ตอนที่ 432 ที่ดินไร้ประโยชน์
หลังจากเมิ่งชิงซีชำระเงินเสร็จอย่างดีอกดีใจ เธอก็ได้ทราบข่าวที่ไม่ดีสำหรับเธอนัก
“เฮ้อ คุณโชคดีที่ไม่ได้ที่ดินเมื่อครู่นี้ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนประมูลเสียแพงขนาดนั้น เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นที่ดินไร้ค่า ทำไมถึงยังประมูลในราคาสูงขนาดนั้นอีก”
“ยังไงนะ คุณรู้อะไรมาเหรอ” คนที่อยู่ข้างๆ ถามอย่างแปลกใจ
“แน่นอนมีคนบอกว่าที่ดินผืนนั้นอีกไม่นานก็จะถูกรัฐบาลเวนคืน เมื่อถึงเวลาใช้เป็นเส้นทางคมนาคมน่ะสิ”
สมองของมิ่งชิงซีตอนนี้มึนงงไปหมด “เมื่อกี้เธอได้ยินหรือเปล่า”
“ได้ยินแล้วค่ะผู้จัดการ กลับไปจะบอกประธานเมิ่งยังไงดีคะ” ครั้งนี้จำนวนเงินที่พวกเขาใช้นั้นมากกว่าที่คาดไว้กว่าสามสิบล้าน หากประธานเมิ่งทราบข่าวนี้เกรงว่าสีหน้าต้องย่ำแย่แน่
ผู้ช่วยเริ่มคาดเดาถึงจุดจบของตัวเองแล้ว มากับคุณหนูท่านนี้ช่างเป็นวิบากกรรมแท้ๆ ก็แค่โดนผู้ชายคนหนึ่งท้าทาย นี่กลับเอาเงินของบริษัทมาล้อเล่นแบบนี้ได้
ผู้ช่วยกำลังพิจารณาว่าเธอควรจะลาออกดีไหม อยู่กับบริษัทแบบนี้ต่อไปจะมีอนาคตไหม
ภายหลังจากที่ผู้ช่วยได้ใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดก็เลือกที่จะลาออกไปอยู่บริษัทเล็กๆ แทน บริษัทอื่นถึงสวัสดิการจะน้อยกว่าที่บริษัทตระกูลเมิ่งแต่ก็ยังมีอนาคต แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง
ตอนนี้เมิ่งชิงซีตระหนักได้แล้วว่าเธอทำผิดพลาดไปครั้งใหญ่หากเธอใช้เงินซื้อที่ดินไร้ค่าจริงๆ งั้นเธอจะบอกเมิ่งไหวเซินอย่างไร ต้องรู้ว่าพ่อคาดหวังเอาไว้สูงมากในการส่งเธอมา ซ้ำยังกำชับเธอหลายครั้งว่าให้ดูการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์
ตอนนี้เธอทำทุกอย่างพังหมดแล้ว พ่อจะจัดการเธออย่างไร เมิ่งชิงซีคิดล่วงหน้าไปต่างๆ นานา ต้องรู้ว่าในใจของเมิ่งไหวเซินนั้นลูกสาวสำคัญไม่เท่าบริษัท
นั่นคือสิ่งที่เขาสร้างมากับมือ ถ้าบริษัทนี้ถูกทำลายลงเพราะฝีมือเมิ่งชิงซี เธอต้องถูกเมิ่งไหวเซินจัดการแน่
“ทำไงดี ทำไงดี เงินก็จ่ายไปแล้ว จะขอคืนได้ที่ไหนกันเล่า” เมิ่งชิงซีไม่อาจทำเรื่องที่จะทำให้บริษัทขายหน้าแบบนี้ได้
เธอมองไปทางด้านข้างพบว่าผู้ชายที่ออกไปก่อนหน้านี้กำลังจะออกไปด้านนอกแล้ว “นี่ คุณข้างหน้านั่นน่ะ หยุดก่อน” เมิ่งชิงซีรีบตามผู้ชายคนนั้นไปทันที หมอนั่นมันตัวต้นเรื่อง ถ้าไม่มีเขาเธอก็คงไม่ทำผิดพลาดแบบนี้หรอก
ผู้ชายคนนั้นหยุดเดิน ยืนนิ่งไม่ขยับ เมิ่งชิงซีตามมาทันเขาอย่างรวดเร็ว “คุณบอกมาว่าคุณเป็นใครกันแน่ ทำไมคุณถึงต้องกดราคาของฉันทุกครั้ง”
เมิ่งชิงซียืนอยู่ต่อหน้าเขา มองดูเขาที่ใส่แว่นดำขนาดใหญ่ ใบหน้าทั้งหมดถูกซ่อนเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ผู้ชายคนนี้ไม่มีทางมีเจตนาดีแน่ แน่นอนว่าต้องเป็นการจงใจ
ชายหนุ่มถอดแว่นตาออก ใบหน้านั้นดูหล่อเหลา เขายกยิ้มที่มุมปาก “เมื่อกี้คุณคุยกับผมเหรอครับ”
น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้อ่อนโยนมากจนทำให้เมิ่งชิงซีสงสัยว่าก่อนหน้านี้ตัวเองพูดดังไปรึเปล่า ทำลายภาพลักษณ์ของหญิงสาวไปจนหมด
“ใช่ เมื่อกี้ฉันพูดกับคุณ คุณทำอย่างนี้ทำไม” เมิ่งชิงซีลดเสียงโดยไม่รู้ตัวเพราะกลัวว่าเขาจะตกใจ
“แน่นอนว่าที่ผมทำอย่างนี้เพราะผมมีเหตุผล ต่อไปคุณก็จะรู้เอง” หลังจากชายหนุ่มเอ่ยจบก็สวมแว่นกันแดดและเดินอ้อมตัวเธอออกไปด้านนอก
เมื่อสติของเมิ่งชิงซีกลับมาชายหนุ่มก็ขึ้นรถไปแล้ว รถคันสีดำขับออกไป เมิ่งชิงซีคิดแล้วคิดอีกก็พบว่าเขาเพียงแค่ก่อกวนเธอเท่านั้นแต่ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลย
“ผู้จัดการ พวกเรากลับกันเลยไหมคะ”
“กลับสิ ไม่งั้นจะไปไหนได้ เธอนี่มันใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้จักห้ามฉันบ้าง” เมิ่งชิงซีโยนความผิดทั้งหมดให้ผู้ช่วย ทำให้ผู้ช่วยยิ่งรู้สึกอยุติธรรมมากขึ้นไปอีก ผู้บริหารไร้ความรับผิดชอบแบบนี้มีอะไรให้ภักดีกัน ไม่สู้รีบฉวยโอกาสตอนนี้ลาออกไปเสีย
ผู้ช่วยตัดสินใจแน่วแน่แล้ว แต่ยังต้องปปิดบังเมิ่งชิงซีไปก่อน เพราะหากเธอรู้เข้าเดี๋ยวก็จะโวยวายอีก
โอวหยางหงได้ยินคำถามแสนโง่เขลาของผู้หญิงคนนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำสมองหล่นหายที่ไหนกันแน่ นึกสมน้ำหน้าในความโชคร้ายของบริษัทตระกูลเมิ่งที่มีผู้หญิงแบบนี้เป็นผู้นำมาประมูลที่ดินที่ไม่ควรค่าแม้แต่แดงเดียวแบบนี้
ตอนที่ 433 ล้มละลาย
ในใจโอวหยางหงสำหรับเมิ่งชิงซีแล้วช่างน่าขำ แต่เมื่อคิดได้ว่าผู้หญิงที่ไม่เข้าตาคนนี้นั้นทำร้ายถังโจวโจวครั้งแล้วครั้งเล่า พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาโอวหยางหงรู้สึกว่าเขารู้สึกดีต่อผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ลงจริงๆ
“แต่ไม่เป็นไรไม่นานเรื่องนี้ก็จะจบลงถึงเวลาผู้หญิงคนนั้นคงจะได้ดูอะไรสนุกๆ แน่” โอวหยางหงตั้งตาคอยให้เมิ่งไหวเซินรู้ว่าที่ดินผืนนั้นนอกจากรกร้างแล้วยังไม่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้ ถึงเวลานั้นอยากรู้นักว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
“ฝั่งนั้นวางมือได้แล้ว” โอวหยางหงโทรออกหาสายสายหนึ่งและพูดกับปลายสายเพียงเล็กน้อยก็วางสาย หลังจากนั้นใบหน้าก็ยิ้มไม่หยุด
ช่วงนี้ตระกูลเมิ่งต้องตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถไม่น้อย เมิ่งไหวเซินเห็นเมิ่งชิงซีใช้เงินร้อยหกสิบล้านซื้อที่ดินที่ถูกทิ้งร้างกลับมาก็โกรธเธอมาก แต่หล่อนก็ยังเถียงด้วยเสียงที่แข็งกร้าวว่าเธอไม่ได้ผิด ทุกอย่างเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น
เมิ่งไหวเซินไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนไหน เขารู้แค่ว่าครั้งนี้เมิ่งชิงซีทำให้ตระกูลเมิ่งขาดทุนอย่างหนัก เขาคิดแล้วคิดอีกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี ถ้าหากให้พวกบอร์ดบริหารเก่ารู้พวกเขาต้องไม่ยอมจบเรื่องลงด้วยดีแน่
และการร่วมงานกับบริษัทซินซิงก็เกิดปัญหาขึ้น ตอนที่เมิ่งไหวเซินรู้ว่าบริษัทซินซิงล้มละลายนั้นเขาก็แทบทรุด แล้วเงินที่บริษัทของพวกเขาลงทุนกับบริษัทซินซิงไปเล่าจะทำอย่างไร
เมื่อเขาตรวจสอบเรื่องนี้จนชัดเจนแล้วก็คิดว่ามันเป็นกับดัก ไม่รู้ว่าใครกันที่สร้างบริษัทยกเมฆแบบนี้ขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะพุ่งเป้ามาที่ตระกูลเมิ่งโดยเฉพาะ คิดทำลายตระกูลเมิ่ง
ครั้งนี้ตระกูลเมิ่งบาดเจ็บสาหัส เมิ่งไหวเซินไม่เห็นหัวเมิ่งชิงซีอีกต่อไป ฉินอวิ๋นเองก็โมโหแทนเมิ่งไหวเซินอยากจะตำหนิการกระทำเหลวไหลของเมิ่งชิงซี แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี เพราะเรื่องก็เกิดขึ้นมาแล้วตอนนี้จะต่อว่าไปก็สายไปแล้ว
“ชิงซี นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมแกถึงเอาแต่หมกตัวอยู่ที่บ้านทุกวัน ตอนนี้บริษัทของพ่อแกกำลังเจอกับปัญหาใหญ่ แกไม่ไปช่วยให้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายครั้งนี้ไปได้ รู้จักแต่หดหัวเนี่ยนะ ฉันคลอดลูกแบบแกมาได้ยังไงกัน”
ฉินอวิ๋นผิดหวังมากที่เห็นเมิ่งชิงซีเอาแต่หลบหนีความผิดเหมือนกับเต่าในกระดอง แต่เมิ่งชิงซีก็ยังคงไม่ทำอะไร เอาแต่นอนอยู่บนเตียงราวกับซากศพ เธอนึกอยากจะตามหาผู้ชายคนนั้นเพื่อคิดบัญชี แต่หลังจากตอนนั้นผู้ชายคนนั้นก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย ราวกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อนอย่างนั้น
เมิ่งไหวเซินลืมเอกสารสำคัญมากฉบับหนึ่ง เขาที่เพิ่งออกไปได้ไม่นานจึงขับรถกลับไปที่บ้านอีกครั้ง “คุณผู้ชายทำไมกลับมาอีกล่ะคะ”
แม่บ้านที่เห็นเมิ่งไหวเซินนึกแปลกใจ เพราะเห็นว่าเขาเพิ่งออกไปได้ไม่นานก็กลับมาแล้วและเห็นสีหน้าเจ้านายดูรีบร้อนมาก
“ฉันกลับมาเอาของ เธอไม่ต้องมาสนใจฉัน ไปทำงานของเธอเถอะ” เมิ่งไหวเซินเดินขึ้นไปชั้นสองเข้าไปในห้องหนังสือและเจอกลับสิ่งที่ตัวเองหาอยู่บนโต๊ะ
เขาที่กำลังจะลงไปชั้นล่างก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันจากในห้องบนชั้นสอง ในบ้านนี้นอกจากฉินอวิ๋นก็มีเมิ่งชิงซี คงไม่ใช่ว่าพวกเขาสองแม่ลูกทะเลาะกันหรอกนะ
เมิ่งไหวเซินไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนึกอยากรู้ถึงสาเหตุที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะยามปกติฉินอวิ๋นให้ท้ายเมิ่งชิงซีเป็นที่สุด เรื่องอะไรกันที่ทำให้เธอต่อว่าลูกสาวได้
ถึงแม้ว่าเมิ่งไหวเซินจะผิดหวังในตัวลูกสาวของตัวเองมาก แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ไหนเลยจะสามารถเมินเฉยไปได้ตลอด เพียงแต่ช่วงนี้เขากลุ้มใจมากเลยไม่มีอารมณ์จะมาสนใจความรู้สึกของเมิ่งชิงซี
“แม่คะ แม่ไม่ต้องพูดอีกได้ไหม เรื่องที่มันเกิดขึ้นและที่เป็นอย่างนี้หนูเองก็ไม่ได้อยากให้เกิด ยังมีเรื่องของถังโจวโจวอีก ทำไมแม่ถึงจัดการมันไม่ได้สักที หนูเห็นมันแล้วก็โมโห”
“เบาๆ หน่อย เรื่องของถังโจวโจวฉันจะหาทางเอง แต่ตอนนี้แกเอาแต่นอนจมปลักอยู่ที่บ้านไปจะไปมีประโยชน์อะไร รีบไปช่วยพ่อที่บริษัทเดี๋ยวนี้ เรื่องร้ายนี้จะได้จบลงไวๆ”
ฉินอวิ๋นทนมองเมิ่งชิงซีมีสภาพเป็นแบบนี้ไม่ได้ นี่คือลูกสาวของเธอจริงใช่ไหม เมื่อก่อนลูกสาวเธอไม่เป็นแบบนี้นี่
“แม่คะ ที่บริษัทมีพ่ออยู่แล้ว ถึงหนูไปก็ช่วยอะไรพ่อไม่ได้หรอก พ่อจะคิดว่าหนูเกะกะด้วยซ้ำ แม่รีบบอกมาเร็วว่าเรื่องของถังโจวโจวแม่คิดจะทำยังไง”