Super God Gene – ตอนที่ 2196

ราชาไนท์ริเวอร์อยากจะฆ่าหานเซิ่นถึงขนาดยอมใช้มีดดาบเสี้ยวพระจันทร์ของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถแตะต้องตัวของหานเซิ่นได้ เมื่อหานเซิ่นออกไปจากดาวเบลดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ความล้มเหลวของราชาไนท์ริเวอร์ก็ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกภายในแนร์โรว์มูน

 

ถึงแม้ขุนนางทั่วไปจะไม่กล้าหัวเราะเยาะราชาไนท์ริเวอร์ต่อหน้า แต่ลับหลังพวกเขาต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องนั้น ทุกคนประหลาดใจที่โล่ป้องกันของหานเซิ่นทรงพลังถึงขนาดที่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถทำอะไรได้

 

ไม่นานมานี้หานเซิ่นได้มอบใบเสมาราชาแมลงปีศาจของเขาให้กับซีโร่ นางฟ้าและหานเมิ่งเอ๋อ แต่เขาก็เก็บใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีทองอันหนึ่งเอาไว้กับตัว

 

ที่หานเซิ่นทำแบบนี้ก็เพราะเขาต้องการให้พวกเธอคอยเฝ้าฐานทัพ ถ้าเกิดมียอดฝีมือระดับราชันบุกมาจู่โจมฐานทัพล่ะก็ พวกพ้องของเขาก็จะสามารถใช้ใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้ง 3 สีเพื่อป้องกันมันได้ เมื่อโล่ทั้ง 3 สีรวมพลังกันศักยภาพในการป้องกันของมันก็สามารถปกป้องได้ทั้งฐานทัพ และแม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาข้างในได้ง่ายๆ

 

ถ้าราชาไนท์ริเวอร์ตัดสินใจที่จะทุ่มทุกอย่าง หานเซิ่นก็ต้องทำให้แน่ใจว่าฐานทัพของเขาจะปลอดภัย เขาไม่สามารถปล่อยให้ฐานทัพถูกโจมตีอย่างไร้การป้องกันได้

 

และสำหรับหานเหยียน หานเซิ่นติดต่อกับทางปราสาทนภาโดยหวังว่าพวกเขาจะให้เธอไปฝึกที่นั่นได้ ในตอนที่พวกเขายอมรับเธอไป หานเซิ่นก็ได้มอบวิญญาณอสูรใบเสมาสีทองให้กับเธอเพื่อความปลอดภัย

 

“มันจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าเราหาวิญญาณอสูรใบเสมามาเพิ่มได้อีก”

หานเซิ่นได้มันมาถึง 4 ดวงแล้ว แต่ในจิตใจของเขารู้ว่ามันยังคงไม่พอ

 

ในตอนนี้หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เขาไปที่ตำหนักเย็นเพื่อดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็งทุกๆวันที่ 1 และ 15 ของเดือน ทุกครั้งเขาจะบดบังแสงจันทร์ที่ส่องไปที่ราชาไนท์ริเวอร์อีกด้วย ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้รับอะไร

 

ในที่สุดราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้รับตำแหน่งผู้พิทักษ์ตำหนักเย็นที่ต้องการมา แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือนั่งอยู่เฉยๆและมองดูหานเซิ่นรับผลประโยชน์ทั้งหมดไปคนเดียว สายลมที่สดชื่นคืออย่างเดียงที่เขาสามารถเพลิดเพลินได้ เขาเกลียดชังหานเซิ่น แต่ตอนนี้เขารู้ว่าไม่สามารถทำอะไรกับหานเซิ่นได้

 

เขามองหายอดฝีมือคนอื่นที่อาจจะหยุดหานเซิ่นจากการเดินทางมาที่ดาวเบลดได้ แต่ราชันที่เป็นเพื่อนกับเขาอย่างราชาชาโดว์ก็ยังไม่ตกลงจะช่วยเขาเลย

 

ผู้คนของแนร์โรว์มูนเห็นพ้องต้องกันในตอนที่อี๋ซาตายนั้นเป็นเพราะพวกเขาต้องการจะแบ่งมรดกของอี๋ซา แม้แต่ขุนนางที่ติดตามอี๋ซาก็ยังไม่ต้องการมอบของของอี๋ซาให้กับหานเซิ่นเลย เนื่องจากหานเซิ่นเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง และพวกเขาก็อยากจะได้ของบางอย่างของอี๋ซาไปเป็นของตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครคัดค้านในเรื่องที่หานเซิ่นแทบจะไม่ได้รับอะไรเลย

 

แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันต่างออกไป มรดกของอี๋ซาถูกแบ่งเรียบร้อยแล้ว และราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ตำหนักเย็น ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะช่วยราชาไนท์ริเวอร์กำจัดหานเซิ่น

 

อี๋ซาเพิ่งจะตายไป และพวกเขาก็ได้ขโมยของที่ควรจะตกเป็นของหานเซิ่นไปแล้ว แบบนั้นผู้คนจะคิดยังไงถ้าพวกเขายังพยายามจะกำจัดหานเซิ่นอีก?

 

แถมหานเซิ่นยังมีโล่ป้องกันที่ทรงพลัง ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าพวกเขาจะทำลายมันได้ ราชาไนท์ริเวอร์ได้ลองพยายามดูแล้ว และนั่นก็ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ราชาคนอื่นไม่ต้องการทำอะไรที่ไม่เป็นผลประโยชน์ต่อพวกเขา เพราะยังไงซะเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ธุระของพวกเขา

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถหยุดหานเซิ่นได้ตามลำพัง ดังนั้นทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือนราชาไนท์ริเวอร์จะต้องมองดูหานเซิ่นดูดซับแสงจันทร์เข้าไป และที่เขาเกลียดมากที่สุดก็คือความจริงที่ว่าเขาเป็นคนอนุญาตให้หานเซิ่นเข้าออกดาวเบลดด้วยตัวเอง

 

แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว หานเซิ่นไม่เคยพลาดแม้แต่วันเดียว และในที่สุดราชาไนท์ริเวอร์ก็สูญเสียความสนใจทั้งหมดที่จะเดินทางไปที่ดาวเบลด

 

หานเซิ่นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวิชากายหยกโดยหวังว่ามันจะกลายเป็นดยุกได้โดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้เริ่มดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคระดับดยุกสักที

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้บ้าพอที่จะไปยังดาวอุปราคา ถึงแม้เขาอยากจะทำมากๆก็ตาม แม้แต่การสร้างปัญหาต่อการขนส่งเสบียงก็ดูจะเป็นไปไม่ได้

 

ภายในฐานทัพมันไม่ได้มีผู้คนอยู่มากมายอะไร นอกจากนั้นมันยังมีทรัพยากรอยู่บนดวงดาวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเสบียงอาหารของพวกเขาคงจะไม่หมดลงในเร็วๆนี้แน่ และในเรื่องของเสบียงอื่นๆ พวกเขาก็อุดมสมบูรณ์ดีเช่นกัน

 

ราชาแบล็คมูนมอบการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับหานเซิ่นเพื่อทำให้แน่ใจว่าดาวอุปราคาจะไม่ถูกตัดขาด การถูกตัดขาดไม่ได้มีความหมายอะไรมากต่อหานเซิ่น แต่เขาก็ซาบซึ้งในความช่วยเหลือที่ได้รับ

 

เวลาผ่านไป วิชากายหยกของหานเซิ่นก็ใกล้จะพัฒนาไปถึงระดับดยุกขึ้นทุกที แต่ก่อนที่เขาจะได้วิวัฒนาการไปสู่ระดับดยุก เขาได้รับข้อความจากหวงฟูจิ้ง

 

นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ หวงฟูจิ้งเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยพึ่งใครคนไหน สมญานามของเธอภายในสหพันธ์คือควีน และบุคลิกของเธอก็เหมาะสมกับสมญานามเป็นอย่างดี ถ้าเธอติดต่อหานเซิ่นมาล่ะก็ อย่างนั้นแล้วมันก็คงจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นถามในทันที มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องมากพิธีการกับเธอ

 

หวงฟูจิ้งตอบอย่างตรงๆเช่นกัน “ฉันอยู่บนดาวเจดดรัม มันมีปัญหา”

 

“บอกรายละเอียดมา” หานเซิ่นเปิดข้อมูลเกี่ยวกับดาวเจดดรัมขณะที่พูดกับเธอ

 

ดาวเจดดรัมเป็นดวงดาวของเผ่า1000สมบัติ มันมีซีโน่เจเนอิคที่มีชื่อว่าเจดดรัมอยู่ที่นั่น และดวงดาวนั้นก็ถูกตั้งตามชื่อของพวกมัน

 

สโตนดรัม สตีลดรัม บรอนซ์ดรัม ซิลเวอร์ดรัม โกลด์ดรัมและเจดดรัม ซีโน่เจเนอิคทั้ง 6 นั้นโดยปกติแล้วเป็นระดับดยุก และพวกมันทั้งหมดก็อาศัยอยู่ร่วมกันบนดาวเจดดรัม

 

จากข้อมูลที่หานเซิ่นหาได้ เจดดรัมสามารถกลายเป็นระดับราชันได้ แต่เจดดรัมระดับราชันจะถูกพาตัวออกไปจากดาวเจดดรัม

 

เหตุผลที่เจดดรัมเป็นที่แสวงหานั้นเป็นเพราะว่าพวกมันมีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และพวกเขาก็จำเป็นต้องมีเผ่าพันธุ์อื่นช่วยพวกมันในการเคลื่อนที่ไปรอบๆจักรวาล โดยปกติแล้วเหล่าดรัมจะติดตามเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ถ้าใครคนหนึ่งอยากจะมารับดรัมตัวหนึ่งไปนั้น พวกเขาก็ต้องได้รับความยินยอมจากดรัมตัวนั้นซะก่อน แบบนั้นดรัมถึงจะปล่อยให้ตัวเองถูกพาออกไปจากดาวเจดดรัมได้

 

ซีโน่เจเนอิคเจดดรัมเป็นซีโน่เจเนอิคดนตรี พวกมันสามารถไปที่ไหนก็ได้และดูดซับพลังเสียงเพื่อเพิ่มระดับขึ้น พลังที่พวกมันใช้เองก็เป็นพลังเสียงเช่นกัน ถ้าใครคนหนึ่งเก็บเจดดรัมเอาไว้ข้างตัว เมื่อพวกเขาถูกโจมตีด้วยพลังเสียง เจดดรัมก็จะปกป้องพวกเขาและตอบโต้กลับด้วยพลังเสียงของมัน

 

หวงฟูจิ้งออกไปท่องโลกตามลำพัง และเมื่อเธอผ่านไปที่ดาวเจดดรัม เธอก็อยากจะลองเสี่ยงดวงจับดรัมสักตัวหนึ่ง

 

น่าประหลาดใจที่หวงฟูจิ้งได้รับความยินยอมจากเจดดรัมตัวหนึ่ง แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มจะแย่ลง

 

เจดดรัมเป็นซีโน่เจเนอิคของเผ่า1000สมบัติ เผ่า1000สมบัติเก็บพวกมันเอาไว้ในฐานะสมบัติแจกฟรี ใครก็ตามที่ซื้อตั๋วจากเผ่า1000สมบัติสามารถไปที่ดาวเจดดรัมและหาดรัมตัวหนึ่งที่ยอมรับพวกเขาได้

 

ส่วนคนๆหนึ่งจะหาดรัมและได้รับการยินยอมจากพวกมันได้ยังไงนั้น ทาง1000สมบัติไม่สนใจ พวกเขาแค่จะลงทะเบียนเอาไว้ว่าดรัมตัวนั้นถูกเอาไปแล้ว

 

หวงฟูจิ้งเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง ถึงแม้เธอจะได้รับการยอมรับจากเจดรัมและทาง1000สมบัติจะอนุญาตให้เธอเอามันไปได้ แต่ถ้าเธอเอามันไปลงทะเบียน ทุกคนก็จะรู้ว่าเอิร์ลคนหนึ่งที่ได้เอาเจดดรัมไป เธออาจจะยังปลอดภัยบนดาวเจดดรัม แต่หลายคนอาจจะมาแย่งมันไปจากเธอเมื่อเธอเดินทางออกมา

 

ด้วยเหตุนั้นหวงฟูจิ้งจึงยังไม่ได้นำมันไปลงทะเบียน แต่เธอติดต่อมาหาหานเซิ่นแทน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset