ตอนที่ 14 ตาย
การตัดสินใจของเฉี่ยวเหวยหมิงครั้งนี้ทำให้หมอกังและครูจินโกรธมาก
ครูจินยังอายุน้อยและเป็นคนอบอุ่น เธอเห็นในจิงจิงแต่ในขณะเดียวกับเธอก็กังวลเรื่องอนาคตของเด็กคนนี้ด้วย
ถ้าหากไม่มีแม้แท้ๆ คอยปกป้องอีกต่อไปคนตระกูลเฉียวจะเลี้ยงดูเธออย่างไร… ถึงแม้ว่าจิงจิงจะมีพี่น้อยแค่เฉียวหงเย่และเฉียวฮุยโจวก็ไม่ได้ดูสนิทสนมกับกับจิงจิงอย่างที่พี่น้องบ้านอื่นๆ ควรจะเป็น
ครูจินรู้สถานการณ์ของจิงจิงดีทว่าเธอก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้ เธอทำได้เพียงปลอบใจจิ๋งหยุนเฉาเล็กน้อยเท่านั้น
ในคืนนี้เยว่ฉินจะตาย เธอจะหายใจเป็นครั้งสุดท้าย…และถูกนำส่งโรงพยาบาล เฉี่ยวเหวยหมิงไม่เชื่อว่ายาของจิ๋งหยุนเฉาจะสามารถช่วยเยว่ฉินได้ เขาไม่ดูแลหรือสนใจเยว่ฉินเลยแต่กลับกลัวว่าจิ๋วหยุนเฉาจะแอบเอายานั่นให้เยว่ฉินกิน
เฉี่ยวหงเย่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตนเองมาก เธอจึงยืนรอผลการวินิจฉันอยู่ในห้องคนไข้ ในทางกลับกันเฉียวฮุยโจวผู้เอาแต่ใจ ในตอนห้าทุ่มเขาเลือกที่จะกลับบ้านโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร
เวลาเที่ยงในวันต่อมากลิ่นแห่งความตายฟุ้งไปทั่วห้อง
ภายใต้ผ้าสีขาวคือใบหน้าที่ไร้ชีวิตของเยว่ฉิน
จิงจิงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย… คนคนเดียวืั้ควรรับโทษที่ทำให้เยว่ฉินตายก็คือสามีของเธอ!
งานศพของเยว่ฉินเป็นงานที่เรียบง่าย มีเพียงครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่มาร่วมงาน ตระกูลเฉียวทุกคนยุ่งวุ่นวายกับการรับแขกในงานศพ หลังจากงานศพสองสามวันมานี้คนในตระกูลเฉียวทุกคนต่างเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย
พวกเขาเริ่มผ่อนคลายในที่สุดเมื่องานศพจบลง
เฉียวเหวยหมิงนั่งกินเบียร์ในบ้านอย่างสบายใจ เขาไม่จำเป็นต้องแกล้งเศร้าอีกต่อไปแล้ว เฉียวหงเย่และเฉียวฮุยโจวนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว เขาทั้งสองยังคงเศร้าอยู่บ้าง แต่ก็เบื่อที่ต้องอดทนต่ออาการป่วยของเยว่ฉิน พวกเขารู้สึกผ่อนคลายมาก
“พ่อคะ เรื่องที่จะให้หนูไปโรงเรียนพร้อมกับฮุยโจว…เราสองคนมักจะไปช้าและเข้าเรียนไม่ทัน ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อยู่หนูอาจเรียนไม่ทัน หงเย่กล่าว”
แอลกอฮอล์ทำให้เฉียวเหวยหมิงหน้าแดง หัวของเขชาโอนไปเอนมาเพราะความเมา “โอเค เธอทั้งสามคนไปได้”
“พ่อคะ…ตอนนี้เราไม่มีแม่แล้วและไม่มีคนคอยทำความสะอาดบ้านและเรายังใช้เงินไปจำนวนมากในการรักษาเธอ ในตอนนี้พ่อยังต้องส่งเสียเราเรียนหนังสืออีก ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของหนูเอง หนูยังเด็กเลยไม่สามารถแบ่งเบาภาระพ่อได้” เฉียวหงเย่พูดด้วยความรู้สึกผิด
จิงจิงเลิกคิ้วและยิ้มอย่างตลก ถ้าจำไม่ผิดหงเย่อายุน้อบกว่าเธอเพียงปีเดียว
เธอไม่เข้าในสิ่งที่หงเย่พูด เธอต้องการจะสืออะไรกัน? เธอต้องการให้ลูกคนโตของบ้านลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาดูแลบ้านและรับใช้พวกเขางั้นเหรอ?
ตอนที่เยว่ฉินยังมีชีวิตอยู่เธอก็ต้องการใช้จิงจิงลาออกจากโรงเรียนด้วยเช่นกัน ทว่าเธอก็ต้องยอมแพ้ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอไม่ต้องจ่ายค่าเทอมหรือเงินไปโรงเรียนให้กันจิงจิง อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออายที่คนอื่นจะนินทาเรื่องพวกนี้
ทุกคนรู้ดีว่าผลการเรียนของจิงจิงนั้นดีมาก… ถ้าหาเธอให้จิงจิงลาออกจากโรงเรียน เยว่ฉินจะถูกผู้คนจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเธอปฏิบัติต่อลูกนอกสมรสอย่างไม่เท่าเทียม… คนทุกคนชื่นชอบการพูดคุยกันอยู่แล้ว ทว่าเยว่ฉินเพียงไม่ชอบให้ใครนินทาเท่านั้น
“ดี! เธอเป็นเด็กดี!” ในตอนนี้เหวยหมิงนั้นเมาเกินกว่าจะจับใจความในคำพูดของหงเย่ได้
หงเย่ต้องการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ แต่เธอรู้แล้วว่าพ่อของเธอนั้นเมามากเกินไป เธอจึงเลือกที่จะไม่พูดสิ่งที่ตั้งใจและเก็บมันไปพูดวันอื่น
เช้าวันต่อมาเธอเห็นจิ๋งหยุนเฉารีบออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอนเช้า
เฉียวหงเย่ครุ่นคิดก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องของเฉียวเหวยหมิง
กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ตลบอบอวลไปห้องทำให้เธอขมวดคิ้ว
เธอเห็นเหวยหมิงนอนอยู่ที่เตียงและสวมเพียงชุดชั้นใน หน้าต่างถูกปิด ห้องของเขารกและสกปรกมาก เฉียวหงเย่ผู้รักในความสะอาดรู้สึกรังเกียจสิ่งที่เห็น
ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็คือพ่อแท้ๆ ของเธอ… หงเย่ถอนหายใจและเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับตะโกนว่า “พ่อ! ตื่น!”