ตอนที่ 216 สงครามไร้เสียง
คุณแม่ลั่วจับมือข้างขวาของลั่วอิง ส่วนเมิ่งชิงซีก็หมายจะจับมือข้างซ้ายของลั่วอิง แต่น่าเสียดายที่ลั่วอิงเบี่ยงตัวหลบไปได้เสียก่อน สีหน้าของเมิ่งชิงซีเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์โกรธเลยสักนิด เธอยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเดิม
หัวใจของถังโจวโจวสั่นระรัว ทำไมวันนี้เมิ่งชิงซีถึงแปลกไป เธอไม่ใช่คนที่จะสามารถเก็บอารมณ์โกรธได้แนบเนียนอย่างนี้ ลั่วอิงหักหน้าเธอขนาดนั้น เธอยังไม่ชักสีหน้าให้เห็นแม้แต่น้อย หรือเป็นเพราะว่าคุณแม่ลั่วมองไม่เห็น เธอจึงยังไม่จำเป็นต้องเล่นละคร?
ถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินจับมือกัน ก่อนจะเดินตามพวกเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างเงียบๆ ลั่วเซ่าเชินนั่งเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเขาเริ่มเห็นว่าคุณแม่ลั่วพยายามจะโยงเขาและเมิ่งชิงซีเข้าด้วยกัน เขาจึงพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดว่า “แม่ครับ ผมขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับ”
ลั่วเซ่าเชินเดินขึ้นชั้นบนไปทันทีโดยไม่สนว่าคุณแม่ลั่วจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ถังโจวโจวนั่งอยู่ที่โซฟาเดี่ยวเพียงคนเดียว ในขณะที่ลั่วอิงนั่งถัดจากคุณแม่ลั่ว ส่วนเมิ่งชิงซีก็นั่งติดกับคุณแม่ลั่วอีกข้างหนึ่ง และเมื่อเปรียบเทียบโซฟาทั้งสองฝั่งแล้ว ความแข็งแกร่งของถังโจวโจวนั้นดูน้อยกว่าเห็นๆ
เมิ่งชิงซีปอกส้มแล้วยื่นไปให้คุณแม่ลั่ว “คุณป้า พักมือสักหน่อยเถอะค่ะ หนูมั่นใจว่าลั่วอิงไม่อยากให้คุณป้าเหนื่อย นี่หนูปอกส้มไว้ให้คุณป้าแล้ว คุณป้าลองชิมดูสิคะ”
คุณแม่ลั่วคอยดูแลลั่วอิงอยู่ตลอด เธอรู้ว่าลั่วอิงชอบกินถั่วพิสทาชิโอ แม้ว่าลั่วอิงต้องการแกะเปลือกด้วยตัวเอง แต่คุณแม่ลั่วก็แย่งงานตรงนี้มาทำ เธอตั้งใจแกะเปลือกถั่วพิสทาชิโอให้กับลั่วอิง
ด้วยคำเตือนของเมิ่งชิงซี ทำให้คุณแม่ลั่วเริ่มรู้สึกปวดคอ เธออาจจะก้มศีรษะนานเกินไปจริงๆ “จ้ะ ชิงซี ป้าเชื่อหนู”
“เป็นยังไงบ้างคะ คุณป้า หวานไหมคะ” เมิ่งชิงซีวางส้มลงในมือของคุณแม่ลั่ว และเมื่อเธอเห็นว่าคุณแม่ลั่วกินส้มแล้ว เธอก็รีบถามทันที
“หวานดีจ้ะ ชิงซีมีน้ำใจแบบนี้ ป้าเองก็ชื่นใจ” คุณแม่ลั่วยิ้มอย่างมีความสุข ไม่เหมือนกับรอยยิ้มฝืนทนในยามที่ต้องอยู่ร่วมกันกับถังโจวโจวเลย
ถังโจวโจวนั่งเงียบอยู่ตรงนั้น เธอมองดูเมิ่งชิงซีปอกนู่นปอกนี่ให้กับคุณแม่ลั่วเป็นครั้งคราว เหมือนกับว่าทั้งสองคนเป็นแม่ผัวลูกสะใภ้ที่เข้าขากันเป็นอย่างดี ถังโจวโจวนั่งนิ่ง และไม่ว่าเมิ่งชิงซีจะพูดหรือทำอะไร เธอก็แค่มองดูเฉยๆ
อาจเป็นเพราะคุณแม่ลั่วกินผลไม้มากเกินไป เธอจึงบอกให้เมิ่งชิงซีนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อน ส่วนเธอก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ลั่วอิงรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องนั่งเล่นนั้นน่าอึดอัด จึงลุกขึ้นยืน “แม่โจวโจวขา หนูจะไปดูว่าวันนี้แม่นมจ้าวทำอะไรให้ทานนะคะ”
“ไปเถอะค่ะ หนูเองก็ไม่ต้องทานของว่างแล้วนะคะ เดี๋ยวจะทานข้าวไม่ลงเอา”
“ค่ะ” ลั่วอิงหยิบแอปเปิลอีกชิ้นใส่ปากแล้วก็วิ่งหายไป
“คุณเมิ่งนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ ฉันจะขึ้นไปดูเซ่าเชิน” ถังโจวโจวเองก็ไม่อยากอยู่กับเมิ่งชิงซีตามลำพัง แม้ว่าตอนนี้เมิ่งชิงซีจะเป็นแขกและเธอก็เป็นเจ้าบ้าน แต่ถังโจวโจวก็คิดว่าเธอทำได้ดีมากแล้ว เนื่องจากเธอสามารถอดทนต่อท่าทางที่ดัดจริตเหล่านั้นของเมิ่งชิงซีได้
“ฉันขึ้นไปกับเธอด้วยดีกว่าโจวโจว พอดีว่าฉันเองก็มีธุระจะคุยเซ่าเชินเหมือนกัน” เมิ่งชิงซีลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามถังโจวโจวไป ราวกับว่าถังโจวโจวเดินไปทางไหน เธอก็จะไปทางนั้นด้วย
“คุณเมิ่งคะ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรตระหนักคือการรู้จักประมาณตนนะคะ” ถังโจวโจวไม่อยากพูดให้มันฟังดูใจร้ายมากเกินไป ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าลั่วเซ่าเชินไม่อยากพบเธอ แต่เธอก็ยังกล้าแบกหน้ามาหา จนบางครั้งถังโจวโจวเองก็อดชื่นชมความเพียรพยายามของเธอไม่ได้จริงๆ
“โจวโจว มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ฉันแค่มีเรื่องอยากจะปรึกษาเซ่าเชิน หากกลัวว่าฉันจะไปขัดขวางอะไรเธอ เดี๋ยวฉันค่อยขึ้นไปหลังจากที่เธอคุยธุระกับเซ่าเชินเสร็จก็ได้” เมิ่งชิงซีมองดูเล็บที่แสนสวยงามของตัวเอง วันนี้เธอจะต้องทำให้ถังโจวโจวได้เห็นดีกัน
ตอนที่ 217 แย่งหัวใจของลั่วเซ่าเชินกลับคืนมา
ถังโจวโจวไม่อยากจะเสียเวลากับเมิ่งชิงซี เธอเดินตรงขึ้นไปชั้นบน เมิ่งชิงซีไม่ได้ตามเธอไป ได้แต่ยืนมองตามแผ่นหลังของถังโจวโจว เธอเหยียดยิ้มออกมาอย่างเงียบเชียบ ซึ่งมันค่อยๆ ดูร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ
“ชิงซี ทำไมหนูถึงมายืนอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะจ๊ะ”
น้ำเสียงของคุณแม่ลั่วดังขึ้นทางด้านหลังของเมิ่งชิงซี แววตาเ**้ยมโหดของเธอหายวับไปในทันที ก่อนจะกลายเป็นความอบอุ่นและอ่อนโยน “คุณป้า พอดีโจวโจวขึ้นไปหาเซ่าเชินน่ะค่ะ ลั่วอิงเองก็อยู่ในครัว เธอไปดูว่าแม่นมจ้าวกำลังทำอะไรอร่อยๆ ให้เธอทาน ส่วนหนูก็กำลังรอคุณป้าค่ะ”
“ยายถังโจวโจวนี่กล้าทิ้งหนูไว้คนเดียวแบบนี้ได้ยังไง ไร้การศึกษาจริงๆ เซ่าเชินกำลังทำงานอยู่ เธอขาดอาเชินไปสักวินาทีหนึ่งไม่ได้เลยหรือ” เมื่อคุณแม่ลั่วพูดจบก็เห็นว่าเมิ่งชิงซีก้มหน้าต่ำและไม่พูดอะไร แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอคงเผลอพูดอะไรบางอย่างที่ทำร้ายจิตใจของเมิ่งชิงซีเข้า
สีหน้าของคุณแม่ลั่วดูประดักประเดิด เธออยากจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อปลอบโยนเมิ่งชิงซี แต่เธอก็ไม่ได้พูดมันออกมา เมิ่งชิงซีรีบเอ่ยด้วยความเข้าใจว่า “คุณป้าขา คุณป้าควรจะดีใจสิคะที่โจวโจวกับเซ่าเชินรักกันดี ไม่แน่ว่าคุณป้าอาจจะมีหลานในเร็ววันนี้ก็ได้นะคะ”
“ชิงซี ป้าน่ะ ไม่กล้าจะหวังเรื่องหลานอีกแล้วล่ะ”
เมื่อคุณแม่ลั่วได้ยินเมิ่งชิงซีเอ่ยถึงหลาน น้ำเสียงของเธอก็สลดลงไปไม่น้อย เมิ่งชิงซีค่อนข้างประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เธอถึงกับเปลี่ยนท่าทีเพราะถังโจวโจวท้องไม่ใช่หรือ แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงไม่อยากมีหลานแล้วล่ะ?
สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “คุณป้าอยากมีหลานมากไม่ใช่หรือคะ ถ้าโจวโจวท้อง คุณป้าจะไม่มีความสุขได้ยังไงคะ”
“ฮึ! ก็ตั้งแต่ที่หลานของป้าจากไป เธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะตั้งท้องอีกเลย และป้าเองก็คิดได้แล้วว่า ถ้าหลานของป้าออกมาจากท้องของถังโจวโจวแล้วเหมือนเธอไม่ผิดเพี้ยน ป้าคงจะต้องร้องไห้จนขาดใจตายแน่ๆ”
เมิ่งชิงซีไม่รู้จะพูดอย่างไรดี นี่คุณแม่ลั่วไม่อยากมีหลานแล้วเพียงเพราะเหตุผลเท่านี้น่ะหรือ? นี่มันชักจะ…
“คุณป้าอย่าพูดอะไรแบบนั้นสิคะ ถึงตอนนี้โจวโจวจะยังไม่ท้อง แต่เธอกับเซ่าเชินก็รักกันดี อีกไม่นานคงจะมีข่าวดีแน่นอนค่ะ” เมิ่งชิงซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ
คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าจิตใจของเธอช่างงดงามมากจริงๆ เห็นอยู่เต็มตาว่าเมิ่งชิงซียังไม่อาจลืมลั่วเซ่าเชินได้ แต่เธอก็ยังช่วยพูดเข้าข้างถังโจวโจว “ชิงซี ป้าจะทำให้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ของป้าให้ได้ ป้าจะรีบหาทางไล่ยายถังโจวโจวนั่นออกไป!”
เมิ่งชิงซีไม่เชื่อคำมั่นสัญญาของคุณแม่ลั่วมานานแล้ว คุณแม่ลั่วใช่ว่าไม่เคยพูดเช่นนี้มาก่อน แต่เคยลงมือทำอะไรจริงๆ จังๆ บ้างไหมล่ะ? ไม่เลย! สุดท้ายก็ทำได้แค่พูดปลอบใจเธอเท่านั้น ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง!
“คุณป้าอย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ หนูรู้ดีว่าเซ่าเชินไม่ได้มีหนูอยู่ในใจเลย หนูเองก็ไม่อยากฝืนใจเขา หนูขอแค่ให้เซ่าเชินมีความสุขก็พอ คุณป้าคะ เห็นแก่เซ่าเชินเถอะนะคะ คุณป้าช่วยใจดีกับโจวโจวอีกสักหน่อย แค่หนูได้เห็นว่าคุณป้าเข้ากันได้ดีกับโจวโจว เท่านี้หนูก็วางใจแล้วค่ะ”
“ชิงซี หนูช่วยพูดให้เธอทำไมกัน” คุณแม่ลั่วไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างเธอมาโดยตลอดอย่างเมิ่งชิงซีนั้นจะบอกให้เธอยอมอ่อนข้อให้กับถังโจวโจว นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในตอนนี้สำหรับคุณแม่ลั่ว
เมิ่งชิงซีรีบอธิบายเมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างแปลกใจของคุณแม่ลั่ว “คุณป้าอย่าเข้าใจผิดนะคะ หนูรู้ว่าคุณป้าไม่อยากทำ แต่ตอนนี้โจวโจวครอบครองหัวใจของเซ่าเชินอยู่ คุณป้าคะ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณป้าในตอนนี้ก็คือ คุณป้าต้องแย่งลูกชายของคุณป้ากลับคืนมาก่อนนะคะ”
“จริงด้วย อาเชินใจร้อนกับคนเป็นแม่อย่างป้ามากขึ้นเรื่อยๆ สักวันหนึ่ง บ้านหลังนี้ก็คงจะถูกถังโจวโจวแย่งชิงไปด้วย!”