ตอนที่ 623 มือที่สาม

บทที่ 623 มือที่สาม

หลินชิงเหอไปร้านที่ของคุณแม่เวิงเสร็จแล้วก็ไม่ได้กลับเลยในทันที ตอนนี้ยังไม่เย็นนัก เธอจึงเลือกไปเดินดูกิจการในนามของตนก่อน

โจวกุยหลายไม่ได้อยู่ที่ร้านเกี๊ยว เขาอยู่ที่ร้านชาของทางนี้ดื่มชาอยู่กับหม่าเฉิงหมิน

เธอเห็นเขาจึงหยุดรถแล้วเดินเข้ามา

“ม้าสวมรองเท้าส้นสูงแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงนางงามฮ่องกงเลย หล่อนก็มีบุคลิกแบบนี้เหมือนกัน” โจวกุยหลายได้ยินเสียงกึก ๆ จากรองเท้าส้นสูงของแม่ เขาก็พูดรัวพลางหัวเราะ

หลินชิงเหอสวมรองเท้าส้นเตี้ย แต่สะพายกระเป๋าข้างและแต่งหน้าตามกระแสนิยม ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นดูเป็นกิริยาที่น่ามองกี่ส่วน

ได้ยินลูกชายพูดล้อ หลินชิงเหอก็โต้กลับ “ดูท่าทางลูกจะว่างมากนะ ร้านที่เซี่ยงไฮ้ตกแต่งปรับปรุงดีแล้วเหรอ?”

“ตกแต่งเสร็จแล้วครับ คุณปู่เจียงโทรศัพท์มาบอกผมแล้ว” โจวกุยหลายพูด

หลินชิงเหอจึงมองไปทางหม่าเฉิงหมิน “เดือนหน้าฉันกับชิงไป๋จะออกเดินทางไปนอกสถานที่ จำเป็นต้องใช้เวลาเล็กน้อยน่ะค่ะ”

“ไม่มีปัญหาครับ ทางนี้ให้ผมกับโจวกุยหลายจัดการก็พอแล้ว” หม่าเฉิงหมินพยักหน้าพูด

หลินชิงเหอก็สอนให้เอ้อร์นีเป็นผู้จัดการเช่นเดียวกัน แต่ตำแหน่งของหม่าเฉิงหมินก็ยังคงไม่สั่นคลอนง่าย ๆ เพราะหลินชิงเหอให้เขาทำหน้าที่ที่สำคัญมากเช่นกัน

แน่นอนว่าข้อเสนอแรกก็คือ หม่าเฉิงหมินต้องยินยอมที่จะทำงานกับเธอจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางปฏิบัติไม่ดีกับเขา

ก่อนหน้านี้คุณป้าหม่าพาหวงเสี่ยวหลิ่วไปเปิดร้านเกี๊ยวเอง กิจการก็ไม่เลวเลยทีเดียว ถึงจะเทียบกับร้านของชิงไป๋ไม่ได้ แต่หนึ่งเดือนก็ทำรายได้อยู่หลายร้อยหยวนเห็นจะได้ คุณลุงหม่าก็ยังไปช่วยงานพวกหล่อนด้วยเช่นกัน

ทั้งครอบครัวจึงมีงานให้ทำกันทุกคน

แต่หม่าเฉิงหมินไม่ชอบไปทำงานนั้น เขาชอบงานผู้จัดการของที่นี่

เพราะมีงานเยอะ หลินชิงเหอจึงให้เงินเดือนเขามากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ ไม่น้อยเลย

คนอื่นได้ 170 หยวน เงินเดือนของหม่าเฉิงหมินได้ 200 หรือ 300 หยวนแล้ว นี่เป็นฐานเงินเดือนขั้นสูงอย่างแน่นอน พวกเธอไม่เคยเอาเปรียบเขาเลย

หม่าเฉิงหมินไม่เพียงได้เงินเดือนจำนวนมาก เขาก็รู้สึกว่างานที่นี่ดีมาก ๆ เช่นกัน เพราะเขาชอบบรรยากาศของที่นี่ ทั้งหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋และก็เจ้าสามโจวกุยหลายล้วนไม่ใช่คนที่จะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างไม่ยุติธรรมแบบนั้น

พวกเขาเห็นเขาเป็นเหมือนสหาย ดังนั้นเขาย่อมต้องเลือกที่จะทำงานที่นี่ต่อไปเป็นธรรมดา

“นอกจากสอนงานพนักงานใหม่ ก็ต้องคอยสอนงานผู้จัดการร้านที่นั่นสองสามแห่งด้วย แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้เวลา พวกเธอไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ถึงตอนนั้นให้ที่นั่นอยู่ตัวแล้ว หม่าเฉิงหมินคุณก็กลับมารับผิดชอบงานที่นี่ต่อ เจ้าสามก็เรียนรู้งานที่เซี่ยงไฮ้ไปก่อนสักพัก ส่วนเรื่องกินเรื่องอยู่ก็ไปหาที่บ้านคุณปู่เจียงของลูก” หลินชิงเหอพูด

โจวกุยหลายทำท่าว่าไม่มีปัญหา

หลินชิงเหอถาม “เอ้อร์นีล่ะ?”

“พี่เอ้อร์นีไปโรงงานของพี่เขยรองแล้วครับ” โจวกุยหลายพูดรัวพลางหัวเราะขำ

หลินชิงเหอเห็นท่าทางนั้นของเขา ก็หรี่ตาแล้วพูด “ลูกไปเช็คบิลที่นั่นมา ได้ไปพูดอะไรไม่น่าฟังไว้เหรอ?”

“ม้าอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมไม่ใช่คนไม่รู้ความแบบนั้น ผมก็แค่ไปเห็นอะไรนิดหน่อยกับนักบัญชีที่มาใหม่สองคนนั้นก็เท่านั้นเอง” โจวกุยหลายพูด

หนึ่งในนั้นไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเพราะหล่อนอายุเยอะแล้ว หน้าตาก็ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ อีกคนไม่ต้องพูดถึงหน้าตาพอใช้ได้ เรื่องบัญชีก็เชี่ยวชาญเช่นกัน และก็เพราะความสามารถนี้แหละที่ทำให้โจวเอ้อร์นีรับหล่อนเข้ามา

แม้ว่าจะมีแฟน แต่แฟนของหล่อนกลับเทียบสามีของพี่เอ้อร์นีของเขาไม่ติดเลยสักนิด ดังนั้นโจวกุยหลายจึงไปลองถามโดยเลี่ยงพูดประเด็นสำคัญ

หลินชิงเหอไม่ได้พูดอะไรกับเขา เนื่องจากเอ้อร์นีกลับรับเข้ามา ในใจก็น่าจะมีแผนอยู่แล้ว แค่อย่าให้อยู่ด้วยบ่อย ๆ ก็พอ

ไหนเลยเธอจะรู้ว่าเจ้าสามของเธอคนนี้มาพูดกับหวังหยวนสักพัก บอกว่าปีนี้พี่ใหญ่ของเขาเป็นไปได้ว่าจะได้เลื่อนขั้นแปดเก้าส่วน

รอพี่ใหญ่เขาแต่งงานแล้ว พี่รองก็น่าจะได้แต่งงานอีกไม่นานเช่นกัน แล้วคนที่เขาแต่งงานด้วยก็เป็นถึงลูกสาวสุดรักสุดหวงของคณะกรรมาธิการ

ปากเจ้าสามพูดว่าอิจฉาอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ที่จริงเขาต้องการพูดเตือนหวังหยวน ซึ่งหวังหยวนก็ฟังออก และรู้สึกจนปัญญาเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน

นี่เขาดูหลายใจตรงไหนเนี่ย ถึงทำให้เจ้าสามไม่ไว้ใจเขาได้?

ตอนที่โจวเอ้อร์นีเอาชาต้าหงเผา[1]มาให้เขา 2 ชั่ง หวังหยวนก็พูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เจ้าสามมาหาผม เขาพูดเตือนผมด้วยชุดหนึ่ง”

โจวเอ้อร์นีพอได้รู้ว่าโจวกุยหลายมาพูดอะไรไว้ก็ยิ้มแล้วชายตามองเขาพูด “เขาพูดอะไรเหรอคะ?”

“บอกว่าพี่ชายเขาจะได้เลื่อนขั้นแล้ว บอกว่าพี่รองเขากำลังจะได้แต่งงานกับคุณหนูคนหนึ่ง และหลังจากนี้ก็กำลังจะเข้าพรรครัฐบาลด้วย ให้ผมคิดดี ๆ ก่อนคิดที่จะรังแกคุณ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ได้ผลไม้ดี ๆ กิน[2]” หวังหยวนพูด

“เจ้าสามไม่มีทางพูดแบบนี้หรอกค่ะ” โจวเอ้อร์นีไม่เชื่อคำเขา

หวังหยวนยิ้ม ๆ แล้วพูด “แต่ความหมายก็ค่อนข้างถูกอย่างที่เขาพูดแล้ว”

“งั้นคุณก็ฟังเอาไว้ให้ดี ฉันไม่ใช่คนไม่มีพ่อไม่มีแม่ เพื่อครอบครัวของเรา คุณก็ควรจะคิดให้มาก ๆ นะคะ” โจวเอ้อร์นีพูดแทงใจดำ

แม้ว่าหล่อนจะรักผู้ชายคนนี้ แต่หล่อนคงทนไม่ได้ถ้าหัวใจผู้ชายของหล่อนไม่ได้อยู่ที่ครอบครัวของพวกเขาหรือตัวหล่อนแล้ว ถ้าไม่ซื่อสัตย์แล้วครั้งหนึ่ง หล่อนไม่มีทางให้อภัยอย่างแน่นอน

เพราะเมื่อมีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมีครั้งที่สอง เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว

ที่จริงตั้งแต่กิจการของหวังหยวนก้าวหน้าขึ้นมากใน 2 ปีนี้ ในใจโจวเอ้อร์นีก็ไม่สงบนิ่งเล็กน้อย เดิมฐานะของพวกเขาก็แตกต่างกันมากอยู่แล้ว มาตอนนี้เขายิ่งก้าวหน้าเร็วถึงเพียงนี้ ความกังวลของหล่อนก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ๆ

แต่คำพูดเหล่านี้หล่อนไม่เคยพูดมันออกไปเลย และหล่อนยิ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่เอาแต่จมปลักกับความทุกข์ด้วย หล่อนพยายามทำตัวเองให้ดีที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้จริง ๆ นั่นก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว

2 ปีมานี้โจวเอ้อร์นีได้ยินได้เห็นอะไรมามากเช่นกัน

ตอนที่หล่อนโทรศัพท์หาแม่ของเธอ แม่ของเธอก็เคยบอกว่าที่ชนบทใครที่ออกไปทำงานในเมือง เวลาผ่านไปเขาก็จะหาหญิงสาวสวย ๆ สักคน ทำอีกฝ่ายท้องแล้วกลับมาชนบท

หรือว่าใครที่จากไปแล้วร่ำรวยมีเงินมีทอง เขาก็จะกลับมาหย่าไม่ต้องการลูกหรือภรรยา แล้วเลือกที่จะออกไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น

ขนาดที่ชนบทยังมีตัวอย่างแบบนี้อยู่ไม่น้อย ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมืองใหญ่เลย

คนที่นี่มีครอบครัวที่หย่าร้างกันมากมายจริง ๆ โดยเฉพาะส่วนมากจะเกิดหลังจากที่อีกฝ่ายรวยขึ้นมาอย่างฉับพลันแล้วเสียด้วย

หวังหยวนของเธอไม่ใช่คนที่รวยขึ้นอย่างฉับพลันหรอกเหรอ หล่อนรู้ชัดดีว่าจำนวนรายได้ใน 1 ปีที่เขาหาได้นั้น เป็นเงินที่หล่อนหาทั้งชีวิตก็ไม่แน่ว่าจะหาได้ไหม

ถ้าเขาอยากหย่า เดิมทีหล่อนก็ไม่มีกำลังพอจะโต้แย้งเขาอยู่แล้ว

“ปีนี้คุณเรียนขับรถ ผมจะก็ซื้อรถให้คุณ ต่อไปคุณอยากจะมาตรวจสอบอะไรผมก็มาได้ทุกเมื่อนะครับ” หวังหยวนพูด

“งั้นคุณสอนฉันก่อนสิคะ” ได้ยินดังนั้นโจวเอ้อร์นีก็พูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน

ที่จริงหล่อนอยากได้รถมานานแล้วเหมือนกัน หล่อนเห็นน้าสะใภ้สี่ขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเองแบบนั้น ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความก็รู้ว่ามันต้องสบายมากแน่

“ได้” หวังหยวนตอบตกลง

โจวเอ้อร์นีจึงไปฝึกขับกับเขาตรงพื้นที่ว่าง ๆ ด้านล่างตึก ตอนนั้นเองที่ชั้นสองมีสาวบัญชีหน้าตาสะสวยกำลังมองลงมานัยน์ตาฉาบไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน

หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไมเถ้าแก่ใหญ่แบบนี้ถึงชอบผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งได้ หน้าตาก็งั้น ๆ!

แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมาหล่อนก็ได้เห็นชัดแล้วว่า เถ้าแก่ปฏิบัติกับภรรยาของเขาดีมาก และยังออกไปเลี้ยงสังสรรค์น้อยมาก เพราะเดิมทีหล่อนคิดจะตามเขาไปออกงานพวกนั้นด้วย แต่ก็หาโอกาสไม่ได้เสียที

หล่อนไม่คิดว่าตัวเองจะด้อยกว่าโจวเอ้อร์นีนั่นตรงไหน เมื่อเทียบประวัติการศึกษาระหว่างพวกหล่อนแล้วอีกฝ่ายหรือจะเทียบหล่อนติด?

ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนมีลูกทั้งยังเป็นลูกแฝดด้วย!

หล่อนเคยคำนวณรายได้ของโรงงานแล้ว

นั่นยิ่งทำให้หล่อนมุ่งมั่นในความคิดของตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าได้ผู้ชายแบบนี้ชีวิตที่เหลือของหล่อนก็ไม่ต้องลำบากแล้ว และยังดีกว่าแฟนคนนั้นของหล่อนอีกหลายร้อยเท่าด้วย

……………………………………………………………………………………………………………

[1] ชาต้าหงเผา(大红袍)เป็นชาที่มาจากเขาอู่อี๋ซาน มณฑลฮกเกี้ยน เป็นชาประเภทเดียวกับอู่หลงชา ลักษณะเส้นยาวพับแน่นสีเขียวเข้มขอบใบสีแดง มีกลิ่นหอมของกล้วยไม้ป่าผสมกับกลิ่นปิ้งไฟ

[2] ไม่ได้ผลไม้ดี ๆ กิน(没有好果子吃) เป็นสุภาษิตจีนเปรียบเทียบว่า ผลสุดท้ายจะที่จะเกิดขึ้นมันจะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดี

สารจากผู้แปล

เจ้าสามนักเสี้ยมทำงานแล้วค่ะ แบคเอ้อร์นีเยอะขนาดนี้อย่าคิดเผลอตัวไปกับแม่นักบัญชีคนนั้นเชียวนะหวังหยวน

ไหหม่า(海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset