[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 14 รอยยิ้มเทพธิดา

Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)
ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?)
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 14 รอยยิ้มของเทพธิดา
 
“อะไรกัน นายเป็นพวกบ้าพลังใส่กางเกงขาสั้นตลอดทั้งปีเลยงั้นหรอ?”
 
อามาเนะรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยในคาบพละวันจันทร์ นั่นก็เพราะเขานั้นออกกำลังกายไม่เก่งนัก และเขายังต้องสวมกางเกงขาสั้นในสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้อีก
การสวมกางเกงพละขายาวเป็นเรื่องปกติของทุกคนในฤดูนี้ แต่ช่วงล่างใต้เข่าลงไปของอามาเนะนั้นกลับไม่มีอะไรปกคลุม ดังนั้นมันจึงทำให้เขาดูสะดุดตา
 
“ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่ลืมน่ะ”
“บ้าจังเลยน้า”
“หนวกหูน่า”
 
เขาไม่ได้พบกับมาฮิรุอีกเลยในวันหยุด ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงยังไม่ได้กางเกงของเขาคืนจากเธอ แต่เขาไม่สามารถบอกกับอิทสึกิได้ จึงได้บอกเขาไปว่าลืมเท่านั้น
เขาหัวเราะ แต่เมื่ออิทสึกิตบหลังของเขา เขาจึงเอาคืน
 
ขณะที่มองดูอิทสึกิคร่ำครวญอย่างเงียบๆ เขาก็ถอนหายใจและหันมองออกไป
พวกเขาอยู่ที่สนาม แต่ก็มีเด็กผู้หญิงที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ในสนามเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นเด็กผู้หญิงประปรายอยู่รอบๆ โดยมีคนอยู่รอบตัวมากขึ้นกว่าปกตินั่นก็เพราะมีนักเรียนสองห้องกำลังเรียนร่วมกันอยู่
ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นกรีฑากันอยู่ เขาจึงมองดูไประหว่างที่กำลังรอ
 
“พยายามเข้าคาโดวากิคุง!!”
 
โดยปกติแล้ว ผู้ชายกับผู้หยิงจะต้องเรียนแยกกัน แต่ด้วยการปรากฎตัวของเหล่าสาวๆ ทำให้พวกผู้ชายคึกกันใหญ่…พวกผู้หญิงกำลังมองไปที่หนุ่มหล่อของห้อง คาโดวากิ ยูตะ
อามาเนะไม่เคยคุยกับเขามาก่อน แต่เขารู้ว่ายูตะเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ และยังมีผลการเรียนดี แถมยังเป็นเอซของทีมกรีฑาอีกต่างหาก
อามาเนะรู้สึกว่าบางทีสวรรค์คงจะอวยพรให้กับคนไม่กี่คนที่นี่ แต่ผู้ชายบางคนที่ไม่ได้รับมันจึงมีใบหน้าเซื่องซึมเล็กน้อย
 
“โอ้วว หมอนั่น ยังเนื้อหอมเหมือนเคยเลยนะ”
“นั่นสินะ”
“ดูไม่ค่อยสนใจเลยนะ?”
“ก็ไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อยนี่นา ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นก็เถอะ แต่เราก็ไม่เคยคุยกันสักหน่อย จะยังไงก็ได้นี่”
 
อามาเนะรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับอีกฝ่ายก็ดีแล้ว แต่ที่จริงก็ไม่สำคัญอยู่ดีเพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว เขาจึงไม่สนใจ
เขาเข้าใจดีว่าตัวเองอยู่ในชนกลุ่มน้อย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาคาโดวากิเหมือนผู้ชายคนอื่นๆในห้องแต่อย่างใด
ถึงแม้ว่าคาโดวากิจะสมบูรณ์แบบเพียงใด แต่เขาก็ไม่มีจุดไหนที่เขาจะต้องอิจฉา
 
“นายไม่ได้ดูอิจฉาเลยนะ”
“อะไรเล่า นายอยากให้ฉันบอกว่าฉันอิจฉาเพราะเขาเนื้อหอมน่ะหรอ?”
“ก็ไม่สมเป็นนายเท่าไหร่”
 
อามาเนะทำให้อิทสึกิรู้สึกดูเบื่อหน่าย แล้วหันไปมองคาโดวากิที่เต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม พร้อมกับเสียงเชียร์ของเหล่าสาวๆ
ในแง่ของเด็กผู้ชาย เขามีร่างกายที่เต็มไปด้วยอุดมคติ ใบหน้าที่ดูสมส่วนและอ่อนหวานเหมือนกับเจ้าชาย อันที่จริงเขามีชื่อเล่นว่าเจ้าชายอีกด้วย เพราะเขานั้นไม่มีจุดด้อยที่ชัดเจนเลยสักนิดเดียว
เขาโบกมือของเขาให้กับใบหน้าที่ดวงตาเต็มไปด้วยความหลงไหลและเสียงร้องเรียกของเหล่าสาวๆ อามาเนะประทับใจว่ายูตะเป็นคนที่เก่งในการเข้าสังคมเป็นอย่างดี
 
“โอ้ เจ้าชายนี่สุดยอดจริงๆเลยนะ”
“จริงด้วยนะ ฉันยิ้มแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“พวกสาวๆก็ร่าเริงกันดีจังนะ”
 
ตัวอิทสึกิเองก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่น เพราะเขานั้นรักจิโตเสะอย่างที่สุดอยู่แล้ว เขาพูดราวกับว่าพวกเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
จิโตเสะเองก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจคาโดวากิ และอิทสิกิเองก็คงไม่ต้องกังวลว่าคาโดวากิจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับจิโตเสะเช่นกัน
 
(โรงเรียนนี้มันมีชื่อเล่นน่าอายเยอะจริงๆ ทั้งเจ้าชายแล้วก็เทพธิดา)
 
เมื่อพูดถึงเทพธิดาแล้ว อามาเนะจึงสงสัยว่ามาฮิรุได้พักผ่อนดีหรือป่าว
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ออกจากบ้านเลยในระหว่างวันหยุด อาจจะพักผ่อนอยู่เงียบๆ เขาจึงไม่รู้ว่าการฟื้นตัวของเธอเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้พวกเขากำลังเรียนร่วมกันระหว่างห้องอยู่ ดังนั้นเขาจึงมองหาไปรอบๆ อย่างเงียบๆ และพบเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ตรงขอบของสนาม แม้ว่าจะมีคนอยู่จำนวนมากก็ตามที
 
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนเป็นชุดพละและไม่ได้เข้าร่วมคาบเรียน
เธอนั่งและมองดูอย่างเงียบๆ และมีสายตาของผู้ชายบางส่วนมองไปที่เธอเช่นกัน
สายตาของอามาเนะและมาฮิรุประสานกันจากระยะไกลๆ เขาจึงหันหน้าออกอย่างกระอักกระอ่วน รอยยิ้มเล็กๆปรากฎขึ้นบนริมฝีปากของเธอ
 
และเพราะรอยยิ้มนั้นตรงไปที่อามาเนะ…หรือก็คือกลุ่มผู้ชาย ดังนั้นพวกเพื่อนร่วมชั้นจึงส่งเสียงเอะอะ “เธอยิ้มให้ฉันงั้นหรอ?” “แน่นอนว่าต้องเป็นชั้นอยู่แล้ว!”
 
“นี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดงให้ชีนะซังเห็นถึงจุดเด่นของฉันแล้ว”
“ฉันไม่ให้เจ้าชายแย่งเวทีไปคนเดียวหรอก”
 
รอยยิ้มง่ายๆกลับทำให้เกิดปฏิกิริยาขนาดนี้ ใครจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ หรือไม่ที่จริงก็อาจจะเป็นเรื่องเรียบง่ายอยู่แล้วก็ได้
 
“…ดูออกง่ายจังนะเจ้าพวกนั้น”
 
อิทสิกิคิดแบบเดียวกันอามาเนะจึงหัวเราะคิกคักออกมา
 
“เอาเถอะ ยังไงซะมันก็มีผลต่อเกรดของเรา ต้องพยายามกันบ้างแล้ว”
“อะไรกัน นายก็รู้สึกมีกำลังใจหลังจากเห็นรอยยิ้มของเทพธิดาด้วยรึไง อามาเนะ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย ก็บอกไปแล้วว่าไม่สนใจไม่ใช่รึไง”
“ก็จริงนะ นายก็ดูไม่ได้สนใจจริงๆ”
 
“แฟนของฉันสุดยอดเลยใช่ม้า?” อิทสึกิเริ่มอวดเกี่ยวกับแฟนของเขาอีกครั้ง อามาเนะจึงรีบตัดบท ขณะที่เขายิ้มเจื่อนและมองไปยังทิศทางของมาฮิรุ
 
 
*———-จบตอน———-*
 
**แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล เพิ่งเคยแปลเรื่องแรก อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 14 รอยยิ้มเทพธิดา

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 14 รอยยิ้มเทพธิดา

Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?) ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง Chapter : 14 รอยยิ้มของเทพธิดา   “อะไรกัน นายเป็นพวกบ้าพลังใส่กางเกงขาสั้นตลอดทั้งปีเลยงั้นหรอ?”   อามาเนะรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยในคาบพละวันจันทร์ นั่นก็เพราะเขานั้นออกกำลังกายไม่เก่งนัก และเขายังต้องสวมกางเกงขาสั้นในสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้อีก การสวมกางเกงพละขายาวเป็นเรื่องปกติของทุกคนในฤดูนี้ แต่ช่วงล่างใต้เข่าลงไปของอามาเนะนั้นกลับไม่มีอะไรปกคลุม ดังนั้นมันจึงทำให้เขาดูสะดุดตา   “ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่ลืมน่ะ” “บ้าจังเลยน้า” “หนวกหูน่า”   เขาไม่ได้พบกับมาฮิรุอีกเลยในวันหยุด ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงยังไม่ได้กางเกงของเขาคืนจากเธอ แต่เขาไม่สามารถบอกกับอิทสึกิได้ จึงได้บอกเขาไปว่าลืมเท่านั้น เขาหัวเราะ แต่เมื่ออิทสึกิตบหลังของเขา เขาจึงเอาคืน   ขณะที่มองดูอิทสึกิคร่ำครวญอย่างเงียบๆ เขาก็ถอนหายใจและหันมองออกไป พวกเขาอยู่ที่สนาม แต่ก็มีเด็กผู้หญิงที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ในสนามเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นเด็กผู้หญิงประปรายอยู่รอบๆ โดยมีคนอยู่รอบตัวมากขึ้นกว่าปกตินั่นก็เพราะมีนักเรียนสองห้องกำลังเรียนร่วมกันอยู่ ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นกรีฑากันอยู่ เขาจึงมองดูไประหว่างที่กำลังรอ   “พยายามเข้าคาโดวากิคุง!!”   โดยปกติแล้ว ผู้ชายกับผู้หยิงจะต้องเรียนแยกกัน แต่ด้วยการปรากฎตัวของเหล่าสาวๆ ทำให้พวกผู้ชายคึกกันใหญ่…พวกผู้หญิงกำลังมองไปที่หนุ่มหล่อของห้อง คาโดวากิ ยูตะ อามาเนะไม่เคยคุยกับเขามาก่อน แต่เขารู้ว่ายูตะเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ และยังมีผลการเรียนดี แถมยังเป็นเอซของทีมกรีฑาอีกต่างหาก อามาเนะรู้สึกว่าบางทีสวรรค์คงจะอวยพรให้กับคนไม่กี่คนที่นี่ แต่ผู้ชายบางคนที่ไม่ได้รับมันจึงมีใบหน้าเซื่องซึมเล็กน้อย   “โอ้วว หมอนั่น ยังเนื้อหอมเหมือนเคยเลยนะ” “นั่นสินะ” “ดูไม่ค่อยสนใจเลยนะ?” “ก็ไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อยนี่นา ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นก็เถอะ แต่เราก็ไม่เคยคุยกันสักหน่อย จะยังไงก็ได้นี่”   อามาเนะรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับอีกฝ่ายก็ดีแล้ว แต่ที่จริงก็ไม่สำคัญอยู่ดีเพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว เขาจึงไม่สนใจ เขาเข้าใจดีว่าตัวเองอยู่ในชนกลุ่มน้อย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาคาโดวากิเหมือนผู้ชายคนอื่นๆในห้องแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าคาโดวากิจะสมบูรณ์แบบเพียงใด แต่เขาก็ไม่มีจุดไหนที่เขาจะต้องอิจฉา   “นายไม่ได้ดูอิจฉาเลยนะ” “อะไรเล่า นายอยากให้ฉันบอกว่าฉันอิจฉาเพราะเขาเนื้อหอมน่ะหรอ?” “ก็ไม่สมเป็นนายเท่าไหร่”   อามาเนะทำให้อิทสึกิรู้สึกดูเบื่อหน่าย แล้วหันไปมองคาโดวากิที่เต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม พร้อมกับเสียงเชียร์ของเหล่าสาวๆ ในแง่ของเด็กผู้ชาย เขามีร่างกายที่เต็มไปด้วยอุดมคติ ใบหน้าที่ดูสมส่วนและอ่อนหวานเหมือนกับเจ้าชาย อันที่จริงเขามีชื่อเล่นว่าเจ้าชายอีกด้วย เพราะเขานั้นไม่มีจุดด้อยที่ชัดเจนเลยสักนิดเดียว เขาโบกมือของเขาให้กับใบหน้าที่ดวงตาเต็มไปด้วยความหลงไหลและเสียงร้องเรียกของเหล่าสาวๆ อามาเนะประทับใจว่ายูตะเป็นคนที่เก่งในการเข้าสังคมเป็นอย่างดี   “โอ้ เจ้าชายนี่สุดยอดจริงๆเลยนะ” “จริงด้วยนะ ฉันยิ้มแบบนั้นไม่ได้หรอก” “พวกสาวๆก็ร่าเริงกันดีจังนะ”   ตัวอิทสึกิเองก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่น เพราะเขานั้นรักจิโตเสะอย่างที่สุดอยู่แล้ว เขาพูดราวกับว่าพวกเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา จิโตเสะเองก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจคาโดวากิ และอิทสิกิเองก็คงไม่ต้องกังวลว่าคาโดวากิจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับจิโตเสะเช่นกัน   (โรงเรียนนี้มันมีชื่อเล่นน่าอายเยอะจริงๆ ทั้งเจ้าชายแล้วก็เทพธิดา)   เมื่อพูดถึงเทพธิดาแล้ว อามาเนะจึงสงสัยว่ามาฮิรุได้พักผ่อนดีหรือป่าว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ออกจากบ้านเลยในระหว่างวันหยุด อาจจะพักผ่อนอยู่เงียบๆ เขาจึงไม่รู้ว่าการฟื้นตัวของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้พวกเขากำลังเรียนร่วมกันระหว่างห้องอยู่ ดังนั้นเขาจึงมองหาไปรอบๆ อย่างเงียบๆ และพบเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ตรงขอบของสนาม แม้ว่าจะมีคนอยู่จำนวนมากก็ตามที   เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนเป็นชุดพละและไม่ได้เข้าร่วมคาบเรียน เธอนั่งและมองดูอย่างเงียบๆ และมีสายตาของผู้ชายบางส่วนมองไปที่เธอเช่นกัน สายตาของอามาเนะและมาฮิรุประสานกันจากระยะไกลๆ เขาจึงหันหน้าออกอย่างกระอักกระอ่วน รอยยิ้มเล็กๆปรากฎขึ้นบนริมฝีปากของเธอ   และเพราะรอยยิ้มนั้นตรงไปที่อามาเนะ…หรือก็คือกลุ่มผู้ชาย ดังนั้นพวกเพื่อนร่วมชั้นจึงส่งเสียงเอะอะ “เธอยิ้มให้ฉันงั้นหรอ?” “แน่นอนว่าต้องเป็นชั้นอยู่แล้ว!”   “นี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดงให้ชีนะซังเห็นถึงจุดเด่นของฉันแล้ว” “ฉันไม่ให้เจ้าชายแย่งเวทีไปคนเดียวหรอก”   รอยยิ้มง่ายๆกลับทำให้เกิดปฏิกิริยาขนาดนี้ ใครจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ หรือไม่ที่จริงก็อาจจะเป็นเรื่องเรียบง่ายอยู่แล้วก็ได้   “…ดูออกง่ายจังนะเจ้าพวกนั้น”   อิทสิกิคิดแบบเดียวกันอามาเนะจึงหัวเราะคิกคักออกมา   “เอาเถอะ ยังไงซะมันก็มีผลต่อเกรดของเรา ต้องพยายามกันบ้างแล้ว” “อะไรกัน นายก็รู้สึกมีกำลังใจหลังจากเห็นรอยยิ้มของเทพธิดาด้วยรึไง อามาเนะ?” “ไม่ใช่สักหน่อย ก็บอกไปแล้วว่าไม่สนใจไม่ใช่รึไง” “ก็จริงนะ นายก็ดูไม่ได้สนใจจริงๆ”   “แฟนของฉันสุดยอดเลยใช่ม้า?” อิทสึกิเริ่มอวดเกี่ยวกับแฟนของเขาอีกครั้ง อามาเนะจึงรีบตัดบท ขณะที่เขายิ้มเจื่อนและมองไปยังทิศทางของมาฮิรุ     *———-จบตอน———-*   **แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล เพิ่งเคยแปลเรื่องแรก อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset