Monster Factory – ตอนที่ 1 โชคร้าย

ตอนที่ 1 โชคร้าย

 

บนพื้นที่อันกว้างใหญ่ของประเทศจีน

 

เวลา 9 นาฬิกา บนทางหลวงหมายเลข 104

 

ในรถตู้เชิงพาณิชย์ของโรงงานเลื่อยเคลียร์สกายที่มีรูปผลิตภัณฑ์ติดอยู่เป็นแถบ

 

เย่ชิงหน้าซีดเมื่อเขาวางหูโทรศัพท์เป็นครั้งที่ 7 ของวัน

 

เขาพยายามโทรหาเพื่อนสนิทไป 7 คนแต่จำนวนเงินที่เขายืมมายังไม่มากพอกับที่ต้องการ รวมเงินเก็บของเขากับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆแล้วก็ได้เพียงแค่ 13,000 หยวนเท่านั้นเอง

 

เย่ชิงไม่คิดจะต่อว่าใคร อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้เห็นถึงนิสัยของเพื่อนๆ เขารู้สึกขอบคุณมากกว่าด้วยซ้ำ กลุ่มเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นก็เหมือนกับเขา เป็นเด็กจบใหม่ถูกจับโยนให้ไปเป็นแรงงานในโรงงาน หรือก็คือ ไม่มีใครเป็นทายาทรุ่นสองที่ร่ำรวยเลยสักคน

 

เพียงแค่เพื่อนๆรับสายและให้เขายืมเงินเก็บที่มีค่าได้ก็ทำให้เย่ชิงซาบซึ้งใจแล้ว

 

แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังไม่พออยู่ดี

 

วันนี้มีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นในโรงงานเครื่องจักรกลที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ

 

ครอบครัวของเย่ชิงอาศัยอยู่ในเมืองจงหยุน มณฑลเจียงหนาน พ่อของเขา เย่เจียงหนิงเคยเป็นหัวหน้าในโรงงานของเรดไลท์แมชชีนเนอรี

 

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำปี 98 เย่เจียงหนิงพาคนงานของเขาสองสามคนออกมาตั้งโรงงานเครื่องจักรกลของตนเอง โรงงานนี้รับเพียงงานที่เรดไลท์แมชชีนเนอรีจ้างเท่านั้น

 

ในปี 09 เวิร์กชอปเครื่องกลได้อัพเกรดไปเป็นโรงงานเลื่อยเคลียร์สกาย เชี่ยวชาญในงานเลื่อยสเกลใหญ่

 

ธุรกิจโรงงานเลื่อยดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งสองปีที่แล้ว

 

ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจทราบได้ จำนวนออเดอร์ลดลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องในสองปีที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้แล้วการเกษียณของคนรุ่นเก่าในเรดไลท์แมชชีนเนอรีทำให้โรงงานสูญเสียงานที่ได้รับการว่าจ้างจากที่นั่น ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ บางครั้งโรงงานก็ไม่มีออเดอร์เข้ามาเลยเป็นเดือนๆ สิ่งที่ทำให้โรงงานอยู่รอดก็คือออเดอร์ ออเดอร์ที่แทบจะไม่มีเข้ามานี้ส่งผลให้โรงงานใกล้จะปิดตัวเต็มที ค่าจ้างคนงานก็ไม่มีเงินจ่ายมาสามเดือนแล้ว

 

เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนร่วมชั้นของเย่เจียงหนิงผู้ทำงานให้กับรัฐบาลช่วยให้เขาได้รับออเดอร์เลื่อยตัดคอนกรีต 7 เครื่องจากเจียงชานการก่อสร้าง

 

เพื่อเตรียมรับมือกับการประเมินด้านวัฒนธรรมและสุขาภิบาลของเมืองจากทีมตรวจสอบของรัฐ เทศบาลเมืองจงหยุนวางแผนจะปลูกป่าและเปลี่ยนหินขอบบนถนนเส้นหลักของเมือง

 

ภายใต้ความกดดันของออเดอร์ที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน หัวหน้าของเจียงชานการก่อสร้าง ต้องหันมาร่วมมือกับโรงงานเลื่อยเคลียร์สกายอย่างไม่เต็มใจนัก

 

ออเดอร์เลื่อยตัดคอนกรีต 7 เครื่องไม่ได้ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมากมาย แต่อย่างน้อยมันก็เพียงพอกับจ่ายค่าจ้างคนงานที่ค้างอยู่ได้

 

ในยุคที่โรงงานรุ่งเรืองที่สุด มีคนงานมากถึง 30 คน และมีออเดอร์มากเสียจนคนงานต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ

 

แต่ในตอนนี้…

 

คนรุ่นก่อนที่เก่งๆก็ออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ลูกมือ 8 คน

 

คนพวกนี้ไม่เพียงแค่มีทักษะที่ด้อยกว่าเท่านั้น แต่ยังโหลยโท่ยอีกด้วย หากไม่ใช่เพราะพวกนั้นร้องขอแรงง่านขั้นต่ำ เย่เจียงหนิงก็คงจะไล่ออกไปนานแล้ว

 

อันที่จริงแล้วเลื่อยเครื่องแรกที่ส่งไปยังเจียงชานการก่อสร้างเมื่อวานนี้ รางตัดสไลด์ของมันไม่ตรง หลังจากใช้ไปไม่นานก็ทำให้ตัดหินออกมาเฉียงทั้งหมด

 

ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรจะพลาดเช่นนี้สร้างความไม่พอใจแก่เจียงชานการก่อสร้าง หัวหน้าของโรงงานโทรมาในตอนกลางคืนเพื่อสั่งให้โรงงานเลื่อยเคลียร์สกายมาซ่อมมัน ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้หวังว่าจะได้ค่าจ้างส่วนที่เหลือ

 

เย่ชิงเป็นช่างเทคนิคของโรงงาน เขาที่ได้คลุกคลีกับโรงงานมาตั้งแต่เล็กๆ และเขายังได้เลือกเรียนวิศวกรรมเครื่องกลในระดับมหาวิทยาลัย

 

ดังนั้น ในช่วงการทดลองงานนี้ เย่ชิงจึงขับรถตู้พาณิชย์ไปทุกที่เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์จากโรงงานของเขา

 

รางตัดสไลด์เป็นส่วนที่แม่นยำที่สุดของเลื่อยตัดคอนกรีต มันจะต้องแม่นยำมากเสียจนโรงงานเลื่อยเคลียร์สกายผลิตขึ้นมาเองไม่ได้

 

ไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงที่เย่ชิงและคนงานทำมันขึ้นมาไม่ได้ ทั่วทั้งเจียงหนานนี้มีคนเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นที่มีความสามารถพอที่จะผลิตขึ้นมา

 

ถ้าผลิตไม่ได้ก็ซื้อมันมาเสียเลยสิ รางตัดสไลด์เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท หว่านหยาง พรีซิชัน จำกัด

 

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้เชื่อถือได้ ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่อยู่ในวงการธุรกิจนี้มานานหลายปี

 

ดังนั้นปัญหาก็มาจากคนงานของโรงงานตอนที่ติดตั้งเท่านั้น

 

เย่ชิงทำงานทั้งคืน ไม่เพียงแต่ต้องเปลี่ยนรางตัดสไลด์เท่านั้น เขายังต้องทดสอบเครื่องที่เหลือด้วย

 

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว หัวหน้าของเจียงชานการก่อสร้างก็ยังไม่พอใจ เขาไล่เย่ชิงไปทันที ไม่แม้แต่จะเสียเวลาเตรียมมื้อเช้าง่ายๆให้ด้วยซ้ำ

 

เย่ชิงผู้หิวโหยจึงต้องฝากท้องไว้กับขนมปังจากร้านค้าระหว่างทางกลับบ้าน ในตอนที่กำลังกินและรีบกลับนั้นเขาก็คิดว่าถึงบ้านแล้วจะไปพักผ่อนให้เต็มที่เสียหน่อย

 

ใครจะรู้…

 

ระหว่างทางเย่ชิงได้รับสายฉุกเฉินจากเย่เจียงหนิงว่าเกิดอุบัติเหตุบางอย่างขึ้นในโรงงาน

 

คนงาน 8 คนบันทึกเวลาเข้างานตอน 8 โมงเช้า หลังจากเย่เจียงหนิงมอบหมายงานวันนี้ให้ เขาก็ขึ้นไปพักที่ห้องชั้นบน

 

โทรศัพท์จากเจียงชานการก่อสร้างเมื่อคืนนี้ทำให้เขายัวะตลอดทั้งคืน ทำธุรกิจมาก็หลายปีถ้าหากมีข้อผิดพลาดที่ไม่ควรพลาดอย่างรางตัดสไลด์เอียง ชื่อเสียงของโรงงานจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน

 

ในการผลิตเครื่องมือจักรกล ชิ้นส่วนส่วนใหญ่จะถูกทำจากเหล็กแผ่น ขั้นแรกชิ้นส่วนจะถูกตัดอย่างรุนแรงโดยใช้เครื่องตัดเปลวไฟ จากนั้นก็ใช้เครื่องกัดเพื่อวัดความแม่นยำ

 

เหล็กแผ่นมีรายละเอียดเฉพาะที่ต่างกัน ความหนาและน้ำหนักจึงต่างกันไปด้วย

 

ตอนที่คนงานชื่อเฉาหยุ่นกำลังเคลื่อนย้ายเหล็กแผ่น คนงานที่หนุ่มที่สุด ผางรุ่ยเฟิง เพิ่งจะเรียนรู้การเคลื่อนย้ายสิ่งของด้วยรีโมตคอนโทรล

 

ต้องยอมรับเลยว่าการควบคุมจากที่ไกลๆมันช่างสนุกเสียจริง ชิ้นส่วนเครื่องจักรที่หนักหลายตันและยาวเท่าโรงงานนี้ใช้เพียงแค่รีโมตที่เหมือนรถแข่งเคลื่อนย้ายเท่านั้น

 

การควบคุมสิ่งนี้เหมือนกับการขับรถไฟของจริงแต่ทรงพลังมากกว่านั้น ไม่ว่าใครที่ได้เห็นต่างก็จะพบว่ามันช่างน่าหลงใหลจริงๆ

 

ผางรุ่ยเฟิงอยากลองมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสเสียที ตอนนี้เย่เจียงหนิงไปพักและไม่ได้คอยมองพวกเขาอยู่จากด้านบน โอกาสดีๆมาถึงแล้ว หลังจากรบเร้าเฉาหยุ่นอยู่นานเขาก็ได้ควบคุมมันเสียที

 

ผางรุ่ยเฟิงที่ควบคุมรีโมตอยู่ภายใต้การควบคุมของเฉาหยุ่นอีกทีก็เคลื่อนย้ายเหล็กแผ่นไปเหนือบริเวณเครื่องตัดเปลวไฟ

 

เมื่อคนงานตัดและเชื่อมเหล็กแผ่นเสร็จแล้วผางลุ่ยเฟิงก็อาสาย้ายเครื่อง เมื่อเฉาหยุ่นพบข้อผิดพลาดในการเคลื่อนย้ายของเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

ใครจะรู้เมื่อผางรุ่ยเฟิงย้ายเครื่องเชื่อมเหนือเครื่องกัด CNC แล้วลดระดับตะขอที่ใช้แขวนลง เขาลืมแตะเบรก ผลก็คือฐานเลื่อยตัดคอนกรีตหนัก 1.5 ตันตกลงบนเครื่องกัด CNC

 

เครื่องกัด CNC เป็นเครื่องจักรที่ใหญ่ที่สุดในโรงงาน เครื่องแบบนี้เอาไว้ใช้ในงานสเกลใหญ่  มันยาว 13 เมตร สูง3 เมตร และหนัก 17ตัน

 

ฐานเครื่องที่ยังทำไม่เสร็จฟาดลงกับส่วนบนของเครื่องกัด CNC จนแตกเป็นเสี่ยงๆ โต๊ะทำงานช่างที่ยาวเกิน 4 เมตรก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

เพียงแค่การตกลงมาฟาดนี้อย่างเดียวอาจจะเสียค่าซ่อมหลายหมื่น แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เย่เจียงหนิงรู้สึกสิ้นหวัง

 

ส่วนบนของเครื่องกัด CNC มีแขนกัด

 

แขนกัดสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาเพื่อช่วยให้คนงานควบคุมเครื่องกัดจากมุมที่แตกต่างกัน แขนกัดทำจากเหล็กสแตนเลสธรรมดาแต่ตอนนั้นมีคนงานสองคน ลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงรออยู่ที่เครื่องกัด เตรียมกัดฐานเครื่องต่อเมื่อมันถูกวางลงมาบนเครื่อง

 

แขนกัดพังแล้วส่วนที่แตกออกจากระบบขนส่งก็แตกพุ่งไปยังคนงานสองคนที่หลบไม่ทัน

 

โชคดีที่ฐานเครื่องฟาดลงบนเครื่องกัด CNC ไม่ได้ทับบนตัวคนงาน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงต้องไปห้องผ่าตัดแล้ว

 

เมื่อเย่เจียงหนิงวิ่งลงไป คนงานก็ช่วยพาตัวลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงที่เต็มไปด้วยเลือดส่งโรงพยาบาล ในเวลาที่เร่งรีบนี้พวกเขาฝ่าไฟแดงไป 8 ครั้งและละเมิดกฏหมายไปบางข้อ

 

เมื่ออยู่ในห้องพักรอ ใบหน้าของผางรุ่ยเฟิงซีดขาวกว่ากระดาษ เขาได้คิดอยู่ซ้ำๆว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวกับการควบคุม อุบัติเหตุนี้ไม่ใช่เกิดเพราะตัวเขาเอง ตรงข้ามกับเฉาหยุ่นที่เห็นเหตุการณ์ เขาเตะและตบตีผางรุ่ยเฟิงไปหลายครั้ง

 

ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะกล่าวหาว่าผางลุ่ยเฟิงเป็นต้นเหตุ เพราะอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นตอนที่ลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงอยู่ในเวลางาน ดังนั้นเจ้านายอย่างเย่เจียงหนิงจึงต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด

 

ลู่เสี่ยวเจินกระดูกซี่โครงซ้ายซี่ที่สามและสี่หักและไหล่ขวาแตก ในขณะที่เฉียนตงตงกะโหลกร้าว เลือดออกในสมองและมีแผลฉีกขาดที่หลัง

 

เนื่องจากผลประกอบการย่ำแย่ โรงงานเลื่อยเคลียร์สกายค้างค่าจ้างคนงานเป็นเวลาสามเดือน

 

 

ค่าจ้างที่เหลือจากเจียงชานการก่อสร้างสำหรับเครื่องมือตัดคอนกรีตก็ยังไม่ได้รับ เย่ชิงโทรไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่หัวหน้าบอกว่าเขาต้องใช้เวลาทดสอบเครื่องอีกหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจึงจะโอนเงินที่เหลือให้

 

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของโรงงาน เย่ชิงก็แทบจะสิ้นหวังไปด้วย

 

เงินแรกเริ่มจากเจียงชานการก่อสร้างทั้งหมดใช้วัสดุสำหรับผลิตของตามออเดอร์ เพราะพวกเขามีออเดอร์อยู่ในมือ คนงานจึงยอมให้เลื่อนการจ่ายค่าจ้างด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เย่เจียงหนิงตกลงที่จะจ่ายเงินเพิ่มให้พวกเขาอีก 1000 หยวนเป็นค่าชดเชยหลังจากออเดอร์เสร็จ

 

โรงงานมีเงินในบัญชีเพียงสองสามพันหยวน นอกเหนือจากเงินส่วนนี้แล้วก็แทบจะไม่มีเงินสำรองเหลือเลย เนื่องจากธุรกิจซบเซาในปีที่ผ่านๆมา ผลประกอบการที่เคยทำได้ในช่วงนั้นถูกเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายของโรงงานทั้งหมด

 

เย่ชิงได้แต่ภาวนาว่าลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงจะไม่เป็นอะไรมาก

 

เจียงชานการก่อสร้างตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเหมยฮัวที่อยู่ติดชานเมืองของจงหยุน เย่ชิงติดอยู่ในการจราจรที่คับคั่ง

 

หลังจากถอยหลังกลับเล็กน้อย เย่ชิงก็จอดรถไว้บนไหล่ถนน

 

เขาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดเครื่องเสียงในรถ ฟังเพลงจากนักร้องดัง สวี่หนิงกง

 

นักร้องที่ดังอยู่ตอนนี้ สวี่หนิงกง ก็มาจากจงหยุนเช่นกัน เธอเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกับเย่ชิงตลอดเวลาในโรงเรียนประถม สวี่หนิงกงในตอนนั้นเริ่มที่จะแสดงความสามารถทางศิลปะที่หาคนเทียบได้ยากแล้ว

 

ตอนที่เย่ชิงเรียนป.4 เขาเขียนจดหมายสารภาพรักถึงเธอ

 

แน่นอนว่าเธอปฏิเสธ ระหว่างที่เรียนมัธยม สวี่หนิงกงย้ายไปปักกิ่ง พวกเขาจึงขาดการติดต่อกันไป ตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว เธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังไปทั่วเอเชีย พวกเขาอยู่ในโลกที่ต่างกัน

 

ในตอนที่เย่ชิงตัดสินใจว่าจะโทรหาเพื่อนเพื่อขอยืมเงินเพิ่มอีกหรือไม่ เขาก็ได้รับสายจากสวีหลัน แม่ของเขา

 

สวีหลันสะอื้นไห้ตลอดเวลา เธอบอกว่าระหว่างที่เย่เจียงหนิงกำลังรออยู่นอกห้องผ่าตัด ญาติพี่น้องของลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงก็มาถึงและทุบตีเขา

Monster Factory

Monster Factory

ชื่อภาษาจีน : 超級怪獸工廠 ผู้แต่ง : 匣中藏剑 ประเภท: แอ็คชั่น – แฟนตาซี – คอมเมดี้ – อภินิหาร เรื่องย่อ ผมชื่อเย่ชิง โชคดีจริงๆที่ผมไปเจอแอปพลิเคชัน [โรงงานมอนสเตอร์] มอนสเตอร์ที่แข็งแรงสุดๆพวกนี้เทียบได้กับคนกว่าร้อยคนเลยทีเดียวแถมยังใช้ทักษะได้ทุกชนิดเลยล่ะ! ประสิทธิภาพเหรอ? ด้วยความเร็วของทักษะในการทำงาน +300 ยังอยากจะแข่งกับมันไหมล่ะ? ความแม่นยำเหรอ? *แค่ก แค่ก* เอาไดอัลคาลิปเปอร์ระดับตำนานมาซิ แสดงให้พวกเขาเห็นหน่อยว่าความแม่นยำอย่างสมบูรณ์แบบน่ะมันเป็นยังไง เย่ชิง: เมื่อเรา ผมหมายถึงมนุษย์น่ะ อยากจะประสบความสำเร็จเราจะหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา เหล่ามอนเตอร์: อย่ามาเล่นแง่กับพวกข้า การสร้างสรรค์เครื่องจักรที่สุดยอดคือความรักและชีวิตของพวกข้า ร่างกายที่แกร่งกล้านี้คือเครื่องมือทำมาหากินของข้า เหล่ามอนสเตอร์สูง 20 เมตร ร่างเปลือยดูป่าเถื่อนถือเครื่องตัดอันทรงพลังแล้วตะโกนก้องใส่ฟ้า: “ข้าไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น! พวกมันล้วนเป็นขยะทั้งสิ้น!”

Options

not work with dark mode
Reset