ตอนที่ 18 การซื้อเมล็ดสมุนไพรยา
ไม่ว่าอาจารย์ของจิงจิงจะเป็นใคร ทักษะทางการแพทย์แผนจีนของเขาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถ้าเขาไม่เก่ง เขาคงไม่สามารถคิดใบสั่งยาที่ดีเช่นนี้ออกมาได้ จากความรู้ของอาจารย์ที่เก่งกาจส่งต่อให้ลูกศิษย์ที่เยี่ยมยอด… ถึงจิงจิงจะยังเป็นเด็กและเป็นมือใหม่ในวงการแพทย์แผนจีน แต่ในอนาคตถ้าเธอโตไปล่ะก็ เธอจะต้องเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย
หมอกังสนใจในตัวเธอ…เขาตกลงที่จะช่วยเธอ แล้วทําไมเขาถึงจะปฏิเสธข้อเสนอนั้นด้วยล่ะ?
ตลาดสมุนไพรในมณฑลฮัวหมิงมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สินค้าก็ไม่ได้มีขายน้อยเลย ที่ตลาดแห่งนั้นมีเมล็ดพืชและต้นกล้าขายอยู่หลายชนิด หลังจากนั่งรถเมล์มาได้ครึ่งชั่วโมง ชายชราและเด็กหญิงก็ได้เดินทางมาถึงตลาด กลิ่นหอมของสมุนไพรลอยออกมาจากตลาดอ่อนๆ
ตลาดสมุนไพรมณฑลฮัวหมิงแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้สะพานและหน้าตลาดหันเข้าแม่น้ำ นอกจากตลาดแห่งนี้จะมีเมล็ดพืชและต้นกล้าขาย ยังมีนก สัตว์ และดอกไม้ขายมากมาย ตลาดแห่งนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมของคนเมืองนี้
ชายชราคุ้นเคยกับตลาดและผู้คนเป็นอย่างดี เขาพาจิงจิงทัวร์ตลาด พวกเขาเดินไปอย่างรวดเร็วและไม่ยอมเสียเวลาเลย ในที่สุดก็เดินถึงร้านที่เป็นจุดมุ่งหมายของทั้งสอง
”เจ้าของร้านนี้ทําธุรกิจเกี่ยวกับยาสมุนไพรมาเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน เขาสามารถปรุงยาด้วยตนเองได้ แต่การทําธุรกิจเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากใครอยากให้เขาปรุงยา เป็นกรณีพิเศษล่ะก็ เขาจะไม่ทํา! เขาชอบปลูกต้นไม้ จะเห็นได้ว่าด้านข้างนี้ดูรกเพราะเขาปลูกต้นสมุนไพรสะเปะสะปะไปหมด แต่ข้างในร้านเขาน่ะแตกต่าง มันทั้งกว้างขวางและโปร่ง” หมอกังหัวเราะ
จิ๋งหยุนเฉาสังเกตุรอบๆร้าน ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ รอบข้าง ร้านนี้คงเป็นร้านที่ดูเก่าแก่ที่สุด ถึงอย่างนั้นการจัดหน้าร้านของร้านแห่งนี้ดูเรียบร้อยดี ที่มากไปกว่านั้นคือเจ้าของร้าน รู้จักชนิดของพืชแต่ละต้นเป็นอย่างดี เพราะเขาได้คัดแยกสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงและกลิ่นจะตีกับต้นอื่นๆออกไป.. เขาน่าจะเป็นห่วงคุณภาพของสมุนไพรมากกว่าสุนทรียภาพของร้านค้า
เท่าที่เห็น จิงจิงคิดว่าหมอกังเลือกร้านได้ถูกต้องแล้ว
” คุณลุงครับ วันนี้จะมาซื้ออะไรดี?” เจ้าของร้านเดินออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมและต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
จิ๋งหยุนเฉารู้สึกประหลาดใจเมื่อมองไปรอบๆ ร้านแล้วเธอคิดว่าเจ้าของร้านจะเป็นชายชราเสียอีก ทว่าไม่ใช่..เจ้าของร้านยังดูหนุ่ม เขาคงจะอายุประมาณสามสิบ ไม่แก่ไปมากกว่านั้นแล้ว
“วันนี้ฉันพาเพื่อนตัวน้อยมาดูหนะซิ การตัดสินใจขึ้นอยู่ที่เธอ” หมอกังอธิบาย
ชายหนุ่มผู้นั้นเริ่มสงสัยเมื่อได้ยินคําพูดของหมอกัง เขาได้หันไปมองเด็กสาวที่มากับหมอ ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันที
เขาเห็นเด็กสาวผิวขาวดุจหิมะ ผมของเธอยาวสลวยสีดําประกายพร้อมกับหน้าผากกว้างรับทรัพย์ เธอให้ความรู้สึกสะอาดและเรียบหรู ถึงเธอจะดูผอมเกินไป แต่ด้วยรูปลักษณ์ทั้งหมดทําให้เธอดูดี เธอดูจะนิสัยดีด้วยซ้ำ
จิ๋งหยุนเฉาไม่ได้สนใจการจ้องมองของเจ้าของร้าน เธอเอ่ยปากพูดว่า “ฉันอยากจะซื้อเล็ดพันธ์ธรรมดาๆ อย่างเช่น จั่วซึงจี้ตระกูลผักชีสมุนไพรเอาไว้กระตุ้นกําหนัดและสมุนไพรอื่นๆ ที่มีสรรพคุณคล้ายๆกัน อาจารย์ของฉันชอบปลูกสมุนไพรชนิดเหล่านี้ แต่ไม่ได้ปลูกมันในจํานวนมาก…คุณสามารถเอามาให้ฉันดูก็ได้ ฉันจะได้เลือกเอง”
เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเธอกําลังปลูกเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นด้วยตัวเองอยู่ ถึงตระกูลเฉียวจะอาศัยอยู่ในเมือง พวกเขาไม่ได้มีพื้นที่มากมายจนจะสามารถปลูกต้นไม้ได้เยอะเช่นนั้น
เมื่อตอนที่เฉียวเหวยหมิงยังอายุน้อยกว่านี้ เขาเคยร่วมมือกับคนคนหนึ่งเพื่อเปิดโรงงานเล็กๆ เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้รับเงินปันผลจากธุรกิจนั้นเป็นจํานงนมากในทุกๆ ปี
การที่เธอบอกว่าเธอมีอาจารย์นั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ดีกว่าเธอกลายเป็นจุดสนใจเสียเอง
ถ้าหากมีใครบังเอิญรู้เรื่องมิติจี้หยกล่ะก็ เธอกลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อน และไม่มีวันได้เห็นแสงอาทิตย์ในโลกปัจจุบัน เพราะท่านปูจึงมีได้เตือนและขู่เอาไว้แล้ว
หลังจากได้ยินเช่นนั้น เจ้าของร้านจึงนําทางจิงจิงไปยังหลังร้าน
ภายในร้านมีซองเมล็ดพันธุ์หลายขนาดและหลายชนิดวางปะปนกันไป ทุกซองมีชื่อชนิดของเมล็ดพืชติดอยู่
ตอนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ โชคดีที่เมล็ดพันธุ์ที่ร้านค้าเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ควรหว่านในช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี ดังนั้นจิงจิงเลยไม่ได้กังวลตอนเลือกซื้อเท่าไหร่นัก
พฤติกรรมของเธอที่ดูเชี่ยวชาญและมีความรู้ในการเลือกเมล็ดพันธุ์ทําให้เธอดูเป็นเด็กที่มีความรู้ทางการแพทย์อย่างไม่ต้องสงสัย หัวใจของหมอกังยิ่งเพิ่มความชื่นชมในตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ น่าเสียดาย…เด็กสาวคนนี้มีอาจารย์อยู่แล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะอิจฉาอาจารย์ของเธอ!