริงๆ
‘นี่เธอรู้หรือว่าเราจะไม่หนีไป?’ หานเซิ่นคิดว่าคุณหญิงมิร์เรอร์เป็นผู้หญิงที่แปลกมากๆ เขาไม่คิดจะหนีไปจนกว่าเขาจะได้ตัวเป่าเอ๋อกลับคืนมา
หลังจากที่ลงมาจากยอดเขา หานเซิ่นก็ได้พบกับยอดฝีมือจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หลายๆเผ่าเป็นเผ่าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และหลังจากที่เดินต่อไปอีกหน่อย เขาก็ได้เห็นตลาดชั่วคราวที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา
หานเซิ่นรู้สึกดีใจและรีบบินไปที่ตลาดทันที มันมีหลากหลายเผ่าพันธุ์มาตั้งแผงขายของอยู่ที่นั่น หลายคนขายยีนซีโน่เจเนอิคชนิดต่างๆ และมันมีอยู่หลากหลายระดับ ผู้คนรอบๆตัวเขาดูเหมือนกับไวเคานต์หรือบารอน บางคนดูเหมือนกับระดับราชัน และมีหลายคนที่หานเซิ่นไม่สามารถระบุระดับของพวกเขาได้ คนเหล่านั้นจะน่ากลัวมากๆ
เขาสังเกตได้อีกว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่มีพลังธาตุน้ำเหมือนๆกัน
“มันไม่มีทางเป็นแค่เรื่องบังเอิญ บางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับพลังธาตุน้ำอย่างนั้นหรอ? เรามีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์อยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณหญิงมิร์เรอร์พาเรามาที่นี่? แต่นั่นจะไม่ถูก กัปตันวอเทอร์มูนเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าธาตุน้ำ ถ้านี่เป็นโอกาสสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ยอดฝีมือธาตุน้ำล่ะก็ เธอก็คงจะไม่พาองค์ชายปลอมๆคนหนึ่งมาที่นี่”
หานเซิ่นเดินเข้าไปในตลาด มันมีผู้คนมากมายอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะเก็บข้อมูล เพราะยังไงซะทุกคนก็ต้องพูดคุยกับคนขาย
หานเซิ่นเดินไปรอบๆและมองดูฝูงชนก่อนที่จะนั่งลงตรงหน้าแผงขายของแผงหนึ่ง หานเซิ่นไม่ได้เลือกแผงขายของนี้เพราะสินค้าที่วางอยู่ แต่เป็นเพราะเจ้าของแผงมีระดับต่ำ แถมเขาก็เป็นแค่ชาวเคทเท่านั้น มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเอาข้อมูลจากคนแบบนั้น
หานเซิ่นอยากจะข่มขู่เอาข้อมูลจากอีกฝ้าย เพราะการทำอย่างนั้นจะเป็นอะไรที่รวดเร็วกว่าการถามอย่างเป็นมิตร
“พี่ชาย สิ่งที่ข้าขายคือสมบัติซีโน่เจเนอิคธาตุของแท้ พี่ชายสนใจชิ้นไหน?” เคทระดับบารอนแนะนำสิ่งของด้วยความกระตือรือร้น
“ใครเป็นพี่ชายของเจ้า?” หานเซิ่นทำหน้าน่ากลัว
“โอ้…ขออภัยด้วย สุดหล่อ” เคทระดับบารอนรีบพูด
“ต้องแบบนั้นสิ” หานเซิ่นพยักหน้า แต่ในใจของเขาคิด ‘ไม่สิ เรามาที่นี่เพื่อเล่นเป็นตัวร้าย เราควรถูกเรียกว่าบอส’
แต่การแกล้งเป็นตัวร้ายไม่ค่อยเหมาะกับหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงเลิกแสดงและนำมีดระดับไวเคานต์เล่มหนึ่งออกมา
“เจ้ารู้ไหมว่านี่คืออะไร?”
“สุดหล่อ ข้าต้องขออภัยด้วย! พวกเราทำแค่ธุรกิจเล็กๆ พวกเราไม่รับซื้อของ สุดหล่อลองไปถามคนโน้นดูเป็นยังไง? คนๆนั้นร่ำรวยและเขาต้องมอบราคาที่สูงให้กับเจ้าอย่างแน่นอน” เจ้าของร้านดูหม่นหมอง
“ใครบอกว่าข้าพยายามจะขายมันให้กับเจ้า? ดูข้าให้ดี นี่ข้าดูเหมือนกับคนที่ไม่มีเงินพอจะขายของให้กับคนอย่างเจ้าหรือยังไง?”
หานเซิ่นโยนมีดลงตรงหน้าเจ้าของร้านและพูดด้วยเสียงอวดรวย “ตอบคำถามของข้าและนี่จะตกเป็นของเจ้า”
“เจ้ามาที่นี่เพื่อข้อมูลอย่างนั้นหรอ? แบบนั้นทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้”
เจ้าของร้านรีบเก็บมีดเข้ากระเป๋าและพูด “สุดหล่อ ถามข้ามาได้เลย มันไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับที่นี่ที่ข้าไม่รู้”
หานเซิ่นไม่ได้คิดว่าข้อมูลของอีกฝ่ายจะมีประโยชน์อะไรมากนัก อีกฝ่ายพูดจาใหญ่โตทั้งๆที่เป็นแค่บารอนคนหนึ่ง เขาดูไม่กังวลเกี่ยวกับการมอบข้อมูลบางอย่างที่ไม่ควรพูดเลยสักนิด
โชคดีที่หานเซิ่นไม่ได้หวังจะรู้ความลับสุดยอดอะไร เขาแค่จะถามคำถามง่ายๆไม่กี่คำถามเท่านั้น
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นถามพร้อมกับมองซ้ายมองขวา
“สุดหล่อ เจ้าไม่เห็นอย่างนั้นหรอ? ข้ามาที่นี่เพื่อหาเงิน!” ชาวเคทที่ชื่ออะลางหัวเราะ
“ตอบอย่างจริงจัง ใครสนว่าเจ้าจะมาที่นี่เพื่อหาเงิน ข้ากำลังถามว่าทุกคนมาทำอะไรที่นี่ บนดาวดวงนี้!”
หานเซิ่นจ้องไปที่อะลางด้วยด้วยหน้าตาน่ากลัว เขาเริ่มจะรู้สึกเสียใจที่มาถามชาวเคทคนนี้ อีกฝ่ายนั้นไร้ประโยชน์จริงๆ
อะลางดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นจากความฝัน และเขาพูดขึ้นว่า
“อ้า เจ้าถามเรื่องนั้นหรอกหรอ? เจ้าจะถามเรื่องนี้ไปทำไมกัน? เจ้าไม่ได้มาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกันหรือยังไง? เจ้าไม่ได้มาเพื่อดูแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตหรอกหรอ?”
หานเซิ่นประหลาดใจ มันมีเรื่องราวของเทพเจ้าธาตุน้ำในหลากหลายเผ่าพันธุ์ แต่นี่เป็นอะไรที่พิเศษ และมันก็ถูกยอมรับจากทั้งจักรวาล หานเซิ่นคิดว่าเขาเคยได้ยินว่านี่คือสมาชิกของเผ่าแอนเชี่ยนท์ก็อต
‘งานศพที่คุณหญิงมิร์เรอร์พูดถึงคืองานศพของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตอย่างนั้นหรอ? ไม่มีทาง ตำนานบอกเอาไว้ว่าเผ่าแอนเชี่ยนท์ก็อตเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด และพวกเขาก็มีชีวิตยาวนานกว่าพันล้านปี มันยากจะเห็นหนึ่งในแอนเชี่ยนท์ก็อตกำลังจะตาย’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง