ตอนที่ 4 หมาป่าตาขาวไร้สำนึก
ในปีนี้เฉียวเหวยหมิงมีอายุเพียงสี่สิบต้นๆ ตอนที่เขายังเด็กเขาคงเป็นเด็กชายที่เรียบร้อย เพราะในตอนนี้เขาก็แต่งตัวเรียบร้อยมากเช่นเดิมแม้ตัวเองจะอายุมากแล้วก็ตาม ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดตัวของเขามักจะมีกลิ่นมีโคโลญจน์ติดตัวเสมอ และแน่นอนว่าผมของเขาจะมันวาวอยู่เสมอเช่นกัน
แต่การปรากฏกายของเขาไม่ได้ดึงดูดอะไรเธอเลย ไม่ว่าเขาจะแต่งตัวอย่างไร ในสายตาของเธอเขาก็เป็นเพียงชายหื่นกามที่น่ารังเกียจก็เท่านั้น แม้ว่าเขาจะหล่อเหลาและประโลมไปด้วยเสื้อผ้าที่ดูสวยงามเพียงใด แต่ความเป็นจริงแล้วเขาคือผู้ชายที่ชั่วช้าคนหนึ่งก็เท่านั้น และจิ๋งหยุนเฉารู้สึกว่าเขาเหมือนขันทีอย่างไรก็ไม่รู้
“พ่อคะ หนูแค่ถามจิงจิงด้วยความเป็นห่วง หนูไม่คิดเลยว่าเธอจะก้าวร้าวเช่นนี้” เฉียวหงเย่กล่าวโดยไม่สนใจว่าคำพูดของเธอจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่
พ่อแม่ของเธอได้เล่าความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของจิงจิงให้ฟังหมดแล้ว ซึ่งถ้าหากจิงจิงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเธอ เธอคงไม่ทำตัวเช่นนี้ ทว่าเด็กสาวคนนี้เป็นเพียงเด็กที่แม่ของเธอเก็บได้จากข้างทางก็เท่านั้น
แม่เคยบอกกับเธอว่าที่รับเลี้ยงจิงจิงก็เพราะหมอดูทักว่าเธอเป็นเหมือนเครื่องรางคอยสะท้อนความชั่วร้ายให้ออกไปจากตระกูล ซึ่งหงเย่คิดว่าจิงจิงควรทำตัวให้เหมาะแก่แารเป็นคนอาศัย เธอควรทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นคนรับใช้ ทำไมจิงจิงถึงต้องคอยเสนอหน้าทำตัวเด่นกว่าเธอด้วย
คุณครูทุกคนที่โรงเรียนมักจะพูดเสมอว่าลูกสาวทั้งสองคนของเยว่ฉินทั้งสวยและฉลาด โดยเฉพาะจิ๋งหยุนเฉา! ทุกครั้งที่หงเย่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น หัวใจของเธอเหมือนโดนมีดหลายพันเล่มทิ่มแทง เธออยากจะตะโกนบอกทุกคนว่า จิงจิงคือเด็กข้างถนนที่ไม่มีใครต้องการ มันเป็นเพียงเด็กที่ต่ำต้อยก็เท่านั้น!
“จิ๋งหยุนเฉา เธอไปกินโจ๊กนั่นให้หมดซะ! ฉันให้อาหารจานนั้นเป็นอาหารของเธอแต่เธอกลับมาเดินเลือกที่ห้องครัวแบบนี้ได้อย่างไร? แล้วยังจะมารังแกน้องสาวแบบนี้อีก เธอมันหมาป่าตาขาวไร้สำนึก! เด็กเนรคุณ” เฉียวเหวยหมิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
อารมณ์ที่มากมายความรู้สึกได้อบอวลไปเต็มหัวใจของเขา
เขาทำงานอยากหนักเพื่อเลี้ยงดูจิ๋งหยุนเฉาจนเติบโต ในตอนแรกที่รับเธอมาที่บ้าน เธอมีร่างกายผอมแห้งไม่น่ารัก ทว่าตอนนี้เธอได้กินข้าวที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขาและสวยสง่าขึ้นเป็นเท่าตัว
จิ๋งหยุนเฉาสูงกว่าหงเย่ไม่มาก ถึงร่างกายของเธอจะดูเป็นเด็กผอมแห้งแต่เธอก็ไม่ได้ผอมจนเหมือนคนขาดสารอาหาร และเธอยังสวยขึ้นทุกวัน ความผอมหุ่นดีนี้ทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก
ผมยาวสลวยสีดำของเธอช่วยขับผิวอันขาวผุดผ่องของตัวเอง เมื่อเทียบกับหงเย่และฮุยโจว เธอดูดีกว่าไม่รู้กี่เท่า
โชคร้ายที่จิ๋งหยุนเฉาผ่านความยากลำบากในชีวิตมามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เธอเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยม ครั้งนั้นหงเย่เห็นว่าจิงจิงโด่งดังมากในหมู่ชายหนุ่ม เธอก็ได้ทำบางอย่างชั่วร้ายลับหลังจิงจิง เช่นการปล่อยข่าวลือน่าอายปลอมๆ หลังจากที่เยว่ฉินเสียชีวิตจำเป็นต้องลาออกจากโรงเรียนและที่ทำงานพาร์ทไทม์ และด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องทำงานบ้านอย่างหนัก และถูกกดขี่ข่มเหงจากคนตระกูลเฉียว สิ่งเหล่านั้นทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอลงรวมถึงผิวที่เคยสดใสก็กลายเป็นผิวที่หยาบกร้าน ผมที่เคยยาวสลวยก็ถูกหงเย่ตัดทิ้ง!
แต่แค่นี้ยังไม่หมด… ตอนที่เธอถูกจำคุกเฉียวหงเย่ก็ยังไม่ลดละการระรานแต่อย่างใด เธอไม่ยอมให้เส้นผมของจิ๋งหยุนเฉางอกออกมาเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ผมของจิงจิงงอกออกมาเธอจะโกนผมทุกเส้นออกจนสะอาด
หัวใจของจิ๋งหยุนเฉาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ช่างยโสโอหังเสียจริง! คุณอาจมีความผูกพันกับหมาป่าอย่างฉันหลังจากเลี้ยงดูมาหลายปีก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ฉันเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพ ฉันไม่ใช่สุนัขอย่างที่คุณกล่าวหา!”
เพี้ยะ! เฉียวเหวยหมิงตบจิ๋งหยุนเฉาเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง
แก้มของเธอปรากฎรอยมือสีแดงขึ้นทันที!
ถ้าหากเป็นเธอก่อนหน้านี้เธอคงรู้สึกผิดและคิดว่าไม่น่าพูดจาเช่นนั้น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่!
“กิน! กินมันเข้าไป! ถ้าวันนี้แกไม่กินมันเข้าไปล่ะก็ฉันจะฆ่าแก!” เฉียวเหวยหมิงตะคอกใส่หน้าจิงจิง
เธอเข้าใจว่า เฉียวเหวยหมิงและเยว่ฉินเป็นผู้ปกครองตามกฎหมายของตนเอง ในตอนนี้เธออายุเพียงสิบห้าปี ดังนั้นการออกไปใช่ชีวิตอย่างอิสระมันคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อีกทั้งวันนี้เป็นวันที่เธอเกิดใหม่ เธอสิ้นหนทางและยังไม่ได้เตรียมตัวเพื่อหาหนทางที่จะรับมือ ด้วยสถานการณ์เช้นนี้มันยิ่งทำให้เธอทำอะไรไม่ได้…
แน่นอนว่าเธออยากหนีออกจากบ้านหลังนี้ใจจะขาด ทว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งที่คนภายนอกไม่ให้การยอมรับ
เยว่ฉินเคยทำให้ชีวิตเธอมีความสุข ทว่าการเกิดใหม่ครั้งนี้มีความหมายกับเธอมาก! ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องแก้แค้น คนที่เคยทำให้ชีวิตของเธอเหมือนตกอยู่ในนรกมันพวกนั้นจะต้องชดใช้! การโดนตบครั้งนี้ยิ่งทำให้เธอมั่นใจมากว่าความแค้นที่มันเผาไหม้อยู่ในใจของเธอจะต้องถูกชำระคืนให้สาสม!