Super God Gene – ตอนที่ 2093

ความลับของไนท์โกสต์

มาร์ควิสข่านพาหานเซิ่นไปยังบ่อน้ำสีดำ 2 จุด มันเหมือนกับชาวไนท์โกสต์ที่ถูกฆ่าตาย เมื่อหานเซิ่นสแกนด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน เขาก็สัมผัสได้เฉพาะร่องรอยของทอรัสและข่าน มันมีร่องรองของไนท์โกสต์อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตอะไรนอกเหนือไปจากนั้น

 

ถึงจะตรวจดูกล้องวงจรปิดทุกตัวแล้ว พวกเขาก็ยังหาตัวคนร้ายไม่เจออยู่ดี ทอรัส 2 คนนั้นตายภายในห้อง ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบอกว่าไม่มีใครคนอื่นเข้าไปในห้องของพวกเขา และประตูห้องก็ล็อคเอาไว้ จนกระทั่งทอรัสคนอื่นพังประตูเข้าไปหลังจากที่พบว่าทอรัสทั้ง 2 หายตัวไปเป็นเวลานาน

 

หานเซิ่นไม่ใช่นักสืบ และเขาก็มีแผนที่จะปล่อยให้ไผ่เดียวดายเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ก่อนที่หานเซิ่นจะจากไป เขาก็หันกลับมาหาข่าน

 

“มาร์ควิสข่าน ข้าขอถามได้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

สีหน้าของข่านไม่ได้เปลี่ยนไป เขาพูดอย่างใจเย็น “นั่นเป็นเพราะสินค้าที่ไนท์โกสต์สั่งเป็นสิ่งที่มีราคาแพง ด้วยเหตุนั้นข้าจึงต้องมาส่งของด้วยตัวเอง ข้าเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นหลังจากการมาถึงของข้า”

 

“ข้าขอถามได้ไหมว่าสินค้าที่มีราคาแพงนั่นคืออะไร?” หานเซิ่นถาม

 

“ต้องขอโทษด้วย แต่พวกเราจำเป็นต้องรักษาความลับของลูกค้า ถ้าเจ้าอยากจะรู้ว่าสินค้าคืออะไร เจ้าควรจะไปถามกับดยุกสลีปเลสส์เอง” ข่านพูด

 

หานเซิ่นพยักหน้าและเตรียมตัวจะจากไป แต่หลังจากที่เดินไปได้ 2 ก้าว เขาก็ถอยกลับมา

“สินค้าพวกนั้นถูกส่งไปแล้วหรือยัง?”

 

“ถูกส่งเรียบร้อยแล้ว” ข่านตอบ

 

“ขอบคุณที่บอก” หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เดินออกไปจากฐานของทอรัส

 

“เจ้าเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างนั้นหรอ?” ลี่ตั่วถามหานเซิ่นขณะที่เดินทางกลับ

 

ข่านรู้ว่าหานเซิ่นเป็นใคร และเขาก็ค่อนข้างมีมารยาทกับหานเซิ่น ซึ่งนั่นทำให้เธอประหลาดใจ เพราะคนเดียวที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนั้นจากข่านมีแค่ดยุกสลีปเลสส์เท่านั้น

 

แต่เมื่อลี่ตั่วลองคิดถึงท่าทางที่ข่านปฏิบัติกับหานเซิ่นดูดีๆแล้ว มันก็ดูเหมือนว่าข่านเพียงแค่หวาดระแวงมากกว่า

 

“ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แค่ข้าไปฆ่าเดม่อนคนหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงเกลียดชังข้า” หานเซิ่นหัวเราะ

 

“อย่างนี้นี่เอง” ลี่ตั่วประหลาดใจ

 

หานเซิ่นหันมามองลี่ตั่วและพูด “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนิทกับข่านน่าดูเลย”

 

ลี่ตั่วหน้าแดง “พวกเราไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น เขาและแม่ของข้าทำการแลกเปลี่ยนกันอยู่บ่อยๆ และเขาก็เอาชนะนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเราได้ในงานประลอง นั่นเป็นสาเหตุที่ข้าได้รู้จักกับเขา”

 

“แม่ของเจ้าซื้ออะไรกันแน่ ถึงทำให้มาร์ควิสคนหนึ่งต้องมาส่งมันด้วยตัวเอง” หานเซิ่นถาม

 

“ข้าไม่รู้” ลี่ตั่วส่ายหัว

 

หานเซิ่นถามอีก 2-3 ถามคำถาม หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ของดยุกพร้อมกับเป่าเอ๋อ เมื่อกลับไปถึง หานเซิ่นก็เห็นว่าไผ่เดียวดายนั้นนอนอยู่

 

“เจ้าพบอะไรไหม?” หานเซิ่นถาม

 

“มันมีปัญหาบางอย่างกับดยุกสลีปเลสส์” ไผ่เดียวดายพูดอย่างมั่นใจขณะที่ลืมตาขึ้นมา

 

“ปัญหาอะไร?” หานเซิ่นรีบถาม

 

“ข้าไม่รู้ แต่ข้าพอจะบอกได้ว่านางปิดบังอะไรบางอย่างอยู่” ไผ่เดียวดายพูด

 

หานเซิ่นบอกไผ่เดียวดายถึงสิ่งที่รู้และไผ่เดียวดายก็ถอนหายใจออกมา

“เท่าที่ข้ารู้ ไนท์โกสต์นั้นต้องการอาหารเพื่อจะอยู่รอด แต่พวกเขากินเฉพาะเนื้อสดๆเท่านั้น พวกเขาจะไม่กินอะไรที่ตายนานเกินกว่าหนึ่งวัน ทอรัสนำสิ่งมีชีวิตมาให้กับพวกเขา แต่เนื่องจากกฎของปราสาทนภา สิ่งมีชีวิตต้องถูกฆ่าซะก่อน ถึงนำเข้ามาบนถนนไนท์ริงสายสิบสองได้”

 

“เรื่องนั้นมันสำคัญยังไง?” หานเซิ่นพูด

 

“ไนท์โกสต์เป็นเผ่าพันธุ์ที่กินเนื้อสดๆ แต่เหตุผลที่ทำไมพวกเขาต้องกินเนื้อสดๆอยู่ ไม่ใช่เพื่อเติมเต็มกระเพาะของพวกเขา พวกเขาไม่ได้แค่กินเนื้อ พวกเขากลืนกินบางสิ่งที่พวกเราไม่อาจจะเข้าใจได้ การเปรียบเทียบที่ดีที่สุดก็คือพวกเขากินดวงวิญญาณของเหยื่อ”

 

“ดวงวิญญาณ?” หานเซิ่นประหลาดใจ จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าดวงวิญญาณนั้นมีอยู่จริง

 

“มันก็แค่การเปรียบเทียบเท่านั้น เมื่อไนท์โกสต์กินเนื้อของเหยื่อ พวกเขาจะดูดซับสสารบางอย่างเข้าไปด้วย มันเสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความแข็งแกร่งทางจิตใจ ไนท์โกสต์ระดับดยุกมีจิตใจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับราชันซะอีก” ไผ่เดียวดายพูด

 

หานเซิ่นประหลาดใจกับเรื่องนั้น “เหนือกว่าระดับราชันอีกอย่างนั้นหรอ? มันเป็นระดับเทพเจ้าหรือระดับครึ่งเทพกัน?”

 

“มันควรจะเป็นระดับครึ่งเทพ” ไผ่เดียวดายพูดต่อ

“แต่การวิวัฒนาการรูปแบบนั้นเป็นเหมือนกับการขี้โกง ยิ่งเวลาผ่านไปจิตใจของพวกเขาก็จะเริ่มสับสน และดวงวิญญาณของพวกเขาเองก็อาจจะรวมเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่พวกเขากลืนกินเข้าไป พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือด พวกเขาจะฆ่าแม้แต่ครอบครัวของตัวเอง ด้วยเหตุนั้นปราสาทนภาจึงห้ามไม่ให้พวกเขากินสิ่งมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่”

 

“เจ้าคิดว่าข่านมอบบางสิ่งที่มีชีวิตให้กับดยุกสลีปเลสส์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นเข้าใจสิ่งที่ไผ่เดียวดายกำลังคิดอยู่

 

ไผ่เดียวดายพยักหน้าและพูดต่อ “มันเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น ปราสาทนภาจับตาดูสถานการณ์บนดาวดวงนี้มาโดยตลอด และตลอดหลายปีที่ผ่านมาทุกอย่างก็ราบรื่นดี แต่บางทีคนที่จับตาดูอยู่อาจจะทำพลาด และตอนนี้ก็มีใครบางคนใช้ประโยชน์จากเรื่องนั้น เป็นอย่างที่เจ้าพูด ตัวตนของข่านเป็นอะไรที่น่าสงสัย สินค้าแบบไหนกันที่จำเป็นจะต้องให้เดม่อนระดับมาร์ควิสคนหนึ่งมาคอยดูแลด้วยตัวเอง?”

 

“เจ้าคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมบนดาวไนท์โกสต์ไหม?” หานเซิ่นถาม

 

“ข้าไม่แน่ใจ พวกเราต้องไปถามจากนาง” ไผ่เดียวดายพูด

 

“นางจะยอมรับเรื่องนี้อย่างนั้นหรอ?” ถึงแม้การคาดเดาของไผ่เดียวดายจะถูกต้อง แต่หานเซิ่นก็ไม่คิดว่าดยุกสลีปเลสส์จะยอมรับความจริงออกมา

 

“นางไม่มีทางเลือก” ไผ่เดียวดายพูดอย่างสงบ

 

หานเซิ่นไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ไผ่เดียวดายเป็นคนตัดสินใจ

 

ไผ่เดียวดายต้องการจะหาความจริงจากดยุกสลีปเลสส์โดยตรง แต่ผู้คนในคฤหาสน์บอกว่าเธอออกไปข้างนอก และอีก 2 ชั่วโมงกว่าที่เธอจะกลับมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset