เมื่อดอกไม้บนชุดเกราะของเนตรมารบานออก พลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นจนน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ตอนนี้เขาดูน่ากลัวยิ่งกว่าร่างมังกรทองของดราก้อนเอทซะอีก
“ดูเหมือนความรู้และการควบคุมของเจ้าจะเหนือกว่าข้า แต่แล้วมันจะยังไง ต่อหน้าพละกำลังที่เหนือชั้น เจ้าก็ไม่มีทางจะก้าวข้ามได้ สุดท้ายแล้วเจ้าจะพ่ายแพ้อยู่ดี” เนตรมารมองหานเซิ่นอย่างเลือดเย็น
“อะไรเนี่ย? นี่เจ้ายอมรับว่าตัวเองด้อยวิชา เลยอยากจะขอเปลี่ยนมาชกต่อยธรรมดา ๆ แทน?”
“พละกำลังและวิชาการต่อสู้เป็น 2 สิ่งที่ไม่เคยแยกออกจากกันได้ ความรู้และความสามารถในการควบคุมพลังของเจ้าน่าประทับใจก็จริง แต่เจ้าจะประยุกต์ใช้มันในการต่อสู้จริงๆได้หรือเปล่า? เพียงแค่คำพูดนั้นไร้ประโยชน์” เนตรมารพูดขณะที่พลังของเขายังคงเพิ่มขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเข้ามาลองดูด้วยตัวเอง” หานเซิ่นพูด
“ฮ่า นี่เป็นสิ่งที่ข้ากำลังต้องการอยู่เลย” ร่างกายของเนตรมารพุ่งเข้าหาหานเซิ่นราวกับเงาสีม่วง
ตอนนี้ร่างกายของเนตรมารเปลี่ยนเป็นเครื่องจักรสังหาร ดอกไม้สีม่วงเริ่มปรากฏบนแขนขาของเขา พวกมันโอนเอนราวกับว่ามีชีวิตจริงๆ และจุดประสงค์อย่างเดียวของพวกมันก็คือดึงดูดความสนใจของหานเซิ่น
หานเซิ่นรู้ว่าเนตรมารไม่ใช่คนที่เขาจะประมาทได้ ดังนั้นเขาจึงใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับเนตรมารอย่างจริงจัง และเขาก็มีแผนที่จะใช้ท่าตบขั้นสุดยอดด้วยเช่นกัน
วิชาการต่อสู้ของเนตรมารลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันสับเปลี่ยนกันไปมาอย่างต่อเนื่อง เนตรมารมีเทคนิคมากมายจากทั้งของดราก้อน บุดด้า เดสทรอยเยอร์และอื่นอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถใช้ทุกวิชาได้อย่างเชี่ยวชาญ และในขณะที่แต่ละวิชามีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เขาก็สามารถรวมพวกมันเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ทุกเทคนิคถูกใช้อย่างงดงาม และทุกการโจมตีจะตามมาด้วยการเปลี่ยนสไตล์ที่คาดไม่ถึง
ยอดฝีมือที่ชมการต่อสู้อยู่ต่างก็สับสนกับสิ่งที่ได้เห็น โดยเฉพาะอย่างนิ่งคนที่รู้สึกว่าพวกเขากำลังได้เห็นเทคนิคในตำนานของเผ่าพันธุ์ตัวเอง
ส่วนทางด้านหานเซิ่นต่อสู้ในวิธีที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง วิชาการต่อสู้ของเขาดูเรียบง่าย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็มีความลึกซึ้งที่คนนอกไม่อาจจะเข้าใจได้
หลังจากที่มองดูท่วงท่าของเขาหลายต่อหลายท่า ผู้ชมก็เริ่มเข้าใจว่าเขากำลังใช้การเตะและต่อยในรูปแบบไหน
มันไม่สำคัญว่าเนตรมารจะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีมากสักแค่ไหน เมื่อหานเซิ่นสัมผัสมัน พลังของเนตรมารก็จะแหลกสลายเป็นผุยผง ท่าตบขั้นสุดยอดสามารถทำลายทุกโครงสร้างลำดับที่มันได้สัมผัส
ทันใดนั้นร่างกายของเนตรมารก็แยกออกเป็น 2 และทั้ง 2 ร่างก็จู่โจมหานเซิ่นพร้อมๆกัน ซึ่งมันไม่ได้เป็นแค่ภาพมายาเช่นกัน ทั้ง 2 ร่างเป็นร่างของเนตรมารจริงๆ และพวกมันทั้ง 2 ก็แข็งแกร่งเท่ากัน
“วิชาด็อพเพิลเก็งเงอร์! นั่นเป็นเทคนิคที่มีเพียงแค่เดสทรอยเยอร์เท่านั้นที่เรียนรู้มันได้?” ทุกคนแปลกใจกับสิ่งที่เห็น
ในวินาทีต่อมา พวกเขาก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อร่างทั้ง 2 ของเนตรมารแยกออกอีกครั้ง ตอนนี้มันมีเนตรมารอยู่ถึง 4 คนในสนามประลอง
วิชาด็อพเพิลเก็งเงอร์เป็นเทคนิคที่สามารถแย่งร่างของคนๆหนึ่งออกเป็น 3 เนื่องจากเผ่าเดสทรอยเยอร์มี 3 หน้าและ 6 แขน
แต่เนตรมารไม่ใช่เดสทรอยเยอร์ เขาไม่ได้มี 3 หน้าและ 6 แขน ดังนั้นเขาจึงสามารถแยกร่างออกได้ถึง 4 ร่าง นั่นเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
แต่หานเซิ่นยังไม่ได้ตอบสนองด้วยวิชาพิเศษอะไร ถึงจะตกอยู่ในวงล้อมของคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึง 4 คน แต่หานเซิ่นก็ยังคงสงบจิตใจได้ เนตรมารกดดันหานเซิ่นจากทุกทิศทางด้วยเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป ขุนนางที่ดูการต่อสู้อยู่ต่างก็สับสนถึงสิ่งที่ได้เห็น แต่มีอย่างหนึ่งที่พวกเขาสามารถเข้าใจได้ ซึ่งมันก็คือเรื่องที่เนตรมารยังไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
“ดอลลาร์น่าสะพรึงกลัวจริงๆ”
“เจ้าจำไม่ได้หรือว่าดอลลาร์คือคนที่มองทะลุวิชาต่างๆน่ะ แม้แต่พลังพิชิตมารของดราก้อนก็ไม่ได้ผลกับเขา”
“เขาแข็งแกร่งจริงๆ มนุษย์นี่มาจากไหนกันแน่? นี่พวกเขาจะไม่น่ากลัวเกินไปอย่างนั้นหรอ? อย่าบอกนะว่ามนุษย์ทุกคนเป็นแบบนี้น่ะ?”
“ไม่มีทาง ถ้ามนุษย์ทุกคนแข็งแกร่งขนาดนี้ พวกเขาจะไม่มีชื่อเสียงได้ยังไงกัน? ข้าเชื่อว่าดอลลาร์นั้นต้องเป็นยอดฝีมือเผ่ามนุษย์คนแรกในรอบหลายล้านปี”
“ดอลลาร์ฝึกวิชาจีโนแบบไหนกันแน่? โดยปกติแล้วนักสู้คนหนึ่งจะมีธาตุที่เป็นจุดอ่อนของตัวเองอยู่ แต่นี่มันไม่สำคัญว่าคู่ต่อสู้จะใช้วิชาจีโนแบบไหน เขาก็ทำลายมันได้ในชั่วพริบตา นี่มันน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว”
ในปราสาทนภา กระเรียนพันขนและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง ยวิ๋นซู่อีดึงแขนของยวิ๋นฉางคงและถาม
“ท่านพ่อ ดอลลาร์กำลังใช้วิชาอะไรกันแน่? ทำไมวิชาทั้งหมดที่เนตรมารใช้ถึงไร้ผล?”
“พ่อเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน” ยวิ๋นฉางคงส่ายหัวของเขา
เมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่น้องยวิ๋นและกระเรียนพันขนก็เบิกตากว้าง ถึงแม้ดอลลาร์จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็เป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาทำนั้นแม้แต่ราชันอย่างยวิ๋นฉางคงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่าตกใจอย่างมาก
เนตรมารขมวดคิ้วขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เขารู้ว่าพลังของตัวเองเหนือกว่าหานเซิ่นมาก แต่ทุกครั้งที่พลังของเขาเผชิญหน้ากับมนุษย์คนนี้ พลังของเขาก็จะแตกสลาย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
“นี่เขาแยกส่วนพลังของคู่ต่อสู้ในระหว่างที่ต่อสู้กันจริงๆ?”
เนตรมารเริ่มคิดว่าดอลลาร์เป็นสัตว์ประหลาดจากสมัยดึกดําบรรพ์ที่ผ่านการชีวิตมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกับตัวเอง สำหรับเขาแล้วมันไม่มีเหตุผลอื่นที่จะมาอธิบายถึงความสามารถของหานเซิ่นได้
ถึงแม้เนตรมารจะมีความสามารถในการแยกส่วนพลังเหมือนกัน แต่เขาไม่สามารถใช้มันในการต่อสู้จริงๆได้ เนื่องจากเขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อต้องตรวจสอบพวกมันก่อน
ปัง!
หานเซิ่นชกหนึ่งในร่างแยกของเนตรมาร และร่างกายนั้นก็สลายกลายเป็นผุยผง
การคาดการณ์ของศาสตร์ตงเสวียน และการเคลื่อนไหวของวิชาหมากล้อมสวรรค์ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ตอนนี้หานเซิ่นคือคนที่กำลังควบคุมการต่อสู้
ทันใดนั้นเนตรมารก็ถอยห่างออกไปในทันที และร่างด็อพเพิลเก็งเงอร์ก็กลับมาสู่ร่างหลักของเขา ขณะที่ผู้คนกำลังคาดเดาว่าเนตรมารจะทำอะไรต่อไป หน้าผากของเขาก็เริ่มเปิดออก ดวงตาที่ 3 ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา
ยวิ๋นฉางคงและเผ่านภาทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ดวงตานภา! เนตรมารเกิดใหม่เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์นภาหรอเนี่ย!”
“นั่นอธิบายว่าทำไมข้าถึงไม่เห็นเนตรมารทั้ง 4 ของเนตรมาร พวกมันอยู่ในดวงตานภาบนหน้าผากของเขานี่เอง”
“ว้าว! เขากำเนิดใหม่เป็นหนึ่งในเผ่านภา นั่นหมายความว่าเนตรมารไม่ได้ต่อสู้ด้วยพลังที่แท้จริง สำหรับเผ่านภา การเปิดดวงตาที่ 3 หมายความว่าการต่อสู้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าเนตรมารจะโกรธขึ้นมาแล้ว”
“ดอลลาร์จะต่อกรกับเนตรมารที่เปิดดวงตานภาได้หรือเปล่านะ?”
หานเซิ่นมองดวงตาที่ 3 ของเนตรมาร มันดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก และด้วยเหตุผลบางอย่างตอนนี้เมื่อรับรู้ว่าเนตรมารเป็นหนึ่งในเผ่านภา สัมผัสอันคุ้นเคยที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้ก็เพิ่มสูงขึ้น
“ต่อหน้าพลังที่แท้จริง วิชาของเจ้าก็ไม่มีความหมายอะไร”
เมื่อเนตรมารเปิดดวงตานภา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แสงสีม่วงในดวงตานภาของเขาลุกโชติช่วงและส่งต่อไปสู่ดอกไม้สีม่วงทั่วชุดเกราะของเขา เปลวไฟห่อหุ้มทั้งร่างกายของเนตรมาร