Super God Gene – ตอนที่ 2162

ผู้อาวุโสของปราสาทนภา ดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อนยังคงรออยู่ด้านนอกเมทัลเวิลด์ ตอนนี้มันผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นพวกมาร์ควิสกลับออกมาเลยสักคนเดียว แต่ละวันผ่านไปโดยไม่มีวี่แววว่าคนของพวกเขาจะกลับออกมา ทำให้อารมณ์ของพวกเขาแย่ลงเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มยอมรับความจริงที่ว่าคนของพวกเขาอาจจะไม่กลับออกมาอีก

 

“บางสิ่งกำลังออกมาจากเมทัลเวิลด์” ดราก้อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

ขณะที่เขาพูดขึ้นมา ทุกคนก็หันไปมองทางดวงดาว ผู้อาวุโสที่รอคอยอยู่ด้านนอกดวงดาวเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้น ขณะที่จับจ้องไปทางพายุแม่เหล็กที่ปกคลุมพื้นผิวของเมทัลเวิลด์อยู่

 

มันมีใครบางคนออกมาจากก้อนเมฆ หลังจากนั้นคนต่อๆไปก็ตามกันออกมา พวกเขาทุกคนเป็นคนที่คุ้นเคย

 

“ดราก้อนเอท! มันคือดราก้อนเอท!” ดราก้อนราชันคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

 

ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์อื่นก็มีปฏิกิริยาที่เหมือนๆกัน เมื่อเห็นคนของพวกเขาออกมาจากพายุแม่เหล็ก

 

เมื่อคนสุดท้ายออกมาจากหมู่เมฆ ผู้อาวุโสของปราสาทนภาก็ดูดีใจอย่างมาก นั่นเป็นเพราะว่าทีมของปราสาทนภาออกมามากกว่าทีมของเผ่าพันธุ์อื่นรวมกันซะอีก ทีมของปราสาทนภารอดกลับออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งต่างไปจากทีมของเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ แม้แต่คนที่รอดชีวิตกลับออกมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

 

หานเซิ่นกับอวี้เอียะไปรายงานผู้อาวุโสของปราสาทนภาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมทัลเวิลด์ เหล่าผู้อาวุโสดีใจที่เห็นว่ามาร์ควิสทั้งหนึ่งร้อยคนรอดชีวิตกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไร

“ดี พวกเจ้าทำได้ดีมากๆ มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกเจ้าต้องพูดมากกว่านั้น พวกเจ้าควรกลับไปที่บ้านและพักผ่อนให้หายเหนื่อยซะก่อน”

 

“ทราบแล้ว” หานเซิ่น อวี้เอียะและคนอื่นๆเตรียมเดินทางกลับพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโส

 

แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าตัวเองถูกล้อมทุกด้านโดยพวกดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อน มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเจตนาจะปล่อยให้กลุ่มของปราสาทนภากลับไปง่ายๆ

 

“นี่มันหมายความว่ายังไง?” ผู้อาวุโสกรีนเครนมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม สมาชิกของปราสาทนภาต่างก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้

 

ราชาคนหนึ่งของเดสทรอยเยอร์พูดด้วยความโกรธ ขณะที่มองหานเซิ่นและคนอื่น “ทุกเผ่าพันธุ์ที่เข้าไปในเมทัลเวิลด์ต่างก็มีผู้เสียชีวิต แต่พวกเจ้ากลับไม่สูญเสียใครเลย เจ้าใช้กลลวงอะไรมาทำร้ายมาร์ควิสของพวกเรา?”

 

มันเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเดสทรอยเยอร์ถึงรู้สึกโกรธ ทุกเผ่าพันธุ์ยกเว้นเดสทรอยเยอร์มีมาร์ควิสกลับมาบ้าง แต่พวกเขาสูญเสียผู้คนไปทั้งหมด นั่นทำให้พวกเขาสับสนและโกรธ พวกเขาต้องการรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในเมทัลเวิลด์กันแน่

 

ถึงเผ่าพันธุ์อื่นจะไม่ได้โกรธเหมือนอย่างเดสทรอยเยอร์ แต่พวกเขาก็สูญเสียผู้คนไปมากเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ต้องการจะปล่อยให้หานเซิ่นกับคนอื่นไปจากที่นี่ง่ายๆเช่นเดียวกัน

 

ตอนนี้เมื่อทุกคนมาเพื่อหยุดคนของปราสาทนภา นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะหาความจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อผู้คนของปราสาทนภากลับไปถึงดินแดนของพวกเขาแล้ว การเจรจากับพวกเขาจะกลายเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุนั้นยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์อื่นๆจึงอยากจะได้คำตอบเดี๋ยวนี้

 

ผู้อาวุโสกรีนเครนหัวเราะหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เดสทรอยเยอร์ระดับราชันพูด

“ทีมของพวกเจ้าอ่อนแอ ความตายของพวกเจ้าจะมาเป็นธุระของพวกเราได้ยังไง?”

 

เดสทรอยเยอร์ระดับราชันถามต่อ “เจ้าจะบอกว่าเผ่าพันธุ์อื่นทั้งหมดไม่แข็งแกร่งเท่ากับเผ่าพันธุ์ของเจ้าอย่างนั้นหรอ? ถึงแม้มันจะเป็นความจริง มันก็ไม่มีทางที่คนของพวกเราจะตายทั้งหมด ขณะที่คนของพวกเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยสักคน ถ้าพวกเจ้าไม่อธิบายในเรื่องนี้ พวกเราเดสทรอยเยอร์ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าไปจากที่นี่”

 

พวกเขาหวังว่าทางดราก้อนจะสนับสนุนพวกเขา เพราะทางเดสทรอยเยอร์ไม่สามารถหยุดผู้อาวุโสกรีนเครนได้ด้วยตัวเอง

 

“อธิบาย? ปราสาทนภาไม่ได้ติดค้างคำอธิบายอะไร” อาวุโสกรีนเครนพูด

 

ที่อาวุโสกรีนเครนบอกหานเซิ่นและคนอื่นว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกก็เพราะเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น จริงๆแล้วอาวุโสกรีนเครนก็คิดเหมือนกับคนอื่นๆ มาร์ควิสของปราสาทนภาต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางกลับออกมาโดยไม่เสียสมาชิกเลยสักคน ขณะที่ทีมของเผ่าพันธุ์อื่นๆมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

 

เดสทรอยเยอร์ระดับราชันกัดฟันและพูดขึ้นมา “อย่าได้คิดจะใช้อิทธิพลของปราสาทนภามาขู่ให้พวกเรากลัว ปราสาทนภาแข็งแกร่งก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเราในที่นี่อ่อนแอ ถ้าพวกเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับข้า ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปจากที่นี่”

 

“ผู้อาวุโสกรีนเครน ทำไมเจ้าไม่อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะจากไป?” หนึ่งในบุดด้าระดับราชันถาม

 

ดราก้อนระดับราชันก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ถ้ามาร์ควิสของปราสาทนภาไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ มันก็ไม่น่าจะมีปัญญาอะไรที่จะอธิบายให้พวกเราฟัง?”

 

ผู้อาวุโสกรีนเครนขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา ดราก้อนเอท ข่านและคนอื่นๆก็เดิมมาต่อหน้าราชันของพวกเขาเพื่อบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

 

นอกจากเดสทรอยเยอร์แล้ว เมื่อเผ่าพันธุ์อื่นๆได้ยินถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาก็มืดมนยิ่งกว่าเดิม

 

อาวุธทั้งหมดของพวกเขาที่ชี้ไปที่ผู้คนของปราสาทนภา ตอนนี้เปลี่ยนไปชี้ที่เดสทรอยเยอร์แทน

 

“เดสทรอยเยอร์ ดูเหมือนว่าเป็นพวกเจ้าต่างหากที่จำเป็นต้องอธิบายตัวเอง” ดราก้อนราชันคนหนึ่งพูดด้วยเสียงที่เย็นชา

 

เผ่าพันธุ์อื่นก็มองไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเช่นกัน ทางเดสทรอยเยอร์รู้สึกสับสน พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

ผู้อาวุโสกรีนเครนถามหานเซิ่นและอวี้เอียะเพื่อขอคำอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาก็ต้องตกตะลึงไปหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด

 

เขาไม่ได้ตกใจที่เดสทรอยเยอร์ลอบกัดเผ่าพันธุ์อื่นๆ แต่เขาแปลกใจที่ได้ยินว่าหานเซิ่นต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคทั้งหมดตามลำพังและช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้

 

มาร์ควิสทั้งหมดที่ถูกส่งเข้าไปต่างก็เป็นยอดฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างดราก้อนเอท ดราก้อนไนนท์และข่าน ซึ่งแม้แต่พลังของพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านซีโน่เจเนอิคจำนวนมากได้ แต่หานเซิ่นกลับจัดการกับซีโน่เจเนอิคได้ด้วยตัวคนเดียว มันเป็นอะไรที่น่ากลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น

 

ไร้เทียมทานเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนอย่างหานเซิ่น

 

ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้ แต่มันก็มีมาร์ควิสจำนวนมากเป็นพยานถึงเรื่องนั้น พวกเขาทุกคนไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องแต่งเรื่องเพื่อโอ้อวดพลังของหานเซิ่น ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อในเรื่องนั้น

 

หลังจากเหตุการณ์นี้ หานเซิ่นก็ถูกพูดถึงในทุกหนทุกแห่ง ใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องราวนี้ก็ได้รู้ว่าปราสาทนภาเป็นที่อยู่อาศัยของยอดฝีมือ 2 คน หนึ่งคือไผ่เดียวดาย อีกหนึ่งคือหานเซิ่น

 

และเนื่องจากอสูรโลหะสีขาวระดับเทพเจ้ายังอาศัยอยู่ในดวงดาว ทุกคนก็ยอมแพ้ที่จะยึดครองเมทัลเวิลด์มาเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องที่พวกเขามีแผนจะจัดการยังไงกับทางเดสทรอยเยอร์นั้น หานเซิ่นเองก็ไม่รู้

 

เนื่องจากหานเซิ่นพาสมาชิกของปราสาทนภาทุกคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย เขาจึงได้รับรางวัลจากปราสาทนภา แต่พวกมันไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้ว เพราะข้อตกลงระหว่างอี๋ซากับปราสาทนภาคือการทำให้หานเซิ่นพัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องเดินทางกลับไปยังแนร์โรว์มูน

 

เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริงของปราสาทนภา ปราสาทนภาไม่สามารถมอบทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อทำให้เขาพัฒนาสู่ระดับดยุกได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset