หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามังกรที่ทะยานข้ามภูมิประเทศจริงๆแล้วเป็นรากของต้นไม้ พวกมันมีหัวของมังกร เขาของมังกร เขี้ยวของมังกรและเกล็ดของมังกร พวกมันดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ พวกมันดูไม่ได้เหมือนพืชเลยสักนิด
ขณะที่หานเซิ่นมองดูพวกมัน นกฝูงหนึ่งก็บินลงมาที่หลังของหนึ่งในมังกร มังกรคำรามออกมาและส่ายหนวดพร้อมกับเผยเขี้ยวที่คมราวกับใบมีดให้เห็น เสียงคำรามของมังกรดั่งสนั่นจนอากาศสั่นสะเทือน ทำให้นกบินหนีไปอย่างแตกตื่น มันเป็นมังกรที่มีชีวิตและลมหายใจจริงๆ
ไป๋เวยอธิบาย “ต้นไม้กษัตริย์เติบโตบนผืนดินที่ลอยตัวอยู่ที่ใจกลางของอาณาจักรของกษัตริย์ และบางครั้งส่วนหนึ่งของต้นไม้จะงอกออกมาเป็นรากมังกรกษัตริย์ ลมปราณะกษัตริย์จะซ่อนอยู่ภายในรากเหล่านั้น ซึ่งการจะดูดซับลมปราณกษัตริย์ เจ้าจะต้องนั่งอยู่บนหนึ่งในมังกรกษัตริย์ มังกรกษัตริย์ทุกตัวจะแตกต่างกันออกไปและแต่ละตัวจะมอบลมปราณกษัตริย์ที่แตกต่างกัน เจ้าจะดูดซับลมปราณกษัตริย์ได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความห่างไกลระหว่างมังกรตัวนั้นกับต้นไม้ การนั่งบนมังกรที่อยู่ใกล้ๆกับต้นไม้จะมอบลมปราณกษัตริย์มากที่สุด ยิ่งไกลจากต้นไม้เท่าไหร่ เจ้าก็จะได้รับมันน้อยลงเท่านั้น”
“อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่ทำไมมันถึงไม่มีใครอยู่รอบๆเลย?”
หานเซิ่นพยักหน้าและมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นเอ็กซ์ตรีมคิงสักคนที่กำลังดูดซับลมปราณกษัตริย์อยู่รอบๆพวกเขา
“พวกเราอยู่ที่ขอบของสวนกษัตริย์ มันมีแค่ปลายของรากต้นไม้กษัตริย์อยู่ที่นี่ ดังนั้นลมปราณกษัตริย์ของที่นี่จึงอ่อน โดยปกติแล้วทุกคนจะเลือกนั่งใกล้ๆกับต้นไม้เพื่อดูดซับลมปราณกษัตริย์ให้ได้มากที่สุด นี่เป็นครั้งแรกของพวกเรา ดังนั้นพวกเราควรหามังกรกษัตริย์แถวๆนี้” หลังจากพูดเสร็จไป๋เวยก็เดินไปหามังกรกษัตริย์ตัวหนึ่ง
พวกเขาอยู่ห่างจากมังกรกษัตริย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดไปหลายไมล์ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ๆ มังกรกษัตริย์ก็คำรามใส่พวกเขาราวกับจะเตือนพวกเขาให้ถอยออกไป
ไป๋เวยและหานเซิ่นเมินเฉยต่อคำเตือนนั้นและเดินหน้าต่อไป มังกรกษัตริย์เริ่มขยับร่างกายที่ใหญ่มหึมาของมัน มันเขย่าภูเขาเพื่อจะหยุดการเข้าไปของไป๋เวยและหานเซิ่น
หานเซิ่นสังเกตเห็นแค่ครึ่งตัวของมังกรกษัตริย์เท่านั้น อีกครึ่งตัวของมังกรอยู่จมอยู่ใต้ดิน มันไม่สามารถบินขึ้นได้ ดังนั้นมันจึงทำได้แค่เขย่าร่างกายเพื่อจะไล่พวกเขาไป
มังกรกษัตริย์นั้นทรงพลัง แต่มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้ และร่างกายของมันก็ยังถูกจำกัดอีกต่างหาก ทำให้พวกเขาขึ้นไปอยู่บนมังกรได้อย่างง่ายดาย
มังกรกษัตริย์เขย่าตัวอยู่สักพัก แต่เมื่อการดิ้นรนของมันไม่สามารถสลัดหานเซิ่นและไป๋เวยไปได้ สุดท้ายแล้วมันก็กลับลงไปนอนเงียบๆอีกครั้ง
หานเซิ่นนั่งลงบนหัวของมังกร แต่เขาสัมผัสถึงลมปราณกษัตริย์ไม่ได้เลย เขาหันไปมองไป๋เวย
ไป๋เวยยิ้ม “อีกเดี๋ยวเจ้าจะเข้าใจเอง”
หานเซิ่นนั่งอยู่บนหัวของมังกรขณะที่มองไปรอบๆ มังกรกษัตริย์ตัวนี้เป็นตัวที่อยู่รอบนอกสวนของกษัตริย์ มันจึงไม่ได้มีลมปราณกษัตริย์มากอะไร แต่พลังของมังกรกษัตริย์ก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะสลัดพวกเขาหลุดออกไปเช่นกัน
หลังจากผ่านไปสักพัก ใบไม้สีเหลืองบนต้นไม้ก็เริ่มเรืองแสงออกมา ตัวอักษรของเอ็กซ์ตรีมคิงเรืองแสงสีทอง ขณะที่ต้นไม้กษัตริย์ส่องสว่างด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเหมือนกับต้นไม้ของเทพที่มอบชีวิตให้กับทุกสิ่งที่อยู่ใต้ร่มเงาของมัน
มังกรทั้งหมดเริ่มคำรามออกมาพร้อมกับขยับเขยื้อน ก่อนที่หานเซิ่นจะรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น มังกรกษัตริย์ก็ดำลงไปในพื้นดิน
ผืนดินเป็นเหมือนกับน้ำขณะที่มังกรกษัตริย์ดำลงไป หานเซิ่นกับไป๋เวยยังคงนั่งอยู่บนหัวของมังกรกษัตริย์และปล่อยให้ตัวเองถูกพาลงไปใต้ดิน
รอบๆตัวพวกเขาควรจะมืดมิด เมื่อพวกเขาลงมาใต้ดิน แต่พวกเขาสามารถเห็นแสงสว่างได้ราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ใต้น้ำ แสงสีทองของต้นไม้ที่ส่องลงมาราวกับแสงอาทิตย์ แต่มันดูเบลอและห่างไกล
มังกรกษัตริย์อยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์สีทอง มันหันหน้าไปหาอาทิตย์สีทองและอ้าปากเพื่อพ่นลูกแก้วมังกรลูกหนึ่งออกมา อาทิตย์ที่ปลดปล่อยแสงสีทองส่องเข้าไปในลูกแก้วและความสว่างไสวของลูกแก้วมังกรก็เพิ่มขึ้น
หานเซิ่นยังคงตกตะลึงกับความจริงที่พวกเขาอยู่ใต้ดิน
“รีบดูดซับลมปราณกษัตริย์เร็วเข้า เจ้ายังมัวรีรออะไรอยู่?” ไป๋เวยพูดเตือนหานเซิ่น ขณะที่เธอเริ่มใช้วิชาจีโนของตัวเอง
เมื่อไป๋เวยใช้วิชาจีโนของเธอ ดวงอาทิตย์สีทองก็ปลดปล่อยแสงสีทองมาในร่างกายของเธอ ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นแสงศักดิ์สิทธิ์สีทอง
หานเซิ่นใช้วิชาเรื่องราวของยีนเพื่อดูดซับแสงสีทองเช่นกัน เขารู้สึกว่าบางสิ่งที่ร้อนแรงกำลังเข้ามาในตัวของเขา แต่มันไม่ได้มากอย่างที่เขาหวังเอาไว้ การสกัดเอาพลังโกสต์โบนในตัวของเขาเป็นอะไรที่เร็วกว่าซะอีก
แต่ขาของยุงก็ยังคงเป็นเนื้ออยู่ดี ดังนั้นหานเซิ่นจึงพยายามดูดซับแสงสีทองเข้าไปให้มากที่สุด หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มังกรกษัตริย์ก็เก็บลูกแก้วมังกรเข้าไป มันคำรามออกมาและพาพวกเขากลับขึ้นไปบนพื้นผิว
“มันมีลมปราณกษัตริย์ไม่เพียงพอ และพวกเราก็มีเวลาเพียงแค่นิดเดียวที่จะดูดซับมัน” หานเซิ่นส่ายหัว
“มังกรกษัตริย์นี่คือส่วนนอกของต้นไม้กษัตริย์ การจะได้รับลมปราณกษัตริย์มากขึ้นและมีเวลาดูดซับนานกว่านี้ เจ้าต้องหามังกรกษัตริย์ที่เชื่อมต่อกับรากแก้วของต้นไม้” ไป๋เวยพูด
“ถ้าอย่างนั้นพวกเรายังรออะไรอยู่อีก?” หานเซิ่นอยากจะหาแหล่งพลังที่บริสุทธิ์กว่านี้
“รากแก้วนั้นมักจะถูกจองเอาไว้แล้ว ถ้าพวกเราจะเข้าไปใกล้ พวกเราก็ต้องต่อสู้แย่งชิงกับคนอื่น” ไป๋เวยถอนหายใจ
“มันต้องมีคนที่มาสายมั่งแหละ” หานเซิ่นพูด
ไป๋เวยส่ายหัว “ในที่แห่งนี้พลังคือกฎที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเจ้ามีพลัง เจ้าจะยึดครองอะไรก็ได้ที่ต้องการ เจ้าจะทำอะไรก็ได้ตราบใดที่เจ้าไม่ไปฆ่าใครคนไหน”
“พ่อของเจ้าไม่ใช่คนที่จะเอาใจลูกของตัวเองสินะ นี่เขาไม่ทะนุถนอมลูกสาวเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดูหดหู่
“ไม่” ไป๋เวยตอบอย่างไม่คิด
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องไปยึดครองสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเดินเข้าไปหาต้นไม้กษัตริย์
ไป๋เวยไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่ตามหานเซิ่นไป
พวกเขาเป็นแค่ดยุกและพวกเขาก็มีกันแค่ 2 คน การจะได้หนึ่งในรากแก้วของต้นไม้กษัตริย์มานั้นแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะยังไงซะคนที่ครองรากแก้วอยู่ก็มีแต่ราชวงศ์ที่เป็นระดับราชัน แถมพวกเขายังมีทีมของราชองค์อยู่ข้างกายอีก
ด้วยเหตุนั้นไป๋เวยจึงไม่คิดจะต่อสู้ เธอแค่อยากจะลองเสี่ยงดวงดูว่าจะหารากแก้วที่ไม่มีคนครองอยู่ได้ไหม
เพราะยังไงคนของราชวงศ์ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ทุกวัน และราชองครักษ์ก็ต้องติดตามคนของราชวงศ์มาเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถมาที่นี่ด้วยตัวเองได้ ดังนั้นถ้าพวกหานเซิ่นโชคดี มันก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะหารากแก้วให้กับตัวเอง
ยิ่งพวกเขาเข้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์มากเท่าไหร่ มังกรกษัตริย์ก็น่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น มังกรกษัตริย์ส่วนใหญ่ที่อยู่รอบนอกเป็นสีเหลืองที่สกปรก แต่เมื่อเข้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์มากขึ้น พวกเขาก็ได้เจอกับมังกรกษัตริย์ที่มีเกล็ดสีทองอร่าม มันกำลังนอนพักอยู่บนพื้นดิน
“นั่นคือมังกรกษัตริย์จากรากแก้ว!” ไป๋เวยพูดด้วยความปิติยินดี เนื่องจากไม่มีใครคนอื่นกำลังใช้มังกรทองนั้น
หานเซิ่นและไป๋เวยขึ้นไปนั่งบนตัวมังกรกษัตริย์สีทองอย่างระมัดระวัง แต่มังกรกษัตริย์สีทองยังคงหลบอยู่ และดูเหมือนมันจะไม่สังเกตเห็นตัวตนของพวกเขา พวกเขาทั้ง 2 คนจึงนั่งลงบนหัวของมัน
“มังกรกษัตริย์นี่เพิ่งจะดูดซับลมปราณกษัตริย์เข้าไป มันจะไม่กลับลงไปในดินสักพักหนึ่ง ดังนั้นพวกเราต้องคอยอยู่ที่นี่ไปก่อน” ไป๋เวยดูมีความสุข เธอยิ้มให้กับหานเซิ่น