“เราได้รับคำสั่งว่ามีการกระเบิดพอร์ทัลทั้งสี่ในยางพย็อง ที่นี่เรามีรองหัวหน้าสมาคมอเวคของเขาเกาหลี นายฮวางอินจุง รองหัวหน้าแผนก ถ้าคุณต้องการจะพูด.”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผม ฮวางอินจุง.”
“พอร์ทัล 4 ที่ระเบิดพร้อมกันในคราวเดียว.”
“ใช่ครับ.”
“แต่คุณบอกว่าพอร์ทัลทั้ง 4 ถูกกำจัดเร็วกว่าเดิม? แม้ว่ามันจะมีสถานที่แตกต่างกันทั้ง 4 แห่ง แต่พอร์ทัลก็ระเบิดออกมาพร้อมกัน.”
“ครับ เราสามารถหยุดมันได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายใดๆ ด้วยการที่มีเครื่องมือที่แม่นยำและสิ่งที่พวกเราได้เตรียมการและฝึกฝนมาก่อน.”
“ค่ะ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ แต่การระเบิดก็เกิดขึ้นกันอย่างต่อเนื่องในเกาหลีใต้ คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้?”
“เรายังคงหาสาเหตุเบื้องหลังของมันอยู่ สมาคมอเวคทั่วโลกกำลังช่วยเหลือเราเช่นกัน.”
“เกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่พอร์ทัลเลเวล 29 อันแรกได้ระเบิดขึ้น แต่คุณก็ยังบอกว่ายังไม่อาจพบเหตุผลอยู่?”
“มีข่าวลือว่าการระเบิดพอร์ทัลนั้นเป็นเรื่องโกหก คุณคิดอย่างไรกับข้อสงสัยเหล่านี้?”
“ครับ ผมได้พูดคุยกับความเป็นไปได้นั้นผ่านการสนทนา แต่ผมไม่อาจบอกได้อย่างแน่นอนว่าโอกาสที่สิ่งเหล่านี้เป็นจริงนั้นคือ 0%.”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มีการคาดเดาไหมคะว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นในเกาหลีเท่านั้น?”
“เราจะแจ้งให้สาธารณชนทราบเมื่อการตรวจสอบของพวกเราเสร็จสมบูรณ์.”
จุงโฮ,โฮจินและผมกำลังมองไปที่ TV.
เรารู้สึกโกรธหลังจากฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้บน TV.
โฮจินรู้บางอย่างเกียวกับฮวางอินจุง ก็พูดขึ้น.
“ดูเขาสิ เขาไม่อาจสบตาได้ในท้ายที่สุด เขาอาจจะทำในสิ่งที่ประธานชอยมันซอยบอกให้เขาทำ ไอ้หนูสกปรก…”
“จากทั้ง 4 ที่ ผมระงับไว้ได้ 2 และผมเดาว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงหัวข้อของฝ่ายหัวรุนแรงจนหยดสุดท้าย.”
“พวกเขาเป็นแบบนี้เสมอ พวกเขาเอาหน้าไปทั้งหมดและหากมีอะไรผิดพลาดพวกเขาก็ยุ่งกับการปัดรับความผิดชอบไปที่อื่น.”
“ดีใจที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 และผมก็เปิดมันเป็นอย่างน้อย”
“นี่ มินชอย แกคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ที่จะหยุดไปที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 ที่ยางพย็องสักพัก? แม้ว่าพวกเขาจะรายงานว่ามันเป็นความผิดพลาดแต่อเวคก็รู้ความจริงว่าพอร์ทัลเลเวล 29 ทั้งสองนั้นถูกจัดการในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง.”
“แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงได้ให้คุณหาข้อมูลของดันเจี้ยนเลเวล 34.”
“คุณพี่โฮจิตครับ เกี่ยวกับที่ตั้งพอร์ทัลอื่นๆที่ผมถาม มันไปถึงไหนแล้ว?”
“โฮ๊ะโฮ๊ะ ฉันเจออันนึง แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือมันไกลเกินไป…”
“ไม่เป็นไร เราใช่วาปได้.”
“อ่า ใช่แล้ว มันอยู่แถวๆ พาจู เขตปลอดทหาร(Paju DMZ).”
“ว้าว…มันค่อนข้างไกล ได้โปรดบอกตำแหน่งที่แน่นอนให้กับผมทีหลัง.”
“ได้ ฉันทำแน่นอน.”
“ทุกวันนี้พี่และคุณ ได้ลงดันเจี้ยนมั่งหรือเปล่า?”
“ที่ไหน? ดันเจี้ยนเลเวล 18.”
“ช่าย.”
“ถ้าอย่างนั้นผมควรจะใส่[Healing Denial]และ[Lower Resist]ลงไปในแหวนด้วย?”
“ทำไม? ฉันไม่คิดว่าเราต้องการมันหรอก? พวกมันตายเพราะเมเทโอเพียงอันเดียว.”
“อ่า…ผมเดา…ผมได้เรียนรู้สกิลทั้งสองสกิลเพื่อเครียร์ดันเจี้ยน”
“โฮ่ โฮ่ ต้องขอบคุณ คุณมินชอย เราสามารถเพิ่มเลเวลได้อย่างบ้าคลั่ง.”
“เราใช่มาเพียงเพื่อป้องกันขณะที่สลับไปใช้สกิลจากแหวนเท่านั้น เนื่องจากมานาของเราเต็มทุกครั้งที่เราเลเวลอัพ เราจึงสามารถลงดันได้อน่างนอนสต๊อป.”
“ดีใจที่ได้ยิน หากคุณโชคดีคุณยังสามารถได้เซ็ตลูวเวอร์และบันวอนจินชอยอีกด้วย.”
“ถูกต้อง ตอนนี้ฉันเลเวล 150 และคุณพี่โฮจินเลเวล 147 หรือ 148 นี่แหละ.”
“เลเวล 148 ฉันต้องอยู่บ้านทุกวันหยุด…”
“ในเรตนี้เรากำลังเดินหน้าอย่างไม่หยุดก่อนที่เราทั้งสามคนจะไปทุบตีพวกหัวรุนแรงให้กระจายไปเลย.”
“โอ๊ะ ใช่ อีกอย่าง เกิดอะไรขึ้นกับชายที่คุณเจอที่ดันเจี้ยนเลเวล 25 หรือเปล่า?”
“ผมไม่เห็นเขาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว.”
“อืม….นี่มีโอกาสสูงที่คนที่คุณพูดถึงคือ โกสต์.”
“ผมก็คิดอย่างนั้น แต่คุณบอกว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโกสต์.”
“ใช่ ไม่มีข้อมูล แม้แต่คลาสหรือความสามารถของเขา.”
“ถ้ามันลงมือ มันอาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก.”
“ใช่ ฉันจะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม พยายามหลีกเลี่ยงตอนนี้.”
“ได้ ผมจะทำอย่างนั้น.”
“มันเป็นมื้อเย็นที่ดี ผมจะบอกลาแม่ของคุณและกลับไป”
“คุณจะกลับแล้ว?”
“ใช่ ดูเหมือนว่าฉันก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน.”
****
[ในห้องพักผ่อนของสมาคมใหญ่ของเหล่าฮันเตอร์…]
ผู้บัญชาการ ยูนจองซัน และ ลีซางโฮ แม้แต่ ชินยอง ที่เข้าร่วมการปราบปรามการระเบิดของพอร์ทัลอยู่รวมกัน.
หัวข้อการพูดคุยเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่หยุดการระเบิดพอร์ทัลเลเวล 29.
ลีซางโฮพูดคนแรก.
“ปู่ ผมคิดว่ามันเป็นคนเดียวที่ทำ.”
“แกกำลังบอกว่ามีคนคนนึงที่สามารถหยุดเลเวล 29 ทั้งสองที่? ซางโฮ…”
“ครับ มันไม่มีหลักฐานว่าเป็นเขาหรือเธอ มันไม่มีสิ่งใดๆบอกเลย รวมถึงแรงจูงใจ หากมีหลายคนร่วมมือกันมันคงเป็นการยากที่จะทำอย่างนั้น แน่นอนว่าไม่มีองค์กรไหนที่จะมีทีมเวิร์กที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้ได้.”
“อืม…”
“การหยั่งรู้ของฉันบอกว่ามันเป็นคนเดียวอย่างแน่นอน เราเรียกเขาว่านาย A เพื่อความสะดวก ฮเยวอน และ จียอน ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับนาย A.”
ตามที่ซางโฮพูด ชินยองขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด.
“นี่ คุณจะให้เราไปหาที่ไหน มันไม่มีหลักฐานหรือโอกาส เราต้องมีแรงจูงใจก่อนที่จะเคลื่อนไหวคุณรู้หรือเปล่า? คุณกำลังบอกให้เราจับคยแปลกหน้าแบบการถามสุ่มๆ?”
ผู้บัญชาการ ยูนจองซันเริ่มคิดอย่างหนัก.
เกือบจะถึงจุดที่เขาไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างลีซางโฮและชินยอง.
จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง.
“มีคนเดียวที่มีความสามารถเพียงพอที่จะป้องกันการระเบิดของพอร์ทัลทั้ง 2 แห่ง…”
การคงอยู่ของมินชอยได้แว่บเข้ามาในใจทันที.
เขาดูไม่เหมือนเด็กทั่วๆไป เขากำลังเครีบร์ดันเจี้ยนด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ.
แต่เขาก็เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 18 หลังจากนั้น.
มันเป็นการยากที่จะเชื่อว่าเขามีพลังมากพอในเวลาสั้นๆในการเครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 29 ได้อย่างรวดเร็ว.
“อืม…มันต้องมีข้อจำกัดบางอย่าง….”
“คุณกำลังพูดอะไรกับตัวเอง?”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน ตอนนี้เฝ้าระวังกันต่อไป หากเราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนาย A การระเบิดนี้อาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยากมาก ดังนั้น นาย A จึงเป็นดั่งดาบสองคม.”
“….”
“ถ้านาย A เข้าร่วมฝ่ายเรา มันจะเป็นกำไรอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ถ้านาย A เข้าร่วมฝ่ายรุนแรง…”
“ไม่ว่าจะอย่างไร เราต้องได้ตัวเขาก่อน ทุกคนยกเลิกภารกิจอื่นๆยกเว้นภารกิจบังคับ เราต้องโฟกัสไปที่นาย A ก่อน.”
****
มันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่ที่ผมได้มาที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 ในพาจู ที่โฮจินพูดถึง.
สถานที่ไม่เพียงแตกต่างไป มอนเตอร์ที่เจอก็แตกต่างดัวย.
แก่นแตกก็ยังไม่ตกลง.
อาติแฟ็คก็เหมือนกัน.
“ต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้ พวกมันไม่ดรอปลงเลย.”
-ครึ่นๆๆ!
คลื่นสั่นสะเทือนจากเมเทโอได้กระจายกลับมาหลังจากที่ผมปล่อยลงมาเต็มดันเจี้ยน.
ในขณะที่ผมรับของที่ดรอปลงมาจากมอนเตอร์ทั้งหมด ทางออกควรจะปรากฏที่ใจกลางของดันเจี้ยน แต่มันยังไม่ปรากฏขึ้น.
“บอสลับโผล่มาก?”
ไม่.
ถ้าบอสลับโผล่ออกมาจะมีการปรากฏตัวที่ยิ่งใหญ่และมีผลกระทบที่เหมือนกับสกิล[Howling]เต็มไปทั่วดันเจี้ยน.
เมื่อผมใช้[Eye of Insight] ผมมองไปรอบๆดันเจี้ยน.
“โอ้ใช่! มิมิค!”
ผมโยนกระเป๋าลงและไปที่จุดศูนย์กลางของดันเจี้ยน.
มิมิคไม่อาจตรวจจับได้ ไม่แม้ว่าจะใช้[Eye of Insight]และจะปรากฏขึ้นหลังจากที่โจมตีมันโดน
ราวกับว่าดันเจี้ยนกลายเป็นพื้นสีขาว ทะเลเพลิงก็ลุกโชนจากเมเทโอ.
จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วยระยะสกิลของผม หนึ่งในสามของดันเจี้ยนก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิง.
ผมก็เปลี่ยนตำแหน่งของผมไปเรื่อยๆ.
-กรี๊กกกก
ผมแน่ใจว่ามันเป็นมิมิค.
ผมวิ่งไปหามันทันทีและใช้สกิล[Bind].
มือหินก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นจากพื้นและจับมันไว้.
มันไม่อาจเคลื่อนไหวได้.
ผมดึงแขนเสื้อและชกไปที่มัน.
มิมิคนั้นแตกต่างจากมิมิคก่อนหน้าที่ผมเจอกับจุงโฮ.
ภายนอกไม่ได้แตกต่างอะไร แต่ผมต้องต่อยเป็นสองเท่าจากตัวก่อนหน้านี้ แต่มันก็ยังไม่เปิด.
เพราะว่ามันมาจากดันเจี้ยนเลเวล 34 มันเลยแข็งแกร่งมาก?
ยังคงเหมือนเดิม ผมจึงยังคงต่อยออกไปเรื่อยๆ.
-ตึง ตึง
-คลิ๊ก
“ฟู่ว…มันยากมาก.”
ในที่สุดกล่องก็เปิดออก.
มันเกือบจะเหมือนกับถูกระเบิด ของที่ดรอปกระจายไปทั่วทุกที่.
เมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้านี้ ตัวนี้ให้ของมากขึ้น.
เนื่องจากยังมีเวลาเหลืออีกมาก่อนที่ดันเจี้ยนจะหมดเลเวล ผมจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบของที่ดรอปออกมา.
ผมไม่มองแม้ว่ามันจะเป็นบลัดสโตนแรงค์ A.
สิ่งเดียวที่ผมมองหาคือแก่นแตกและอาติแฟ็ค.
ก่อนอื่น ผมเอาชุดเกราะยักษ์และอาวุธไปวางไว้มุมหนึ่ง.
จากนั้นก็เริ่มเรียกแก่นอเวค.
[Eye of Insight]ได้เปิดเผยชื่อจริงของมัน มันคือ [Essence of Transcendence] หรือ แก่นแท้ที่เหนือจากความเข้าใจ.
เมื่อดูที่คำอธิบายมันจะทำให้สกิลที่เลเวลแม็กแล้วเลื่อนขั้นขึ้นไปอีก.
ผมได้รับมันทั้งหมด 3 ชิ้น แก่นอเวคก็เหมือนกัน.
“[Mana Shield]?[Meteor]?หรือบางที[Iceberg]? หรือผมควรจะเลือก[Formless Sword Aura]?”
เพียงแค่ถือมันไว้ก็ตื่นเต้นแล้ว.
สกิลเหล่านี้จะต้องแสดงพลังโจมตีอย่างไม่น่าเชื่อแน่ๆ.
ผมไม่อาจคิดได้เลยว่ามันจะทรงพลังแค่ไหน หากพวกมันอยู่ในระดับที่เหนือกว่า.
ผมไม่ได้คิดอย่างนี้มานามากแล้ว.
ผมหันกลับไปมองดาบและอาวุธ.
มันไม่รู้สึกว่ามันจะดีกว่าสิ่งที่ผมได้รับจากการฆ่าโจ๊กเกอร์.
ถ้ามีอะไรที่แข็งแกร่งกว่านี้มันต้องเรียกว่าของโกง.
อย่างแรกที่ผมจะตรวจสอบคือเกราะ.
โชคไม่ดี มันเป็นสีแดงที่น่าอาย.
บนหน้าอกมีสัญลักษณ์ที่ผมไม่เข้าใจ.
ผมใช้ [Eye of Insight] เพื่อตรวจสอบเกราะ
-Thirst of Blood-(กระหายเลือด)
Strength +0
Mana +0
Dexterity +0
Stamina +0
*สถานะจะได้รับแตกต่างกันไปหลังจากที่สังหารมอนเตอร์.
*สถานะ 1 แต้ม ต่อมอนเตอร์ 100 ตัว.
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอะไรที่ดี แต่ตอนนี้มันอ่อนเป็นอย่างมาก…”
มันไม่ดีพอที่จะเปลี่ยนกับชุดเกราะที่ผมมีในปัจจุบัน.
อย่างไรก็ตามผมคิดว่ามันเหมาะกับจุงโฮหรือโฮจิน เนื่องจากพวกเขากำลังมุ่งมั่นกับการกวาดล้างมอนเตอร์อยู่ในตอนนี้.
ในดันเจี้ยนที่มีมอนเตอร์มากมายปรกาฏขึ้น มันจะกลายเป็นสถานะของเขา.
พวกเขาทั้งสองจะกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งจากตอนนี้.
มันก็เพียงเท่านี้ที่จะหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความแข็งแกร่งของพวกเขา.
อันต่อมาที่ผมตรวจสอบคือดาบ.
มันไม่สะดวกที่ผมจะไปขอบันวอนจินชอยของผมคือทุกครั้ง มันเป็นอะไรที่ไม่สะดวก.
ดาบที่ผมถืออยู่ในมือ ผมสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นดาบที่เรียบง่าย.
ยิ่งไปกว่านั้นมันขนาดเล็กอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับบันวอนจินชอย.
พูดตรงๆมันคล้ายกับ ฮังโด ที่ผมได้รับจากช่างตีเหล็กก่อนหน้านี้.
เมื่อตรวจสอบความสามารถของดาบผมก็อดไม่ได้ที่จะสถบ.
“เชี่ย! มันเป็นไปได้ด้วย?”