43. Slam. Charge. (6)
5 นาที มันผ่านไปค่อนข้างช้า
ปาร์คฮยอนยืนขึ้นหลังจากที่เธอจัดการและเดินผ่านไหล่ของผมไป
ทั้งสามรวมทั้งเลขาก็เดินตามเธอไปอย่างรวดเร็ว
ในลิฟท์เลขาของเธอกดไปยังชั้น12
ด้านหลังของเธอคือผมและปาร์คฮยอน
ปาร์คฮยอนพูดโดยไม่แสดงสีหน้าของเธออกมา
“ตอนนี้ความคิดของนายเปลี่ยนหรือยัง? มันจะเป็นการเสียหายมากหากว่านายจะตายตอนนี้.”
“ไม่ได้ยินที่ผมพูดก่อนหน้านี้หรอ? การกระทำของคุณมันสะท้อนตัวตนของคุณ แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนใจตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.”
“ความโง่ของนายกำลังเร่งให้นานตายเร็วขึ้น.”
“ไว้พูดแบบนี้กับลูกน้องโง่ๆของคุณ ในนรกแล้วกัน.”
“แม้ว่าจะถึงตอนจบ…นายก็ไม่ได้ใช้โอกาศที่ถูกมอบให้นาย.”
“ให้ผมถามอะไรสักอย่าง”
“หืม?”
“เธอพยายามใช้อะไรจากผม?”
“อุฟฟ ไม่ว่าจะอย่างไรแว่นตาของก็เหมาะกับนายจริงๆ.”
ปาร์คฮยอนหัวเราะกับคำถามของผม เป็นการบ่งบอกนัยๆว่าเธอรู้เกี่ยวกับกล้องในแว่นตาของผม.
มันไม่สำคัญหรอกนะ
ว่าเป้าหมายของเธอคืออะไร ความจริงที่ว่าเธอกำลังจะตายนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน.
“คุณสังเกตุเห็นถึงบางอย่าง.”
“แต่มันค่อนข้างโชคร้าย ชั้น12 ไม่มีทางที่สัญญาณจะเข้ามาได้ ถ้าเราให้วิดีโอจากล๊อบบี้ให้แก่สมาคม เราสามารถอธิบายได้ว่าทำไมคุณถึงเสียชีวิตภายในอาคารหลังนี้? และฉันก็แค่กำจัดกล้องนั่นและมันก็จบลงอย่างหมดจด ถูกไม๊?”
ไม่มีสักคำเดียวที่จะเรียกรอยยิ้มออกมาจากหญิงสาวคนนี้.
ถ้ามันเป็นไปตามที่ปาร์คฮยอนบอก หน้า1ของวันพรุ่งนี้จะเป็นข่าวนี้
ชายคนนึงที่กำลังถูกบังคับให้เดินทางไปที่เซคชั่นใต้ของกิลด์.
เขาได้สังหารยามไป13คน
ในความพยายามที่จะหยุดยั้งชายคนนั้น สมาชิกทั้งหมดของกิลด์ได้เข้าร่วม
ขณะที่พยายามจะหยุดยั้งชายคนนั้น เขาได้ต่อสู้กลับและจบลงด้วยความตาย.
มันคงเป็นอะไรแบบนั้น?
“สถานการณ์ที่ยอดเยี่ยม.”
“มันเป็นเพียงสถานการณ์? มันสมควรจะได้ทำเป็นหนัง ดังนั้นโปรดมองข้างหน้า.”
“ผมคิดว่าคุณดีพอที่จะได้รับบทหลักนะปาร์คฮยอน?”
“ฉันหวังว่านายจะรักษาความเชื่อมั่นนี้ไว้จนจบ หึ!.”
* * *
ดิ๊ง ที่ชั้นใต้ดิน ชั้น12
ในชั้นใต้ดินแว่นตาของผมก็เต็มไปด้วยสีดำและสีขาวพร้อมกับเสียงหึ่งๆ.
ตามคาด อย่างที่ปาร์คฮยอนบอกในลิฟท์ มันไม่ใช่เรื่องโกหก
มากที่สุดก็คือกล้องที่แว่นตาก็ไม่ทำงานอีกต่อไป
ตอนนี้ไม่สำคัญหรอก
ขอบคุณปาร์คฮยอนที่มีความมั่นใจในชัยชนะ100%นั่น
ตอนนี้ผมสามารถทำลายพวกเขาได้โดยไม่มีใครสังเกต
พื้นที่ใต้ดินมีความคล้ายคลึงกับสถานที่บางแห่งที่ผมเคยเห็นมาก่อน.
มันเป็นพื้นที่จำลองด้านในอาคารเกี่ยวกับการต่อสู้กับกิลด์อื่นๆ.
พื้นที่สี่เหลี่ยม พื้นผนังและฝ้าเพดานทำจากวัสดุเดียวกัน
ถ้ามีสิ่งที่แตกต่างกันสักอย่างก็คือที่นั่งคนดู
ผมไม่แน่ใจว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ที่มีพื้นที่แบบนี้ในกิลด์
มันเป็นสถานที่ซ้อมรบ
ผมใช้เวลาอยู่สักพักในการมองเกี่ยวกับมัน
ผู้นำสาวสวยวิ่งเข้ามาหาปาร์คฮยอน
“กิลด์โนเบลซ มีคนทั้งหมด532คน มาครบอย่างไม่ขาดไม่เกิน! นั่นคือทั้งหมด”
นอกเหนือจากเลขาฯแล้วผมสามารถบอกได้เลยว่ามีคนที่อำนาจสั่งการอเวคทั้งหมดรวมกันที่นี่
จากนั้น
‘โอโห้?ดูนี่สิ?’
มีคนน้อยกว่าที่ผมเห็นในสงครามกิลด์ครั้งก่อน
ผมไม่รู้จำนวนทั้งหมด แต่ผมแน่ใจว่ามันเหลือไม่มาก
หลังจากที่ผู้นำรายงานเสร็จแล้ว ปาร์คฮยอนก็เป็นศูนย์กลางของสมาชิก.
พวกเขาถืออาวุธและมีปาร์ฮยอนเป็นศูนย์กลาง.
ผู้หญิงที่มีคนกว่า500คนเข้ามาอยู่ใต้ร่มธงของเธอ
“หลังจากที่เห็นทั้งหมดนี้คุณคิดว่าคุณจะได้ออกไปอย่างมีชีวิต?”
“คุณคิดว่าไง?”
“เป็นไปไม่ได้ ที่จะมีซากศพอยู่ในสถาพที่สมบูรณ์”
“เนื่องจากเราเข้ามาอยู่ในหัวข้อเกี่ยวกับศพ ไม่ใช่ว่าเพราะคุณวางแผนที่จะใช้แม่ของผม อย่างน้อยๆผมก็ยังมีแผนที่จะส่งศพของคุณกลับไปยังครอบครัวของคุณ แต่คุณได้ข้ามแม่น้ำที่ไม่มีทางกลับมาได้แล้ว.”
หลังจากที่ได้ยินผมพูด ปาร์คฮยอนก็จ้องมองไปที่ซังมินและแจฮยอกโดยไม่ตั้งใจ.
นอกจากสองคนนี้แล้วไม่มีใครที่จะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้กับผมได้
เธอหันกลับมาพูดอีกครั้ง เธอพูด
“ไม่ว่าอย่างไรนายก็กำลังจะตาย หลังจากนั้นชีวิตแม่ของคุณก็ไม่มีค่าอีกต่อไป เธอไม่มีความจำเป็น มันไม่ใช่เป็นการช่วยเธอ?”
“ตลก แต่ดูเหมือนว่าสมาชิกของคุณลดลง? คาดว่าคุณคงทำงานหนักอย่ามากจริงๆ?”
“อุฟฟ. 21! คนที่คิดโง่ๆเหมือนกับนาย นายจะเข้าร่วมกับพวกเขาเร็วๆนี้.”
“แม้ว่าคุณจะทำใบหน้าแบบนั้นแต่คุณก็พูดได้ดีเหมือนกัน มันน่ากลัวมาก มาเถอะมาสู้กันและจบเรื่องนี้”
เมื่อผมพูดจบเวทย์มนต์ก็พินว่อนมาจากทุกทิศทาง.
มีกลุ่มกระจายออกไปประมาณ40-50คนต่อ1กลุ่ม เหมือนกับเวลาที่กิลด์กำต่อสู้
ปาร์คฮยอนถอยไปด้านหลัง
ข้างเธอมีสมาชิกมากกว่า40คนรวมทั้งเลขาฯที่คอยปกป้องเธอ
ผมมั่นใจว่ายืนหยัดต่อกองกำลังของเธอได้แน่นอน
สมาชิกกว่า500คนเริ่มโจมตีพร้อมกัน
จากด้านหนึ่ง มีเวททย์ชั้นสูงถูกโยนมา
ในขณะที่รักษาระยะห่าง ทุกคลาสที่เป็นการโจมตีระยะไกลได้โถมใส่เข้ามาทั้งหมด
การโจมตีแบบนี้ใช้โล่สะท้อนและโล่น้ำแข็งเป็นเรื่องที่อันตราย
แม้ว่าจะใช้สักเวลาหนึ่ง แต่มันก็เป็นการที่รักาษาโล่มานาที่ผมร่ายก่อนหน้านี้.
เหมือนกับการกำจัดวัชพืช ผมรู้สึกว่าสงครามครั้งนี้จะไหลลื่นกว่านี้ถ้าคนที่อ่อนแอถูกกำจัด
ผมยกมือขึ้นและรับเวทย์มนต์
ในเวลาสั้นๆแหวนลูว์เวอร์ได้ดูดซับมานาและส่งผ่านไปยังกำไลของผม
กำไลผมส่องประกายสดใส
สกิลต่อไปคือเพิ่มขีดความสามารถของความแกร่งแกร่งเป็นสองเท่า.
ตั้งแต่ที่ผมใช้โล่มานา ผมสามารถร่ายเวทย์ด้วยมือข้างเดียว
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลือกเวทย์มีมีประสิทธิภาพ
ก่อนอื่นผมต้องใช้มอนเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋า! ร่างมารจำแลง.
จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เคยใช้พวกเขาได้เต็มประสิทธิภาพเลยสักครั้งหลังจากที่เรียกพวกเขามาหลายรอบ.
บูล เยลโล่ และ เรด
น้ำแข็ง สายฟ้า และไฟ จะมีตัวหนึ่งที่ถูกเรียกออกมา.
ผมคิดว่าผมโชคดี
อาจมีสมาชิกบางคนที่มีความต้านทานธาตุสูงหลังจากที่ได้สกิลติดตัวหลังเรียนมันผ่านหนังสือสกิล.
ต้องขอบคุณกำไลของลูว์เวอร์ ที่สามารถเรียกพวกเขาให้มีขนาดใหญขึ้นกว่าปกติ
ร่างมารจำแลงที่ถูกร่ายเสร็จแล้วปรากฎออกมาพร้อมกับการระเบิดอย่างรุนแรง
พวกเขาโจมตีสิ่งที่ผมกำหนดให้เป็นศัตรู
นั่นหมายความทุกคนด้านหน้าผม
อเวคที่มีความต้านทานต่ำได้ล้มลงทีละนิดๆ
แจฮยอกและซังมินรวมอยู่ในนั้นด้วย
ไม่ต้องสนใจแจฮยอก แต่ผมกำหนดให้มันเบาเมื่อมันถูกซังมิน
อย่าไรก็ตาม ตอนนี้ผมรู้ทุกอย่างแล้ว ผมไม่ต้องการอารมณ์แบบนี้(หมายถึงรู้เบื้องหลังแล้วซังมินชั่งมัน/ไรต์)
“อ๊ากก!”
“ฮี…ฮีล! ฉันต้องการฮีล!”
ร่างมารจำแลงปรากฎกลางสนามรบ และเกิดการทำลายล้างอย่างมากเมื่อมันลุกขึ้น.
ซากศพที่ดำเป็นตอตะโก บางศพเต็มไปด้วยเลือดและไม่มีชีวิต.
อวตารไม่ลังเลที่จะต่อไปยังกลุ่มที่สอง
เมื่อมีคนได้รับาดเจ็บ ฮีลเลอร์ก็จะส่งเวทย์ฮีลมารักษา.
สนามรบถูกปกคลุมไปด้วยความอลม่านอย่างรวดเร็ว
ฮีลเลอร์ไม่สามารถโฟกัสได้เนื่องจากมีเสียงร้องผสมกับเสียงต่อสู้.
พวกเขาไม่สามารถแยกตัวออกจากกลุ่มไปรักษาได้
สำหรับฮีลเลอร์ ผมได้ใช้ โฮลและบัด จับพวกเขาไว้
“มันยังไม่จำเป็นต้องการหมอ!”
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่ใช้เวทย์โจมตีใส่พวกเขา.
ฮีลเลอร์ เป็นคลาสที่เพิ่มมานาเป็นหลัก
ถ้าพวกเขาใช้ ‘แฟลช’ ทุกคลาสก็พยายามที่จะหลบหนีได้…
มันน่ารำคาญ
เมื่อต้องการจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วพวกเขาจึงเป็นเป้าหมายแรกๆ
โฮลและบันไม่ได้กำหนดเป็นเป้าหมายเดี่ยวอีกแล้วหลังจากที่มันเลเวล100
นอกเหนือจากฮีลเลอร์ระดับสูงไม่กี่คน ทั้งหมดถูกแช่อยู่ในติดอยู่กับที่
มือโกเลมยักษ์โผล่ออกมาจากพื้นดินและจับข้อเท้าของเขาไว้.
มีตาข่ายมันพวกเขาไว้อยู่กับที่.
พวกเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ ผมใช้แฟลชเพื่อเข้าใกล้พวกเขาทันที
พวกเขาไม่สามารถที่จะกระพริบตาได้ขณะที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้น.
เมื่อผมอยู่ในกลุ่มพวกเขาผมใช้ไฟช็อค
‘อเวคไฟช็อค’ มันเป็นการระเบิดพร้อมกับเปลวไฟ.
ผมไม่สนใจแม้แต่จะมองไปข้างหลังผม
ไม่มีเหตุผลที่จะมองพวกที่ตายด้วยความสงสาร ที่แม้แต่จะส่งเสียงกรีดร้องและดิ้นรนได้ก่อนที่จะตาย.
มันผ่านไปเพียง10วินาที ผมไม่สามารถที่หาสัญญาณของพวกเขาได้.
มันเป็นเพราะว่าสกิลนี้มันเลเวล134
ปาร์คฮยอนที่อยู่ห่างไกลไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย
ถ้าความคิดเธอยังคิดว่าผมมี ‘อัตตราการฟื้นฟูมานาที่สูง’ ได้ถูกต้อง โล่มานาของผมต้องพังไปแล้ว.
แต่มันแตกต่างจากที่เธอคิดไว้ ผมได้ดูดซับเวทย์และการโจมตีทุกทิศทางโดยไม่มีปัญหาใดๆ.
มีคนเดินมาข้างหน้าเธอเพื่อป้องกันและออกคำสั่ง.
“ฮีลเลอร์แรงค์A! กลับไปยังพื้นที่ๆกำหนด!”
คำเดียวของเธอ ได้ทำให้คนที่ไม่ถูกบันและโฮลกลับเข้าไปอยู่ในกลุ่มอย่างง่ายดาย.
ฮีลเลิอร์อยู่ใจกลางขบวนของพวกเขา
“ใช้แมสฮีล! แท้งค์, บาร์ด. ใช้สกิลป้องกัน! นักเวทย์ทุกคนใช่คาถาสูงสุดของคุณ!”
แมสฮีล เป็นสกิลเกี่ยวกับการรักษาแบบAoeทุกคนที่อยู่ในรัศมี
ค่ามานาที่ใช้จะเท่ากับการรักษาบาดแผลของฮีลเลอร์ ดังนั้นจึงเป็นสกิลที่ใช้มานามากที่สุดและมีฮีลเลอร์เท่านั้นที่ใช้ได้
ผมไม่มีเวลาที่จะเอาหัวหมุดเหล่านี้ออกทีละตัว(ไม่มีเวลามาไล่กำจัดเรียงตัว/ไรต์)
ผมต้องจัดการพวกเขาทั้งหมดออกและออกไปอย่างรวดเร็ว.
ผมเทียบเวลาตั้งแต่เริ่ม
สาเหตุมันเป็นเพราะกิลด์โนเบลซมีการต่อสู้หลังจากนี้อีก40นาที.
หากพวกเขาไม่ได้ไป ทางสมาคมจะติดต่อกลับมา
เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมกับการหารือกับการประชุมใหญ่และไม่ได้เข้าไปร่วมการทำข้อตกลง
การลงโทษพวกนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเมื่อพวกเขาไม่ได้เข้าร่วม
ในกรณีนี้สมาชิกทางกิลด์อาจจะไม่สามารถเขาดันเจี้ยนหรือแม้แต่การสูญเสียใบอนุญาติอเวคของพวกเขา.
และทุกคนที่อยู่ในกิลด์ตามที่ต่างๆก็ไม่สามารถทำงานได้
อาจจะมีนักล่าจากสมาคมเข้ามายังกิลด์ที่ไม่เข้าร่วมและจะต้องสงสัยเกี่ยวกับอาคารที่ถูกปิดผนึก.
และถ้าพวกเขาเห็นสภาพที่น่ากลัวในนี้?
ผมกำลังจะได้รับโทษทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ที่ผมไม่มีข้อแก้ตัวสักข้อเดียว.
เมื่อใช้ภูเขาน้ำแข็งและเมเทโอที่อยู่ในเลเวล40 ระยะเวลาของพวกมันก็เหลือเพียง 4 นาที.
แต่เพื่อที่จะโจมตีทุกคนที่อยู่กระจายๆแถวนี้ มันยังส่งผลกระทบได้ไม่มากพอ.
ผมใช้กราวิตี้เลเซอร์ให้พวกเขาได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง.
อย่างไรก็ตามมันก็ทำอะไรไม่ได้มาก หลังจากที่พวกเขาจัดการรูปแบบแล้ว
แม้ว่าสกิลจะถูกอเวคแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถผ่านโล่ของนักเวทย์และสกิลป้องกันของแท้งค์ได้.
“แม่ง ฉันไม่มีเวลามากสำหรับเรื่องนี้.”
เมื่อผมคิดแบบนั้นผมก็หยุดการใช้โล่มานา.
โล่หยุดการปกป้องร่างผม.
ทันทีผมก็ใช้โล่สะท้อน,โล่น้ำแข็งและโล่สปิริต
อย่างน้อย เลเวลสกิลที่ต่ำกว่าเลเวล100จะไม่สามารถทำลายมันได้.
ผมใช้แฟลชย้ายไปยังแถวสองของพวกเขา
พวกที่อยู่ด้านข้างผมกลุ่มหนึ่ง
มีผู้คนประมาณ100คนรวมตัวกัน
ตาพายุและหลุมไต้ฝุ่น!
หลังจากทั้งสองสกิลแล้วก็มีลมขนาดใหญ่หมุนเกียวขึ้นไป.
“มาดูกันว่าจะยันไว้ได้แค่ไหน”
ทั้งสองสกิลสอดประสานกันอย่างไม่น่าเชื่อ
หมุนด้วยความเร็วมหาศาลและมันก็เริ่มที่จะดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่าง.
บรรดาผู้คนที่ใช้มานาเป็นหลักถูกกวาดออกไปพร้อมกับถูกบดเป็นเศษเนื้อ
ไม่ว่าพวกเขาจะใช้สกิลป้องกันมากแค่ไหน มันก็มีเวลาในการใช้งาน.
พวกเขาได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากจากสกิลทั้งสอง.
ทุกคนตายภายใน3นาที
ทอร์นาโดสีเทาได้กลายเป็นสีแดงด้วยเลือดและเศษเนื้อบินว่อนไปทุกที่.
เกิดฝนเลือดชโลมเป้าหมายต่อไปของผม.
จากนั้น.
“อุ…อุก!”