ตอนที่ 200 ฉลาดแกมโกง
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับนิ้วมือของเขาที่อยู่ตรงช่วงเอวของถังโจวโจวเบาๆ แล้วถังโจวโจวก็หลุดหัวเราะออกมาในทันที “ฮ่าๆ… จักจี้… ฮ่าๆ…” นิ้วมือของลั่วเซ่าเชินขยับไม่หยุด และในที่สุดถังโจวโจวก็ยอมปล่อยมือออกจากดวงตา เพื่อย้ายมันลงไปสกัดกั้นมือของลั่วเซ่าเชินที่ก่อกวนเอวของเธออยู่
“ยังจะกล้าไม่ฟังผมอยู่อีกไหม” ลั่วเซ่าเชินจี้เอวถังโจวโจวไม่หยุด ส่วนถังโจวโจวก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด
“ฮ่าๆ… เซ่าเชิน ฉันไม่กล้าแล้วค่ะ คุณรีบปล่อยมือเถอะนะ… ฮ่าๆๆ… ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ” ถังโจวโจวหัวเราะจนแทบจะขาดใจ และในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็ยอมถอนกรงเล็บนั่นออกไป
เมื่อเห็นรอยบุ๋มที่มุมปากของโจวโจว ลั่วเซ่าเชินก็ก้มหน้าลงไปจูบตรงนั้น เขาเห็นถังโจวโจวหัวเราะอย่างมีความสุขขนาดนี้ เขาก็อยากจะให้เธอยิ้มแบบนี้ตลอดไป
ลั่วเซ่าเชินจูบที่ลักยิ้มของเธอทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็จูบลงบนริมฝีปากของถังโจวโจว คราวนี้ถังโจวโจวเชื่อฟังเป็นอย่างดี
ราวกับผ่านไปหนึ่งศตวรรษ ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็ยอมถอนริมฝีปากออกจากถังโจวโจว และก่อนที่ถังโจวโจวจะได้สูดลมหายใจเข้าปอด ริมฝีปากของลั่วเซ่าเชินก็ค่อยๆ ไต่ลงไปเรื่อยๆ เขาทิ้งร่องรอยสีกุหลาบมากมายไว้บนคอของเธอ ส่วนมือก็เริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของถังโจวโจวอย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าหล่นลงไปกองกับพื้น ถังโจวโจวรู้สึกหนาวเล็กน้อย ลั่วเซ่าเชินรู้สึกได้ว่าเธอตัวสั่น เขาจึงเอ่ยปลอบเธอในทันที “เดี๋ยวก็ไม่หนาวแล้ว”
…
เดิมทีเรื่องนี้มันควรจะจบแล้ว ลั่วเซ่าเชินควานหาเสื้อผ้ามาคลุมร่างให้กับถังโจวโจว ส่วนเขานั้นสวมชุดคลุมอาบน้ำที่ตกอยู่บนพื้นก่อนหน้านี้ ถังโจวโจวนึกว่าวันนี้ลั่วเซ่าเชินจะปล่อยเธอไปอย่างง่ายดาย “เซ่าเชิน ฉันใส่เองได้ค่ะ”
“โจวโจว คุณอย่าเพิ่งได้ใจไป มันยังไม่จบนะ” ลั่วเซ่าเชินอุ้มถังโจวโจวขึ้น ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำและเดินออกไป ถังโจวโจวรู้ดีว่าวันนี้เธอคงจะไม่ได้นอนแน่แล้ว
ลั่วเซ่าเชินฉลาดแกมโกงมากเกินไป เมื่อวานเธอเพิ่งจะปฏิเสธเขา วันนี้เขากลับทวงคืนได้แล้ว ลั่วเซ่าเชินอุ้มถังโจวโจวเข้าไปในห้องหนังสือและวางถังโจวโจวลงบนโซฟา
“โจวโจว วันนี้เรามาทำเรื่องที่เราทำค้างไว้เมื่อครั้งก่อนให้จบเถอะ”
ถังโจวโจวนึกถึงช่วงเวลานั้นที่เกือบจะพลาดพลั้งในห้องหนังสือ เธอไม่รู้ว่าลั่วเซ่าเชินเฝ้าแต่คิดเรื่องนี้อยู่ตลอด
“เซ่าเชิน ไม่ดีกว่ามั้งคะ?” นั่นมันนานมากแล้วนะ นึกไม่ถึงเลยว่าลั่วเซ่าเชินจะยังจำได้อยู่อีก
ปักหลักสู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยดีกว่ามานั่งคิดบัญชีทีหลัง ถังโจวโจวปลอบใจตัวเองราวกับเป็นคนเด็ดเดี่ยวและองอาจ ท่าทางตื่นกลัวของถังโจวโจวทำให้ลั่วเซ่าเชินหัวเราะ “โจวโจว คุณรู้ไหมว่าคุณดูตลกมากแค่ไหน จนผมแทบไม่กล้ากินคุณแล้ว”
“เซ่าเชิน ถ้าคุณไม่ทำต่อ เราก็กลับไปนอนกันเถอะนะคะ”
“ใครว่าผมจะไม่ทำต่อ” ลั่วเซ่าเชินไม่ยอมปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดลอยไปได้หรอก
วันรุ่งขึ้น ถังโจวโจวนอนอยู่บนเตียง เธอไม่สามารถขยับตัวได้ แค่ขยับก็เจ็บแปลบแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอถูกรถบดมาอย่างไรอย่างนั้น เธอปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด และเมื่อเธอนึกถึงลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวก็จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อคืนผ่านมาได้อย่างไร
นานๆ ครั้งเธอก็พอจะชอบมันอยู่บ้าง แต่เธอก็ทนกับความต้องการของลั่วเซ่าเชินขนาดนี้ไม่ไหว เธอแค่รู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินใช้เวลาหนึ่งเดือนก่อนกำหนดไปหมดแล้ว และถังโจวโจวก็ทำได้แค่เพียงนอนหมดแรงอยู่บนเตียงเท่านั้น
ภายในห้องไม่มีใคร เธอลูบแตะสัมผัสพื้นเตียงเย็นๆ ข้างตัว ลั่วอิงกับเซ่าเชินน่าจะออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว
ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่าแต่ละครั้งหลังจากเสร็จกิจ ลั่วเซ่าเชินจะดูมีชีวิตชีวา มีเรี่ยวมีแรง ส่วนเธอกลับกลายเป็นคนที่ดูเหมือนถูกสูบวิญญาณไป เธอหาวหวอดๆ และปวดร้าวไปทั้งตัว ถังโจวโจวยิ่งรู้สึกว่าเกิดเป็นผู้หญิงนั้นช่างเสียเปรียบ พวกเธอจะต้องถูกผู้ชายพวกนี้ฉวยโอกาสไปตลอด
พอคิดไปนานเข้า ถังโจวโจวก็เริ่มต้านทานแรงโจมตีของความง่วงไม่ไหว เธอผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ป้าหลิวเองก็ไม่ได้ขึ้นมารบกวนถังโจวโจวหลังจากที่ได้ยินลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวจึงนอนหลับยาวจนถึงเที่ยง
ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเมื่อคืนเขาเอาแต่ใจมากเกินไป แต่เขาก็ไม่ได้เสียใจ เขาควรจะทำให้ถังโจวโจวได้รู้ว่าสามีของเธอนั้นไม่ใช่คนที่จะลองดีกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะ ‘เรื่องนั้น’ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็จะต้องเอาคืนในสักวัน
เมื่อลั่วเซ่าเชินหยุดรถด้านนอกและเดินเข้าไปในบ้าน เขาก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่นเลย เสียงป้าหลิวทำกับข้าวดังขึ้นมาจากห้องครัว ลั่วเซ่าเชินไม่ได้เรียกป้าหลิว เขาตรงขึ้นไปตามหาถังโจวโจวบนชั้นสอง
ลั่วเซ่าเชินแง้มเปิดประตูห้องเบาๆ แล้วเขาก็เห็นว่าถังโจวโจวยังคงนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง ผ้านวมห่อหุ้มร่างของเธอไว้ ลั่วเซ่าเชินคิดว่าถังโจวโจวน่าจะหมดแรงเพราะเรื่องเมื่อคืน แต่ว่าเธอนอนมานานเกินไป เธอควรจะตื่นขึ้นมาได้แล้ว อย่างน้อยก็กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยกลับมานอนต่อ
ลั่วเซ่าเชินเดินไปที่ข้างเตียง ก่อนจะแตะแก้มของถังโจวโจวเบาๆ “โจวโจว ตื่นได้แล้ว แดดส่องก้นคุณแล้วน่ะ”
ถังโจวโจวรู้สึกเหมือนมียุงมาบินอยู่ข้างหู เธอโบกมือปัดมันก่อนจะพลิกตัวกลับไปนอนต่อ
โชคดีที่ลั่วเซ่าเชินไหวตัวทัน มิฉะนั้นเขาคงถูกถังโจวโจวตบไปแล้ว ลั่วเซ่าเชินหมายจะดึงผ้าห่มของถังโจวโจวออก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะจับมันไว้แน่น ลั่วเซ่าเชินใช้แรงดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก
ถังโจวโจวรู้สึกได้ถึงแรงดึง เธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองอย่างสะลึมสะลือ ก่อนที่เธอจะพบว่าลั่วเซ่าเชินกำลังดึงผ้าห่มของเธอด้วยมือทั้งสองข้าง
ตอนที่ 201 ตื่นได้แล้ว
“คุณทำอะไรน่ะ” ถังโจวโจวถามเสียงแหบแห้ง อาจเป็นเพราะว่าเธอนอนนานเกินไป เธอจึงลืมตาแทบไม่ขึ้นและมึนศีรษะเล็กน้อย
ลั่วเซ่าเชินดึงแขนของเธอ “ตื่นได้แล้ว ป่านนี้ท้องคุณหิวจนไส้จะขาดแล้วล่ะ” ลั่วเซ่าเชินมองถังโจวโจวที่ทำตัวราวกับเป็นลูกแมวขี้เซาแล้วก็รู้สึกหนักใจจริงๆ
“ฉันไม่หิว” ทันทีที่ถังโจวโจวพูดจบ ท้องของเธอก็ร้องขึ้นมา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสี นี่มันหักหน้ากันชัดๆ!
“ลุกขึ้นมาเถอะ ผมรู้ว่าคุณหิวแล้ว” ลั่วเซ่าเชินหยิบเสื้อผ้าของถังโจวโจวมาให้
ถังโจวโจวจ้องตาเขม็ง “ก็ถ้าคุณไม่…” เธอพูดประโยคถัดไปไม่ออก หนังหน้าของเธอไม่ได้หนาและด้านเท่ากับลั่วเซ่าเชิน เธอสู้เขาได้ที่ไหน
“ถ้าคุณไม่ลุก ผมอาจจะต้องจูบคุณอีก” ลั่วเซ่าเชินทำท่าจะก้มศีรษะลงมา ถังโจวโจวจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม ปรากฏว่าลั่วเซ่าเชินเพียงแค่หลอกเธอเล่นเท่านั้น เขาพูดออกมาอย่างนึกขำเมื่อเห็นถังโจวโจวซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่ม “คุณคิดหรือว่าจะหลบผมพ้น? เอาเถอะ เลิกเล่นได้แล้ว รีบลุกขึ้นมาเร็ว”
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู ถังโจวโจวก็โผล่ศีรษะออกมาจากผ้าห่ม และเมื่อเธอเห็นว่าในห้องเหลือแค่เธอคนเดียว เธอจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งช้าๆ เธอมองดูชุดกระโปรงที่วางราบอยู่บนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย
ลั่วเซ่าเชินรอมาพักหนึ่งแล้ว แต่ภายในห้องก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ไม่ใช่ว่าถังโจวโจวล้มตัวลงไปนอนต่อหรอกนะ? ก๊อกๆๆ…
“โจวโจว คุณยังไม่ลุกอีกเหรอ”
“ลุกแล้วค่ะ!” เมื่อถังโจวโจวถูกลั่วเซ่าเชินเอ่ยเตือน เธอก็กลัวว่าเขาจะวกกลับเข้ามาอีก เธอจึงรีบลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้า เธอจำได้รางๆ ว่าเมื่อคืนลั่วเซ่าเชินอาบน้ำให้เธอแล้ว เพราะเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอนั้นสดชื่น
เมื่อนึกถึงจูบอันร้อนแรงของลั่วเซ่าเชินที่พรมลงบนร่างของเธอเมื่อคืนนี้ ถังโจวโจวก็มองดูร่องรอยเหล่านั้นสะท้อนอยู่ในกระจกด้วยความเขินอาย
ถังโจวโจววักน้ำล้างหน้าจนกระทั่งรู้สึกว่าอุณหภูมิบนใบหน้าของเธอลดต่ำลงแล้ว เธอจึงพรูลมหายใจออกมายาวเหยียด หากลั่วเซ่าเชินได้เห็นท่าทางราวกับสาวแรกแย้มของเธอเข้า เธออาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็พบว่าร่องรอยสีกุหลาบที่อยู่บนคอของเธอนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถังโจวโจวจึงรีบเปลี่ยนไปสวมเสื้อไหมพรมคอเต่าสีขาวแทน จากนั้นก็สวมเสื้อโค้ทสีเขียวอ่อนทับอีกตัวหนึ่ง ถังโจวโจวเปิดประตูออกมาและพบว่าลั่วเซ่าเชินยังคงรอเธออยู่หน้าประตู
“ทำไมถึงยังไม่ลงไปอีกล่ะคะ” ถังโจวโจวถามด้วยความประหลาดใจ
ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าถังโจวโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ในขณะที่เขามองดูเสื้อไหมพรมคอเต่าตัวนั้น ลั่วเซ่าเชินก็ยิ้มออกมา ถังโจวโจวสังเกตเห็นรอยยิ้มของเขา ก่อนที่เธอจะเคลื่อนสายตามองตามไป และเมื่อเห็นว่าเขากำลังมองเสื้อไหมพรมคอเต่าที่เธอตั้งใจสวมมันออกมา ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำขึ้นทันที
“คุณยังจะมองอยู่อีก? ฝีมือคุณทั้งนั้นแหละ!” ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอจะต้องทำถึงขนาดนี้เหรอ? โชคดีที่ช่วงนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสวมใส่เสื้อตัวนี้ มิฉะนั้นเธอคงจะได้เล่าให้คนทั้งโลกฟังแล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับลั่วเซ่าเชิน!
ลั่วเซ่าเชินคิดว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่ถังโจวโจวกลับเขินอาย และไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้มากนัก “โอเค ผมผิดเองครับคุณผู้หญิง แล้วตอนนี้คุณจะลงไปทานข้าวข้างล่างได้หรือยังครับ?”
ลั่วเซ่าเชินค้อมตัวลงและยื่นมือไปให้ถังโจวโจว ถังโจวโจวยิ้มพลางวางมือของเธอลงไปบนมือของเขา “ไปกันค่ะ”
“ครับ คุณผู้หญิง” วันนี้ลั่วเซ่าเชินอารมณ์ดีเป็นพิเศษจึงหยอกเธอเล่นอยู่นาน เขาจับมือถังโจวโจวและพาเธอลงไปชั้นล่าง
เมื่อป้าหลิวเห็นลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวลงมาแล้ว เธอก็รีบยกชามและตะเกียบมาวางไว้บนโต๊ะ “ทานข้าวค่ะ คุณชาย คุณผู้หญิง”
“อืม”
“ฉันขอตัวไปยกกับข้าวออกมาจากครัวนะคะ” เมื่อเห็นว่าลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวอารมณ์ดี ป้าหลิวก็อมยิ้มและปลีกตัวเข้าไปในห้องครัว