เห็นได้ชัดว่าราชาแบทเทิลและราชาเคลียร์ซีกำลังหมายตาเจ็ดน้อยอยู่ หานเซิ่นจึงลังเลว่าควรจะกลับไปตอนนี้เลยดีไหม แต่ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเดินออกมา มันคือสปีชเลสส์และบุดด้าคนอื่นๆ
หานเซิ่นไม่ได้เห็นราชาเคลียร์ซีออกมาด้วย มันมีแค่บุดด้าหนุ่มสาวเท่านั้นที่เดินออกมา
หานเซิ่นเดินตามพวกเขาไปโดยสวมใส่ชุดเกราะตงเสวียนเอาไว้ เขาไม่ได้ใช้ความพยายามในการซ่อนตัวอะไรมากนัก เพราะสปีชเลสส์และคนอื่นๆดูเหมือนจะไม่ได้ระมัดระวังอะไรมาก พวกเขาแค่เดินไปรอบๆและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
หานเซิ่นติดตามพวกเขาอยู่ครั้งวัน แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรที่มีประโยชน์เลย พวกเขาพูดคุยกันแค่เรื่องทั่วๆไป แต่ในตอนที่หานเซิ่นกำลังจะยอมแพ้ บุดด้าหนุ่มคนหนึ่งก็พูดขึ้นมา
“ท่านราชากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมเขาถึงต้องการจะแลกทรายดาราจักรกับทารกของมีก้าด้วย?”
หานเซิ่นประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทรายดาราจักรมาก่อน มันเป็นสมบัติที่มีชื่อเสียงมากของบุดด้า
ทรายดาราจักรไม่ใช่ทรายจริงๆ แต่พวกมันเป็นน้ำตาของซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่มีชื่อว่ามังกรดาราจักร หยดน้ำตาแต่ละหยดของมันจะกลายเป็นทรายดาราจักร ซึ่งมันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก
ทรายดาราจักรกักเก็บพลังงานมหาศาลเอาไว้ ถ้าสิ่งมีชีวิตระดับราชันสกัดทรายดาราจักร พวกเขาก็จะได้รับประโยชน์มากมาย ส่วนสิ่งมีชีวิตระดับต่ำสามารถจะใช้มันเพิ่มระดับขึ้นได้ในทันที
การที่ราชาเคลียร์ซียอมแลกเปลี่ยนมันกับมีก้าเด็กๆถือเป็นอะไรที่น่าตกใจ ดังนั้นเขาจะต้องวางแผนอะไรบางอย่างอยู่แน่
“ชู่ว์” บุดด้าอีกคนทำท่าทางบอกให้เขาเงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็พูด
“อย่าได้พูดเกี่ยวกับมัน ที่นี่คือดาวของมีก้า พวกเราจะปล่อยให้พวกเขารู้เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนไม่ได้”
“มีอะไรต้องกลัว? ที่นี่คือเขตแดนของราชาแบทเทิล เขาคือคนที่ขายมีก้าเด็กๆให้กับพวกเราเอง คนอื่นๆจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้?”
ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะพูดอะไรไปมากกว่านี้
สปีชเลสส์ขมวดคิ้วและพูด “ยังไงพวกเราก็ควรระวังตัวเอาไว้ เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ”
สปีชเลสส์และคนอื่นเดินดูรอบๆต่อไป หานเซิ่นไม่คิดว่าจะได้รู้อะไรที่มีประโยชน์มากไปกว่านั้น แต่ทันใดนั้นสปีชเลสส์ก็ได้รับข้อความ หลังจากนั้นเธอก็พูดกับบุดด้าคนอื่นๆ “ท่านราชาเรียกให้ข้าไปพบ พวกเจ้าไปกันต่อเถอะ ข้าจะกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ทำไมพวกเราไม่กลับไปพร้อมกับล่ะ?” บุดด้าคนหนึ่งพูด
“ไม่เป็นไร” สปีชเลสส์ส่ายหัวและออกจากกลุ่มไป
หานเซิ่นติดตามเธอไป ถึงเขาจะไม่สามารถต่อกรกับราชาเคลียร์ซีได้ แต่สปีชเลสส์เป็นเพียงแค่ไวเคานต์ และถ้าจำเป็นจริงๆ เขาก็สามารถพาตัวเธอไปได้
หานเซิ่นมีแผนจะจับตัวเธอเพื่อถามว่าทำไมราชาเคลียร์ซีถึงต้องการตัวเด็กๆของมีก้า
สปีชเลสส์เดินกลับไปที่บ้านของราชาแบทเทิลตามลำพัง แต่ทว่าเมื่อเธอเลี้ยวที่หัวมุมหนึ่ง เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีทองปรากฏตัวตรงหน้าเธอ มันมีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับเขา แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
“ข้าคือสปีลเลสส์จากบุดด้า เจ้าคือใคร? ทำไมเจ้าถึงได้มาขวางทางข้า?” สปีชเลสส์ดูระมัดระวัง เธอสังเกตชายคนนั้นอย่างละเอียดขณะที่พูดออกมา
เธอจดจำชุดเกราะของหานเซิ่นได้ เธอจึงรู้ว่าเขาก็คือเจ้าของของเจ็ดน้อย
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อจะจับตัวเธอ
สปีชเลสส์เห็นมือใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าฝ่ามือกำลังกลืนกินทั้งอวกาศเข้าไป เธอรู้สึกราวกับว่ามันไม่มีที่ไหนให้เธอหนีไปได้
แสงบุดด้าระเบิดออกมาจากตัวของสปีชเลสส์ เธอเรียกดาบออกมาและใช้มันฟันเข้าใส่หานเซิ่น พร้อมกับพูดเพื่อปล่อยพลังเสียงออกมา
บ้านของราชาแบทเทิลอยู่ห่างออกไป 2 กิโลเมตร ดังนั้นเสียงร้องของเธอจะไปถึงราชาเคลียร์ซี และด้วยพลังของเขา เขาจะต้องมาช่วยเหลือเธอได้ทันแน่นอน
แต่เมื่อเธอเปิดปากเพื่อปลดปล่อยพลังเสียงออกมา พลังที่ออกมากลับไร้ซึ่งเสียง มันเป็นพลังเสียงที่ว่างเปล่า
สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป และก่อนที่เธอจะตอบสนองอะไรได้ หานเซิ่นก็จับดาบของเธอเอาไว้ ขณะที่มืออีกข้างดีดเหรียญเข้าไปที่อกของเธอ
ทันใดนั้นสปีชเลสส์ก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา เธอทรุดตัวลงไปกับพื้น แต่เธอพยายามจะยันตัวเองเอาไว้ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง ดังนั้นเธอจึงยังไม่ได้ล้มลงไป
หานเซิ่นใช้ดาบจี้ไปที่คอของสปีชเลสส์และพูด “เจ้าต้องตอบคำถามของข้ามาตามตรง ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดหัวของเจ้า”
สปีชเลสส์ใช้พลังทั้งหมดค้ำตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไป แต่พลังที่น่ากลัวของเหรียญ ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าหน้าอกกำลังจะระเบิดออกมา ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปทั่วร่างของเธอ
“เจ้าเป็นใครกัน? เจ้าไม่รู้หรือว่าราชาเคลียร์ซีของบุดด้าและราชาแบทเทิลของมีก้าอยู่ใกล้ๆนี่ ถ้าเจ้าฆ่าข้าล่ะก็ เจ้าก็ต้องตายตามข้าไปในไม่ช้า” สปีชเลสส์พูดขณะที่พยายามยันพื้นเอาไว้
“ข้าไม่รู้ว่าตัวเองจะตายหรือเปล่า แต่เจ้าจะตายแน่ๆ ถ้าไม่ยอมตอบคำถามของข้า ทำไมพวกเจ้าถึงได้ซื้อตัวเด็กๆของมีก้า?” หานเซิ่นถาม
สปีชเลสส์ไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเธอยินดีจะเก็บความลับลงสุสานไปพร้อมกับเธอ
หานเซิ่นใช้ดาบฟันใส่ชุดเกราะของสปีชเลสส์ ทำให้ผิวของเธอเปิดเผยออกมา
“เจ้ากำลังจะทำอะไร?” สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป
“อย่าได้กังวล ข้าไม่สนใจผู้หญิงอย่างเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมตอบคำถามของข้าล่ะก็ ข้าจะจับเจ้าแก้ผ้าซะ และเจ้าจะได้เดินไปบนถนนอย่างเปลือยเปล่า หลังจากนั้นข้าก็ค่อยตัดหัวของเจ้า”
หลังจากนั้นหานเซิ่นพูดก็ต่อ “ข้าเป็นผู้ชายใจร้อน ดังนั้นข้าจะขอถามเจ้าอีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำไมพวกเจ้าถึงซื้อตัวพวกเด็กๆของมีก้า?”
สปีชเลสส์ยังคงปิดปากเงียบ เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร หานเซิ่นก็ตัดส่วนล่างของชุดเกราะเธอออก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มจะลากตัวเธอไป
“พวกเราซื้อตัวมีก้าไปก็เพื่อซ่อมแซมอาวุธระดับเทพเจ้า!” สปีชเลสส์รีบพูดออกมา
“อาวุธอะไร? มันจะถูกซ่อมแซมได้ยังไง?” หานซ่นถาม
“ข้าไม่รู้! ข้าเพียงแค่ได้ยินมานิดหน่อยเท่านั้น แต่ข้ารู้ว่ามันเป็นมีดเล่มหนึ่ง มีเพียงแค่ราชาเคลียร์ซีเท่านั้นที่รู้รายละเอียด” สปีชเลสส์รีบพูด
“เจ้าไม่รู้อะไรอย่างนั้นหรอ ดูเหมือนข้าไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าอีกแล้วสินะ” หานเซิ่นมองสปีชเลสส์อย่างไร้ซึ่งความปราณี
“ถ้าเจ้ายอมปล่อยข้าไป ข้าจะบอกทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้! ถ้าเจ้าปล่อยให้ข้าได้ไปรวบรวมข้อมูล ข้าแน่ใจว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!” สปีชเลสส์พูด
“ข้าจะมอบโอกาสสุดท้ายให้กับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ตอบข้ามาตอนนี้ ก็เชิญมีความสุขกับการแสดงบนถนนเถอะ”
หานเซิ่นไม่สนใจคำขอร้องของเธอและพูดต่อ “ทรายดาราจักรที่จะใช้ซื้อตัวเด็กของมีก้าถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน? อย่าบอกข้านะว่ามันอยู่ในกระเป๋าของราชาเคลียร์ซี!”
“แต่มันอยู่กับเขาจริงๆ…” ก่อนที่สปีชเลสส์จะพูดจบ หานเซิ่นก็ดึงผมของเธอและลากตัวเธอออกไปบนถนนอีกครั้ง สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป เธอรีบพูดขึ้นมา “มันอยู่กับเขาจริงๆ แต่ข้ามีหนทางที่จะเอามันมาให้เจ้า”