ตอนที่ 214 สาดอารมณ์ใส่กัน
“ชิงซี ที่แม่ตบลูกวันนั้นเพราะแม่มีเหตุผลนะ ก็ตอนนั้นลูกทำเกินไปจริงๆ” ฉินอวิ๋นส่ายหน้า เธอไม่น่าพลาดเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอคอยอบรมสั่งสอนมาตลอดยี่สิบกว่าปีนี้ มันผิดทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ
“มีเหตุผลเหรอคะ?! เฮอะ น่าขำสิ้นดี น่าขำมากจริงๆ! ถ้าแม่มีเหตุผลจริง แม่ก็พูดมันออกมาสิคะ จะอมมันไว้ทำไม”
ในขณะที่ฉินอวิ๋นมองดูท่าทางบ้าคลั่งของเมิ่งชิงซี เธอก็ก้าวถอยหลังไม่หยุด คนตรงหน้าเธอไม่ใช่เมิ่งชิงซีที่เธอรู้จัก เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกสาวของเธอจะตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเธอแบบนี้ หรือว่าเธอควรจะพูดเรื่องนั้นออกมา?
“แม่ไม่กล้าพูดใช่ไหมล่ะคะ” เมิ่งชิงซีเดินเข้าไปหาฉินอวิ๋นทีละก้าว บนใบหน้าของเธอประดับด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน เธออยากจะทำอย่างนี้มานานแล้ว เพียงแต่เธอไม่อยากให้คุณพ่อรับรู้ถึงปัญหาระหว่างเธอกับคุณแม่ มิฉะนั้นเธอคงจะตัดขาดกับฉินอวิ๋นไปนานแล้ว
“ชิงซี ลูกจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ นี่แม่รักลูกนะ!” ฉินอวิ๋นร้องเสียงดังลั่น หัวใจของเธอราวกับถูกแผดเผา นี่คือบทลงโทษของเธอใช่ไหม? ฉินอวิ๋นไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือผลตอบแทนที่เธอสมควรจะได้รับ ลูกสาวคนนี้ก็เป็นของเธอเหมือนกัน ดังนั้นไม่ควรตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเธอแบบนี้สิ!
“แม่คะ แม่พูดว่าแม่รักหนูอย่างนั้นเหรอ แม่รักหนู แต่แม่กลับไม่เห็นด้วยที่หนูจะคบกับเซ่าเชิน แม่รักหนู แต่แม่บอกให้หนูตัดใจจากเขา แม่ก็รู้อยู่แล้วนี่คะว่าตั้งแต่หนูได้เจอกับเซ่าเชิน หัวใจของหนูก็รักแค่เขาคนเดียว แต่แม่ก็ยังจะบอกให้หนูลืมเขาอีก หนูเกลียดแม่! หนูเกลียดแม่ที่สุด!”
เมิ่งชิงซีไม่พอใจ ทำไมถังโจวโจวถึงมีความสุข แต่เธอกลับทำได้แค่เพียงพยายามต่อสู้อยู่ตรงนี้ ตอนนี้ลั่วเซ่าเชินไม่อยากจะพูดกับเธอเลยสักคำ ที่เธอเดินมาถึงจุดนี้ในวันนี้ มันเป็นความผิดของใครกัน?
ใช่ มันเป็นความผิดของคุณแม่ทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะฉินอวิ๋น บางทีเธออาจจะได้ครองคู่กับลั่วเซ่าเชินไปแล้วก็ได้ เมิ่งชิงซีผลักความผิดทั้งหมดไปให้ฉินอวิ๋น เธอคิดไว้เสร็จสรรพแล้วว่าคงมีแค่เธอเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับถังโจวโจวได้
“ชิงซี ลูกกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไง” ก่อนหน้านี้ลูกสาวของเธอยังเป็นเด็กที่น่ารักอยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นคนละคนแบบนี้ไปได้? ฉินอวิ๋นคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากถังโจวโจว เป็นเพราะถังโจวโจวคนเดียว!
“หนูกลายเป็นคนแบบนี้อย่างนั้นหรือคะ… ฮึ! แม่ฟังไว้ให้ดีเลยนะ ต่อไปนี้แม่ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของหนูอีก หนูจะต้องได้เป็นคุณผู้หญิงลั่วอย่างแน่นอน!” เมิ่งชิงซีกำหมัดแน่น เธอจะไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้หรอก ตำแหน่งคุณผู้หญิงลั่วจะต้องเป็นของเธอเท่านั้น!
ฉินอวิ๋นเห็นว่าคงไม่สามารถพูดจาดีๆ กับเมิ่งชิงซีได้อีกต่อไป เธอจึงไม่มีทางเลือก นอกจากเดินถอยหลังและออกมาจากห้องของเมิ่งชิงซี แม้ว่าเธอจะดูเข้มแข็งมากเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกสาวของเธอ แต่ทันทีที่ฉินอวิ๋นก้าวออกมา น้ำตาของเธอก็ร่วงรินทันที
ฉินอวิ๋นไม่กล้าร้องไห้กับเมิ่งไหวเซิน และไม่กล้าให้คนรับใช้เห็น เธอกลับไปที่ห้องเพียงลำพัง เธอได้แต่คิดอย่างเงียบๆ ถังโจวโจว ตอนแรกฉันก็กะจะปล่อยเธอไปก่อน แต่ตอนนี้เมื่อเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เธอก็ไม่สมควรได้มีชีวิตบนโลกใบนี้อีกแล้ว…
ฉินอวิ๋นคิดหาแผนจะฆ่าถังโจวโจว เพื่อไม่ให้เหลืออุปสรรคในภายภาคหน้า เมื่อไรที่ถังโจวโจวตาย ชิงซีก็จะได้แต่งงานกับลั่วเซ่าเชิน หากเป็นเช่นนั้นแล้วชิงซีก็จะไม่ตำหนิเธออีก เราสองคนแม่ลูกก็จะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
เมิ่งชิงซีเองก็กำลังคิดถึงปัญหาเดียวกันกับฉินอวิ๋น เธอจะต้องทำอย่างไร ถังโจวโจวถึงจะหายไปจากโลกนี้ ขอแค่ไม่มีผู้หญิงคนนี้ เซ่าเชินก็จะหวนกลับมาหาเธออีกครั้ง “ทำยังไงดีนะ…”
เมิ่งชิงซีคิดจนหัวแทบแตก ก่อนจะตัดสินใจว่าจะยืมพลังอำนาจของคุณแม่ลั่ว แต่คราวนี้เธอต้องมีหลักฐานมัดตัวที่แน่นหนามากพอ
ตอนที่ 215 อิทธิพลของเมิ่งชิงซี
ลั่วเซ่าเชินพาถังโจวโจวและลั่วอิงกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลลั่ว แม้ว่าถังโจวโจวและคุณแม่ลั่วจะยังเข้าหน้ากันไม่ติด ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ค่อยได้พาเธอกลับมาให้คุณแม่ลั่วเห็นหน้าแล้ว แต่ถึงอย่างไรพวกเธอก็ยังต้องพบกัน
“เซ่าเชิน โจวโจว ลั่วอิง มากันแล้วหรือคะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปบอกคุณป้าให้”
ยังไม่ทันได้ปรากฏตัว ทั้งสามคนที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยินน้ำเสียงกระตือรือร้นของเมิ่งชิงซี เมิ่งชิงซีมองพวกเขาสามคนด้วยรอยยิ้ม และเมื่อเธอแน่ใจว่าพวกเขากลับมาแล้วจริงๆ เธอก็รีบกลับเข้าไปในบ้าน บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เธอว่า เธอเข้าไปแจ้งคุณแม่ลั่วแล้ว
“คุณชาย คุณผู้หญิง คุณหนู เข้ามาก่อนเถอะค่ะ” แม่นมจ้าวรับของที่ลั่วเซ่าเชินยื่นส่งมาให้ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
เมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นว่าเมิ่งชิงซีอยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงถามแม่นมจ้าวว่า “ทำไมเธอถึงมาที่นี่อีกแล้วล่ะครับ”
แม่นมจ้าวเข้าใจดีว่า ‘เธอ’ ในที่นี้หมายถึงใคร “คุณนายเป็นคนเชิญคุณเมิ่งมาค่ะ คุณเมิ่งเธอมาถึงนานแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าคุณแม่ลั่วเป็นคนชวนเมิ่งชิงซีมา ลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เดี๋ยวพอกินข้าวเสร็จ เขาค่อยพาถังโจวโจวกับลั่วอิงกลับก็แล้วกัน จะได้ไม่มีปัญหากันอีก
ลั่วเซ่าเชินเคยคิดว่าเมิ่งชิงซีเป็นแค่ลูกคุณหนูที่เอาแต่ใจเท่านั้น ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสามารถในการตามตื๊อของเมิ่งชิงซีนั้นจะไม่มีใครเทียบได้จริงๆ!
เขาเองก็หมดหนทาง เขาจึงต้องใช้คุณแม่ลั่วเป็นโล่กำบัง คิดว่าเขาไม่รู้หรือ? ทุกครั้งที่เขากลับมา เขาจะต้องเจอเธอที่นี่ตลอด มันจะบังเอิญอะไรขนาดนั้นล่ะ!
“ลั่วอิง ในที่สุดหนูก็มาเยี่ยมย่าแล้ว!” คุณแม่ลั่วพร้อมด้วยเมิ่งชิงซีเดินเข้าไปหาพวกเขาทั้งสามคน สำหรับลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจว คุณแม่ลั่วเพิกเฉยไม่สนใจ แต่กับลั่วอิง เธอทั้งรักและเอ็นดูอย่างมาก
คุณพ่อลั่วออกไปเล่นหมากรุกกับเพื่อน เขาจึงไม่อยู่บ้าน เมิ่งชิงซีที่ยืนถัดไปจากคุณแม่ลั่วไม่รู้จะพูดอะไร คุณแม่ลั่วเงยหน้ามองถังโจวโจว “เธอก็มาด้วยเหมือนกันเหรอ เข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นสิ”
แม้ว่าน้ำเสียงนั้นจะไม่ได้ดีมาก แต่ถังโจวโจวก็ดีใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าคุณแม่ลั่วจะยอมพูดกับเธอก่อนบ้าง แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว คุณแม่ลั่วทำไปเพราะเมิ่งชิงซีต่างหาก คุณแม่ลั่วเพียงอยากแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ชอบเธอมากนัก เธอถึงได้รับเกียรติเช่นนี้ พอคิดได้อย่างนี้ถังโจวโจวก็ดีใจไม่ออก
ในขณะที่ถังโจวโจวกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ คุณแม่ลั่วก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ เป็นเพราะเธอยอมเชื่อเมิ่งชิงซีหรอก เธอถึงได้เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายถังโจวโจวก่อน ด้วยเธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์แม่ลูกระหว่างเธอกับลั่วเซ่าเชินต้องแย่ไปมากกว่านี้ แต่ปรากฏว่าถังโจวโจวกลับเหม่อลอยและไม่พูดอะไร ช่างไม่มีมารยาทจริงๆ ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลยสักนิด
“อาเชิน ทำไมลูกถึงไม่ทักทายชิงซีล่ะ” คุณแม่ลั่วยิ่งรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นว่าลั่วเซ่าเชินมีท่าทีเย็นชาต่อเมิ่งชิงซี แม้ว่าเขาจะไม่ชอบชิงซี แต่ทั้งสองตระกูลก็รู้จักกันมานาน เขาจะให้เกียรติทักทายเธอสักนิดไม่ได้เลยหรือ
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของถังโจวโจวคนเดียว คุณแม่ลั่วส่งสายตาโกรธเคืองไปที่ถังโจวโจว เธอรู้สึกรำคาญลูกตาเมื่อเห็นถังโจวโจวยืนอยู่กับลูกชายของเธอ ได้แต่ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่?
“คุณเมิ่ง” คำทักทายของลั่วเซ่าเชินทำให้คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า
คุณแม่ลั่วจึงรีบตะคอกด้วยความไม่พอใจว่า “อาเชิน นี่คือสิ่งที่แม่กับพ่อสอนให้ลูกทำอย่างนั้นหรือ”
“แม่ครับ แม่จะหยุดต่อว่าผมเรื่อยเปื่อยแบบนี้ได้หรือยัง” ลั่วเซ่าเชินเหนื่อยใจ เขาอยากจะหมุนตัวและเดินออกไปจากที่ที่น่าอึดอัดใจแห่งนี้เสียเดี๋ยวนี้เลย
เมิ่งชิงซีกระตุกแขนเสื้อของคุณแม่ลั่วเบาๆ สีหน้าของคุณแม่ลั่วผ่อนคลายขึ้นหลายส่วน “เอาละๆ ลูกคนนี้นี่ เอ็ดนิดเอ็ดหน่อยก็ไม่ได้ ลั่วอิง ไปที่โซฟากับคุณย่าดีกว่าค่ะ ย่าบอกแม่นมจ้าวให้เตรียมของโปรดของหนูไว้เต็มเลย”
“จริงเหรอคะ คุณย่า ดีจังเลย! คุณย่าดีกับหนูที่สุดเลยค่ะ!” ลั่วอิงกุมมือของคุณแม่ลั่วด้วยความดีใจ