สัญลักษณ์แห่งแสงบนมือของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับเครื่องแปลงพลังงาน เมื่อหานเซิ่นส่งพลังของตัวเองเข้าไปในสัญลักษณ์แห่งแสง พลังงานของเขาก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังในการปิดผนึก
มังกรเขียว เสือขาว นกแดง เต่าดำ สัตว์ทั้ง 4 คือสัญลักษณ์บนฝ่ามือของแต่ละคน หานเซิ่นได้รับสัญลักษณ์รูปนกแดง ขณะที่พลังของเขาไหลเข้าไปในสัญลักษณ์แห่งแสง สัญลักษณ์นั้นก็หมุนเวียนรอบมือของเขาราวกับนกเพลิง
กุนซือไวท์เดินไปตรงหน้าหนึ่งในร่างโคลนของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าและบอกให้คนอื่นๆยืนประจำด้านข้างของซีโน่เจเนอิค
นี่เป็นผนึกที่ทรงพลัง แต่มันก็จำเป็นต้องใช้คนถึง 4 คนเพื่อพยายามจะใช้มัน มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้มันท่ามกลางการต่อสู้ โดยปกติแล้วเทคนิคนี้จะถูกใช้ในการผนึกสิ่งมีชีวิตที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมก่อนแล้ว
โชคดีที่ร่างโคลนของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ายังไม่โจมตีพวกเขาในตอนนี้ การที่มันแค่ยืนนิ่งอยู่กับที่ทำให้โอกาสในการปิดผนึกสำเร็จสูงขึ้น
ขั้นตอนแรกเป็นไปอย่างราบรื่น หานเซิ่นและคนอื่นๆยืนล้อมซีโน่เจเนอิคทั้ง 4 ทิศทาง พวกมันไม่โจมตีพวกเขาและซีโน่เจเนอิคก็แค่ยืนนิ่งๆขณะที่มองมาที่พวกเขา
กุนซือไวท์โบกมือให้หานเซิ่นและคนอื่นๆเพื่อบอกให้พักกันก่อน เพราะยังไงซะมันก็ยังเหลือเวลาเกือบทั้งวัน ถ้าพวกเขาลงมือปิดผนึกซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งตั้งแต่ตอนนี้ พวกเขาก็จะสูญเสียพลังไปเปล่าๆ พวกเขาจำเป็นต้องปิดผนึกซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งในจังหวะสุดท้ายเพื่อที่จะประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด
หลังจากคิดอยู่หนึ่งนาที หานเซิ่นก็พูด “ในตอนที่พวกมันยังไม่โจมตีพวกเรา ทำไมพวกเราไม่ลองปิดผนึกพวกมันดูก่อนว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า?”
“เจ้าไม่เชื่อใจมิสเตอร์ไวท์หรือยังไง? และถึงการปิดผนึกจะไม่ได้ผลจริงๆ เจ้ายังมีหนทางอื่นอีกอย่างนั้นหรอ?” ครามพูดอย่างเย็นชา
“แค่ลองดูสักหน่อยมันจะเป็นอะไรไป” หานเซิ่นตอบ
กุนซือไวท์พยักหน้า “โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาลองดูกัน มันถือเป็นการฝึกซ้อมก่อนปฏิบัติจริง”
ตามคำสั่งของกุนซือไวท์ หานเซิ่นและคนอื่นๆก็ส่งพลังเข้าไปในผนึก 4 สัญลักษณ์ สัญลักษณ์นกแดงบนมือของหานเซิ่นเริ่มสั่นไหว หานเซิ่นรู้สึกว่ามีการเชื่อมต่อเกิดขึ้นระหว่างนกแดงของเขา เสือขาวของกุนซือไวท์ เต่าดำของครามและมังกรเขียวของกิเลนโลหิต
พลังทั้งหมดถูกส่งไปและแสงของผนึก 4 สัญลักษณ์ก็เข้มยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อระหว่างพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
พลังของทั้ง 4 สนับสนุนซึ่งกันและกัน สัญลักษณ์ของแต่ละคนส่งเงาของสัตว์ทั้ง 4 ออกไป หลังจากนั้นก็ก่อตัวขึ้นเป็นใบเสมาที่กักขังซีโน่เจเนอิคเอาไว้ภายใน
เมื่อซีโน่เจเนอิคตัวนั้นพบว่าตัวเองถูกกักขังในใบเสมา ดวงตาของมันก็แว๊บขึ้นมาและร่างกายของมันก็เริ่มเคลื่อนไหว
“โอ้ไม่นะ! มันกำลังจะโจมตีพวกเรา ปิดผนึกใบเสมาเดี๋ยวนี้!” กุนซือไวท์ตะโกนเสียงดัง
พวกเขาทั้ง 4 รีบใช้ผนึก 4 สัญลักษณ์ เงาของมังกรเขียว เสือขาว นกแดงและเต่าดำถูกปล่อยออกไปใส่ร่างของซีโน่เจเนอิค เงานั้นจำกัดการเคลื่อนไหวของซีโน่เจเนอิคเอาไว้
ซีโน่เจเนอิคพยายามจะเคลื่อนไหว ขณะที่หานเซิ่นและคนอื่นๆยังคงร่ายผนึกของพวกเขาต่อไป เงาของสัตว์ทั้ง 4 ถูกฉายไปที่ร่างของซีโน่เจเนอิค ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นพยายามจะต่อต้าน แต่มันก็ไม่สามารถทำลายผนึกได้
ครามพูดขึ้นมา “ข้าบอกให้เจ้าเชื่อมิสเตอร์ไวท์ แต่เจ้าก็ยังอยากจะลองดู ทำให้ตอนนี้พวกเราต้องเสียพลังไปเปล่าๆ”
“ที่แล้วก็แล้วไป พวกเราแค่ต้องผนึกเอาไว้ตลอดสิบวัน” กุนซือไวท์พูดอย่างหนักแน่นและหยุดการบ่นของคราม
หานเซิ่นยักไหล่เล็กน้อยและยังคงเงียบต่อไป เขารู้ว่านี่คือความเป็นไปได้หนึ่ง แต่เขาก็คิดว่าควรจะลองดูก่อนอยู่ดี
การพยายามปิดผนึกในตอนนี้แค่ยั่วโมโหซีโน่เจเนอิคตัวเดียว ถ้ามันล้มเหลว มันก็มีซีโน่เจเนอิคที่ทรงพลังแค่ตัวเดียวพยายามจะฆ่าพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาล้มเหลวในตอนที่ใกล้จะหมดเวลา พวกเราก็อาจจะถูกโจมตีโดยกลุ่มของมอนสเตอร์
ดังนั้นหานเซิ่นคิดว่าการเสียพลังงานนิดหน่อยในตอนนี้ดีกว่าการเสี่ยงทุกอย่างในภายหลัง
นอกจากซีโน่เจเนอิคที่ถูกปิดผนึกที่กำลังดิ้นรนแล้ว ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นแค่ยืนประจำที่ของพวกมัน ขณะที่จ้องมองมาที่พวกเขาอย่างไร้อารมณ์ เมื่อกลุ่มของหานเซิ่นมั่นใจว่าไม่ถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์รอบๆ พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นยังคงพยายามดิ้นรนต่อไป ถึงแม้พลังของมันจะถูกปิดผนึก แต่มันก็ยังมีร่างกายระดับเทพเจ้า หานเซิ่นและคนอื่นๆจำเป็นต้องใช้พลังของพวกเขาเพื่อคงผนึกเอาไว้
กุนซือไวท์และกิเลนโลหิตเป็นครึ่งเทพ ส่วนครามก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับราชันที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลำบากอะไรมาก
แต่หานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง และเขาก็เพิ่งจะวิวัฒนาการเป็นดยุกได้ไม่นาน ดังนั้นพลังของเขาจึงด้อยกว่าคนอื่นๆเมื่อเทียบกันแล้ว เขาต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อคงสัญลักษณ์แห่งแสงของนกแดง
กุนซือไวท์มองหานเซิ่นและพูด “ธาตุของดยุกนั้นแยกจากร่างกายออริจินัลได้เป็นร่างแอสทรอลและร่างเซเลสเทียล ร่างออนิจินัลของเจ้าคือยีนของเจ้าในรูปของธาตุๆหนึ่ง ในขั้นนั้นเจ้าต้องใช้พลังของตัวเองในการต่อสู้ ในขั้นที่ 2 ร่างแอสทรอลของเจ้าจะพึ่งพาพลังของดวงดาวรอบๆตัว พลังของดวงดาวจะช่วยเสริมธาตุในร่างกายเจ้าได้ ยกตัวอย่างเช่นดยุกธาตุน้ำจะแสดงพลังได้ดีขึ้นบนดวงดาวที่เป็นน้ำ”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ กุนซือไวท์ก็พูดต่อ “ร่างเซเลสเทียลคือสิ่งที่จะทำให้เจ้าเข้าถึงขั้นที่ 3 ซึ่งถูกรู้จักกันในชื่อร่างยูนิเวอร์แซล ร่างกายนั้นใช้พลังของจักรวาลได้ ตราบใดที่มันไม่ได้ถูกแยกจากจักรวาลด้วยเหตุผลบางอย่าง มันก็เข้าถึงพลังที่ไร้ขีดจำกัดได้”
หานเซิ่นเข้าใจว่ากุนซือไวท์กำลังพูดถึงอะไร เขาเพิ่งจะกลายเป็นดยุกได้ไม่นาน ดังนั้นเขาจึงมีแค่ร่างออริจินัล เขายังไม่สามารถใช้พลังจากภายนอกได้
และถึงเขาจะได้รับร่างเซเลสเทียลมา เขาก็รู้ว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นแยกตัวจากโลกภายนอก เขาไม่สามารถเข้าถึงพลังที่อยู่ภายนอกเมืองได้อยู่ดี
กุนซือไวท์รู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร เขายิ้มออกมา
“เมื่อดูวิธีที่เจ้าใช้ร่างกาย เจ้าคงจะยังอยู่ในขั้นแรก เจ้ามีแค่ร่างออริจินัลเท่านั้น ข้ามีวิชาจีโนตัวหนึ่งที่อาจจะช่วยเหลือเจ้าได้ บางทีเจ้าจะเรียนรู้มันเพื่อไปสู่ขั้นต่อไปได้ง่ายขึ้น”
“ถ้าเจ้ายินดีจะสอนข้าจริงๆ ข้าก็จะซาบซึ้งใจอย่างมาก”
หานเซิ่นประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่ากุนซือไวท์จะเสนอตัวสอนวิชาจีโนตัวหนึ่งให้กับเขา และเขาไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มีความหมายแผงอะไรหรือเปล่า
“มิสเตอร์ไวท์จะไปสนใจเขาทำไม!” ครามพูดอย่างไม่พอใจ
กุนซือไวท์ยิ้ม “พวกเราร่วมมือกันเพื่อคงผนึกเอาไว้ไม่ใช่หรือยังไง? พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว หานเซิ่นมีระดับต่ำกว่าพวกเรา ดังนั้นเขาต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากตลอดสิบวันถัดไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกเราก็จะถูกทำลายไปด้วย ข้าแค่ทำเพื่อตัวข้าเอง”
หลังจากกุนซือไวท์พูดอย่างนั้น ครามก็เงียบไป
กุนซือไวท์หยุดไปชั่วขณะก่อนที่จะพูดขึ้นมา “วิชาจีโนของข้าไม่ได้น่าประทับใจอะไร ข้าคิดค้นมันขึ้นมาด้วยตัวเอง และข้าก็ยังไม่เคยคิดชื่อให้กับมัน ข้าจะอธิบายมันอย่างเต็มความสามารถและถ้าเจ้าคิดว่ามันมีประโยชน์ เจ้าก็ใช้มัน ถ้าเจ้าคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ นั่นก็ไม่เป็นอะไร”
“ได้โปรดบอกมา” หานเซิ่นพูด
กุนซือไวท์อธิบายวิชาจีโนให้หานเซิ่นฟัง ครามและกิเลนโลหิตเองก็ใช้สมาธิกับคำพูดของเขาเช่นกัน
ครามฟังอย่างจริงจัง และเป็นอย่างที่กุนซือไวท์พูด วิชาจีโนของเขาดูค่อนข้างเรียบง่าย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็พิเศษ ถึงแม้มันจะดูง่ายๆ แต่จริงๆแล้วมันก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ยาก
“มิสเตอร์ไวท์ วิชาจีโนของท่านซับซ้อนเกินไป ข้ากลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจมัน” ครามพูดหลังจากที่ได้ยินวิชาจีโนของกุนซือไวท์