Super God Gene – ตอนที่ 2175

หานเซิ่นและพวกพ้องเดินทางไปบนดาวโซดิหลายร้อยไมล์ แต่ตลอดระยะทาง พวกเขาไม่สามารถล่าซีโน่เจเนอิคได้แม้แต่ตัวเดียว มันมีดยุกและมาร์ควิสใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อมาชิงทรัพยากรไป หานเซิ่นเห็นดยุกและมาร์ควิสหลายคนฆ่าซีโน่เจเนอิคก่อนที่เขาจะไปถึงพวกมันได้ มันไม่เหลือซีโน่เจเนอิคให้หานเซิ่นฆ่าแม้แต่ตัวเดียว และถ้าหานเซิ่นเข้าไปใกล้ๆคนอื่น พวกเขาก็จะจ้องมาที่หานเซิ่นทันทีราวกับว่าพวกเขาพร้อมจะต่อสู้กับหานเซิ่นถ้ายังก้าวเข้ามาอีกก้าว

 

หานเซิ่นเดินต่อไปข้างหน้าโดยหวังว่าจะขึ้นไปบนภูเขา เมื่อหานเซิ่นไปถึงตีนเขา เขาก็เห็นชิงหลีและรีเบทคนอื่นอีกจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา

“หานเซิ่น เจ้ามาที่นี่เพื่อล่าซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นหรอ? ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำแบบนั้นได้”

 

“ข้าแค่มาเดินดูรอบๆเท่านั้น” หานเซิ่นไอกลบเกลื่อน

 

ชิงหลีแบะปากของเธอ “พวกเราเดินไปทั่วภูเขานี้กว่าครึ่งวัน แต่พวกเราก็หาซีโน่เจเนอิคไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว เจ้าพวกนั่นฆ่าพวกมันทั้งหมดก่อนที่พวกเราจะมีโอกาส”

 

รีเบทระดับดยุกและมาร์ควิสหลายๆคนดูไม่พอใจ ทุกคนใช้ข้ออ้างในการตามหาตัวคนทรยศเพื่อเข้ามาในซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของรีเบท ด้วยเหตุนั้นรีเบทกำลังเป็นฝ่ายที่สูญเสีย

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังอย่างเดสทรอยเยอร์กดดันพวกเขาอย่างหนักล่ะก็ รีเบทก็ไม่มีทางจะปล่อยให้พวกเขาเข้ามา

 

ขณะที่พวกเขาทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา มันเป็นกลุ่มของเดสทรอยเยอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นระดับมาร์ควิส แต่หัวหน้าของพวกเขาเป็นระดับดยุก

 

ทีมของเดสทรอยเยอร์มาเพื่อค้นหาตัวคนทรยศ แต่เมื่อพวกเขาเห็นหานเซิ่น พวกเขาก็ดูอาฆาตขึ้นมาทันที

 

นั่นเป็นเพราะเหตุการณ์ภายในเมทัลเวิลด์ หานเซิ่นได้ปกป้องเผ่าอื่นๆเอาไว้ ขณะที่ทางเดสทรอยเยอร์ถูกฆ่าตายทั้งหมด แถมหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเผ่าพันธุ์อื่นๆก็เริ่มเกลียดชังเผ่าเดสทรอยเยอร์ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ชอบหน้าหานเซิ่น

 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ทำการโจมตีหานเซิ่น พวกเขาแค่มองหานเซิ่นอย่างไม่พอใจเท่านั้น ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในเขตแดนของรีเบท และพวกเขาก็ไม่อวดดีพอจะต่อสู้กับหานเซิ่นในที่แห่งนี้

 

ขณะที่กลุ่มเดสทรอยเยอร์กำลังจากไป ใบหน้าของดยุกที่เป็นหัวหน้าทีมก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาตะโกนขึ้นไปบนภูเขา “บาร์!”

 

หานเซิ่นและคนอื่นๆหันไปมองและสังเกตเห็นชายในชุดเกราะกระดูก คนๆนั้นถือมีดกระดูกที่มีความยาวราวๆ 2 เมตรอยู่ในมือ

 

“นั่นคือหนึ่งในเดสทรอยเยอร์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่มองบาร์ด้วยสีหน้าที่สงสัย

 

บาร์มี 3 หน้าก็จริง แต่เขาไม่ได้มี 6 แขนเหมือนกับเดสทรอยเยอร์คนอื่นๆ แถมใบหน้าทั้ง 3 ของเขาก็ต่างออกไปอีกด้วย ใบหน้าทั้ง 3 ของเขาเป็นใบหน้าของผู้ชายทั้งหมด

 

สีหน้าของชิงหลีเปลี่ยนไป เธอกระซิบบอกหานเซิ่น “อย่าได้ยั่วยุเขา เขาเป็นเดสทรอยเยอร์วิปลาส”

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นกระซิบถาม

 

ชิงหลีรีบอธิบาย “เขาเป็นลูกผสมระหว่างหนึ่งในเดสทรอยเยอร์กับเผ่าพันธุ์อื่น เขามีพรสวรรค์มากๆ แต่เขาก็โหดร้ายมากๆเช่นกัน เดสทรอยเยอร์รักความรุนแรง แต่พวกเขาก็ยังเรียกบาร์ด้วยว่าเป็นคนที่เกิดมาเพื่อการทำลายล้าง”

 

รีเบทระดับดยุกคนหนึ่งรีบบอกกับหานเซิ่น “รีบไปจากที่นี่กันเถอะ พวกเราไม่ควรไปยั่วยุเขา เขาเป็นนักฆ่ารับจ้าง และเขาได้ฆ่าอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย ยอดฝีมือหลายคนตายด้วยมือของเขา ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป เจ้าจะตกอยู่ในอันตราย”

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน เขาสังเกตเห็นว่าบาร์ตรงเข้ามาหาเขาเรียบร้อยแล้ว จิตสังหารของบาร์มุ่งเป้ามาที่ตัวของเขา และเขารู้ว่าไม่สามารถหนีไปจากมันได้

 

หานเมิ่งเอ๋อก็รู้สึกว่าบาร์มุ่งเป้าไปที่หานเซิ่นเช่นเดียวกัน เธอก้าวมาข้างหน้าหานเซิ่นและเรียกธนูเทพธิดาแห่งความตายออกมา เธอดึงสายธนูและลูกศรสีดำก็ปรากฏขึ้นมา ปลายลูกธนูเล็งตรงไปที่บาร์

 

“นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรอ? ลดธนูลงเดี๋ยวนี้!” เมื่อเห็นหานเมิ่งเอ๋อยกธนูเล็งไปที่บาร์ ชิงหลีและคนอื่นๆก็เริ่มแตกตื่น

 

คนอย่างบาร์จะลงมือฆ่าฟันคนอื่นอย่างสนุกสนาน ถ้าเกิดเขาอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้เมื่อหานเมิ่งเอ๋อเล็งธนูไปที่เขา คนอื่นๆก็คาดคิดว่าเธอกำลังรนหาที่ตาย

 

กลุ่มของเดสทรอยเยอร์ยิ้มอย่างเลือดเย็นให้กับพวกหานเซิ่น และถึงแม้พวกเขาจะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับบาร์ แต่มันก็มีความหวาดกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับบาร์เช่นเดียวกัน และตอนนี้หนึ่งในคนของหานเซิ่นกำลังเล็งธนูไปที่บาร์

 

เหล่าเดสทรอยเยอร์เริ่มถอยออกไปพอสมควรเพื่อจะได้มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสบายใจ มันดูเหมือนว่าการฆ่าฟันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

หานเมิ่งเอ๋อไม่ได้ลดธนูของเธอลง เธอแค่มองตรงไปทางบาร์ที่กำลังเข้ามา ขณะที่เธอทำอย่างนั้นธนูของเธอก็กำลังรวบรวมพลังมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เธอเป็นเพียงแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง ขณะที่บาร์เป็นดยุก แต่บาร์มีจิตมุ่งร้ายต่อหานเซิ่น ดังนั้นเธอไม่คิดจะถอยให้กับเขา

 

“หานเซิ่นบอกให้นางหยุดเดี๋ยวนี้!” รีเบทระดับดยุกคนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

“ไม่จำเป็น” หานเซิ่นพูดอย่างสบายใจ

 

เมื่อธนูในมือของหานเมิ่งเอ๋อชาร์จจนเต็มที่แล้ว เธอก็ยิงออกไปใส่บาร์ในทันที

 

ลูกธนูที่ถูกสร้างขึ้นมาจากสร้างควันสีดำหมุนวน และมันกลายเป็นสิ่งที่เกือบจะมองไม่เห็น ขณะที่มันพุ่งเข้าหาบาร์ มันพุ่งไปตรงหน้าบาร์และเตรียมจะเจาะทะลุเข้าไปในหัวใจของเขา

 

ทุกคนรู้สึกตกใจ พวกเขาคิดว่าหานเมิ่งเอ๋อกล้ามากที่ยิงธนูออกไปใส่บาร์

 

รีเบทระดับดยุกไม่กล้าพูดอะไรอีก พวกเขาหวาดกลัวว่าบาร์ ดังนั้นพวกรีเบทจึงถอยห่างออกไปเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่โดนลูกหลง

 

กลุ่มเดสทรอยเยอร์ก็ถอยห่างออกไปเช่นเดียวกัน พวกเขายังคงยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น ขณะที่มองหานเมิ่งเอ๋อราวกับว่าเธอกำลังจะต้องตาย

 

บาร์ไม่ใช่แค่คนที่โหดร้ายเพียงอย่างเดียว คนอื่นๆอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับบาร์มากนัก แต่เหล่าเดสทรอยเยอร์รู้ถึงความน่ากลัวของเขาเป็นอย่างดี

 

บาร์ถูกบอกว่าเป็นคนที่เกิดมาเพื่อการทำลายล้าง เพราะเขาคือเดสทรอยเยอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เดสทรอยเยอร์ทั้งหมดที่เคยมีมา

 

ด้วยพรสวรรค์ที่บาร์มี ถ้าเขาเป็นเดสทรอยเยอร์เลือดบริสุทธิ์ มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะได้เป็นผู้นำคนต่อไปของเผ่าพันธุ์เดสทรอยเยอร์

 

และถึงแม้บาร์จะไม่ได้รับการสนับสนุนอะไรจากเดสทรอยเยอร์มากนัก แต่เขาก็ยังคงเหนือกว่าเดสทรอยเยอร์คนอื่นๆอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเขา ความรักในการฆ่าฟันทำให้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงยิ่งกว่าเหล่าราชาของเดสทรอยเยอร์ซะอีก

 

ครั้งหนึ่งบาร์เคยสังหารดราก้อนระดับดยุกคนหนึ่ง ดราก้อนวันนั้นได้พยายามตามล่าตัวเขาเพื่อจะแก้แค้น แต่เขาสามารถหนีไปได้สำเร็จ และในขณะที่หนีเขาก็ได้ฆ่าดราก้อนดยุกและมาร์ควิสไปอีกหลายคน นั่นทำให้เผ่าดราก้อนเสียหน้าอย่างมาก

 

ดราก้อนวันเป็นถึงระดับราชัน แต่เขาไม่สามารถไล่ล่าดยุกคนหนึ่งได้ และบาร์ยังฆ่าดราก้อนไปหลายคน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง

 

บาร์เห็นลูกธนูของหานเมิ่งเอ๋อตรงเข้ามา แต่ความเร็วของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเขาก็ไม่ได้ใช้มีดกระดูก เขาแค่ยื่นมือออกมาจับลูกธนู

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset