หานเซิ่นยืนอยู่บนภูเขาดอกบัวและมองดูด้วยความดีใจ ขณะที่เจ้ากิเลนโลหิตเข้าร่วมวง หานเซิ่นคาดเดาว่ากิเลนโลหิตนั้นกลืนกินกิเลนสีดำจนเสร็จสิ้นแล้ว เพราะตอนนี้มันกลายเป็นระดับครึ่งเทพ นอกจากนั้นแล้วกิเลนโลหิตยังอยู่ภายในไวท์โบนเฮลล์ที่เป็นถิ่นของมัน การโจมตีที่มันปล่อยออกไปทำให้เอ็ดเวิร์ดและราชาอัศวินไอซ์บลูโซเซถอยไปด้านหลัง
หลังจากผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วินาที กิเลนโลหิตก็ฉีกอัศวินไอซ์บลูระดับราชัน 2 คนเป็นชิ้นๆเรียบร้อยแล้ว หานเซิ่นรู้สึกมีความสุขขณะที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้น
“พวกเจ้าต้านอสูรตัวนี้เอาไว้! ข้าจะไปจับตัวหานเซิ่น”
เอ็ดเวิร์ดตะโกน เขารีบตรงไปที่ภูเขาโลหิตเพื่อจะจับตัวหานเซิ่นให้มันจบๆไป
เจ้ากิเลนโลหิตกำลังอยู่ระหว่างการฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง มันไม่สนใจที่จะป้องกันด้านข้างของมัน มันจดจ่ออยู่กับการโจมตีใส่ราชาอัศวินไอซ์บลูโดยไม่ได้เหลียวมองเอ็ดเวิร์ด
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ “สติปัญญาของเจ้าตัวนี้จำเป็นต้องได้รับการพัฒนา”
ถึงแม้ราชินีจิ้งจอกจะฟาดใส่เอ็ดเวิร์ด และทำให้เขาบาดเจ็บหนัก แต่ร่างกายครึ่งเทพของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้ เขาวนอ้อมการต่อสู้ของกิเลนโลหิตกับราชาอัศวินไอซ์บลูและมาถึงตรงหน้าหานเซิ่นในเวลาไม่นาน หานเซิ่นรู้ว่าการพยายามจะหนีไปด้วยความเร็วเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หานเซิ่นตีใส่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมที่เอวและส่งพลังเสียงที่น่ากลัวเข้าใส่หน้าผากของเอ็ดเวิร์ดราวกับเข็ม
เอ็ดเวิร์ดเบ่งเสียงและเปลี่ยนร่างกายเป็นสีทอง ทำให้พลังเสียงของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมไม่สามารถเจาะทะลุร่างกายของเขาได้
ร่างสีทองของเอ็ดเวิร์ดเฉิดฉายราวกับดวงอาทิตย์ หานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองหนักอึ้งขึ้นมาทันที ราวกับว่าเขากำลังแบกภูเขาทั้งลูกเอาไว้
หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ภายใต้พลังพิเศษของเอ็ดเวิร์ด
หลังจากที่ดยุกกลายเป็นราชัน พลังธาตุของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก พวกเขาสามารถใช้พลังของตัวเองปกคลุมดินแดนรอบๆตัว พลังของเอ็ดเวิร์ดนั้นมีผลในการกำราบศัตรูด้วยภาระที่หนักอึ้ง มันคล้ายคลึงกับพลังดีปบลูอะบิสของราชาอัศวินไอซ์บลูอยู่เล็กน้อย
เอ็ดเวิร์ดนั้นไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว เขารีบเอื้อมมือออกไปจับตัวหานเซิ่นที่ตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หานเซิ่นพยายามจะต่อต้าน แต่พลังธาตุของระดับราชันเป็นอะไรที่แข็งแกร่งเกินกว่าจะต่อต้านได้ แถมเอ็ดเวิร์ดยังเป็นถึงครึ่งเทพ ถึงแม้พลังธาตุของหานเซิ่นจะถือว่ายอดเยี่ยมในระดับดยุก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีนี้ได้ เขาไม่สามารถเอาชนะน้ำหนักที่กดลงบนตัวของเขาได้
แต่ในตอนที่มือของเอ็ดเวิร์ดเกือบจะถึงคอของหานเซิ่นนั้น หานเซิ่นก็ยกรังนกน้อยๆขึ้นมา ขณะที่มืออีกข้างยกดาบขึ้นมาและแทงมันเข้าไปที่อกของเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ดแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะปัดป้องพลังของเขาได้ และในตอนนี้พวกเขาก็อยู่ใกล้กันเกินกว่าที่เอ็ดเวิร์ดจะป้องกันการโจมตีของหานเซิ่นได้ แต่เอ็ดเวิร์ดนั้นเมินเฉยต่อการโจมตีของหานเซิ่นและยังคงยื่นมือออกไปจับคอของหานเซิ่น
หานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง ถึงแม้อาวุธที่เขาใช้จะเป็นระดับเทพเจ้า มันก็ทำความเสียหายต่อร่างกายครึ่งเทพของเอ็ดเวิร์ดไม่ได้มากนัก ถ้าในครั้งนี้เขาสามารถจับตัวหานเซิ่นเอาไว้ได้ล่ะก็ เอ็ดเวิร์ดก็ไม่รู้สึกกังวลที่จะรับการโจมตีนั้น
ในจังหวะที่นิ้วมือของเอ็ดเวิร์ดเข้ามาใกล้คอของหานเซิ่น ธันเดอร์ก็อตสไปค์ก็แทงเข้าไปในชุดเกราะของเอ็ดเวิร์ด
ชุดเกราะนั้นหยุดธันเดอร์ก็อตสไปค์เอาไว้ได้ แต่สายฟ้าสีเงินของธันเดอร์ก็อตสไปค์เมินเฉยต่อการป้องกันของชุดเกราะนั้นอย่างสมบูรณ์ เอ็ดเวิร์ดตกตะลึงขณะที่สายฟ้าช็อตร่างกายของเขาจนกระเด็นออกไป
เคร๊ง!
หานเซิ่นตีใส่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมอีกครั้ง ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดยังคงเป็นอัมพาตจากการถูกไฟฟ้าช็อต เขาไม่สามารถรวบรวมสติได้เร็วพอจะป้องกันพลังเสียงที่เข้ามา
“อ้า!” แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพ การได้ยินเสียงบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมนั้นก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับการถูกเข็มแทงเข้าไปในหัว เอ็ดเวิร์ดอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา
หานเซิ่นเก็บรังนกกลับไปขณะที่ยังคงตีใส่เจดดรัมซ้ำๆ ก่อนที่จะเทเลพอร์ตไปตรงหน้าเอ็ดเวิร์ดและใช้ธันเดอร์ก็อตสไปค์แทงใส่เอ็ดเวิร์ดอีกครั้ง
แต่ถึงแม้จะมึนหัวและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เอ็ดเวิร์ดก็ยังรวบรวมพลังเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปของหานเซิ่นได้
ธันเดอร์ก็อตสไปค์ไม่ได้มีพลังทำลายล้างสูงอะไร แต่สายฟ้าที่มันปลดปล่อยออกมาสามารถทะลุผ่านการป้องกันได้ทุกรูปแบบ และมันก็พุ่งเข้าไปในทุกเซลล์ของร่างกายเอ็ดเวิร์ด
แต่หานเซิ่นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้มากไปกว่าเศษเสี้ยวของพลังที่แท้จริงของธันเดอร์ก็อตสไปค์ เอ็ดเวิร์ดจึงแค่ปวดชาเล็กน้อย ถ้าธันเดอร์ก็อตสไปค์ถูกใช้โดยบางคนที่เป็นครึ่งเทพเหมือนกัน การโจมตีแบบจังๆครั้งหนึ่งก็อาจจะทำให้เอ็ดเวิร์ดสั่นไม่หยุดไปทั้งวัน
พลังเสียงของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมยังคงซัดใส่เอ็ดเวิร์ดราวกับสายธารที่ต่อเนื่อง แต่เอ็ดเวิร์ดอดทนต่อความปวดชาที่ได้รับจาดสายฟ้าและสร้างโล่ป้องกันตัวเองอีกครั้ง พลังเสียงของเจดดรัมเริ่มที่จะถูกสะท้อนออกไปจากเขา
‘เราอ่อนแอเกินไป! ถ้าเราแข็งแกร่งกว่านี้ล่ะก็ เอ็ดเวิร์ดก็คงจะรวบรวมพลังมาต้านทานพลังเสียงของเจดดรัมไม่ได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่เขายังคงเคลื่อนไหวต่อไป และแทนที่จะแทงด้วยธันเดอร์ก็อตสไปค์ เขาเปลี่ยนไปทุบใส่เอ็ดเวิร์ดราวกับว่ามันเป็นกระบอง
ไฟฟ้าทั้งหมดนั้นทำให้เอ็ดเวิร์ดดิ้นไปกับพื้นราวกับว่าเขากำลังเป็นลมชัก เขาเป็นเหมือนกับคนที่กำลังถูกตีด้วยกระบองช็อตไฟฟ้า
ราชาอัศวินไอซ์บลูและคนอื่นๆที่กำลังต่อสู้อยู่กับกิเลนโลหิตนั้นอึ้งไป เอ็ดเวิร์ดที่เป็นระดับครึ่งเทพกำลังนอนชักดิ้นชักงออยู่กับพื้น ขณะที่หานเซิ่นทุบใส่เขาอย่างไม่ยั้ง มันเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเอ็ดเวิร์ดดี และดยุกคนหนึ่งก็ไม่ควรจะต้านทานแสงแห่งเทพสีทองของเขาได้
แต่หานเซิ่นดูเหมือนจะไม่ได้รับผลของมันเลยแม้แต่นิดเดียว ขณะที่เขาทุบใส่เอ็ดเวิร์ดอย่างไม่หยุด การป้องกันของเอ็ดเวิร์ดไม่สามารถหยุดยั้งสายฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากธันเดอร์ก็อตสไปค์ได้ เขากรีดร้องอย่างไม่หยุดขณะที่มีฟองออกมาจากปาก มันเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวที่จะได้เห็น
หานเซิ่นยังคงทุบใส่เอ็ดเวิร์ดต่อไป ขณะที่สงสัยว่าเขาจะฆ่าชายคนนี้ได้ยังไงกัน
สายฟ้าของธันเดอร์ก็อตสไปค์ทะลุการป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ แต่มันไม่สามารถฆ่าใครได้ และหานเซิ่นก็ไม่สามารถทำเรื่องนั้นได้ด้วยตัวเอง เขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะทำลายชุดเกราะของอีกฝ่ายได้
“เจ้ากิเลนโลหิต!” หานเซิ่นคิดขึ้นมาได้ หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนเรียกมัน
เจ้ากิเลนโลหิตยังคงไล่ล่าคนอื่นอยู่ แต่ราชาอัศวินไอซ์บลูและกลุ่มของเขาไม่กล้าจะปะทะกับมันตรงๆ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ล่อมันกลับไปกลับมา
สติปัญญาของเจ้ากิเลนโลหิตนั้นต่ำ พวกเขาจึงสามารถล่อมันไปซ้ายขวาหน้าหลังได้
แต่ด้วยเสียงตะโกนของหานเซิ่น เจ้ากิเลนโลหิตก็หันมามองทางเขา เมื่อมันเห็นหานเซิ่นกำลังทุบใส่เอ็ดเวิร์ดอยู่ ดวงตาของมันก็เป็นประกาย มันวิ่งเข้ามาและงับหัวของเอ็ดเวิร์ด ชุดเกราะถูกทำลายและหัวของเอ็ดเวิร์ดก็ถูกกัดขาดในคำเดียว
เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากคอของชายคนนั้นและอาบตัวของกิเลนโลหิต มันกลืนหัวของเอ็ดเวิร์ดเข้าไปในคำเดียว ภาพนั้นทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูและคนอื่นๆสั่นด้วยความหวาดกลัวและความโกรธ