เจี่ยนหยุ่นเฉิงเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆในด้านธุรกิจในบรรดาหลานตระกูลเจี่ยน
ปู่เจี่ยนรู้สึกเจี่ยนหยุ่นเฉิงเหมือนกับตัวเขาตอนสมัยก่อน
นี่ทำให้เหอเยี่ยนซึ่งนั่งอยู่ที่ด้านข้างรู้สึกไม่สบายใจ
ในวันปกติปู่เจี่ยนมักจะพูดอย่างดีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของเด็กๆ ก็คือการได้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงเป็นหลานที่เขาชอบที่สุดไม่ใช่หรือ
หลังจากที่พูดคุยกันชั่วขณะ หยูซีก็กล่าวว่า “ปู่เจี่ยน ผมกำลังจะจัดปาร์ตี้ที่บ้านวันเสาร์นี้ต้อนรับนายท่านเชิ่ง ผมต้องการเชิญหยู่เจี๋ยกับน้องสาวอีหลิงไปร่วมงาน ไม่ทราบว่าปู่จะสะดวกไหม”
บ้านตระกูลหยูอยู่ถัดออกไป และวันเสาร์ก็เป็นวันหยุด ไม่มีการเรียนการสอนที่โรงเรียน จะมีอะไรที่ไม่สะดวก
ปู่เจี่ยนหันหน้าไปแล้วกล่าวกับเด็กทั้งสองคนว่า “พวกหลานสามารถไปได้ถ้าต้องการ มันเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายเกินไปกับการยุ่งอยู่กับการเรียนทุกวัน เป็นสิ่งดีกับการได้พักบ้าง”
ย่าเจี่ยนก็เห็นด้วยเช่นกัน “อีหลิงไปสนุกกับพวกเขาสิ”
ย่าเจี่ยนคิดว่าเจี่ยนอีหลิงประสบกับความยากลำบากมาก่อนหน้านี้ และจะเป็นการดีสำหรับเธอที่จะได้พักและสนุกกับเพื่อนๆ
แม้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะดูเหมือนเป็นคนชั่ว แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ตระกูลหยูเป็นตระกูลเพื่อนบ้านกับตระกูลเจี่ยนและไว้วางใจได้ หยูซีก็เป็นเด็กที่เชื่อถือได้และย่าเจี่ยนก็มั่นใจในตัวเขา
เจี่ยนหยู่เจี๋ยในใจแล้วไม่ต้องการที่จะไป และกำลังคิดหาวิธีที่จะปฏิเสธ เหอเยี่ยนก็ตอบตกลงแทนเขาไปแล้ว
“ดูเหมือนว่าหยู่เจี๋ยจะไม่มีอะไรทำในวันเสาร์นี้ เขามาเป็นเพื่อนกับอีหลิงได้”
คำพูดข้ออ้างที่กำลังจะออกจากปากของเจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงถูกสกัดไว้ด้วยแม่ของเขา
เจี่ยนหยู่เจี๋ยแสดงท่าทางเจ็บปวด เมื่อเผชิญกับความเป็นเผด็จการของแม่ของเขา เขาไม่สามารถทำอะไรได้
ย่าเจี่ยนถอนหายใจเล็กน้อย ปกติแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์ เหอเยี่ยนจะจัดหลักสูตรให้เขาเต็มรูปแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เขามีเวลาว่าง วันนี้เธอกลับพูดว่าเขาว่างและยังบอกอีกว่าเขาจะไปกับอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงสังเกตเห็นความเจ็บปวดในแววตาของเจี่ยนหยู่เจี๋ย
หลังจากที่ชะงัก เจี่ยนอีหลิงซึ่งเดิมทีแล้วไม่ต้องการที่จะไป จึงเปลี่ยนใจกล่าวว่า “ฉันไปได้”
เสียงเธอนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามน้ำเสียงของเธอหนักแน่นมั่นคง
แน่นอน ทันทีที่เห็นว่าเจี่ยนอีหลิงตกลง อารมณ์ของเจี่ยนหยู่เจี๋ยดีขึ้นมาก ดวงตาของเขาก็พลันสดใส
ถ้าสามารถได้อยู่กับน้องสาวอีหลิง เข้าร่วมงานปาร์ตี้ที่ตนเองไม่ชอบนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
ในขณะที่ทุกคนไม่ทันได้สังเกต จ๋ายหวินเชิ่งยกมุมปากขึ้น
###
ที่บ้านใหม่ตระกูลเจี่ยน บ้านเจี่ยน
เป็นครั้งแรกสำหรับเจี่ยนหยุ่นน่าวที่ได้นั่งที่โต๊ะอาหารกับครอบครัวหลังจากที่กลับบ้าน
เพื่อที่จะทำให้เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกดีขึ้น ครอบครัวเจี่ยนก็ยังขอร้องโม่ชืออวิ้นเป็นพิเศษให้มาร่วมทานอาหารเย็นที่โต๊ะเดียวกันด้วย
โม่ชืออวิ้นถูกพาตัวมาที่บ้านเจี่ยนโดยป้าโม่ ซึ่งโดยปกติแล้วเธอจะไม่ได้แสดงตัวที่โต๊ะอาหารของเจ้าของบ้าน แต่ตอนนี้เพราะเจี่ยนหยุ่นน่าว เธอจึงได้นั่งอยู่ในตำแหน่งของเจี่ยนอีหลิง
“นายท่าน นายหญิง นี่คงไม่ดีมั้ง หนู… หนูควรจะทานกับแม่” โม่ชืออวิ้นค่อนข้างจะอายเมื่อเธอถูกเชิญมาร่วมโต๊ะ
“นั่งลง เธอมาที่นี่วันนี้ในฐานะเพื่อนของหยุ่นน่าว ไม่ใช่ในฐานะลูกสาวของป้าโม่ ไม่ต้องกังวลเกินไปนัก”
เจี่ยนชูฉิง หัวหน้าครอบครัวเปิดปากพูด โม่ชืออวิ้นจึงนั่งลงอย่างระมัดระวัง
เจี่ยนชูฉิงไม่ค่อยเจริญอาหารในวันนี้ หลายครั้งที่ความคิดตอนที่ลูกสาวคนเล็กเก็บของไปบ้านเก่าผุดขึ้นมาในใจ
เขาไม่รู้ว่าเซี่ยวหลิงทานอาหารเย็นหรือยัง ไข้หวัดกำลังระบาดก่อนหน้านี้เธอได้สวมเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ อีกทั้งการเรียนของเธอเป็นไปด้วยดีหรือไม่
เมื่อคิดว่าลูกสาวผอมกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เจี่ยนชูฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดในใจ
============================================
เจี่ยนหยู่เจี๋ย – ฉันสามารถอยู่กับน้องสาวตอนวันเสาร์ ดีใจจัง๐๐๐
หยูซี – อา น้องหยู่เจี๋ย นายยังเด็กเกินไป
เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 44: เชิญเข้าร่วมปาร์ตี้
Posted by ? Views, Released on January 1, 2022
, เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ
เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง
ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป
เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น
เรื่อยๆ
อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ
ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment