ตอนที่ 7 วิวบนสะพานไฉ่อี
เครื่องตัดหินอุตสาหกรรม 7 เครื่อง 35,000 หยวนต่อเครื่อง
เงินจากเครื่องตัดหินเครื่องแรก 25,000 หยวนก็ยังไม่ได้
คนงาน 8 คน ค่าจ้าง 3 เดือน
แค่ประโยคเดียวของซางฉิงทุกอย่างก็หายไป โรงงานพยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อออเดอร์เดียวนี้ แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรกับเหล็กและชิ้นส่วนอะไหล่ที่เหลือที่พวกเขาสั่งไว้ล่ะ?
ใช่ ~
โรงงานของครอบครัวเย่ชิงจะผลิตเครื่องจักรตามที่สั่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามเย่ชิงรับประกันได้เลยว่าไม่มีใครในเมืองใกล้เคียงจะให้ราคาที่ดีกว่า 35,000 หยวนต่อเครื่องแน่นอน ถ้ามีใครให้ราคาดีกว่านี้จริงๆเขาก็คงจะมอบทั้ง 7 เครื่องนี้ให้ไปใช้ฟรีๆด้วยเลย
หากมีปัญหาเกิดขึ้น เย่ชิงจะรีบไปโดยเร็วที่สุด เขาซ่อมมันทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้เครื่องทำงานได้
ตอนนี้วัสดุสำหรับอีก 6 ชิ้นอยู่ที่นั่นแค่รอการประกอบ
แล้วพวกเขาก็ยกเลิกทุกอย่างแบบนั้นเลย ไม่ได้จ่ายเงินสำหรับเครื่องแรกด้วยซ้ำ
เฉียนเสี่ยวเมิ่งและพวกหัวเราะเยาะและมองดูอยู่ข้างๆ ออเดอร์ทั้งหมดหายไปกับลม เยี่ยมจริงๆ
โรงงานของพวกเขาไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่มีออเดอร์แล้ว พวกเขาจะผ่านวิกฤตินี้ได้อย่างไร?
สำหรับค่ารักษาพยาบาลของลุงของเขาพวกเขาไม่ต้องกังวลมาก เมื่อโรงงานจะล้มละลายได้ พวกเขาจะขายเครื่องจักรเพื่อชำระหนี้ อาจต้องขายแม้แต่รถตู้ถ้ามันจำเป็น
เย่ชิงปิดตาและพยายามสงบสติอารมณ์
หลังจากหยุดพักครู่ใหญ่เขาก็พยายามที่จะข่มอารมณ์อย่างหนัก “คุณซาง! แม้ว่าเราจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ แต่ธุรกิจเป็นเรื่องของความไว้วางใจ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการจะทำแบบนี้?”
ซางฉิงมองที่เขาด้วยความรังเกียจและเย็นชา “ถ้าแกไม่ชอบใจก็ฟ้องฉันสิ” เย่ชิงพาร่างอันหนักอึ้งหันกลับโดยไม่ตอบอะไรออกไป
เมื่อไม่มีใครหนุนหลัง การคุกคามข่มขู่ใดๆ ก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง
เย่ชิงเข้าใจและยอมรับมัน
เขาสตาร์ทรถ แต่เมื่อกำลังจะขับออกไป รถตู้ของเย่ชิงก็ถูกใครบางคนขวางไว้
เย่ชิงเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการทะเลาะวิวาทอีกครั้ง แต่คนที่ปรากฏตัวดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีป้ายสีแดงอยู่บนอกเสื้อ
นี่คือตราสำหรับเจ้าหน้าที่ของเมืองจงหยุนทุกคน มันมีชื่อ ตำแหน่งและหมายเลขโทรศัพท์
คนประเภทนี้ไม่ใช่คนพวกเดียวกับซางฉิงแน่นอน เย่ชิงจึงหยุดรถและถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น?
“คุณจะมุ่งหน้าไปที่จงหยุนหรือเปล่า?”
เด็กหนุ่มชื่อหานโหย่วเผิงส่งบุหรี่ให้ “ให้ผมติดรถไปด้วยได้ไหมครับ? เวลานี้หารถบัสที่คนไม่แน่นยากมากเลย”
ตอนที่ซางฉิงกำลังคุยกับเขา พวกเขาอยู่ค่อนข้างไกลจากเย่ชิง แต่ก็ยังใกล้พอที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ยินการโต้เถียงระหว่างเย่ชิงและซางฉิงเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ขอติดรถมากับเย่ชิง
ตำแหน่งบนตราสัญลักษณ์ของหานโหย่วเผิงระบุว่าอยู่แผนกก่อสร้างเมือง แทนที่เย่ชิงจะปฏิเสธกลับเปิดประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและต้อนรับเขาอย่างจริงใจ
หานโหย่วเผิงกล่าวขอบคุณตอนที่ขึ้นมานั่ง เมื่อเย่ชิงขับรถไปที่ถนนสายหลักของเมือง หานโหย่วเผิงก็ถามว่าทำไมเขาถึงทะเลาะกับคนงานตรงนั้น
เย่ชิงโบกมือแล้วบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพียงแค่การกระทบกระทั่งกันเบาๆกับคนงานไม่กี่คน
“หัวหน้าคนนั้นเส็งเคร็งจริงๆ เขาสนใจแต่ผลประโยชน์ตัวเอง” หานโหย่วเผิงอาจถูกทำมึนตึงใส่ก็เลยระบายมันออกมา “บ้าเอ๊ย ผมนั่งในรถบัสที่คนอัดกันแน่นนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเพียงเพื่อมาคุยเรื่องธุรกิจกับเขา เมื่อเสร็จธุระเขาก็ไม่ได้มีมารยาทบอกให้ใครสักคนขับรถพาผมกลับ ผมเห็นรถยนต์ตั้งหลายคันในลานจอดรถนั่น”
“พวกคุณคุยธุรกิจเกี่ยวกับอะไรกัน” เย่ชิงถามอย่างไม่ใส่ใจเพียงเพื่อให้การสนทนาดำเนินไปเท่านั้น
“ขอบคันหิน(ขอบฟุตบาท) คุณรู้จักไหมก้อนหินที่แบ่งเขตถนนกับฟุตบาทน่ะ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าทีมตรวจสอบจะมาประจำอยู่ที่นี่เพื่อให้คะแนนเมืองทั่วประเทศด้านวัฒนธรรมและการสุขาภิบาลของเมือง
หานโหย่วเผิงวางกองเอกสารลงบนคอนโซลรถแล้วบิดตัวไปมา “การตรวจสอบทุกๆ 3 ปีของเมือง ครั้งที่แล้วมีเพียง 30 เมืองทั่วประเทศเท่านั้นที่ผ่าน จงหยุนของเราพลาดมาหลายครั้งติดกัน ตอนนี้นายกเทศมนตรีตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของเมืองไปอย่างสิ้นเชิง”
“ถนนสายหลักสองสามสายใช้ขอบถนนคอนกรีตซึ่งสึกกร่อนตามสภาพอากาศ คงจะน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิมถ้าถูกสุนัขกัดแทะไปทั่ว แผนกก่อสร้างเมืองได้ตัดสินใจเปลี่ยนทั้งหมดเป็นหินแกรนิต”
“แหล่งหินแกรนิตที่ใกล้ที่สุดอยู่ใกล้ภูเขาเหมยฮัว แต่ที่เดียวที่สามารถผลิตหินแกรนิตในปริมาณมากคือเจียงชานการก่อสร้าง ฉันถูกส่งไปที่นั่นเพียงเพื่อการเซ็นสัญญา แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เซ็นเพราะเขาไม่ชอบราคาในข้อตกลง และด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่แม้แต่จะส่งฉันกลับ!”
เย่ชิงพูดปลอบใจและวิจารณ์ว่าซางฉิงจะต้องมีคอนเน็คชันแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางที่เขาจะได้รับข้อตกลงนี้เพียงผู้เดียวแน่นอน
“จงหยุนมีหินภูมิทัศน์ที่ผลิตโดยบริษัทของเขามากมาย เขาต้องคุ้นเคยกับผู้อำนวยการสองสามคนแน่ๆ พวกเขาคงจะพูดสนับสนุนซานฉิง”
หานโหย่วเผิงขมุบขมิบปาก “ฉันก็ถูกบีบบังคับเหมือนกัน ผู้อำนวยการบ้าพวกนั้นใช้ฉันเป็นเด็กวิ่งเอกสารตลอด เมื่อเซ็นสัญญาเสร็จฉันไม่ได้อะไรเลยและเครดิตทั้งหมดก็กลายเป็นของพวกเขา ถ้ามันล้มเหลวก็เป็นความผิดของฉันเสมอ”
ทั้งสองอายุพอๆกัน แน่นอนว่าพวกเขามีเรื่องให้พูดคุยมากมาย เมื่อรถตู้เข้าสู่จงหยุนเย่ชิงก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับซางฉิงจากเขามามากพอแล้ว
ตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนรถจึงติดทุกที่ หานโหย่วเผิงบอกว่ากำลังจะรีบไปเดต ดังนั้นเขาจึงไม่รอให้ถึงที่หมาย รีบลงจากรถแล้ววิ่งออกไป
เมื่อเย่ชิงขึ้นมาบนสะพานไฉ่อี ตรงทางแยกมีรถติดอยู่นานกว่าสองถึงสามร้อยเมตร
สะพานไฉ่อีถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจงหยุน มีอาคารขนาดเล็กแต่เก่าแก่สวยงามอยู่ด้านล่างและรูปปั้นหญิงสาวในราชสำนักทั้ง 12 เริงระบำอยู่ด้านบน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง
เมื่อประเมินสถานการณ์บนถนนข้างหน้า เย่ชิงก็ทำนายว่าเขาจะต้องรอไฟเขียวอีกอย่างน้อย 3 รอบ ในขณะที่กำลังนั่งเบื่อบนสะพาน เย่ชิงก็ฟังเพลงของสวี่หนิงกง
ตอนที่กำลังฟังเพลงอยู่เย่ชิงก็สังเกตเห็นเอกสารที่วางอยู่บนคอนโซลรถหน้าเบาะข้างคนขับ เวรล่ะ ~ นี่มันของที่หานโหย่วเผิงวางไว้ตอนขึ้นมาบนรถเหรอ?
เย่ชิงไม่ได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์บนป้ายของเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางไปที่แผนกก่อสร้างเมืองในภายหลังเพื่อเอามันไปคืน
เย่ชิงที่กำลังเบื่อๆพลิกเอกสารไปทีละหน้า
เอกสารนั้นไม่มีอะไรมาก ทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดซื้อขอบคันหิน เช่น วัสดุสำหรับหิน ขนาดและกำหนดเวลา รวมแล้วจะมีการจัดซื้อขอบคันหิน 250,000 ก้อน
เอกสารเหล่านี้เป็นเพียงร่างสัญญาเริ่มต้นโดยไม่มีลายเซ็นจากทั้งสองฝ่าย
ตามที่ฮั่นโหย่วเผิงพูดตอนอยู่บนรถ รัฐบาลต้องการซื้อขอบคันหินแต่ละก้อนที่ราคา 40 หยวนต่อก้อน ตรงข้ามกับซางฉิงที่คิดว่าราคามันถูกเกินไปและเขาไม่ได้กำไร เขายืนยันจะขายในราคา 42 หยวนต่อชิ้น
ราคานี้ไม่แพงจริงๆ และมีเพียงแค่เจียงชานการก่อสร้างใกล้จงหยุนที่สามารถจัดหาขอบคันหินแกรนิต ซางฉิงก็อยากโก่งราคาขึ้นราคาเล็กน้อยเป็นธรรมดา
ส่วนที่มีราคาแพงของธุรกิจก่อสร้างคือกำลังคนและทรัพยากรทางกายภาพ ไม่ใช่หินที่มีให้ใช้อย่างอิสระ
ขอบคันหินแกรนิตก้อนหนึ่งมีน้ำหนักเกือบ 50 กิโลกรัม ตั้งแต่การขุดออกมาจากภูเขาจนถึงตัดตามขนาดและขัดต้องใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมาก
เพียงแค่ยกก้อนหินที่หนักหลายสิบกิโลกรัมเดินไปแค่สองสามก้าวก็มากพอที่จะทำให้คนปกติหายใจหอบแล้ว ไม่ต้องไปนึกถึงหิน 250,000 ก้อน
นี่ก็คือสิ่งที่ซางฉิงอยู่เหนือใครเช่นกัน ในบรรดาโรงงานก่อสร้างทั้งหมดในจงหยุนจะมีใครครอบครองแรงงานขุดหินในระดับอุตสาหกรรมและสามารถสกัดหินแกรนิตออกได้มาอีกล่ะ?
สั่งนำเข้ามาเหรอ?
ซางฉิงเสนอข้อตกลงเป็น 42 หยวนต่อก้อนแล้ว ถ้าพวกเขานำเข้าจากที่อื่นๆของประเทศ ก็ต้องคิดถึงการขนส่งและการจัดการกับวัสดุหลายพันตัน ไม่ต้องไปคิดเลยว่าราคาจะต่ำกว่า 45 หยวนต่อก้อน
“ธุรกิจทุกวันนี้มีแต่เรื่องราคาเข้ามาเกี่ยวทั้งนั้นเลย!”
เมื่อเย่ชิงเปิดอ่านเอกสารทั้งหมดก็ถอนหายใจอย่างสลดใจ
ถึงรู้รายละเอียดเหล่านี้แล้วจะทำอย่างไรกับมันล่ะ?
เป็นไปได้ไหมที่จะส่งฮัลค์หนึ่งและฮัลค์สองไปที่โกดังของซางฉิงและไปสู้แบบในหนัง 300?
เมื่อมองไปเหนือที่สะพานไฉ่อี ดูการหมุนตัวครั้งแล้วครั้งเล่าของรูปปั้นหญิงสาวเริงระบำในราชสำนัก เย่ชิงก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป
“รอเดี๋ยว เดี๋ยวก่อนนะ ~” จู่ๆเย่ชิงก็ตรัสรู้ขึ้นมา เขาเขย่าเบาะนั่ง
รูปปั้นหญิงสาวเริงระบำในราชสำนัก !!
รูปภาพหญิงสาวเริงระบำในราชสำนัก !!