Super God Gene – ตอนที่ 2240

หานเซิ่นกำลังนอนอยู่บนเตียงร่วมกับจิ้งจอกสีเงินที่นอนถัดไปจากเขา แต่จู่ๆจิ้งจอกสีเงินก็ลุกขึ้นมาและสายฟ้าสีเงินก็สว่างขึ้นทั่วร่างกายของมัน ห้องที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาขณะที่ดวงตาสีเงินของมันจ้องไปทางประตู

 

หานเซิ่นตื่นขึ้นมา และที่อีกฝากของห้อง อสูรกาแล็กซี่ก็ถูกปลุกจากการหลับใหลเช่นเดียวกัน

 

ส่วนหานเหยียนและคนอื่นๆกำลังนอนอยู่ในห้องถัดไป

 

เมื่อหานเซิ่นสแกนโถงทางเดินด้านนอกด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน ใบหน้าของเขาก็ดูจริงจังขึ้นมา และก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อไป มันก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

 

“หานเซิ่น ราชาอัศวินอยากจะพบกับเจ้า” อัศวินที่มาส่งข้อความพูดขึ้นมา เสียงของเขาดังมาจากด้านนอกของประตู

 

โดยปกติแล้วหานเซิ่นจะไม่ใส่ใจอะไร แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป จิ้งจอกสีเงินนั้นชาญฉลาดมากๆ และมันก็มักจะตัดสินได้ว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู ดังนั้นถ้ามันแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรต่ออัศวินไอซ์บลูคนหนึ่งภายในฐานทัพ อย่างนั้นแล้วมันก็ต้องมีเหตุผลบางอย่าง มันกำลังรวบรวมพลังของตัวเองราวกับว่ามันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

 

เมื่อหานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนของเขาเพื่อสแกนด้านนอกห้อง เขาก็รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาราวกับว่ามีก้อนหินขนาดเท่าภูเขาหล่นทับหัวใจ

 

‘ราชาอัศวินไอซ์บลูอยู่ด้านนอก’ หานเซิ่นคิด ถึงแม้เขาจะสัมผัสถึงตัวตนของราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ได้ แต่ความรู้สึกของเขากำลังบอกว่าชายคนนั้นอยู่ด้านนอกนั่น

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าทำไมราชาอัศวินไอซ์บลูถึงมาที่ห้องของเขาด้วยตัวเอง แต่เขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ แถมอัศวินที่เคาะประตูห้องนั้นพูดว่าราชาอัศวินอยากจะพบกับหานเซิ่น แต่อีกฝ่ายไม่ได้พูดว่าเขามารออยู่ที่นี่เรียบร้อยแล้ว

 

ตอนนี้ราชาอัศวินไอซ์บลูมายืนอยู่ด้านนอกห้องและกำลังซ่อนตัวตนของตัวเองเอาไว้ ซึ่งนอกจากมันจะผิดปกติแล้ว มันยังเป็นอะไรที่ไม่สุภาพ

 

“เข้าใจแล้ว รอแปป ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” หานเซิ่นตอบกลับไปและแกล้งทำเป็นว่ากำลังแต่งตัว

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อมองดูด้านนอกห้องอีกครั้ง และเขาพบว่าอัศวินไอซ์บลูคนอื่นกำลังเคาะประตูห้องของพวกผู้หญิง หานเซิ่นรีบอุ้มจิ้งจอกสีเงินขึ้นมาและกระโดดขึ้นบนหลังของอสูรกาแล็กซี่ อสูรกาแล็กซี่รู้ว่าหานเซิ่นต้องการอะไร และมันก็ใช้พลังของมันพาพวกเขาทะลุผ่านกำแพงไปที่อีกห้องถัดไปในทันที

 

หานเหยียนและคนอื่นๆสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นอสูรกาแล็กซี่ทะลุผ่านกำแพงเข้ามาพร้อมกับหานเซิ่นและจิ้งจอกสีเงิน พวกเธอดูประหลาดใจ แต่พวกเธอก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

 

หานเซิ่นไม่มีเวลาที่จะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงเรียกหอคอยแห่งโชคชะตาออกมาและพูดเบาๆ “เข้าไปข้างใน”

 

ซีโร่และหานเมิ่งเอ๋อกระโดดเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรสักคำ จีชิงกำลังจะถามอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เธอจะได้ถาม หานเหยียนก็ผลักเธอเข้าไปข้างใน

 

หวงฟูจิ้งทำอะไรรวดเร็ว และเธอก็กระโดดเข้าไปข้างในโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

 

หานเซิ่นโยนจิ้งจอกสีเงินและอสูรกาแล็กซี่เข้าไปข้างในเช่นกัน เป่าเอ๋อยังคงอยู่บนไหล่ของหานเซิ่น ส่วนนางฟ้ากำลังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวขณะที่จ้องไปที่ประตู

 

“เข้าไปข้างใน!” หานเซิ่นเปล่งเสียงใต้ลมหายใจของเขา เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางฟ้ากันแน่ เพราะเธอไม่เคยขัดคำสั่งของเขามาก่อน

 

นางฟ้าไม่เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา เธอเดินเข้ามาหาหานเซิ่นพร้อมกับกับกางปีกของเธอแทน วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างขึ้นเหนือหัวของเธอ

 

ทันใดนั้นร่างกายที่ดูอ่อนเยาว์ของเธอก็เปลี่ยนเป็นนางฟ้าอกโตผมสีทอง ดาบขนนกคริสตัลปรากฏขึ้นในมือของเธอ

 

นางฟ้าเปิดใช้งานโหมดต่อสู้ของเธอ เนื่องจากเธอสัมผัสได้ถึงอันตราย

 

“ฉันรับมือกับเรื่องนี้ได้! เธอแค่จำเป็นต้องเข้าไปข้างใน”

หานเซิ่นสัมผัสได้ว่าราชาอัศวินไอซ์บลูเดินมาอยู่หน้าประตูแล้ว ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าหานเซิ่นได้แอบมาที่ห้องถัดไป

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะพูดอะไรได้มากกว่านั้น นางฟ้าก็กระปือปีกของเธอและบินมาตรงหน้าของหานเซิ่น ปีกนางฟ้ากางออกกว้างและดวงตาที่ใสของเธอก็จ้องตรงมาที่หานเซิ่น หลังจากนั้นริมปีปากสีแดงของเธอก็ลงมาหาริมผีปากของเขา

 

หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่เข้าไปในตัวของเขา ทั้งร่างกายของนางฟ้ากำลังส่องสว่างด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ และแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นก็หลั่งไหลเข้าไปในตัวของหานเซิ่น

 

ตูม!

ปีกนางฟ้ากางออกมาจากหลังของหานเซิ่น ขณะที่วงแหวนปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา ร่างทั้งร่างของเขาเรืองแสงสีขาวที่ดูศักดิ์สิทธิ์และดาบขนนกของนางฟ้าก็ลอยมาอยู่ในมือของเขา

 

พลังของนางฟ้ารวมเข้ากับพลังของหานเซิ่น และหานเซิ่นรู้สึกว่าพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 

หานเซิ่นประหลาดใจกับเรื่องนี้ เพราะนางฟ้าไม่ได้แสดงพลังนี้เลยตั้งแต่ที่เธอหลุดจากการเป็นเพียงแค่วิญญาณอสูร เนื่องจากว่าตอนนี้เธอมีร่างกายจริงๆอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าเธอจะยังรวมร่างกับเขาได้

 

หานเซิ่นและนางฟ้าเป็นระดับมาร์ควิสทั้งคู่ แต่พลังของนางฟ้าบริสุทธิ์อย่างมาก มันเกือบจะแข็งแกร่งเท่ากับของตัวหานเซิ่นเอง

 

พลังของมาร์ควิส 2 คนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้พลังของหานเซิ่นในตอนนี้ทะลุขีดจำกัดของมาร์ควิสคนหนึ่ง ร่างกายของเขารู้สึกสุดยอดมากๆ

 

หานเซิ่นรู้ว่านางฟ้ารวมตัวเองเข้ากับเขา เพราะเธอสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ร้ายแรง ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่ทำอะไรโดยพลการแบบนี้

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นเก็บหอคอยแห่งโชคชะตากลับเข้าไปในจิต ประตูห้องก็ถูกพังเข้ามา หานเซิ่นเห็นราชาอัศวินไอซ์บลูเดินเข้ามาข้างใน อีกฝ่ายไม่ได้ใช้พลังอะไร แต่หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาใส่เขา

 

นี่เป็นความกดดันของสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพ เขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าอี๋ซา

 

“เป่าเอ๋อ!” หานเซิ่นไม่ลังเล เขาเรียกปีกมังกรออกที่หลังและหูออกมา ผิวของเขาเป็นสีแดง และทั้งปีกมังกรและปีกของนางฟ้าก็กางออกจากด้านหลังของเขา

 

ปัง!

 

มือของเป่าเอ๋อตีลงไปบนผิวของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม คลื่นเสียงพุ่งออกมาจากเจดดรัม ขณะที่หานเซิ่นกระพือปีกทั้ง 3 คู่และเทเลพอร์ตออกไปจากด้านหลังของกำแพงห้อง

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูขมวดคิ้ว เขาใช้วงแหวนสีฟ้าเพื่อป้องกันตัวเอง คลื่นเสียงของเจดดรัมเป็นเหมือนกับหางของแมลงป่อง มันทิ่มแทงเข้ามาที่หัวของราชาอัศวิน แต่วงแหวนสีฟ้าหมุนวนรอบตัวของเขา ทำให้คลื่นเสียงไปไม่ถึงตัวของเขา

 

“หานเซิ่น ข้าจะถามเจ้าชัดๆ เจ้ากำลังจะละทิ้งหน่วยอัศวินนี้อย่างนั้นหรอ?”

ราชาอัศวินไอซ์บลูจ้องตรงไปที่หานเซิ่น ดวงตาของเขามองตามการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นได้ทันที ขณะที่เขาพูดพลังที่น่าตกใจก็ออกมาจากตัวของเขา

 

ทันทีที่หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปที่โถงทางเดิน พลังของราชาอัศวินก็ลงมาบนตัวของเขา หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่ามีภูเขาทั้งลูกหล่นทับตัวของเขาและมันเกือบจะทำให้เขาล้มลงไปกับพื้น

 

“ถ้าท่านยินดีจะให้ข้าอธิบาย ท่านก็คงจะไม่มาที่นี่แบบนี้”

หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็ระเบิดพลังของตัวเองออกมาเพื่อตัวสู้กับพลังของราชาอัศวินไอซ์บลู เขาเทเลพอร์ตอีกครั้งและพังหลังคาของฐานทัพออกไป ตอนนี้เขาอยู่บนอากาศ

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองจะหนีไปได้หรือเปล่า แต่ครั้งนี้การกลับไปในก็อตแซงชัวรี่ไม่ใช่ตัวเลือกดี หานเหยียนและคนอื่นอยู่ในหอคอยแห่งโชคชะตา ด้วยระดับพลังของพวกเขาในตอนนี้ พวกเขาจะได้รับความเสียหายจากการจำกัดของก็อตแซงชัวรี่ ซึ่งแม้แต่หอคอยแห่งโชคชะตาก็ไม่สามารถป้องกันพวกเขาจากเรื่องนั้นได้

 

หานเซิ่นกัดฟันของเขา แต่ก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตอีกครั้ง ราชาอัศวินไอซ์บลูก็บินขึ้นมาบนอากาศเช่นกัน เขามองลงมาที่หานเซิ่นจากด้านบน แรงกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมาเป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย แต่มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นเทพเจ้าที่ไม่ว่าหานเซิ่นจะหนีไปทางไหน เขาก็ไม่สามารถหนีไปจากสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset