เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าลั่วเซ่าเชินยังคงยิ้มออก เธอก็รู้สึกว่าเขาดูเปลี่ยนไปมากจริงๆ นี่มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอไม่ได้อยู่ด้วยใช่ไหม? ถังโจวโจวจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ไม่ว่าลั่วเซ่าเชินจะไม่พอใจเรื่องอะไร เขาก็มักจะแสดงสีหน้าออกมาให้เธอเห็นทันที
บางครั้งที่ถังโจวโจวยังไม่ทันจะเข้าใจ ลั่วเซ่าเชินก็ไม่พอใจแล้วด้วยซ้ำ ถังโจวโจวรู้สึกอยู่หลายครั้งว่าลั่วเซ่าเชินทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจ อารมณ์ของเขาแปรปรวนมาก
แต่ตอนนี้ท่าทีของเขากลับแตกต่างออกไป เขาไม่ได้ถามถึงฟังหยวนอีก และหลังจากที่เธอบอกว่าเธอยังไม่อยากกลับไป เขาก็ยังคงยิ้มให้เธอได้ ทันใดนั้นถังโจวโจวก็เริ่มไม่แน่ใจว่าลั่วเซ่าเชินกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อถังโจวโจวเห็นลั่วเซ่าเชินเอ่ยเร่งเธออีกครั้ง เธอก็รีบสาวเท้าเดินตามพวกเขาไป วันนี้ลั่วเซ่าเชินทำตามที่เขาพูด เขาไม่เข้าบริษัท และใช้เวลาทั้งวันกับลั่วอิงที่บ้านตระกูลถัง
เมื่อฉินอวิ๋นรู้ว่าถังโจวโจวไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลถัง ซ้ำยังพบว่าถังโจวโจวดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสิ่นหลานอี เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรไปชั่วขณะ แต่เธอรู้อยู่อย่างหนึ่งว่าเรื่องนี้จะให้เมิ่งไหวเซินรู้ไม่ได้
ฉินอวิ๋นไม่รู้ว่าเมิ่งไหวเซินยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเสิ่นหลานอีอยู่หรือเปล่า แต่เธอไม่สามารถรับความเสี่ยงนี้ได้ เพื่อชิงซีแล้วเธอจะให้ถังโจวโจวมีตัวตนไม่ได้ ดังนั้นเธอจะต้องทำให้ถังโจวโจวหายตัวไป หากเป็นเช่นที่เธอคาดหวังไว้ ถังโจวโจวก็จะไม่สามารถสั่นคลอนตำแหน่งและสถานะของชิงซีในตระกูลเมิ่งได้
ฉินอวิ๋นส่งคนไปตามดูถังโจวโจวเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เธอรู้ว่าช่วงนี้ถังโจวโจวพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตระกูลถัง และไม่ได้ออกไปไหนมาไหนสักเท่าไร เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะทำให้ถังโจวโจวออกมาจากบ้านได้อย่างไร และแล้วโอกาสนั้นก็มาถึง…
ช่วงนี้จิตใจของหลินเหยาค่อนข้างว้าวุ่น แต่เธอเองก็รู้ว่าถังโจวโจวไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก เธอไม่อยากจะรบกวนเพื่อน แต่เธออยากจะหาคนคุยด้วย ดังนั้นเธอจึงโทรไปหาถังโจวโจว เมื่อถังโจวโจวรับสาย เธอก็หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที
เสียงจากปลายสายที่ดังออกมา ทำให้ถังโจวโจวรู้ได้ในทันทีว่าหลินเหยาอยู่ที่ไหน “เหยาเหยา เธอไม่ได้อยู่ที่ร้านเหล้าใช่ไหม” ทันทีที่ถังโจวโจวอาบน้ำเสร็จ เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากหลินเหยา
เสียงของหลินเหยาราวกับล่องลอยแว่วเข้าหูมา “โจวโจว เธอออกมาคุยกับฉันหน่อยสิ”
“เหยาเหยา นี่เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”
หลินเหยาบอกชื่อร้าน ถังโจวโจวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงไปที่นั่นทันที เมื่อถังโจวโจวไปถึง หลินเหยาก็ยังคงมีสติอยู่ แต่ก็เห็นได้ว่าเธอดื่มไปเยอะมาก และเริ่มพูดจาเลอะเทอะแล้ว
“เหยาเหยา ทำไมเธอดื่มเยอะขนาดนี้ กลับกันเถอะ!” ถังโจวโจวใช้เวลาอยู่นานมากกว่าจะหาหลินเหยาเจอ เธอนั่งอยู่ที่บาร์ ถังโจวโจวสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายหลายคนกำลังมองมาทางนี้ และสายตาของพวกเขาก็วาววับเสียจนถังโจวโจวหวาดผวา
ถังโจวโจวรู้สึกขนลุกเสียจนรากจะหลุดออกมาจากโคนแล้ว และที่นี่มันก็เสียงดังมากเกินไป ถังโจวโจวรู้สึกว่าเสียงดนตรีที่ดังก้องอยู่รอบๆ มันทำให้เธอหูอื้อ เธอต้องตะโกนคุยกับหลินเหยา แต่ในไม่ช้าเสียงของเธอก็จมหายไปกับความบ้าคลั่งที่อยู่รอบตัว
ถังโจวโจวอยากจะดึงหลินเหยาขึ้นและพาเธอกลับ แต่หลินเหยายังคงดื่มไม่หนำใจ “โจวโจว ฉันไม่อยากกลับ ฉันไม่กลับ ที่บ้านนั่นมันหนาวเกินไป หนาวเสียจนเย็นยะเยือกไปหมด” หลินเหยากุมหน้าอกและพูดอย่างขมขื่น
ถังโจวโจวปล่อยมือจากเธอช้าๆ เธอรู้สาเหตุแล้ว “เหยาเหยา เธอคิดถึงพ่อกับแม่ใช่ไหม”
“ฉันไม่คิดถึงสองคนนั้นหรอก พวกเขาไม่มีค่าให้ฉันนึกถึงด้วยซ้ำ ทำไมฉันต้องไปคิดถึงพวกเขาด้วย ทำไม!” หลินเหยารีบกระดกวิสกี้ใส่ปาก ถังโจวโจวมองท่าทางของเธอ ราวกับว่าถ้าเธอไม่เมา เธอก็จะไม่เลิกดื่ม
“เหยาเหยา ใจเย็นๆ ไม่คิดก็ไม่คิด” ถังโจวโจวรู้สึกเจ็บปวด เมื่อมองดูเธอทำร้ายร่างกายตัวเองแบบนี้
เธอไม่รู้ว่าทำไมหลินเหยาถึงคิดว่าพ่อแม่ของเธอไม่ดีอีก แต่เธอก็ไม่อยากให้หลินเหยาทำร้ายร่างกายตัวเองเพราะพวกเขา
“โจวโจว ทำไมฉันต้องคิดถึงพวกเขาด้วย พวกเขามีครอบครัวเป็นของตัวเองอยู่แล้ว พวกเขามีลูกที่พวกเขารัก มีแค่ฉันคนเดียวที่ถูกทิ้ง ฉันจะคิดถึงพวกเขาทำไม” หลินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
ถังโจวโจวรู้สึกว่าตอนนี้อารมณ์ของหลินเหยากำลังกระเจิดกระเจิง เธอจึงทำได้แค่เพียงจับมือของเพื่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้จมดิ่งไปกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มากกว่านี้ “จ้ะ หลินเหยา ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้คิดถึงพวกเขา เรากลับกันดีกว่าไหม ถ้าเธอไม่อยากกลับบ้าน ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของฉัน โอเคไหม”
ถังโจวโจวประคองหลินเหยาให้ลุกขึ้น แต่เธอกลับถูกผลักออกมา “โจวโจว ฉันไม่กลับ! โจวโจว เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ เธอต้องดื่มเป็นเพื่อนฉัน”
หลินเหยาเดินโซเซกลับไปนั่งที่หน้าบาร์อีกครั้ง แล้วเธอก็ตะโกนสั่งบาร์เทนเดอร์ว่า “เอาเหล้ามาให้ฉันอีกสองแก้ว!”
บาร์เทนเดอร์รีบชงเหล้าให้เธออีกสองแก้วทันที หลินเหยาดันแก้วใบหนึ่งไปให้ถังโจวโจว “โจวโจว มา! ขอให้พวกเราห่างไกลจากผู้ชายชั่วๆ หมดแก้ว!” ถังโจวโจวไม่ได้ถือแก้ว ในขณะที่หลินเหยาเองก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะดื่มหรือไม่ดื่ม เธอชนแก้วกับแก้วถังโจวโจว จากนั้นเธอก็เทเหล้าเข้าไปในปาก
ถังโจวโจวทำได้แค่มองดูหลินเหยาดื่ม เธอเห็นเพื่อนดื่มไปร้องไห้ไป ส่วนเธอก็ไม่ได้เอ่ยโน้มน้าวอะไรอีก เพราะเธอรู้ว่าหลินเหยาไม่ค่อยได้ระบายมันออกมา จึงปล่อยให้ร้องไห้ไป
ท้ายที่สุดหลินเหยาก็ดื่มจนมึนงงไปหมด หลังจากจัดการค่าใช้จ่ายแล้ว ถังโจวโจวก็ประคองเธอออกไปด้านนอก แต่เพียงแค่ก้าวออกมาจากร้าน จู่ๆ แขนของหลินเหยาที่พาดอยู่บนไหล่ของถังโจวโจวก็ผลักถังโจวโจวออก เธอคุกเข่าอยู่ริมถนนและอาเจียนออกมา ถังโจวโจวคอยลูบหลังให้เธอ เมื่อเห็นว่าเธออาเจียนหนักขนาดนี้ ถังโจวโจวก็ยิ่งจนปัญญา
“ฉันบอกแล้วว่าอย่าดื่มหนัก ทีนี้รู้ซึ้งแล้วหรือยังล่ะ” เมื่อลมเย็นๆ พัดผ่านมา ถังโจวโจวก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอผิดปกติไป ทำไมจู่ๆ เธอถึงได้รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาแบบนี้
เธอคิดว่าเป็นเพราะเธอเพิ่งออกมาจากร้านเหล้า อุณหภูมิมันแตกต่างกัน แต่เธอก็ยังสงสัยอยู่ว่า ถึงในร้านจะร้อนกว่า แต่เมื่อด้านนอกก็อากาศเย็นซะขนาดนี้ เธอไม่น่าจะรู้สึกร้อนได้นี่!
ตอนนี้สัญชาตญาณของถังโจวโจวสั่งให้เธออยู่นิ่งๆ เธอต้องการจะรับลมเย็นๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้รู้สึกดีขึ้น
เธอเปิดปกเสื้อออกเล็กน้อย มันก็ได้ผลจริงๆ แต่ถังโจวโจวก็พบว่ามันยังคงผิดปกติอยู่ ลมเย็นพัดใส่เธอแท้ๆ แต่เธอกลับรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบจนหน้าแดง ถังโจวโจวสัมผัสใบหน้าของตัวเองแล้วก็รู้สึกว่ามันร้อน เธอจึงรีบตะโกนเรียกหลินเหยาที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ “เหยาเหยา เรารีบกลับกันเถอะ!”
เมื่อถังโจวโจวรู้ว่ามันผิดปกติจริงๆ เธอก็รีบดึงหลินเหยาขึ้นมา และเตรียมที่จะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน แต่เธอดึงหลินเหยาไม่ขึ้น พอเรียกหลินเหยาก็ไม่ตอบแล้ว ถังโจวโจวรู้สึกพะว้าพะวังมากขึ้น และทันทีที่เธอกังวล เธอก็รู้สึกเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ในท้องของเธอ
ถังโจวโจวอดทนต่อไปไม่ไหว เธอไม่รู้ว่าเธอเผลอกินอะไรที่ไม่ควรกินเข้าไปหรือ? เธอนึกย้อนกลับไปว่าเธอกินอะไรไปเมื่อครู่นี้ เธอก็แค่จิบน้ำนี่ น้ำแก้วนั้นใส่อะไรไว้หรือ? ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ ถังโจวโจวเริ่มตื่นตระหนก
จิตใต้สำนึกของเธอสั่งให้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วค้นเบอร์ของลั่วเซ่าเชิน หลังจากที่ต่อสายติดแล้ว ถังโจวโจวก็พูดใส่โทรศัพท์ทันทีว่า “เซ่าเชิน คุณรีบมาช่วยฉันหน่อย ฉันถูกวางยา คุณรีบมาช่วยฉันนะ”
ลั่วเซ่าเชินดีใจที่ได้รับสายโทรศัพท์จากถังโจวโจว แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูด เขาก็ได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของถังโจวโจวที่ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน “โจวโจว คุณใจเย็นๆ นะ ค่อยๆ พูด ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
ถังโจวโจวบอกตำแหน่งปัจจุบันของเธอ ลั่วเซ่าเชินปลอบเธอว่า “คุณหาที่นั่งก่อนนะ ผมจะรีบไป”
หลังจากที่วางสายไป ถังโจวโจวรู้สึกเหมือนว่าฤทธิ์ของยามันแรงขึ้น ส่วนหลินเหยากลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ถังโจวโจวก็ไม่กล้าพอที่จะทิ้งหลินเหยาไว้ตรงนี้ เธอพยุงหลินเหยาขึ้นมาและเดินไปทางหนึ่ง
เธอเพิ่งจะเดินไปได้สองก้าวก็มีคนมาขวางหน้าเธอไว้ ผู้ชายสองคนนั้นเอ่ยปากแทะโลมทันทีว่า “แหม วันนี้ช่างโชคดีจังเลย ได้เจอสาวสวยตั้งสองคนแน่ะ”
“ใช่เลย ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะได้มีความสุขกันนะ” อีกคนหนึ่งรีบรับคำ
ถังโจวโจวรู้สึกเพียงว่ามีเงาของใครวูบไหวอยู่ตรงหน้า เธอส่ายหัวอย่างหนักและเธอก็รู้สึกดีขึ้น แต่มันก็แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อชายสองคนนั้นเห็นว่าถังโจวโจวและหลินเหยาไม่พูดอะไรเลย พวกเขาก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นอีก และหมายจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับถังโจวโจว
ถังโจวโจวยังคงมีสติอยู่ เธอรู้ว่าถ้ามีคนรู้ว่าเธอถูกวางยา และลั่วเซ่าเชินก็ยังมาไม่ถึง เธอกับหลินเหยาวิกฤตแน่แล้ว
“พวกนายจะทำอะไร!” ถังโจวโจวตะโกนเสียงดัง
ชายสองคนนั้นสะดุ้งตกใจกับเสียงตะโกนของเธอ แต่พวกเขาก็เรียกสติกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว “ฉันก็นึกว่าเป็นอะไร ที่ไหนได้ ถูกวางยานี่เอง!”
พวกเขาสองคนมักจะผ่านมาแถวนี้ สถานการณ์อย่างถังโจวโจวพวกเขาเจอมาเยอะแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางยาไว้ แต่ตอนนี้พวกเธอก็เสร็จพวกเขาแล้วแหละ
เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าชายสองคนตรงหน้ารู้ความจริงแล้ว เธอก็ยิ่งเผยท่าทีอ่อนแอไม่ได้ เพราะกลัวว่าสองคนนั้นจะทำอะไรเกินเลยขึ้นมา “ฉันบอกพวกนายเอาไว้เลยนะ! ถ้าพวกนายทำอะไรฉันสองคน ฉันไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่!”
แม้ว่าถังโจวโจวจะวางมาดตบตา แต่ในใจของเธอก็กังวลมาก ทำไมเซ่าเชินยังไม่มาอีก หลินเหยาก็ไม่ขยับตัวเลย นี่เป็นลมไปแล้วหรือเปล่า? แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะทีนี้
โชคดีที่หลินเหยาไม่ได้หมดสติเสียทีเดียว “โจวโจว ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน” เธอเกาะอยู่บนบ่าของถังโจวโจวและมองดูสภาพแวดล้อมในตอนนี้ เหมือนว่าตรงหน้าเธอจะมีผู้ชายสองคน เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?
“เหยาเหยา ในที่สุดเธอก็ตื่นแล้ว!” ถังโจวโจวเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นเธอก็กระซิบเล่าเรื่องการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายสองคนนี้ให้หลินเหยาฟัง
หลินเหยากล้าหาญขึ้นมาทันที “นายสองคนน่ะ คิดจะหาเรื่องพวกฉันเหรอ รนหาที่ตายหรือไง!”
ชายสองคนนั้นมองหลินเหยาด้วยความสงสัย ผู้หญิงคนนี้มีฝีมือติดตัวหรือยังไง? พวกเขาไม่เคยได้ยินผู้หญิงคนไหนพูดแบบนี้มาก่อนเลย!
ถังโจวโจวแอบดีใจอยู่ลึกๆ เมื่อเห็นหลินเหยาสามารถหยุดพวกเขาได้ครู่หนึ่ง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าชายสองคนนั้นกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย “เอาละ อย่ามัวพูดไร้สาระอยู่เลย พาพวกเธอไปจัดการซะ ลากไปในตรอกเล็กใกล้ๆ นี้ก็ได้ ไม่มีใครสนใจพวกเธอหรอก”
ถังโจวโจวรู้สึกตกใจกับคำพูดของพวกเขาที่เหมือนทำแบบนี้กันเป็นเรื่องธรรมดา สองคนนี้คงไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ใช่ไหม? ตอนนี้ถังโจวโจวกับหลินเหยาไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ พวกเธอเพิ่งเดินมาได้ไม่ไกลนัก ถังโจวโจวเห็นว่าพวกเขาสองคนค่อยๆ สาวเท้าเข้ามาใกล้พวกเธอมากขึ้น
“เซ่าเชิน! คุณมาแล้ว คุณต้องจัดการสั่งสอนสองคนนี้นะ!” แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ชายสองคนนั้นหันหลังกลับไปมอง ถังโจวโจวจับมือหลินเหยาและพาเธอออกวิ่งสุดฝีเท้า เมื่อชายสองคนหันหน้ากลับมา พวกเขาก็พบว่าผู้หญิงเจ้าเล่ห์ทั้งสองคนวิ่งหนีไปแล้ว พวกเขาจะปล่อยพวกเธอไปง่ายๆ ได้อย่างไร พวกเขาวิ่งตามพวกเธอไปทันที
“กล้ามามีลูกเล่นกับพวกฉัน คอยดูก็แล้วกันว่าพวกฉันจะจัดการกับพวกเธอยังไง!”
ถังโจวโจวถูกวางยาอยู่ เดิมทีร่างกายของเธอก็อ่อนล้าอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าสองคนนั้นตามมาข้างหลังอีก เธอก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น
เมื่อหลินเหยาเจอเรื่องแบบนี้ เธอก็สร่างเมาในทันที ใจของเธออยากจะเร่งความเร็วกว่านี้ แต่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย ในใจของเธอตอนนี้ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น
“โจวโจว ตกลงว่าเรามีปัญหากับสองคนนั้นได้ยังไงนะ?” หลินเหยารู้สึกว่าในความทรงจำของเธอขาวโพลน เธอนึกออกเพียงว่าเธอดื่มเหล้าอยู่ในร้าน จากนั้นถังโจวโจวก็มา และหลังจากนั้นภาพก็ตัดหายไปเลยกระทั่งตอนนี้