ตอนที่ 418 โจมตี
ถังโจวโจวคิดว่าชีวิตของหลินเหยาจะหาอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองไม่เจอเสียแล้ว และไม่แปลกใจที่เธอมีความคิดเชิงลบแบบนี้ เมื่อก่อนหลินเหยาไม่เคยแม้แต่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะมีความรู้สึกให้กับผู้ชายสารเลวคนนั้นอยู่เหมือนกัน เห็นแล้วถังโจวโจวถึงกับหัวใจสั่นสะท้าน
ตอนนี้หลินเหยาและฟังหยวนคบกันแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีที่ถังโจวโจวไม่เคยคิดถึงมาก่อน คนหนึ่งเปรียบเหมือนพี่น้องที่ดีของเธอเอง ส่วนอีกคนก็คือผู้ชายที่เคยชอบเธอ จนสุดท้ายเขาก็หาความสุขของตัวเองจนเจอ เธอเองก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไปแล้ว
“ก็ไม่เชิงว่าใครจีบก่อนนะ” อย่างไรเสียขอแค่ทั้งสองเผยใจออกมา เพียงแค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว หลินเหยาเองก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่ระเบียง ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ด้านนอกก็ไม่มีความร้อนของช่วงเวลากลางวันอีก ซ้ำยังมีสายลมอ่อนๆ ที่ค่อนข้างเย็นสบายโชยมาเป็นระยะๆ
วันนี้หลินเหยาสวมชุดราตรีสีฟ้าอ่อน ชุดราตรีเข้ารูปนั้นขับเน้นให้ทรวดทรงของเธอโดดเด่นขึ้นมา ถ้าออกไปด้านนอกคงทำให้ผู้ชายด้านนอกนั้นมองตาเป็นมันแน่นอน
ลั่วเซ่าเชินเองก็เลือกชุดราตรีสีฟ้าอ่อนให้กับถังโจวโจว เข้าคู่กับชุดอัญมณีสีฟ้าที่ทำให้ถังโจวโจวยิ่งดูสวยสง่ามากยิ่งขึ้น
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ที่ระเบียงจนลืมเวลาไปเสียสนิท เมื่อฟังหยวนกลับมาหาถึงพบว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว
ฟังหยวนอยากให้หลินเหยาไปนั่งที่โต๊ะหลักทางด้านนั้น ถังโจวโจวจึงทำได้แค่ตามไปกับลั่วเซ่าเชิน ทั้งสองคนนั่งลงบนโต๊ะ ถึงพบว่าบนโต๊ะมีแต่คนสนิทคุ้นเคยกันทั้งนั้น
“พี่เซ่าเซิน กลับมาแล้วเหรอคะ” เมิ่งชิงซีที่ก่อนหน้านี้ตกใจจึงเอาแต่หลบหน้าพวกลั่วเซ่าเชิน รอจนเธอได้คิดทบทวนดีๆ อีกครั้งก็วางใจลง ตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของถังโจวโจวอีก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากกดเรื่องนั้นเอาไว้ ก็เป็นเพราะพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือเธอ
เมื่อไม่เป็นไรแล้วเมิ่งชิงซีจึงไม่ร้อนใจอีก ขอแค่เธอไม่ยอมรับเสียอย่าง ถังโจวโจวเองก็ไม่มีหลักฐาน หล่อนจะทำอะไรเธอได้
“อืม” ลั่วเซ่าเชินกำลังดึงเก้าอี้ให้ถังโจวโจวนั่ง จะเอาเวลาที่ไหนไปมองเมิ่งชิงซี พอเมิ่งชิงซีเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอก็ไม่ได้โกรธ หัวเราะพลางพูดกับถังโจวโจวว่า “โจวโจว ไม่เจอกันนานเลยนะ เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ฉันจะได้ไปเยี่ยม”
ถังโจวโจวมองดูเธอที่ทักทายอย่างเป็นมิตรราวกับว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีมาก คนทั้งโต๊ะต่างมองไปที่ถังโจวโจวเป็นตาเดียวเพราะถังโจวโจวดูไม่สนใจเมิ่งชิงซีอย่างเห็นได้ชัด
“โจวโจว ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่า ทำไมเธอถึงเย็นชากับฉันแบบนี้” ถังโจวโจวคิดว่าถ้าตนเองไม่สนใจเมิ่งชิงซี เธอคงไม่มีหน้าเข้ามาใกล้อีกแน่
ใครจะไปรู้ สองปีที่ไม่ได้เจอกัน ความหน้าด้านของเมิ่งชิงซีไม่เคยน้อยลงเลย แม้ตัวเธอเองจะไม่สนใจเมิ่งชิงซี แต่เธอกลับมีวิธีที่จะทำให้คนรอบข้างมองเธอไม่ดีไปด้วย
“คุณผู้หญิงคนนี้ คุณเมิ่งอุตส่าห์พูดคุยด้วยอย่างกระตือรือร้นขนาดนี้ คุณกลับเมินเธอแบบนี้ จะหยิ่งเกินไปหน่อยรึเปล่า”
สุดท้ายก็มีคนที่เริ่มไม่พอใจ เมิ่งชิงซีเห็นว่ามีคนเข้าข้างเธอในใจก็ดีใจมาก อาศัยการกระทำครั้งนี้ของถังโจวโจวคนอื่นคงจะจดจำหล่อนไปอีกนานแน่
ถังโจวโจวมองดูเมิ่งชิงที่กำลังแสดงละครแล้วก็รู้สึกว่าคนรอบข้างตาบอดหรือไง ลั่วเซ่าเชินคิดอยากจะตำหนิเธอเสียหน่อย แต่ถังโจวโจวกลับแอบจับมือเขาไว้ สื่อให้เขาใจเย็นๆ
“วางใจเถอะ ฉันจัดการเธอเองได้” หลังจากเซ่าเซินแสดงความจริงใจออกมาแบบนี้ ถังโจวโจวจะทนกับคนที่อยากได้สามีของเธอต่อไปได้อย่างไร นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
“คุณเมิ่งดูเหมือนว่าความจำจะไม่ค่อยดีนะคะ ฉันและคุณเป็นศัตรูหัวใจกัน จะไปมีความสัมพันธ์ดีๆ ต่อกันได้ยังไง ที่ฉันไม่ตอบคุณเพราะอยากไว้หน้าตัวเอง ใครจะรู้ว่าคุณยังหน้าด้านถามต่ออีก นี่จะโทษฉันได้เหรอคะ”
คำที่เอ่ยออกมาของถังโจวโจวทำให้ทุกคนหันไปมองเมิ่งชิงซีเป็นตาเดียว คนที่นั่งอยู่ที่นี่ไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่เมื่อครู่ถูกเมิ่งชิงซีปั่นหัว ยิ่งไปกว่านั้นถังโจวโจวเองก็ไม่ได้ออกมาให้ทุกคนได้พบหน้านานมากแล้ว ถ้าจะลืมกันไปบ้างก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เมื่อเอ่ยออกมาแบบนั้น คนมากมายก็คิดถึงการหมั้นหมายกันระหว่างเมิ่งชิงซีและลั่วเซ่าเชินก่อนหน้านี้และหันไปมองลั่วเซ่าเชินที่นั่งนิ่งอยู่อีกครั้ง ดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงจะยังไม่ลืมและอยากจะสานต่อความสัมพันธ์
แต่ดูท่าทีฝ่ายชายแล้วเหมือนจะไม่คิดแบบนั้น คงไม่ใช่ว่าเมิ่งชิงซีคิดไปเองคนเดียวเหรอ
ตอนที่ 419 ทำตัวอวดดี
“ถังโจวโจว เธอ…” เมิ่งชิงซีโกรธมาก ถังโจวโจวกล้าทำอย่างนี้กับเธอ กล้าดียังไง
“ทำไม ฉันพูดผิดเหรอ”
ครั้งนี้ถังโจวโจวไม่กลัวเมิ่งชิงซีอีกต่อไป เดิมทีก็เป็นตัวหล่อนเองที่เอาแต่ฝันลมๆ แล้งๆ ถ้าลั่วเซ่าเชินอยากจะอยู่กับหล่อนจริงๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนคงจะแต่งงานกันจนไม่รู้ว่ามีลูกไปกี่คนแล้ว
“ดี อวดดี รอดูไปเถอะ”
“คุณเมิ่งพูดอะไรระวังหน่อยนะคะ ตอนนี้โจวโจวเป็นสะใภ้ของบ้านตระกูลลั่วแล้ว กรุณาถอนคำพูดเมื่อครู่ด้วย” ลั่วเซ่าเชินไม่ได้ต่อว่าเมิ่งชิงซีเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังโกรธ และโกรธมากด้วย
ความวุ่นวายบนโต๊ะของพวกเขาดึงดูดความสนใจจากโต๊ะหลัก ถังโจวโจวดึงแขนเสื้อของลั่วเซ่าเชินไว้ พูดเสียงต่ำว่า “พอแล้ว แค่นี้พอแล้ว วันนี้เรามางานฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของคุณปู่ฟังนะ พวกเราไม่ควรมาสร้างปัญหาที่นี่”
ดวงตาเมิ่งชิงซีเริ่มแดง ตอนนี้ไม่มีใครเห็นใจเธอเลย เพียงพูดว่าเป็นตัวเธอเองที่ดูถูกตัวเอง
เห็นสายตาตักเตือนของเมิ่งไหวเซิน เมิ่งชิงซีจึงทำได้แค่กัดฟันเอาไว้ ถังโจวโจวสร้างความอับอายให้กับเธอมาก เธอจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้แน่
ไม่ว่าภายในใจของเมิ่งชิงซีจะรู้สึกยังไง แต่อย่างน้อยบนใบหน้าก็ยังคงหัวเราะกับทุกคนต่อไป คนที่โตแล้วก็เป็นแบบนี้ ไม่มีความไร้เดียงสาเหมือนกับเด็ก ความเรียบง่ายและความปรารถนาทุกอย่างขึ้นอยู่กับหน้าตา ต้องดูตามโอกาส ทุกอย่างล้วนเป็นแบบนี้ ไม่วุ่นวายมากเท่าในวัยเด็ก
เมิ่งชิงซีหยุดพูดไปแล้ว ถังโจวโจวก็ไม่ได้รบเร้าเธอไม่ปล่อย ก่อนหน้านี้เพราะอีกฝ่ายยั่วโมโหเธอก่อนทำให้ถังโจวโจวมีโอกาสตอกกลับ
พิธีกรสัมผัสบรรยากาศของผู้ชมได้ มีเพียงโต๊ะของถังโจวโจวเมื่อครู่นี้ที่ดูวุ่นวาย นอกจากนั้นก็จะนั่งฟังพิธีกรบนเวทีอย่างสงบพร้อมเชิญคุณปู่ฟังขึ้นมากล่าวสองสามประโยค
เมื่อสายตาของถังโจวโจวมองไปทางหลินเหยาก็พบว่าเธอนั่งอยู่อย่างเรียบร้อยเหมือนกับเด็กประถมที่ต้องไปพบคุณครู เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้ง เธอถึงพบว่าเดิมทีโต๊ะที่หลินเหยานั่งเป็นโต๊ะคนสนิทของครอบครัวตระกูลฟัง มิน่าล่ะเหยาเหยาถึงมีอาการแบบนั้นคงเพราะเธอคงตื่นเต้นนั่นเอง
เพียงแต่ตอนนี้ถังโจวโจวเองก็ช่วยเธอไม่ได้ นั่นต้องขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง เธอจะต้องผ่านไปได้อยู่แล้ว
“โจวโจว มองอะไรอยู่ ลองชิมอันนี้สิ” ลั่วเซ่าเชินตักกุ้งมาตัวหนึ่ง ถังโจวโจวก็ไม่มองไปรอบๆ อีก งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว ด้านบนเวทีก็มีการแสดง ส่วนด้านล่างเวทีทุกคนก็พูดคุยกัน
ครั้งนี้ฉินอวิ๋นและเมิ่งไหวเซินมาเข้าร่วมงานวันเกิดของคุณปู่ฟังด้วยกัน ฉินอวิ๋นที่เห็นถังโจวโจวทำให้ลูกสาวของตัวเองต้องขายหน้าก็รู้สึกเจ็บใจแทนลูกสาว
ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ครั้งนี้ลูกสาวออกไปและเริ่มคุยกับเธอก่อนและก็ไม่มีท่าทีขุ่นเคืองเหมือนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าครั้งก่อนเธอทำผิดไป
ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้เมิ่งชิงซีจะยอมถอยให้ก้าวหนึ่งแล้วทำไมฉินอวิ๋นยังต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเธออีกล่ะ อย่างไรนี่ก็คือลูกสาวของเธอเอง ตั้งครรภ์มากว่าสิบเดือน ถ้าให้พูดก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอเอง
ฉินอวิ๋นมองดูท่าทางหยิ่งผยองของถังโจวโจว เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกล้าดียังไงมาทำให้คนในตระกูลเมิ่งขายหน้า ตนจะต้องทำให้อีกฝ่ายได้เห็นฤทธิ์เดชกันสักหน่อย สองแม่ลูกพากันมองข้ามฐานะของถังโจวโจวไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อทานอาหารเสร็จ ถังโจวโจวอยากจะไปห้องน้ำ เธอจึงกระซิบบอกลั่วเซ่าเชินและตรงไปทางห้องน้ำทันที
เมิ่งชิงซีที่อยากจะตามเธอไปก็กลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะสังเกตเห็น ฉินอวิ๋นที่รู้ความต้องการในใจของลูกสาวดีจึงลุกจากที่นั่งและตามถังโจวโจวไป
คนสองคน คนหนึ่งอยู่ด้านหน้าคนหนึ่งตามหลัง ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เมิ่งชิงซีมองดูผู้เป็นแม่และพบว่าลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้มองมาทางนี้ ในใจพลันยินดี รออีกครู่หนึ่งหล่อนถึงลุกจากที่นั่งไป
ตอนที่ถังโจวโจวทำธุระเสร็จและออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าด้านนอกมีผู้หญิงในชุดราตรีสีไวน์แดงยืนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจเธอมากนัก นี่เป็นห้องน้ำ มีคนมาเข้าห้องน้ำแล้วแปลกตรงไหนกัน
ผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าต่ำ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ถังโจวโจวเองก็ไม่ได้อยากรู้ ตรงไปที่อ่างล้างมือทันที