Super God Gene – ตอนที่ 2064

มังกรโลหิตพิโรธ

หานเซิ่นไม่สนใจ เขายังคงกวัดแกว่งมีดลมปราณใส่ศัตรูต่อไป ถึงส่วนใหญ่จะล้มเหลว แต่ก็มีบางส่วนที่ใกล้เคียงจะเป็นรูปร่าง

 

อาภามังกรของดราก้อนไนน์ไม่สามารถสัมผัสตัวของหานเซิ่นได้ มันทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ อาภามังกรส่องสว่างยิ่งกว่าเดิม และแสงในปีกของเขาก็เริ่มดูเป็นรูปธรรมขึ้นมา มันเหมือนกับหมอกเลือดที่บดบังท้องฟ้า

 

เกล็ดสีแดงปรากฏขึ้นทั่วร่างดราก้อนไนน์ และที่มือของเขาก็มีกรงเล็บมังกรสีแดงงอกออกมา ร่างของเขาใหญ่โตขึ้น 2 เท่า ทำให้ตอนนี้เขาสูงถึง 4 เมตร

 

หานเซิ่นมองไปที่ดราก้อนไนน์ ขณะที่ยังคงกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตเพื่อสร้างมีดเส้นไหมต่อไป ดราก้อนไนน์ไม่คิดแม้แต่จะหลบ เขาปล่อยให้พวกมันเข้ามาถูกตัวของเขา เพราะอาภามังกรโลหิตจะทำลายพวกมันก่อนที่จะสัมผัสกับเกล็ดของเขา

 

“ร่างซีโน่เจเนอิคของเจ้าดีจริงๆ” หานเซิ่นพูดอย่างมีมารยาท

 

ดราก้อนไนน์พูดเสียงแข็ง “ร่างมังกรซีโน่เจเนอิคไม่ใช่อะไรที่พิเศษสำหรับพวกเราดราก้อน แต่ทว่าร่างมังกรโลหิตของข้านั้นต่างออกไป ถึงจ้าจะเทเลพอร์ตไปมาได้ ตอนนี้ข้ากลายเป็นสิ่งที่เจ้าไม่มีหวังจะหนีไปได้อีก”

 

หานเซิ่นเริ่มจะจับสัมผัสสิ่งที่จำเป็นต้องทำได้แล้ว มีดเส้นไหมที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยพลังที่หนักแน่นและอ่อนโยนเริ่มมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็มีคือเรียนรู้จากดราก้อนไนน์อีกเล็กน้อยเพื่อทำให้พวกมันแข็งแกร่งเช่นเดียวกับอาภามังกร

 

ในขณะเดียวกันดราก้อนไนน์ก็ยกหอกขึ้นด้วยทั้ง 2 มือ และอาภามังกรของเขาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วหอก ไม่นานหอกก็ตอบสนองราวกับว่ามันมีชีวิต มันกลายเป็นเหมือนกับมังกรโลหิตที่คำรามออกมาและแสงของมันก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตต่อไป มีดเส้นไหมของเขาตัดตามร่างของดราก้อนไนน์ซ้ำๆ แต่พวกมันไม่สามารถทำอะไรร่างกายของดราก้อนไนน์ได้

 

“น้องไนน์ดูเหมือนจะโกรธแล้วจริงๆ เขากำลังใช้มังกรโลหิตพิโรธ!” ดราก้อนเซเว่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ดราก้อนฟิฟทีนพูด “ถ้านี่คือทั้งหมดที่พี่ไนน์ต้องทำเพื่อฆ่าหานเซิ่น เขาก็ควรรีบลงมือ การเสียเวลาพูดคุยเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์”

 

หานเซิ่นดูตรึงเครียด เขารู้ว่าหอกของดราก้อนไนน์ทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงเริ่มกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตอย่างรวดเร็วขึ้นไปอีก

 

“หานเซิ่น รับมังกรโลหิตพิโรธของข้า!”

พลังในร่างกายของดราก้อนไนน์เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด ดราก้อนไนน์กระพือปีกมังกรสีแดงและหอกที่ดูเหมือนกับมอนสเตอร์ที่หิวกระหายก็พุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่นเพื่อกลืนกินเขา

 

หานเซิ่นกระพือปีกและเทเลพอร์ตออกไป 100 เมตร ซึ่งนี่เป็นระยะที่ไกลที่สุดแล้ว

 

แต่เมื่อหานเซิ่นถอยออกไป ร่างของมังกรโลหิตก็ระเบิดออก และอาภามังกรก็พุ่งออกไปรอบทิศทางราวกับดอกไม้ไฟ มันไม่เหมือนกับลูกศรที่ยิงออกไปลูกหนึ่งและจบ

 

อาภามังกรที่ระเบิดออกเป็นเหมือนกับลูกเห็บที่พุ่งออกไปรอบทิศทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ว่าหานเซิ่นจะเคลื่อนที่ไปทางไหน เขาก็ไม่สามารถหลบมันได้

 

อาภามังกรไม่ได้ระเบิดออกไปรอบๆอย่างมั่วๆ ถ้าหานเซิ่นถูกมันเข้าแม้แต่ครั้งเดียว ลำแสงอื่นๆก็จะพุ่งมาใส่เขา

 

ร่างกายของหานเซิ่นกลายเป็นเบาะสำหรับปักเข็ม ซึ่งแม้แต่ยอดฝีมือระดับดยุกก็ไม่สามารถหนีจากพลังที่ร้ายกาจแบบนั้นได้

 

ระยะสูงสุดในการเทเลพอร์ตคือ 100 เมตร ซึ่งหานเซิ่นรู้ว่านั่นไม่ไกลพอที่จะหนีจากรัศมีของมังกรโลหิตพิโรธได้

 

“ถ้าหนีไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้น”

หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตใส่อาภามังกรอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้วิชาใต้นภาอีกต่อไป ตอนนี้เขากำลังใช้วิชามีดเขี้ยวดาบ

 

มีดลมปราณสีม่วงกลายเป็นเขี้ยวพิษที่พุ่งเข้าไปปะทะกับอาภามังกร แต่ในวินาทีต่อมามันก็ถูกทำลาย และมังกรโลหิตพิโรธก็พุ่งเข้ามาหาหานเซิ่นต่อ

 

หานเซิ่นถอยไปพร้อมกับกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิต มีดลมปราณสีม่วงพุ่งเข้าไปปะทะกับอาภามังกรอีกครั้งหนึ่ง

 

พลังเขี้ยวแตกสลาย แต่ในครั้งนี้มันแตกสลายช้าลงกว่าเดิม มันช่วยชะลอความเร็วของมังกรโลหิตพิโรธไปได้มาก ทำให้หานเซิ่นมีเวลามากพอที่จะออกจากรัศมีของมัน

 

แต่มังกรโลหิตพิโรธเป็นเหมือนกับสิ่งที่มีชีวิต อาภามังกรกลายเป็นมังกรสีแดงที่พยายามจะกินหานเซิ่น และเมื่อหานเซิ่นหลบ มันก็จะระเบิดออก

 

“ดูสิว่าเจ้าจะเทเลพอร์ตได้สักกี่ครั้ง” ดราก้อนไนน์มองดูมังกรโลหิตพิโรธไล่ต้อนหานเซิ่น

 

หานเซิ่นใช้พลังเขี้ยวอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พวกมันแข็งกว่าปกติ เมื่อพลังทั้ง 2 ปะทะกัน มันก็ใช้เวลานานกว่าเดิมก่อนที่พลังเขี้ยวของหานเซิ่นจะแตกสลาย

 

ดราก้อนเซเว่นตกตะลึง “พลังเขี้ยวของเขาตอนนี้ดูแตกต่างไป”

 

“แตกต่างยังไง? ถึงเขาจะพยายามลอกเลียนแบบพี่ไนน์ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะใช้อาภามังกรโลหิตได้ดีเหมือนกับพี่ไนน์” ดราก้อนฟิฟทีนอย่างถือตัว

 

แต่ทว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่ดราก้อนฟิฟทีนคิด เมื่อหานเซิ่นใช้พลังเขี้ยวครั้งที่ 4 มีดลมปราณสีม่วงก็ยังถูกทำลายโดยมังกรโลหิตพิโรธ แต่ทว่ามันสามารถตัดเข้าไปในอาภามังกรได้เล็กน้อย

 

หานเซิ่นต้องการใช้พลังที่อ่อนและแข็งกับมีดเส้นไหม แต่มีดเส้นไหมเป็นเพียงแค่เส้นบางๆ มันแย่กว่าอาภามังกรของดราก้อนไนน์เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว

 

แต่เมื่อหานเซิ่นพยายามใช้มันกับวิชามีดเขี้ยวดาบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างออกไป พลังที่อ่อนและแข็งประสานกับพลังเขี้ยวได้เป็นอย่างดี เมื่ออัดแน่นแล้วพลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อาภามังกรจะสามารถทำได้

 

หลังจากที่ใส่ความอ่อนเข้าไป พลังเขี้ยวก็กลายเป็นพลังที่ทั้งอ่อนและแข็ง มันไม่ได้แตกสลายอีกต่อไป

 

ถ้ามันแข็งเกินไป มันก็จะแตกได้ง่าย แต่ถ้ามันอ่อนเกินไป มันก็จะงอ แต่พลังเขี้ยวสามารถใช้ประโยชน์จากทั้ง 2 อย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้พลังในการฉีกขาดของมันรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

 

เขี้ยวพิษและอาภามังกรปะทะกันในอากาศ ในตอนแรกพลังเขี้ยวของหานเซิ่นเสียเปรียบ

 

แต่หลังจากที่หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตไปหลายครั้งๆ พลังเขี้ยวก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หลังจากฟันครั้งที่ 10 เขาก็สามารถต่อสู้กับอาภามังกรโลหิตพิโรธได้ตรงๆ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset