Super God Gene – ตอนที่ 2316

จุดหลอมเหลวของหินบนดาวคิงคองนั้นสูงมากๆ ดังนั้นตัวลาวาเองจึงร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

 

หานเซิ่นสวมใส่ชุดเกราะกุ้งมังกรกาแลกติกและใช้วิชากายหยกอย่างเต็มกำลัง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกราวกับว่าผิวถูกเผาจนเกรียมอยู่ดี

 

ลาวาไม่ได้โปร่งใสเหมือนกับน้ำ ดังนั้นดวงตาจึงไร้ประโยชน์ หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อตรวจดูบริเวณรอบๆแทน

 

ธารลาวากว้างใหญ่กว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ หลังจากที่ดำลงมาสักพัก หานเซิ่นก็ยังไม่เจอตัวหมาป่าโลหะสีฟ้า เขามองไม่เห็นก้นบึ้งของลาวาเช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขากำลังหลงทางอยู่ในทะเลที่ไร้ที่สิ้นสุด

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่หนึ่งนาทีหลังจากนั้นออร่าศาสตร์ตงเสวียนก็สัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่ว่ายผ่านลาวา

 

ไม่ใช่ มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแค่ตัวเดียว หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่ามันมีซีโน่เจเนอิคมากมายว่ายอยู่ในลาวา

 

เขาถูกล้อมไปด้วยมังกรหินผาที่มีความยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตร พวกมันทั้งหมดเล่นกันอยู่ภายในลาวา

 

หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงตัวตนของของพวกมันอย่างละเอียด พวกมันทั้งหมดเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อย และพวกมันก็มีกันอยู่เป็นจำนวนมาก หานเซิ่นสัมผัสได้อย่างน้อยสิบตัว

 

โชคดีที่มังกรหินผาดูจะไม่ได้สนใจอะไรในตัวหานเซิ่น บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาตัวเล็กเกินไป ทำให้พวกมันไม่สนใจเขา

 

มังกรหินผาที่ยาวหนึ่งพันเมตรว่ายผ่านมาทางหานเซิ่น และเขาก็ตัดสินใจกระโดดไปเกาะร่างกายของมันเหมือนกับจิ้งจกตัวน้อยๆ เขาปล่อยให้มันพาตัวเขาไปข้างหน้า

 

ในทะเลลาวาที่ไร้ที่สิ้นสุดนี้ การจะหาหมาป่าโลหะสีฟ้าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ ดูเหมือนจะไม่ใช่เป้าหมายที่เป็นจริงได้อีกต่อไป แต่ถ้าฝูงของมังกรหินผาไม่ได้ดุร้ายอะไร การใช้มังกรหินผาตัวหนึ่งในการสำรวจรอบๆก็ดูเป็นความคิดที่ดี

 

มังกรหินผาว่ายไปมาในลาวาอยู่สักพัก และที่สุดแล้วมันก็ดำลึกลงไปในทะเลลาวา

 

อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ และหานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าผิวของเขากำลังลุกไหม้ โชคดีที่เกล็ดของมังกรหินผานั้นเย็น พวกมันไม่ได้เปลี่ยนอุณหภูมิไปตามความร้อนของลาวา ดังนั้นการกดตัวเองลงกับพวกมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นมาก

 

มันมีซีโน่เจเนอิคมากมายอาศัยอยู่ในทะเลลาวาแห่งนี้ พวกมันทั้งหมดเป็นธาตุไฟหรือไม่ก็ธาตุหิน แต่เมื่อพวกมันเห็นฝูงของมังกรหินผา ซีโน่เจเนอิคทุกตัวก็จะหลีกทางให้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่ต้องการจะต่อสู้กับเหล่ามังกรหินผา

 

แต่ถึงยังไงมันก็ยังไม่มีวี่แววของหมาป่าโลหะสีฟ้าให้เห็นเลย มันทำให้หานเซิ่นสงสัย “ที่นี่ไม่เหมาะสมกับหมาป่าโลหะสีฟ้า ทำไมมันถึงลงมาที่นี่กัน?”

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นแรงกดดันที่ซัดใส่ตัวของเขา หลังจากนั้นความรู้สึกร้อนก็หายไปในพริบตา

 

หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าลาวาทั้งหมดหายไปแล้ว เขาลืมตาขึ้นและสิ่งที่เห็นก็ทำให้เขาตกตะลึง

 

ลาวาที่ร้อนแรงถูกกีดกันเอาไว้โดยพลังบางอย่างที่มองไม่เห็น มันสร้างท้องฟ้าลาวาขึ้นมาและด้านล่างของท้องฟ้าลาวาก็คือเกาะที่เหมือนกับในความฝัน มันมีแอ่งน้ำ ภูเขา ดอกไม้และต้นไม้อยู่ที่นี่ เมฆสีขาวลอยอยู่รอบๆเกาะ มันทำให้ที่นี่ดูเหมือนกับเกาะบนสรวงสวรรค์

 

ที่ใจกลางของเกาะมีทะเลสาบที่ปล่อยไอน้ำออกมาราวกับบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ หมาป่าโลหะสีฟ้ากำลังอาบน้ำอยู่ภายในทะเลสาบนั้น มันดูเหนื่อยล้าอย่างมากราวกับว่ามันมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อพักร้อน

 

ตอนนี้เหล่ามังกรหินผากำลังบินอยู่รอบๆเกาะ พวกมันอยากจะเข้าไปในทะเลสาบเช่นกัน แต่พวกมันดูหวาดกลัวเกินกว่าจะทำเข้าไป พวกเขาทำได้แค่คำรามใส่หมาป่าโลหะเท่านั้น

 

หมาป่าโลหะสีฟ้ายังคงอาบน้ำอย่างพึ่งพอใจและเมินเฉยต่อเสียงของมังกรหินผา

 

หานเซิ่นเห็นว่าบาดแผลของหมาป่าโลหะสีฟ้าเกือบจะฟื้นตัวแล้ว หลังจากแช่ตัวอยู่ในทะเลสาบหลายวัน เจ้าหมาป่าก็ดูเกือบจะหายดี

 

“น้ำของทะเลสาบนั่นรักษาสิ่งต่างๆได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ทะเลสาบนั้น

 

ทะเลสาบดูใสมากๆ และหานเซิ่นก็เห็นน้ำพุผุดๆขึ้นมาที่ศูนย์กลางของทะเลสาบ แต่หานเซิ่นสัมผัสถึงอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับพวกมันไม่ได้

 

ทะเลสาบนั้นถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ต้นไม้และเถาวัลย์ ถ้ามันไม่ใช่ท้องฟ้าลาวา ที่นี่ก็คงจะดูเหมือนกับรีสอร์ต

 

ในที่สุดเหล่ามังกรหินผาก็สร้างความรำคาญต่อหมาป่าโลหะสีฟ้าได้สำเร็จ เพราะเจ้าหมาป่ายืนขึ้นมาจากทะเลสาบและคำรามกลับมาใส่พวกมัน

 

มังกรหินผาทั้งหมดดูตกใจ พวกมันรีบบินกลับขึ้นไปสู่ท้องฟ้าลาวาและหนีออกจากเกาะประหลาดที่อยู่ใต้ลาวานี้

 

เมื่อหานเซิ่นคำนึงท่าทางของเหล่ามังกรหินแล้ว เขาก็สรุปว่าเกาะแห่งนี้จะต้องเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่ามังกรหินผา แต่ดูเหมือนว่าหมาป่าโลหะสีฟ้าจะแย่งเกาะไปจากพวกมัน บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกมันถูกขับไล่ออกไป และหมาป่าโลหะสีฟ้าก็คงจะแค่ต้องการใช้ทะเลสาบของเกาะเพื่อรักษาตัวเอง

 

หานเซิ่นรู้สึกผิดหวัง บาดแผลของหมาป่าโลหะสีฟ้าเกือบจะฟื้นตัวแล้ว ตอนนี้แม้แต่เหล่ามังกรหินผาระดับราชันก็ยังหวาดกลัวต่อเจ้าหมาป่า ดังนั้นมันไม่มีโอกาสที่หานเซิ่นจะทำอะไรได้

 

หานเซิ่นออกมาจากร่างกายของมังกรหินผาและว่ายออกจากทะเลลาวา เขาอยากจะกลับไปที่หุบเขาเพื่อล่าซีโน่เจเนอิคต่อ

 

หานเซิ่นเดินทางตามเส้นทางที่คดเคี้ยวของหุบเขา หลังจากที่เดินทางได้หนึ่งพันไมล์ เขาก็พบมนุษย์หินอีกครั้ง เขาฆ่าพวกมันและเอายีนซีโน่เจเนอิคของพวกมันมา แต่เขายังคงไม่ได้รับวิญญาณอสูรของพวกมันเลยสักดวง

 

ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาของใครบางลงหล่นลงมาจากท้องฟ้า มันฝ่าชั้นบรรยากาศและตรงลงมาหาหานเซิ่น

 

เมื่อได้เห็นเงานั้น ใบหน้าของหานเซิ่นก็ซีดเผือก เขารีบหันหลังด้วยเจตนาที่จะหนีไป แต่เงานั้นรวดเร็วเกินไป เธอลงมาขวางหน้าหานเซิ่นเอาไว้

 

“อะไรกัน? นี่เจ้าจะรีบจากไปโดยไม่ทักทายข้าเลยหรือยังไง? เจ้าไม่ชอบหน้าข้าอย่างนั้นหรอ?” เงานั้นก็คือราชองครักษ์ผู้งดงาม เธอยิ้มให้กับหานเซิ่น

 

“มิสเตอร์เรดสลีฟ ข้าพบกับท่านแค่ครั้งเดียว ข้าแค่จำท่านไม่ได้เท่านั้น ข้าจะไม่ชอบหน้าท่านไปได้ยังไงกัน? ข้าแค่กำลังเร่งรีบล่าซีโน่เจเนอิค ถ้าท่านไม่ได้มีธุระอะไร ข้าต้องขอตัวก่อน” หานเซิ่นหันหลังและรีบเดินจากไป

 

เรดสลีฟยิ้มและพูด “น้องชายคนดีของข้า ภายในสวนของกษัตริย์ข้าเชื่อว่าเจ้าจดจำพี่สาวได้ถูกต้องไหม? อย่างนั้นแล้วทำไมเจ้าถึงได้พูดแบบนั้น?”

 

หานเซิ่นหนาวถึงกระดูกและฝืนยิ้มออกมา เขารู้ว่าไม่สามารถปกปิดความจริงได้อีก เขาหันไปหาเรดสลีฟ และร่างกายของเธอก็เปลี่ยนแปลงไปเรียบร้อยแล้ว เธอมีหูและหางจิ้งจอกที่ขาวเหมือนกับหิมะ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่หานเซิ่นคุ้นเคยเป็นอย่างดี เธอก็คือราชินีจิ้งจอก

 

“ใบหน้าของพี่สาวยังคงงดงามเหมือนเดิมเลย ข้าดีใจอย่างมากที่ได้พบกับท่านอีกครั้ง” หานเซิ่นยิ้ม แต่ในจิตใจของเขาพยายามคิดหาหนทางที่จะหนีไปจากที่นี่

 

ราชินีจิ้งจอกกล้าพอที่จะปลอมตัวเป็นหนึ่งในคนของเอ็กซ์ตรีมคิงและยังกลายเป็นคนใกล้ชิดขององค์ชายสิบสี่อีก เธอต้องวางแผนการใหญ่อะไรอยู่แน่นอน ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นรู้ว่าเธอปลอมตัวมา มันก็ไม่มีทางที่เธอปล่อยให้เขารอดชีวิตไป

 

ที่หานเซิ่นไม่แสดงออกมาว่าจำจดเธอได้ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะเขาหวังว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวว่าเขาจำเธอได้ เขาคิดว่าคงจะอีกสักพักก่อนที่เธอจะรู้ความจริงว่าเขารู้ถึงความลับของเธอ เขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะมาหาเขาเร็วขนาดนี้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset