ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ – ตอนที่ 195 ลั่วเซ่าเชินโกรธ / ตอนที่ 196 ฝันไปเถอะ!

ตอนที่ 195 ลั่วเซ่าเชินโกรธ 

 

 

           ถังโจวโจวนึกไม่ถึงเลยว่าลั่วเซ่าเชินจะรู้จักกับพวกนักเลงหัวไม้ด้วย เขาดูไม่น่ารู้จักกับคนแบบนี้เลยจริงๆ 

 

 

“อาเชินรู้จักกับพี่หลงก่อนผมเสียอีก ผมเองก็รู้จักพี่หลงเพราะอาเชินนั่นแหละ โจวโจว เดี๋ยววันหลังคุณก็รู้เองว่าอาเชินยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณไม่รู้” กระแสน้ำวนในแววตาของฟังหยวนใกล้จะดูดถังโจวโจวเข้าไปแล้ว 

 

 

ฟังหยวนจอดรถส่งถังโจวโจวถึงหน้าบ้าน “รีบเข้าบ้านเถอะ” 

 

 

“คุณจะไม่เข้าไปนั่งพักสักหน่อยหรือคะ” 

 

 

“ไม่ดีกว่าครับ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวอาเชินมาเห็นเข้าแล้วจะหึงเอาได้” 

 

 

เมื่อถังโจวโจวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ๆ เธอก็พูดออกมาว่า “ตอนนี้เขาก็น่าจะหึงอยู่นะคะ” 

 

 

“?” ฟังหยวนเกิดความสงสัย เมื่อเห็นถังโจวโจวมองไปยังฝั่งตรงข้าม เขาก็หันหน้ามองตามไปด้วย แล้วเขาก็เห็นลั่วเซ่าเชินยืนมองพวกเขาอยู่ตรงบันไดหน้าบ้าน 

 

 

ลั่วเซ่าเชินก้าวขาเดินมาที่รถ ถังโจวโจวจึงรีบเปิดประตูและลงจากรถ “เซ่าเชิน ทำไมวันนี้คุณถึงกลับเร็วนักล่ะคะ” 

 

 

ลั่วเซ่าเชินไม่ได้สนใจเธอ เขาเพียงจับมือเธอไว้ สายตาจ้องมองฟังหยวนแล้วพูดว่า “อาหยวน ไม่เข้ามานั่งพักในบ้านสักหน่อยเหรอ” 

 

 

ถังโจวโจวมองเห็นอารมณ์โกรธของลั่วเซ่าเชินที่ปกปิดไม่มิดเลยสักนิด เธอพยายามเกลี้ยกล่อมเขาว่า “เซ่าเชิน คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ วันนี้ฟังหยวนช่วยฉันเอาไว้” 

 

 

ตอนนี้ลั่วเซ่าเชินไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เขารู้แต่เพียงว่าที่ถังโจวโจวกลับบ้านดึกขนาดนี้ เป็นเพราะเธออยู่กับฟังหยวน ถ้าวันนี้เขาไม่ได้กลับบ้านเร็ว เขาก็จะไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม? 

 

 

ไม่มีคำอธิบายหลุดออกมาจากปากของเธอเลยสักคำ ซ้ำเธอยังช่วยพูดให้ฟังหยวนอีก ไหแห่งความหึงของลั่วเซ่าเชินพลิกคว่ำในทันที แม้แต่คนที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็ยังได้กลิ่นความหึงหวงที่เข้มข้นนั้น 

 

 

ฟังหยวนเหยียดยิ้มออกมา “อาเชิน ดึกมากแล้ว ฉันคิดว่าควรจะกลับดีกว่า ฉันเชื่อว่าถังโจวโจวจะอธิบายให้นายฟังทั้งหมดเอง แต่ถ้านายยังหึงอยู่ ฉันเองก็จนปัญญาเหมือนกัน …ผมไปก่อนนะ โจวโจว” 

 

 

“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ” ถังโจวโจวมองดูฟังหยวนขับรถออกไป ในขณะที่ลั่วเซ่าเชินก็ยังคงโกรธอยู่ ราวกับว่าถังโจวโจวทำเรื่องที่ผิดบาปต่อเขา 

 

 

ถังโจวโจวแค่คิดว่าความโกรธของลั่วเซ่าเชินนั้นเกิดขึ้นปุบปับ เธอเพิ่งจะพูดไปเองว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด แล้วทำไมเขาถึงยังโกรธไม่เลิกล่ะ 

 

 

เมื่อครู่นี้ฟังหยวนยังอยู่ด้วย ถังโจวโจวจึงต้องไว้หน้าลั่วเซ่าเชิน แต่ตอนนี้เหลือแค่พวกเขาสองคนแล้ว ถังโจวโจวก็หมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน 

 

 

“ถังโจวโจว คุณไม่คิดจะอธิบายสักนิดเลยเหรอ” ลั่วเซ่าเชินตะโกนจากด้านหลัง 

 

 

ถังโจวโจวชะงักหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ เขาแค่ได้ยินรางๆ ว่า “ถ้าคุณอยากจะรับลมหนาวอยู่ข้างนอก ฉันก็คงจะอยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้ค่ะ” วันนี้ถังโจวโจวไปวิ่งไล่ตามเจ้าหัวขโมยมา เธอวิ่งอยู่นานมาก ตอนนี้จึงรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด เธอแค่อยากจะหาที่นั่งพักสักหน่อย 

 

 

ลั่วเซ่าเชินอยากจะทำลายข้าวของ แต่รอบตัวเขามีแต่ต้นไม้ใบหญ้า มีข้าวของให้เขาทำลายเสียที่ไหน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินตามถังโจวโจวเข้าไปในบ้าน 

 

 

ภายในบ้านนั้นเงียบเชียบ ถังโจวโจวรีบเดินขึ้นไปชั้นบน ด้วยกลัวว่าอีกเดี๋ยวหากเธอทะเลาะกับลั่วเซ่าเชิน มันจะไม่ดีต่อป้าหลิวและลั่วอิง 

 

 

ทันทีที่ถังโจวโจวถอดเสื้อโค้ทแล้วพาดมันลงบนเก้าอี้ ลั่วเซ่าเชินก็ตามเข้ามา “ถังโจวโจว ทีนี้คุณจะอธิบายให้ผมฟังได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” 

 

 

น้ำเสียงคาดคั้นของลั่วเซ่าเชินทำให้ถังโจวโจวไม่ชอบใจอย่างมาก เธอจึงแค่พูดกลับไปอย่างจืดชืดว่า “คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเลยใช่ไหมคะ” 

 

 

เธอแค่ไปกินข้าวกับฟังหยวนเท่านั้นเอง ลั่วเซ่าเชินถึงขั้นต้องใช้น้ำเสียงบีบบังคับให้เธอตอบคำถามอย่างนี้เลยหรือ เขาเคยพูดว่าหากพวกเราเจอปัญหาอะไร ก็ขอให้พวกเราใจเย็น ค่อยๆ คุยกัน ปรึกษากัน ที่แท้มันก็แค่คำโกหก! 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 196 ฝันไปเถอะ! 

 

 

           เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของถังโจวโจว ลั่วเซ่าเชินก็ตระหนักได้ว่าน้ำเสียงของเขาเองก็ไม่ค่อยถูกต้องนัก เขาจึงปรับน้ำเสียงและถามอย่างอ่อนโยนขึ้น “โจวโจว ผมแค่เป็นห่วงคุณ” 

 

 

“แต่ความห่วงใยของคุณทำให้ฉันไม่สบายใจ หากนี่เป็นความห่วงใยของคุณจริงๆ ฉันขอไม่รับมันไว้ดีกว่า” ถังโจวโจวพูดประชด 

 

 

ลั่วเซ่าเชินที่กำลังจะปะทุอารมณ์โกรธ เห็นว่าถังโจวโจวตาแดง ไฟโกรธนั้นก็มอดดับไป “อย่าร้องไห้เลยนะ ผมไม่ถามแล้วก็ได้” 

 

 

ลั่วเซ่าเชินรีบเอ่ยขอความเมตตาในทันที เพราะเขารู้ว่าฟังหยวนคิดอะไรกับถังโจวโจว แต่น่าเสียดายที่ถังโจวโจวก็ยังคงติดต่อกับเขาอยู่ ราวกับคนซื่อที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกหมาป่าเขมือบกินเข้าไป เขาจึงต้องคอยจับตาดูเอาไว้เป็นพิเศษ 

 

 

ถังโจวโจวเงยหน้าขึ้นเพื่อบังคับให้น้ำตาไหลกลับไป ลั่วเซ่าเชินยอมแพ้ในทันที เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวทำแบบนั้น “เอาละ ผมไม่ถามแล้วจริงๆ ผมเชื่อคุณนะ ผมเชื่อคุณ” 

 

 

ลั่วเซ่าเชินมาพูดเอาตอนนี้ ถังโจวโจวก็รู้สึกมันสายไปเสียแล้ว เธอหันหน้าหนีและไม่อยากจะสนใจเขา ลั่วเซ่าเชินจำต้องนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ก่อน เพื่อรอให้อารมณ์ของถังโจวโจวกลับคืนสู่สภาวะปกติ 

 

 

ถังโจวโจวไม่ได้ยินลั่วเซ่าเชินพูดอะไรอีก และเมื่อเธอหันกลับไปมอง เธอก็พบว่าเขากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เขาดูอารมณ์ดีเป็นปกติจนถังโจวโจวถึงกับขมวดคิ้ว “ลั่วเซ่าเชิน เมื่อครู่นี้คุณยังจะตีกับฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” 

 

 

นี่มันอะไรกัน จู่ๆ ทุกอย่างก็กลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เขานึกจะนิ่งเฉย เขาก็ทำได้เลยอย่างนั้นหรือ ถังโจวโจวสับสนเป็นอย่างมาก 

 

 

“ผมอยากจะทะเลาะกับคุณที่ไหนกัน ผมแค่ถามคุณเฉยๆ แต่ในเมื่อคุณโกรธ ผมก็ไม่อยากถามคุณแล้ว” ใช่สิ ก็เขาเป็นคนหยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดนี่ แต่ตอนนี้เขาอยากจะจบเรื่องแล้ว ไม่ได้หรืออย่างไร 

 

 

“คุณอยากฟังฉันอธิบายไม่ใช่หรือคะ ตอนนี้ฉันจะอธิบายให้คุณฟัง คุณต้องตั้งใจฟังให้ดีๆ นะคะ” ถังโจวโจวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เน้นชัดถ้อยชัดคำในประโยคหลัง หากลั่วเซ่าเชินนั่งใกล้เธออีกนิด เธอก็อาจจะกัดเขาไปแล้ว 

 

 

“โอเค ผมจะตั้งใจฟัง” แววตาขบขันของลั่วเซ่าเชินถูกหนังสือปิดบังเอาไว้ เขาไม่เห็นจำเป็นต้องพูดอะไรเลย ถังโจวโจวก็เปิดปากเล่ามันออกมาเอง เพียงแต่ที่เขาหัวเราะได้ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วเขายังจะหัวเราะต่อได้อีกไหม 

 

 

ถังโจวโจวเริ่มเล่าเรื่องที่เธอเจอกับหัวขโมยคนนั้น ยิ่งลั่วเซ่าเชินได้ฟังเขาก็ยิ่งนิ่งเงียบ ถังโจวโจวเล่าความจริงที่เธอได้เจอไปเรื่อยๆ อย่างละเอียด 

 

 

“เอาละ ไม่ต้องเล่าแล้ว” ลั่วเซ่าเชินนึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ เขาไม่รู้จะเอ็ดถังโจวโจวอย่างไรดี จึงได้แต่พูดอย่างโมโหว่า “ถังโจวโจว นี่คุณยังมีหัวสมองอยู่หรือเปล่า จะไปวิ่งไล่ตามมันทำไม คุณรู้ไหม เกิดมันแทงคุณขึ้นมา แล้วคุณจะทำยังไง?” 

 

 

ถังโจวโจวไม่ได้คาดคิดเลยว่าลั่วเซ่าเชินจะเป็นกังวลในเรื่องนี้ ชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบเขาว่าอย่างไร เธอจึงพูดอ้อมๆ แอ้มๆ ว่า “คะ…คือ ตอนนั้นฉันไม่ทันได้คิดน่ะค่ะ” 

 

 

ในตอนนั้นเธอรู้แค่ว่ากระเป๋าของเธอถูกขโมย ภายในนั้นมีของสำคัญหลายชิ้น เธอจึงรีบตามเขาไป ไม่มีเวลามาคิดอะไรให้มากมาย 

 

 

ลั่วเซ่าเชินอยากจะเคาะหัวของเธอเสียจริงๆ “คราวหน้าถ้าคุณเจอเรื่องแบบนี้อีก ก็อย่าวิ่งตามมันไป เกิดคุณเป็นอะไรไปจะทำยังไง” 

 

 

“คุณจะทำยังไง” 

 

 

“อะไร?” ลั่วเซ่าเชินไม่เข้าใจคำถามของถังโจวโจว 

 

 

“ฉันหมายถึงว่าถ้าฉันเป็นอะไรไป คุณจะทำยังไงคะ” ถังโจวโจวค่อยๆ สืบเท้าเข้าไปใกล้ เธอเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นด้วยกลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะได้ยินไม่ชัด 

 

 

เมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นว่าเธอตั้งท่าคาดคั้นจะเอาคำตอบ เขาจึงหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาช้าๆ ว่า “ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมก็จะหาแม่เลี้ยงใหม่ให้ลั่วอิง เพราะถึงยังไงคุณก็ไม่ได้เห็นคุณค่าของมันอยู่แล้วนี่ แล้วจากนั้นพวกเราสามคนก็จะใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข” 

 

 

ถังโจวโจวสบถออกมา “ฝันไปเถอะ!” เธอกำลังนึกถึงคำตอบแบบนี้อยู่เลย แล้วเขาก็ดันพูดออกมาจริงๆ เธอจะไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นแน่นอน 

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ด้วยความรักครั้งก่อนทิ้งบาดแผลลึกไว้ในใจของ ถังโจวโจว มัณฑนากรสาวจึงครองตัวเป็นโสดตลอดมา แต่แล้วชายหนุ่มที่เธอบังเอิญเจอในโรงแรม ผู้ซึ่งเป็นเหมือนปิศาจร้ายที่เธอไม่คิดจะเจออีกชั่วชีวิตนี้ กลับเป็นถึงผู้อำนวยการของลั่วกรุ๊ป ลั่วเซ่าเซิน ผู้ชี้ชะตาโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัทเธอ น่าเจ็บใจที่ถึงแม้เธออยากตีตัวออกห่างเขาขนาดไหน แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับความหล่อกระชากใจและโปรเจกต์ทำเงินมหาศาลอยู่ร่ำไป! อีกทั้ง ลั่วอิง ลูกสาวตัวน้อยของเขายังถูกใจเธอเข้าอย่างจัง ลั่วเซ่าเซินเห็นว่าเป็นโอกาสให้พ่อแม่เลิกรบเร้าเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ถูกใจเสียที จึงยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา แล้วโปรเจกต์ใหญ่ที่เธอตั้งตารอก็จะตกเป็นของเธอทันที!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset