55.แขกที่ไม่ได้รับเชิญ ออกไปให้พ้น!. (2)
ผมได้รับหนังสือทักษะและบัตรประจำตัวอันใหม่รวมทั้งนิ้วหัวแม่มือที่มาพร้อมกับมัน.
สำหรับนิ้วหัวแม่มือผมหมายถึงมันเป็นนิ้วซิลิโคลน.
แทนที่จะใช้เวลาถึง 7 วันแต่มันกลับได้มันมาถึง 4 วัน.
พวกเขาบอกว่า มันง่ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้.
ใครจะรู้ว่าลูกน้องที่น่าเกลียดจะมีประโยชน์กับผม
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโชคชะตาที่ได้ให้ประโยชน์มากเกินกว่าที่จินตนาการ.
จากจุงโฮ ผมก็ได้ถามเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมของเพรชฆาต
เนื่องจากมันเป็นคลาสแรร์ ข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันจึงไม่อาจหาได้ตามอินเทอร์เน็ต.
การต่อสู้จะง่ายขึ้นถ้าผมได้ทำอยากน้อยก็ในระดับหนึ่งเมื่อทำการโจมตีเขา.
ทักษะส่วนใหญ่ของเพรชฆาตจะเป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการต่อสู้กับเป้าหมายเดียว.
ถ้าจะให้พูดตามตัวตนของมัน อาวุธมนุษย์.
นอกเหนือจากทักษะที่อยู่นอกเหนือการจัดอันดับแล้ว ผมยังสามารถเข้าใจประเด็นที่สำคัญเหล่านี้ได้.
* * * *
วิ่งไปรอบๆดันเจี่ยนเลเวล 23 ผมยังคงใช้ วิชาพรางกับผู้คน(แมสสเตลท์จูซึ)กับกูล.
เลเวลสกิลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมได้กลับไปตอนปั๊มตัวของผมอีกครั้ง.
อย่างไรก็ตามยิ่งผมใช้มากเท่าไรผมก็คิดว่าสกิลนี้พังแล้ว.
สกิลที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งภายในรัศมีไม่อาจรับรู้ได้.
ยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับสกิลมันไม่อาจโจมตีและใช้มันได้กับมอนเตอร์ได้.
ฮีล,บัฟหรือเสริมเวทย์อื่นๆไม่อาจใช้กับพวกมันได้.
มีเพียงรูปแบบเฉพาะที่ใช้งานได้เมื่อเกิดอันตรายกับพวกมัน.
แต่มันมีความผิดปกติพอสมควร แมสสเตล ใช้กับมอนเตอร์ได้เหมือนกัน.
ภายในดันเจี้ยนมีกูลหลายร้อยตัว.
มีระลอกสั่นไหวเล็กน้อยอยู่เหนือหัวและทันใดนั้นมันก็หายไปจากมุมมองของพวกมัน.
ผมยังสามารถมองเห็นมันได้ผ่านตาสอดส่อง.
ต้องขอบคุณช่างเหล่านี้ที่ทำให้ผมเลเวลอัพไปถึง 105 ใน 4 วัน.
มันทำได้เพียงแค่ยอมแพ้และเพิ่มเลเวลให้กับทักษะนี้.
ผมใช้แก่นอเวคที่เหลืออยู่กับสกิลนี้.
อเวคแมสสเตลท์ไม่อาจใช้ได้กับตาสอดส่องได้.
มันเป็นทักษะเรียกใช้ แต่เนื่องจากความสามารถของสเตลท์สูงขึ้น ผมจึงไม่อาจเห็นได้อีก.
ต้องขอบคุณที่เป้าหมายที่จะถูกซ่อนไว้จะเปิดเผยหากพยายามโจมตีผม.
กูลปราฏตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อพยายามที่จะโจมตีผม.
ตาสอดส่องเป็นสกิลวงกว้างดังนั้นมันอาจเป็นไปได้ที่จะเลเวล 100 ด้วย
ราคาของแก่นอเวคก็แพงไม่เท่ามัน.
ไม่มีคูลดาวน์หรือหน่วงเวทย์ แต่ใช้มานาถึง 1,500 ต่อครั้ง.
แมสสเตลท์อาจกล่าวได้ว่ามันสกิลที่เกิดมาเพื่อผม.
“หนังสือสกิล,IDและข้อมูลเกี่ยวกับทักษะ เดาได้เพียงสิ่งเดียวที่เหลือคือการล่า?”
สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดตอนนี้คือการป้องกันของฉัน.
ถ้าเขาอยู่ในคลาสสูงๆเขาจะทักษะที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน.
มานาชิลที่ผมคิดว่าเป็นโล่ที่ดีที่สุดจะไร้ประโยชน์ก็เป็นได้.
ความสามารถที่น่ารักเกียจของผมในทางกลับกัน ผมมีเพียงเมเทโอและไอเบิกร์ที่เลเวล 200.
อ่า! เกือบลืมไปผมมีออร่าดาบไร้รูป.
มีบางสกิลและไอเทมป้องกันที่ผมกำลังหาอยู่.
เมื่อผมต้องหาพวกมัน ผมมุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนชั้น 28.
ทุกคนจำได้ดี คนเกาหลีชื่อ ชอยซอฮยอน เป็นคนแรกที่เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28ด้วยตัวคนเดียว.
อย่าไงก็ตาม มนุษย์สามารถสู้ได้แม้กระทั่งดันเจี้ยนเลเวล 30 ได้หากว่าไปกันเป็นปาร์ตี้.
ไม่มีข้อมูลของดันเจี้ยนปรากฏออกมา.
ตามข้อมูลที่ผมได้รับมา นี่เป็นเหตุผลให้ดันเจี้ยนถึงยากมาก เห็นได้ชัดจากดันเจี้ยนเลเวล 28.
นั่นเป็นเพราะขนาดของดันเจี้ยน!
และจำนวนของมอนเตอร์ที่เข้ากันอย่างดี.
แน่นอน ความหนาแน่นของมอนเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไม.
ไม่มีอเวคคนไหนที่แข็งแกร่งได้อย่างไม่มีขีดจำกัดของมานา.
แล้ววอร์ริเออร์ที่ไม่ต้องใช้มานาในการโจมตีหล่ะ?
ไม่ ภายในดันเจี้ยนเลเวล 28 มันจะไม่เวิร์ค.
มอนเตอร์ที่ให้ค่าExpมากอย่างหาไม่ได้.
และมันเป็นโอกาสที่หาได้ยากี่จะลูทไอเทมที่ดรอปออกมา.
ไม่มีเหตุผลที่จะลังเล.
ผมสแกนบัตรของผม.
หลังจากนั้นผมก็ใช้รอยนิ้วมือซิลิโคนเพื่อกระตุ้น.
-ดันเจี้ยนถูกเปิดใช้งาน.-
* * * *
“รายงาน.”
เสียงของโจ๊กเกอร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธที่อยู่ในห้องมืดๆราวกับเป็นคนบ้า.
นี่เป็นเรื่องที่คาดไว้เนื่องจากจินเป็น 1/10 ของลูกน้องของเขา.
เขาให้ความสำคัญกับเค้าอย่างเห็นได้ชัดและความสามารถของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก.
แต่จินที่เขาเชื่อใจก็หายไปนานกว่า 3 วันแล้ว.
นั่นคือหลังากที่เขาออกไปจัดการมินชอย.
กลิ่นอายของโจ๊กเกอร์เริ่มมาคุขณะที่เขาดูรายงานต่อ.
“ใช่! โจ๊กเกอร์. เราไม่อาจหาร่องรอยของจินได้”
“ฮ้าาาา!”
หินเลือกแรงค์ S ที่โจ๊กเกอร์ถืออยู่ในมือ.
มันเป็นหินที่แบล็คสมิธส่วนใหญ่มีปัญหาในการดำเนินการ.
อย่างไรก็ตามหินที่อยู่ในมือของโจ๊กเกอร์ก็แหลกเป็นผง.
หินเรืองแสงที่ส่องสว่างอีกด้านของห้องและลูกน้องของเขาก็กำลังหมอบลงพร้อมกับสั่นด้วยความกลัว.
“ผมขอโทษ! ผมจะบอกสมาชิกเพิ่มเพื่อหาเขาจาก ซู..”
“ไปให้พ้น.”
“…..”
“เหมือนกับที่แกคิด จินตายแล้ว คิดไม่ถึงว่าเสือตัวนี้จะมีพลังมากกว่าที่คิด.”
“คุณหมายถึง…”
ใบหน้าของโจ๊กเกอร์เต็มไปด้วยความโกรธขณะที่พูดกับเขา.
แต่มันมีรอยยิ้มที่ไม่อาจเข้าใจได้.
และเขาก็พูดต่อ.
“หาคนใหม่เข้ามาในกลุ่มที่จินเป็นผู้นำ.”
“ครับ! โจ๊กเกอร์!”
“เร็วๆนี้ จะมีบางอย่างเคลื่อนไหวในเร็วๆนี้ ฉันจะตัดสินคนที่ฆ่าจินที่หลัง.”
“รับทราบ! โจ๊กเกอร์!”
หลังจากนั้น ผู้ส่งข่าวก็วิ่งออกจากห้อง.
จากนั้น.
“ฮ่า.. ฮ่าาา..หึหึฮ่าฮ่า!”
โจ๊กเกอร์หัวเราะราวกับเป็นโรตจิต.
ความโกรธของเขาอันแน่นและไม่มีที่ให้ระบายได้.
เขาพูดขณะที่เขามองไปที่ผงที่เคยเห็นหินเลือด.
“ใช่…ขึ้นอีก! มัวเมาไปกับความแข็งแกร่งของแก! เมื่อวันที่ได้สู้กัน ข้าจะได้บูชาเจ้าด้วยตัวเอง!”
* * * *
ในกลุ่มการปกครองพิเศษอเวคก็มีความวุ่นวาย.
มันเป็นเพราะมีข้อมูลว่ามีคนเข้าดันเจี้ยนเลเวล 28.
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้จึงมีความตื่นตระหนกอย่างมาก.
มันอาจเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดกับเครื่องแสกน.
หลังจากนั้น 40 นาทีต่อมาก็มีคนตะโกนเข้ามาในห้อง.
เป็นอเวคคนเดิมที่ได้เข้าดันเจี้ยนอีกครั้ง.
“อ้าว เชี่ย! นี่คือ?”
“มันเป็นเพราะเครื่องแสกนพัง?”
จากนั้น ก็มีคนหนึ่งยืนขึ้นหน้าคอมพิวเตอร์และตะโกน.
“ข้อมูลไม่ตรงกับ ชอบซอฮยอน.”
พวกเขาได้เปรียบเทียบกับข้อมูลสำหรับคนที่โซโล่เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28.
อีกคนตอบหลังจากได้ยิน.
“คนบ้าที่ไหนที่เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28 ได้ใน 40 นาที?”
“ไม่มีทาง มีฝนตกในสัปดาห์นี้งั้นหรือ ฉันจะไปติดต่อช่างบำรุงที่นั่น.”
ในช่วงของความสับสนวุ่นวายหัวหน้าแผนก คิมโฮจิน ได้สังเกตการณ์และพูดจากปลายโต๊ะของเขาอย่างเงียบๆ.
เพียงแค่คิดสักพัก จากนั้นเขาก็พูด.
“ติดต่อนักล่าของสมาคม”
“หืม? มันไม่ดีกว่าหรอที่จะตรวจสอบว่าเป็นข้อผิดพลาดหรือไม่ หัวหน้า…”
“นั่นอาจเกิดขึ้นได้สำหรับข้อมูลที่ยังไม่เข้ามา บางทีคนที่ต้องการตายอาจจะเข้าไปในดันเจี้ยนครั้งสุดท้ายของเขา.”
“ก่อนอื่นเราจะติดต่อกับสมาชิกที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น.”
“นักล่าก่อน!ฉันจะไปที่นั่นด้วยเหมือนกัน”
“ครับ!”
“และ เฮ้ย! คิมเซจิน มาที่ห้องของฉัน!.”
มุ่งเน้นไปที่งานที่อยู่ในมือของเขาและโบกมือ คิมเซจินยืนขึ้นพร้อมกับรับคำสั่งของหัวหน้า.
“ครับ! ทราบแล้ว.”
หลังจากที่เข้าไปในห้อง เซจินกำลังวุ่นอยู่กับการอ่านอารมณ์ภายในห้อง.
เลือดใหม่ที่พึ่งเข้ามาไม่กี่ครั้งเพื่อคุยกับหัวหน้าแผนก…
หัวหน้าโฮจินทำลายความเงียบ.
“คุณจะรีบทำได้หรือยัง?”
“ครับ ผมจะเริ่มใช้มันอย่างรวดเร็ว.”
“ดี ตอนนี้ันอาจจะทำให้คุณเกิดความสับสน ผมดีใจที่เห็นว่าคุณทำได้ดีที่สุด.”
“โอ้ 555 ขอบคุณ.”
“แต่ผมได้ยินมาว่าคุณได้รับเคสมินชอยมา?”
“ครับ ถูกต้องแล้ว ผมดูแลเรื่องนี้เอง.”
“ไม่มีอะไรแปลกๆที่น่าจดจำหรือ?”
โฮจินถามด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป.
มันไม่ใช่ท่าทางของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กำลังมองมาที่งานของพวกเขา.
มันเป็นท่าทางของพนักงานอัยการที่กำลังสอบสวนคนร้าย.
คำถามของเขา เซจินตอบด้วยรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจ.
“ครับ สำหรับตอนนี้…ผมเพียงสังเกตว่าเขาเข้าดันเจี้ยนและไม่มีอะไรพิเศษที่น่าจดจำ.”
“จริง? สำหรับคุณมันดูเหมือนอย่างไร? คุณคิดว่าเขามีบัตรปลอมไหม?”
“จากที่ผมเห็น นอกเหนือจากความเร็วที่ผิดปกติของการเติบโตแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ…”
“คุณรู้ไหมว่าคนภายนอกปวดหัวแค่ไหน?”
“ครับ เกี่ยวกับดันเจี้ยนเลเวล 28?”
“ช่าย แต่คุณรู้ ผมรู้สึกว่าคนทั้งสองเหมือนกับคนๆเดียวกัน.”
“หืม? คิมมินชอยและคนที่เขาดันเจี้ยนเลเวล 28?”
“แน่นอน เราสามารถไปที่นั่นเพื่อยืนยัน.”
“….”
“คุณก็ทำต่อไปให้ดีที่สุด แม้ว่าชาวบ้านพวกนี้จะสาบานและละเลยต่อเราหากมีการเปลี่ยนแปลงสมาคม เราจะต้องได้รับการต้อนรับสักวัน.”
“ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด.”
“โอเค ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว.”
หลังจากออกมาจากห้อง คิมเซจินบอกได้เลยว่า.
หัวหน้าโฮจินรู้อยู๋แล้วว่าเซจินรู้อะไรเกี่ยวกับมินชอย
เขาไม่ได้ถามตรงๆ แต่เซจินสามารถรู้สึกได้.
จะให้พูดสั้นๆนี่ไม่ใช่การให้กำลังใจระหว่างเพือนร่วมงาน แต่เป็นการเตือน.
* * * *
“เราเกือบไปถึงแล้ว.”
“โอเค.”
เมื่อเลเวลของดันเจี้ยนเพิ่มขึ้น จำนวนของมันก็ลดลง.
ดันเจี้ยนเลเวล 28 มันไม่เคยถูกพบมาก่อนเลยมาเป็นเวลา 28 ปีในสถานที่นี้.
คิมโฮจินและผู้ดูแลองเขาได้พบกับเหล่านักล่าที่อยู่หน้าทางเข้าดันเจี้ยนเลเวล 28.
ข้อมูลยังคงใช้งานอยู่.
“ผมขอประมาณ 20 นาทีหรือมากกว่านั้น?”
“ได้ พวกเขากำลังเดินทางไป.”
“เขาอาจจะสเตลท์ หรือไม่ก็เป็นนักอัญเชิญของนักบวชระดับสูง?”
“เลดี้ฮวางหยุนฮีมาร่วมด้วย.”
“ดี มันเป็นดันเจี้ยนที่มีอัตราการเข้าต่ำมาก ห่างไกลจากสมาคม และเขามีฝีมือที่น่าทึ่ง มุ่งเน้นไปที่การรักษาชีวิตของตัวเองดท่านั้น.”
“ครับ.”
พวกเขารับรถขึ้นไปบนเส้นทางภูเขาสักพักหนึ่ง.
ในที่สุดรถก็มาถึงหน้าดันเจี้ยน.
ขณะที่คาบซิการ์ไว้ในปาก โฮจินก็พูด.
“นานแค่ไหนที่เขาเข้าไปอีกครั้ง?”
“เข้าไปเมื่อเวลา 14:21. ผ่านมา 30 นาที.”
“โอเค อีก 10 นาทีเราควรจะได้เห็นเขา.”
เมื่อโฮจินพูดเสร็จกลุ่มนักล่าพร้อมกับนักบวชระดับสูงฮวางหยุนฮีก็มาถึง.
“เลดี้ ขอบคุณสำหรับการมา.”
“โฮะๆๆ คุณโฮจิน นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกัน”
“หวังว่าคุณจะสบายดี?”
“หญิงแก่อย่างฉันได้ผ่านมากนานมากจนลืมเรื่องเวลาไปแล้ว.”
ฮวางหยุนฮีเป็นนักบวชระดับสูงที่มีเลเวลถึง 520 เป็นอเวคที่อยู่อันดับ 3 จากทั้งหมด.
ไม่เหมือนกับยายข้างบ้านเธอดูเหมือนกับว่ามีสกิลระดับมาสเตอร์ทั้งหมด 7 สกิล.
สาเหตุที่เธอถูกเรียกมาคือ ตาสอดส่อง.
หนึ่งในยุคแรกเริ่มของเหล่าอเวค อีกไม่นานที่เธอจะแก่นอเวคกับมัน.
เหนือจากการที่มันอเวตไปเป็นชาติ มันอาจกล่าวได้ว่าสกิลสเตลท์ไม่อาจหลุดพ้นไปได้.
ตอนนั้นเอง.
“หัวหน้า! เวลา 14.30 เขากำลังจะออกมา”
“โอเค เลดี้ เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ.”
“โฮ๊ะๆ แน่นอน.”
หลังจากที่พูดงั้นการตอบสนองของเธอทำให้เธอเป็นเพียงเคร่งขรึมขณะใช้สกิล.
‘ตาสอดส่อง.’