ตอนที่ 228 นกพิราบ
“โจวโจวยังอยู่ข้างบน แล้วทำไมคุณยังไม่กินข้าวล่ะ” ลั่วเซ่าเชินนั่งลงข้างๆ เมิ่งชิงซี เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี เมิ่งชิงซีตักซุปให้เขาถ้วยหนึ่งอย่างเอาใจ “เซ่าเชิน คุณทานซุปหน่อยนะคะ”
สำหรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเมิ่งชิงซี ทำให้ลั่วเซ่าเชินไม่ปฏิเสธเธอเหมือนเคย เขากินโดยไม่ต้องลังเล แม่นมจ้าวหยิบตะเกียบและชามออกมา เห็นเมิ่งชิงซีที่ทำตัวเหมือนเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน คอยตักอาหารให้คุณชาย และคุณชายก็ไม่รู้เป็นอะไรกลับยอมกินข้าวที่เมิ่งชิงซีตักให้แต่โดยดี ภาพแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
“คุณชายคะ ให้ฉันไปเรียกคุณผู้หญิงลงมาทานข้าวไหมคะ”
“ไม่ต้อง รออีกเดี๋ยวเธอก็ลงมากินเอง” ลั่วเซ่าเชินเพิ่งพูดจบ ถังโจวโจวก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหัวบันไดชั้นล่าง เขาไม่แม้แต่หันมามองเธอเลย ก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างเดียว
แต่กลับเป็นเมิ่งชิงซีที่กระตือรือร้นเดินไปหาถังโจวโจว “โจวโจว พวกเราเพิ่งพูดถึงเธอไป รีบมากินข้าวเร็ว เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด”
ถังโจวโจวถูกเมิ่งชิงซีจูงมือไป เมิ่งชิงซีพาเธอมานั่งข้างๆ เธออีกข้างหนึ่ง ถังโจวโจวมองลั่วเซ่าเชิน เธอรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนนกพิราบของเมิ่งชิงซี ที่เอาแต่กินอาหารที่เมิ่งชิงซีให้โดยไม่พูดอะไรเลย
เธอนั่งลงเงียบๆ และเมิ่งชิงซีก็เป็นเหมือนผึ้งที่หันไปทางนู้นทีทางนี้ที ในตอนนี้จึงมีแค่เสียงของเมิ่งชิงซี ส่วนลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวทำได้แค่มองอาหารของตัวเอง ราวกับแข่งกันก้มหน้า
หลังจากมื้ออาหารอันไร้รสชาติผ่านไป ถังโจวโจวที่เพิ่งจะวางตะเกียบลง พลันได้ยินเสียงลั่วเซ่าเชินพูดกับเธอว่า “โจวโจว หวังหวามาถึงแล้ว ผมจะให้เขาไปส่งคุณนะ”
“เซ่าเชิน โจวโจวจะไปไหนหรือคะ ให้ฉันไปส่งเธอแทนไหม”
“คุณเมิ่ง ขอบคุณในความหวังดีของคุณนะคะ แต่ฉันคิดว่าคุณมาขลุกตัวอยู่ที่นี่ทั้งวันแล้ว คุณพ่อคุณแม่ของคุณคงจะคิดถึงคุณมากแล้วล่ะค่ะ” ไม่ต้องพูดให้ชัดเจน แต่คนฉลาดก็ต้องรู้
สีหน้ายิ้มแย้มของเมิ่งชิงซีพลันบึ้งตึงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็กลับมายิ้มดังเดิมได้ “โจวโจว ที่เธอพูดมาก็ถูก แต่ฉันยังเป็นห่วงอาการป่วยของคุณป้าอยู่ และฉันเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ของฉันคงจะรอให้ฉันเอาข่าวดีไปบอกพวกท่าน เธอว่าจริงไหม”
คนสองคนสบตากันนิ่ง ราวกับมีประจุไฟปรากฏอยู่ในนั้น แต่สุดท้ายก็กระเด็นไปคนละทาง “เอาละ ชิงซี คุณก็กลับไปก่อนเถอะ ถึงเวลาถ้าคุณแม่ผมฟื้นแล้ว ผมจะแจ้งให้คุณทราบ”
เมื่อลั่วเซ่าเชินพูดออกมาอย่างนี้ เมิ่งชิงซีก็ทำได้แค่เก็บคำประท้วงของตัวเองลงไป “ในเมื่อเซ่าเชินพูดอย่างนี้ ฉันก็จะฟังที่คุณพูดค่ะ ถ้าคุณป้าฟื้นแล้ว คุณต้องรีบบอกฉันนะคะ ฉันจะได้ไปเยี่ยม”
“รู้แล้ว โจวโจว ไปเถอะ” ถังโจวโจวเห็นลั่วเซ่าเชินกับเมิ่งชิงซีดูสนิทสนมกันมากกว่าปกติ แต่เหตุใดกับเธอจึงดูเหมือนยิ่งห่างไกล แท้จริงแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่
“เซ่าเชิน ให้ฉันรออยู่ที่บ้านพวกเราได้ไหม ฉันต้องกลับบ้านคุณพ่อคุณแม่จริงๆ หรือคะ” เดิมทีถังโจวโจวก็ก้มหน้ายอมรับความจริงอย่างสงบแล้ว แต่เมิ่งชิงซีกลับแสดงตัวเหนือกว่าเธอให้เห็นตลอดเวลา เห็นๆ อยู่ว่าเธอเป็นภรรยาเซ่าเชิน แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ไปได้
“โจวโจว ผมอยากให้คุณเข้าใจนะ ที่ผมตัดสินใจแบบนี้ก็เพื่ออนาคตที่ดีของเรา หวังหวามาแล้ว ไปกันเถอะ” ลั่วเซ่าเชินจูงมือถังโจวโจวเดินออกไปหน้าประตูด้วยกัน
เมิ่งชิงซียืนอยู่ข้างหลัง มองด้วยสายตาเย็นชา ไม่คิดว่าถังโจวโจวจะมีวันนี้เร็วอย่างนี้ ในที่สุดเธอก็สามารถทำให้ถังโจวโจวออกจากตระกูลลั่วได้เสียที แค่ทำให้ถังโจวโจวกลับบ้านตัวเองไป พอคิดแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นับจากนี้เธอจะต้องทำให้ถังโจวโจวไม่ได้กลับมาเหยียบที่นี่อีก
ตอนที่ 229 ป้องกันสุดชีวิต
หวังหวาทำตามคำสั่งของลั่วเซ่าเชิน เอารถมาจอดไว้หน้าบ้าน จากนั้นไม่นานเขาก็พบกับลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจว “ผอ. คุณผู้หญิง”
“มาแล้วเหรอ พาคุณผู้หญิงไปส่งเถอะ”
“เชิญครับ คุณผู้หญิง” หวังหวาเปิดรถ รอให้ถังโจวโจวขึ้นไปนั่ง ถังโจวโจวมองลั่วเซ่าเชินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเธอก็เดินขึ้นรถไป หวังหวาปิดประตูรถ และรีบวิ่งไปที่นั่งคนขับ
ลั่วเซ่าเชินยืนมองจนหวังหวาขับรถออกไป ถังโจวโจวไม่ได้หันมามองเขาอีกแล้ว ลั่วเซ่าเซินยังยืนอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เมิ่งชิงซีรออยู่ในบ้านนานมาก ราวกับว่าลั่วเซ่าเชินไปส่งถังโจวโจวครึ่งวันแล้วยังไม่กลับมา เมื่อออกมาดูก็พบว่าลั่วเซ่าเชินยังยืนอยู่หน้าประตู “เซ่าเชิน เป็นอะไรไปคะ” พอถังโจวโจวไปแล้ว เขาก็เลยไม่มีความสุขหรือไง
“ไม่มีอะไร” ลั่วเซ่าเชินดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ให้เวลาเมิ่งชิงซีถามเซ้าซี้อะไรอีก เขาเดินเข้าไปในบ้านทันที
เดิมทีลั่วอิงถูกแม่นมจ้าวโน้มน้าวจนพาขึ้นไปข้างบนได้แล้ว แต่เมื่อลงมากลับไม่พบหน้าถังโจวโจว เธอเห็นแค่ลั่วเซ่าเชินและคุณอาคนไม่ดียืนอยู่ด้วยกัน ลั่วอิงจึงระเบิดความโกรธออกมา “คุณพ่อคะ ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่ แล้วแม่โจวโจวล่ะคะ?”
เมิ่งชิงซีตอบกลับเธออย่างใจดี “ลั่วอิง แม่โจวโจวของหนูกลับบ้านไปแล้ว ตอนนี้คุณพ่ออารมณ์ไม่ค่อยดี หนูมาเล่นกับอาไหมคะ”
ลั่วอิงไม่ยอมเล่นกับเมิ่งชิงซีเด็ดขาด จึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นว่ามีเธออยู่ที่นี่ วิ่งเข้าไปหาลั่วเซ่าเชิน น้ำตาเอ่อนองออกมาเปื้อนใบหน้า “คุณพ่อคะ แม่โจวโจวอยู่ไหนคะ หนูอยากอยู่กับแม่โจวโจว”
เธอไม่เข้าใจว่า ‘ถังโจวโจวกลับบ้าน’ แปลว่าอะไร ใช่หมายถึงกลับไปบ้านของพวกเธอไหม ลั่วเซ่าเชินย่อตัวลงมาอุ้มลั่วอิงขึ้น แล้วช่วยซับน้ำตาให้เธอ “เอาละ ไม่ต้องร้องแล้ว พ่อยังอยู่นี่จะเป็นเพื่อนให้ลูกเอง แม่โจวโจวแค่กลับบ้านไปก่อน ลูกอยู่กับพ่อไม่ดีใจหรือครับ”
“แต่หนูอยากอยู่กับแม่โจวโจวด้วยนี่คะ หนูไม่อยากอยู่กับผู้หญิงนิสัยไม่ดี” ลั่วอิงพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าเมิ่งชิงซีปรากฏความไม่พอใจ
เมิ่งชิงซีโกรธมากแต่ก็พูดไม่ได้ เพราะลั่วเซ่าเชินก็มองอยู่ ถ้าเธอทำอะไรลูกสาวสุดที่รักของเขา สิ่งที่เธอวาดฝันไว้ว่าจะได้กลายเป็นคุณผู้หญิงลั่วก็คงยากขึ้น
“ลั่วอิง คุณอาทำอะไรไม่ดีกับหนูหรือคะ” เมิ่งชิงซีพูดกับลั่วอิงด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แสดงให้ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าเธอไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป ทำไมลั่วอิงถึงได้พูดแบบนี้ออกมา
“ลั่วอิง ลูกพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ”
ลั่วเซ่าเชินไม่อยากให้ลั่วอิงเป็นเด็กพูดจาก้าวร้าวอย่างนี้ และเขาเชื่อว่าเมิ่งชิงซีไม่มีทางรับคำพูดเหล่านี้ได้ หากต่อไปลั่วอิงพูดจาแรงกว่านี้ เขาจะแก้ไขก็คงแก้ไม่ทันแล้ว แต่ลั่วเซ่าเชินก็ดูเมิ่งชิงซีออกว่าต่อหน้าเขาเมิ่งชิงซีคงไม่กล้าทำอะไรลั่วอิง
ลั่วเซ่าเชินหันหน้าไปขอโทษเมิ่งชิงซี “ชิงซี ขอโทษจริงๆ ลั่วอิงยังเด็ก คุณอย่าถือสาเลยนะ”
เมิ่งชิงซีย่อมต้องอยากเป็นคนใจกว้างต่อหน้าลั่วเซ่าเชินอยู่แล้ว ดังนั้น เธอจึงไม่ถือสาลั่วอิงด้วยเรื่องแค่นี้ “เซ่าเชิน ไม่เป็นไรค่ะ ลั่วอิงยังเล็ก เด็กมักชอบพูดอะไรแปลกๆ ฉันเข้าใจค่ะ”
“คุณพ่อ…” ลั่วอิงไม่พอใจ ทำไมคุณพ่อของเธอต้องขอโทษผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนี้ด้วย คุณพ่อเป็นของแม่โจวโจว และเป็นของเธอเท่านั้น จะถูกผู้หญิงไม่ดีคนนี้แย่งไปไม่ได้เด็ดขาด!
ลั่วอิงคิดว่า ตอนนี้ถังโจวโจวไม่อยู่ หน้าที่ดูแลลั่วเซ่าเชินอย่างใกล้ชิดก็ต้องตกเป็นของเธอแล้ว