“เจ๋งไปเลย! นายทำอย่างไงถึงกลายร่างเป็นมดได้? ช่วยสอนให้ฉันหน่อยได้ไหม? ถ้าฉันเรียนรู้มัน ฉันก็จะแอบเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ของผู้หญิงได้ตามที่ต้องการ” หวังอวี่ฮังเบิกตากว้าง เขามองหานเซิ่นที่ถูกมนตราถืออยู่ในมือด้วยรอยยิ้ม
จิ้งจอกสีเงิน นางฟ้าและสปิริตเชฟต่างก็มองร่างมดของหานเซิ่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาส่งคำพูดผ่านไปที่มนตราเพื่อให้มนตราพูดแทน
“เจ๋งไปเลยที่ไหนกันล่ะ! ไปหาทางช่วยให้ฉันกลับคืนร่างเดิมเดี๋ยวนี้”
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” หวังอวี่ฮังใช้นิ้วของเขาจิ้มไปที่หานเซิ่นและหัวเราะออกมา
“หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้ายังจิ้มฉันอีกครั้งล่ะก็ ฉันจะโกรธจริงๆ” ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกเศร้ายิ่งกว่าเดิม การที่ถูกนิ้วจิ้มนั้นมันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกรังแก
ช่องสัญญาณข่าวของดาวอุปราคาถูกปิดเอาไว้ คนที่ฐานทัพจึงไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับหานเซิ่น ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องใช้เวลาอธิบายให้พวกเขาฟัง
“พลังของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า? แม้พวกเราจะมีความสามารถในการยับยั้งพลังของเขาได้ แต่เขาแข็งแกร่งเกินไป นอกจากนั้นไม่มีใครในหมู่พวกเราที่มีวิชาที่เหมือนกับเขา”
กู่ชิงเฉิงหยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ “แล้วพลังที่นายใช้เพื่อแปลงร่างล่ะ? แม้แต่สถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ก็ยังไม่ได้ผลกับนายเลย”
หานเซิ่นพูด “ถ้ามันไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ ฉันก็คงต้องทำอย่างนั้น แต่ฉันกลัวว่าถ้าเกิดฟื้นตัวจากสภาพนี้เร็วเกินไป อี๋ซาอาจจะเกิดสงสัยขึ้นมาได้ ดังนั้นฉันอยากจะรออีกสัก 2-3 วัน”
“มันจะไม่เป็นอะไรอย่างนั้นหรอถึงจะรออีก 2-3 วัน?” หวังอวี่ฮังไม่เข้าใจ
“เมื่อฉันกลายเป็นมด ฉันจะใช้วิชาจีโนไม่ได้ ฉันใช้ได้เพียงแค่เรื่องราวของยีนเท่านั้น ถ้าฉันฟื้นตัวได้สำเร็จ ฉันมีแผนจะใช้เรื่องราวของยีนเป็นข้ออ้าง เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีคนอื่นเคยฝึกมันมาก่อน ดังนั้นมันจะไม่มีใครรู้ว่าที่ฉันพูดเป็นความจริงหรือไม่” หานเซิ่นพูดผ่านมนตรา
“ถ้าอย่างนั้นก็มาลองดูกันว่าพวกเราจะช่วยเหลือเจ้าได้หรือเปล่า”
สปิริตเชฟรวบรวมพลังและวางนิ้วลงบนตัวของหานเซิ่น เธอต้องการจะส่งพลังของเธอให้กับเขา
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ นางฟ้าและเซี่ยชิงก็ลองดูเช่นเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เหมือนๆกัน มันไม่มีอะไรได้ผล
“นี่พวกเธอจงใจทำแบบนี้ใช่ไหม” หานเซิ่นมองดูพวกเธอกดนิ้วลงมาบนตัวของเขา และเมื่อเห็นสีหน้าของพวกเธอแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่
นางฟ้าและสปิริตเชฟยังไม่พัฒนาเป็นไวเคานต์ก็จริง แต่กู่ชิงเฉิงและเซี่ยชิงเป็นไวเคานต์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาต้องใช้นิ้วสัมผัสตัวของหานเซิ่น แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ทำแบบนั้น
“ไม่เลย! ฉันสาบานว่าพวกเราไม่ได้มีแผนที่จะบี้นายจนตาย” หวังอวี่ฮังหัวเราะ
“ฉันสาบานว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น” เซี่ยชิงพูดด้วยโทนเสียงที่ดูจริงใจ แต่มันเห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะกลั้นหัวเราะเอาไว้
หานเซิ่นรู้สึกโกรธขึ้นมา เขาไต่ขึ้นไปบนไหล่ของมนตรา หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้มนตรายิงกระสุนแสงใส่พวกเขา
หลังจากที่ไล่พวกเขาไปแล้ว หานเซิ่นก็กลับไปพักผ่อน เขารู้สึกเบื่อๆขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงลองอ่านวิชาคอนซูมที่อี๋ซามอบให้กับเขา
มันเป็นวิชาของมดแห่งการกลืนกินที่เคยเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่มีชื่อเสียงของจักรวาลจีโน พวกมันสามารถกลืนกินได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นพวกมันจึงน่ากลัวยิ่งกว่ามนุษย์มาก
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่บริโภคทั้งพืชและสัตว์ แต่พวกมันดียิ่งกว่านั้น พวกมันสามารถกินทั้งโลหะ แร่และวัสดุทุกรูปแบบ มันไม่มีอะไรที่พวกมันไม่สามารถย่อยได้
ยิ่งมดตัวนั้นแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พลังในการย่อยก็จะมากขึ้นเท่านั้น วิชาจีโนที่พวกมันเรียนรู้มีชื่อว่าคอนซูม ซึ่งการจะฝึกมันจำเป็นต้องมีร่างกายที่เหมือนกับมด
เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าสามารถเปลี่ยนคนอื่นให้กลายเป็นมดได้ แต่เขาไม่ได้ทำให้หานเซิ่นมีร่างกายที่เหมือนกับมดแห่งการกลืนกินจริงๆได้
หานเซิ่นเป็นเพียงแค่มดธรรมดาที่ไร้สติปัญหา เขาไม่สามารถสร้างชุดเกราะจีโนได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะสามารถเรียนรู้วิชาคอนซูมได้
แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ตัดสินใจจะลองดู เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่เขาจะสามารถทำได้ขณะที่อยู่ในร่างมดนี่
หลังจากที่หานเซิ่นอ่านวิชาจีโนนี้จนจบ เขาก็ได้เรียนรู้ว่าวิชาคอนซูมสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระเพาะของผู้ฝึกได้ ผู้ฝึกจะสามารถย่อยโลหะได้ในเวลาไม่นาน และเปลี่ยนวัสดุทุกรูปแบบให้เป็นพลังงาน
นี่เหมาะสมสำหรับคนที่หลงรักในการทานอาหาร ถ้าพวกเขาเรียนรู้วิชาจีโนนี้ ผู้คนในก็อตแซงชัวรี่ก็จะสามารถกินอาหารได้มากกว่าปกติ
ในตอนที่หานเซิ่นอยู่ในก็อตแซงชัวรี่ เขาต้องการหาวิชาจีโนที่สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่สามารถหาวิชาดีๆได้
วิชาคอนซูมตอบสนองความต้องการของเขาทุกอย่าง แต่มันมีแค่มดแห่งการกลืนกินเท่านั้นที่สามารถฝึกมันได้
หานเซิ่นต้องการจะลองดูสักครั้ง ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำการฝึกมัน
เขาคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่ยาก แต่หลังจากที่ลองหมุนเวียนกระแสพลังดู เขาก็รู้สึกหนาวภายในกระเพาะ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
“ฉันฝึกมันได้?” หานเซิ่นตื่นเต้น
เนื่องจากวิชาทรงผลกับเขา นั่นหมายความว่าเขาสามารถฝึกมันได้
และเนื่องจากหานเซิ่นไม่มีอะไรจะทำ เขาจึงฝึกวิชาคอนซูมต่อไป เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและสำเร็จขั้นแรกในเวลาไม่กี่วัน
“ตัวกินเหล็กจะฝีกอะไรอย่างนี้ได้ไหมนะ? ถ้าเรานำวิชานี้กลับไปให้มันในก็อตแซงชัวรี่”
แต่หานเซิ่นไม่คิดจะฝึกมันอะไรมากนัก เพราะเขาไม่ได้ต้องการจะเป็นมดไปตลอด
หลังจากผ่านไปหลายวัน หานเซิ่นก็ไม่สามารถรอต่อไปได้อีก เขาอยากจะกลับไปหาจีเหยียนหรัน ดังนั้นหลังจากผ่านไป 4-5 วัน เขาก็ลองใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด
แสงศักดิ์สิทธิ์ห่อหุ้มร่างของหานเซิ่น ไม่นานร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขากลายเป็นเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดที่มีร่างกายโปร่งใส
“มันได้ผล! หวังว่าเราจะไม่กลับไปเป็นมดอีกหลังจากเลิกใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด” หานเซิ่นกังวล หลังจากนั้นเขาก็หยุดใช้งานโหมดสปิริตเทพเจ้าขั้นสุดยอด
แสงค่อยๆจางหายไปจากร่างกายของหานเซิ่น แต่เขาไม่ได้กลับไปสู่ร่างมดอีก
“เยี่ยม! การเป็นมนุษย์ดีกว่าการเป็นมดเป็นไหนๆ” หานเซิ่นถอยหายใจ
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เดินทางกลับไปบ้านในสหพันธ์ เขามีแผนที่จะอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง เขาต้องการจะชะลอความจริงเรื่องที่ว่าเขาคืนร่างเดิมได้แล้ว
แต่หลังจากที่พักผ่อนอยู่ที่บ้านสักพัก เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ต้องห่างจากชีวิตประจำวันในฐานะนักผจญภัย