Super God Gene – ตอนที่ 1960

นิ้วของหานเซิ่นส่องแสงสีทองออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้าก็ส่องสว่างขึ้น ขณะที่แสงสีทองกลายเป็นเหรียญร่วงลงมาจากท้องฟ้า พวกมันปกคลุมทั่วทั้งบริเวณในระยะหลายสิบไมล์

 

ไวเคานต์ทั่วๆไปไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ได้ อย่างเต็มที่พวกเขาก็สามารถใช้พลังได้ในระยะไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น แต่ตอนนี้หานเซิ่นมีชุดเกราะวิญญาณช่วยเสริมพลังอยู่ เงาของรูปปั้นบุดด้าสี่หน้าแปดแขนนั้นซ่อนอยู่ด้านหลังของเขา และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถเรียกเหรียญจำนวนมากลงมาจากฝากฟ้าได้

 

แสงสีทองทั้งหมดกลายเป็นเหรียญและหล่นลงมาใส่หุ่นต่อสู้ของมีก้า มันเหมือนกับว่าเหล่ามีก้าถูกโลหะขนาดใหญ่หล่นทับ ทำให้ตัวของพวกเขาหนักอึ้ง

 

หุ่นต่อสู้ระดับต่ำล้มลงกับพื้นในทันที ส่วนหุ่นต่อสู้ระดับสูงนั้นเคลื่อนไหวเชื่องช้าอย่างมาก

 

“อมิตาพุต!” ราชาเคลียร์ซีพุ่งผ่านสายฝนเหรียญและตรงเข้าไปหาหานเซิ่น เขาสะบัดแขนเสื้อและพยายามจะจับตัวหานเซิ่นเข้าไปข้างใน

 

หานเซิ่นไม่ได้แสดงทีท่าจะหลบ มือข้างซ้ายของเขามีหมอกสีแดงปกคลุมอยู่ เมื่อมันส่องขึ้นมา หุ่นต่อสู้ในชุดเกราะสีแดงก็ปรากฏขึ้น และชกหมัดเข้าใส่ราชาเคลียร์ซี

 

ตูม!

 

พลังหมอกแดงที่น่ากลัวถูกชกเข้าไปในแขนเสื้อของราชาเคลียร์ซี แขนเสื้อถูกฉีกขาดและแสงสีแดงก็พุ่งผ่านเข้าไปถูกเข้าที่อกของเขา

 

ราชาเคลียร์ซีกระอักเลือดออกมา ขณะที่กระเด็นออกไป เขาพุ่งออกไปตามถนนราวกับลูกอุกกาบาตและชนเข้ากับบ้านของราชาแบทเทิลจนพังทลายไปกว่าครึ่ง

 

ทุกคนที่มองดูอยู่ตกตะลึง ไม่มีใครเชื่อได้ว่าราชันคนหนึ่งจะถูกส่งกระเด็นออกไปแบบนั้น

 

หานเซิ่นเองก็ตกใจเช่นกัน เขาใช้ความประมาทของราชาเคลียร์ซีที่เห็นว่าคู่ต่อสู้อ่อนแอกว่าให้เป็นประโยชน์ เขาไม่ได้คาดคิดว่าการใช้พลังงานน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์จะสามารถทำให้ราชันคนหนึ่งกระเด็นไปได้ไกลขนาดนั้น

 

แต่หานเซิ่นไม่มีเวลาจะมามัวคิดอะไรมาก ราชาหมอกแดงรีบอุ้มหานเซิ่นขึ้นมาและวิ่งเข้าไปหาเครื่องเทเลพอร์ตอย่างรวดเร็ว

 

ตูม!

 

สิ่งก่อสร้างและหุ่นต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าราชาหมอกแดงถูกผลักกระเด็นออกไป

 

เหล่ามีก้าต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางทางของหานเซิ่น เพราะแม้แต่ราชาเคลียร์ก็ยังถูกชกให้กระเด็นออกไป

 

เสียงคำรามดังออกมาจากบ้านของราชาแบทเทิล ราชาแบทเทิลขึ้นขี่หุ่นต่อสู้ร่างหมีตัวใหญ่ยักษ์ของเขาและรีบวิ่งเข้ามา เขาต้องการจะหยุดหานเซิ่นและราชาหมอกแดงเอาไว้

 

ราชาแบทเทิลไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาคิดว่าเนื่องจากมีราชาเคลียร์ซียืนประกบหานเซิ่นอยู่ เขาจึงแค่ส่งลูกน้องประจำตำแหน่งเอาไว้ เขาไม่ได้คิดว่าหานเซิ่นจะมีของอะไรแบบนั้น และตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่เขาจะทำอะไร ราชาหมอกแดงกระโดดขึ้นไปบนเครื่องเทเลพอร์ตพร้อมกับหานเซิ่นและหายตัวไปท่ามกลางการบิดเบือนของมิติ

 

ราชาแบทเทิลคำรามออกมา หุ่นต่อสู้ของเขาชกใส่เครื่องเทเลพอร์ตจนพัง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่หายโกรธ

 

ราชาเคลียร์ซีลุกขึ้นมาจากเศษหินด้วยริมผีปากที่เปื้อนเลือด เขาดูสะบักสะบอม แต่ที่สำคัญที่สุดเขาโกรธอย่างมาก

 

หานเซิ่นเทเลพอร์ตกลับไปยังปราสาททองแดง เขาลงจากมือของราชาหมอกแดงและเจ็ดน้อยก็ออกมาจากหัวใจของราชาหมอกแดง

 

หมัดที่ใช้ชกใส่ราชาเคลียร์ซีเป็นพลังงานเกือบทั้งหมดของราชาหมอกแดง ตอนนี้มันมีพลังเหลืออยู่ไม่ถึง 0.01 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดสำหรับหานเซิ่นที่ได้เห็น

 

โชคดีที่เขาได้รับคริสตัลทรายดาราจักรมา 100 เม็ด ถ้าเขาไม่ได้พวกมันมา มันก็จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

 

เมื่อกลับมาบนดาวอุปราคา หานเซิ่นก็ทำการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับมีก้า เขาสังเกตเห็นว่าข่าวของดอลลาร์และราชาเคลียร์ซีถูกแพร่สะดัดออกไปทั่วจักรวาล

 

ทางบุดด้าและมีก้าได้ออกประกาศจับราชาหมอกแดงและดอลลาร์ ถ้าใครก็ตามสามารถที่แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม พวกเขาจะได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงาม

 

เมื่อหานเซิ่นเห็นรางวัลตอบแทน แม้แต่เขาเองก็รู้สึกอยากจะนำราชาหมอกแดงไปส่งให้พวกเขา

 

ทั้งจักรวาลต่างก็พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คนส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องของราชาหมอกแดง ผู้คนเชื่อว่ามันต้องเป็นหุ่นต่อสู้ที่หายากและเป็นระดับราชัน แต่มันไม่เคยมีใครเคยเห็นราชาหมอกแดงมาก่อน แม้แต่พวกมีก้าก็ไม่รู้เกี่ยวกับมัน ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่ากลัว

 

หุ่นต่อสู้อันลึกลับกับมนุษย์ที่ชื่อดอลลาร์สามารถฉ้อโกงราชาของบุดด้าและหนีจากดวงดาวของมีก้าได้สำเร็จ มันเป็นเรื่องที่ฟังดูไม่น่าเชื่อ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางบุดด้ากำลังเร่งรีบตามหาตัวดอลลาร์ให้ได้ พวกเขาเพิ่งจะสูญเสียบุดด้าเจ็ดวิญญาณไป และตอนนี้สปีชเลสส์ก็ยังถูกลักพาตัวไปอีก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะหายังไง มันก็ไม่มีใครสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับดอลลาร์และราชาหมอกแดงได้เลย

 

เมื่ออี๋ซาได้ยินข่าวว่าดอลลาร์ปรากฏตัวบนดาวของมีก้า เธอเองก็ส่งคนออกไปหาข้อมูลเช่นเดียวกัน แต่เธอก็ไม่พบอะไร

 

หานเซิ่นนำทรายดาราจักรทั้ง 100 เม็ดกลับไปที่สหพันธ์ เขามีแผนที่จะใช้พวกมันขณะที่ฝึกฝนเรื่องราวของยีน

 

วิชาจีโนอื่นๆของเขาสามารถเพิ่มระดับขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน แต่เรื่องราวของยีนนั้นจำเป็นต้องพึ่งพลังงานจากภายนอกเข้ามาช่วย

 

หานเซิ่นนำทรายดาราจักรมากองรวมกันตรงหน้า แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มสกัดพวกมัน เขาก็เห็นเงาสีฟ้าเดินผ่านกำแพงเข้ามา มันดูเหมือนกับวิญญาณ

 

“ดาวน้อย ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” หานเซิ่นประหลาดใจที่ได้เห็นดาวน้อย ดาวน้อยได้กินยีนซีโน่เจเนอิคเข้าไปจำนวนมาก และมันเองก็มีพรสวรรค์ที่สูง ดังนั้นมันจึงสามารถวิวัฒนาการออกมาสู่สหพันธ์ได้สำเร็จ

 

ดาวน้อยเป็นมอนสเตอร์ที่เชื่องมากๆ และถึงมันจะเดินทางผ่านวัตถุต่างๆได้ แต่มันก็ไม่เคยเข้ามาในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน

 

ดาวน้อยยกเลิกพลังในการเดินทางข้ามสิ่งกีดขวางและมาหยุดตรงหน้าของหานเซิ่น มันจ้องมองไปที่ทรายดาราจักรของหานเซิ่น

 

“เจ้าต้องการพวกมันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่คิดกับตัวเอง ‘ชื่อเดิมของดาวน้อยคืออสูรดวงดาวสมุทร ทรายดาราจักรพวกนี้ได้มาจากมังกรดาราจักร พวกมันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างนั้นหรอ?’

 

ดาวน้อยพยักหน้าและเริ่มเลียหน้าของหานเซิ่น

 

“แต่ข้าต้องลำบากอย่างมากกว่าที่จะได้พวกมันมา” หานเซิ่นมองกล่องใส่ทรายดาราจักรอย่างเสียดาย

 

แต่เมื่อเห็นใบหน้าของดาวน้อย เขาก็ไม่ต้องการจะปฏิเสธมัน ดังนั้นเขาจึงหยิบขึ้นมาอันหนึ่งและพูด “ข้าจะให้เจ้าลองสักเม็ดหนึ่งล่ะกัน”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset