ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ออกมา ทั้งร่างเครียดตึงจนเป็นสายธนู ความตั้งใจแผ่ออกเป็นหนึ่งแสนสองหมื่นส่วน ก้มหน้าก้มตาลงอ่านประเด็นสำคัญในรายละเอียดยิบย่อยของรายงานแผนกที่ต้องเสนอในอีกไม่ช้า
ท่านประธานป๋อวันศุกร์นี้ก็ต้องขึ้นรับตำแหน่งประธานผู้บริหารสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อทั่วโลก ทุกๆ ฝ่ายจึงต้องรายงานในการประชุมครั้งนี้
จนถึงขณะนี้การประชุมได้กินเวลามาร่วมสองชั่วโมงแล้ว แต่ละคนอยู่ในชุดสูทรองเท้าหนัง ที่เหงื่ออาบแผ่นหลังทะลุผ่านเสื้อเชิ้ต
ลอบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง เห็นได้ชัดว่าอายุยังน้อย แต่ออร่าแบบนั้น…
ช่างทรงพลังจริงๆ!
เวลานี้หัวหน้าฝ่ายธุรการกำลังตัวสั่นงันงกในขณะกล่าวจบการรายงาน เขายืนอยู่ที่เดิมเพื่อรอให้บอสใหญ่ได้วิพากษ์วิจารณ์ ซักถามข้อสงสัยและหาข้อผิดพลาด
หลังจากนั้นดวงตาอันเย็นชาได้กวาดมองมา ทำเอาหนาวไปทั้งห้องประชุมเป็นเวลาสามวิ
ทว่ารอตั้งหลายนาทีก็ไม่เห็นว่าป๋อจิ่งชวนจะพูดอะไรออกมา
ทั้งห้องประชุมเข้าสู่ความเงียบสงัด ขาของหัวหน้าฝ่ายธุรการที่ยื่นอยู่ข้างหน้าเริ่มสั่นไม่เป็นท่า เขาส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังอวี๋ซงที่อยู่ข้างๆ ป๋อจิ่งชวน
อวี๋ซงเม้มปากเข้าหากัน ลุกขึ้นเดินเข้าใกล้ด้านหน้าของป๋อจิ่งชวนแล้วโน้มตัวลงทักเขาหนึ่งคำ
“คุณผู้ชาย…”
ป๋อจิ่งชวนหันหน้ามามองเข้า อวี๋ซงถึงกับผงะไป
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้เห็นแววตาสับสนของคุณผู้ชาย หรือว่า…ฝนกำลังจะตกเป็นสีแดงแล้ว
หลังจากที่ตกตะลึงไปแล้ว เขาก็รีบพูดขึ้น “หัวหน้าหวังรายงานเสร็จแล้วครับ”
ป๋อจิ่งชวนคิ้วตึงพร้อมก้มหน้าลงพลิกเอกสารของแผนกธุรการในมือไปมาก่อน แล้วถึงจะได้เอ่ยออกมา
“มาตรฐานการประเมินงานยังต้องปรับให้สูงขึ้นอีก ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทมีปัญหา อีกเดี๋ยวแผนกการเงินช่วยส่งบิลรายจ่ายทุกปีอย่างละเอียดของแผนกธุรการมาให้ตรวจสอบด้วย”
ป๋อจิ่งชวนไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ ไม่ได้บอกให้หัวหน้าหวังกลับไปได้และก็ไม่ได้บอกให้ฝ่ายต่อไปขึ้นมารายงานต่อเช่นกัน
หัวหน้าธุรการที่น่าสงสารยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี
เป็นเวลาเนิ่นนาน ในที่สุดป๋อจิ่งชวนก็มีการเคลื่อนไหว
ทุกสายตาจับจ้องไปยังเขา
สิ่งที่เห็นมีเพียงมือขาวนั้นยกขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อหันไปโบกเรียกอวี๋ซงเข้ามา
เขาค่อยๆ หันหน้ามา ความหล่อเหลาบนใบหน้าฉาบด้วยความเคร่งขรึมและจริงจังอย่างเคยตัว
เขาผินหน้ากวาดตามองอวี๋ซงหนึ่งครั้ง ความซับซ้อนได้แผ่ขยายในดวงตาสีดำขลับ
คุณผู้ชายที่เป็นแบบนี้สิ ถึงเป็นคุณผู้ชายที่อวี๋ซงรู้จัก
อวี๋ซงโน้มตัวลงอย่างรีบร้อน “คุณผู้ชายมีอะไรให้รับใช้ครับ”
เสียงต่ำและราบเรียบของป๋อจิ่งชวนแว่วขึ้นข้างหูของอวี๋ซง
“ทางนั้นเขาเป็นไงบ้าง”
เขาถึงกับฉงน
ใครที่ไหนเป็นอะไร
ก็รู้อยู่ว่าคำพูดของคุณผู้ชายคนธรรมดาๆ มักฟังไม่เข้าใจ แต่เขาคอยอยู่เคียงข้างคุณผู้ชายมานานขนาดนี้ ไม่มีทางจะฟังออกไม่ออก?
อวี๋ซงไร้การตอบสนองไปพักหนึ่ง จึงไม่ได้ตอบป๋อจิ่งชวนกลับไปในทันที
ป๋อจิ่งชวนหันกลับมามองเขา นัยน์ตาสีดำวาวคู่นั้นค่อยๆ กรอกมาที่หางตา ความเย็นชาที่แฝงอยู่ในความสงบและสง่างาม ทำเอาอวี๋ซงตกใจจนตัวเหงื่อแตกพลั่ก
หากคุณผู้ชายถามแบบนี้ แสดงว่าหัวข้อนั้นพวกเขาต้องเคยเอ่ยถึงมันมาก่อน
หัวสมองเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว
เอ๊ะ?!
สรุปว่า ‘เขา’ ไหน
เขาที่เป็นสัตว์?
เขาที่เป็นผู้ชาย?
เขาที่เป็นผู้หญิง?
เอ๊ะ?!
เสียง ติ๊ง ดังขึ้นในสมองของอวี๋ซง!
เป็นเธอ!
ใช่!
เป็นเธอ! เป็นเธอ!! ต้องเป็นเธอ!!