บทที่ 12 รู้สึกถึงความรัก
สวนสาธารณะนั้นอยู่ไม่ไกลจากกย่านถนนเก่า ซูเถาจึงพาเวร่าไปยังภัตตาคารที่เขาสนิทกับเจ้าของร้านซึ่งอยู่ในย่านถนนเก่า พอเจ้าของร้านเห็นซูเถามากับชาวต่างชาติ เขาจึงได้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ ข้างหูซูเถา
“เดี๋ยวชั้นจะเพิ่มพิเศษจากออเดอร์ให้นายสองจานเลย”
“ว่าไงเจ้าของร้าน , โชว์ฝีมือของนายหน่อยสิ” ซูเถาทักทาย จากเหตุการณ์รื้อถอนในครั้งนั้น ทำให้ซูเถากลายเป็นคนดังในย่านถนนเก่า
เจ้าของร้านยกนิ้วโป้งตอบกลับ “ไว้ใจได้เลย”
เวร่ามองไปรอบๆ เธอไม่เคยกินอาหารจีนมาก่อน อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร มันกลับทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยคามคาดหวัง
“นายคงมีเหตุผลอะไรบางอย่างถึงได้พาชั้นมากินข้าวที่นี่ใช่มั้ย ?” เวร่ายิ้มในขณะที่กำลังคีบตะเกียบเล่น
“เธอนี่นอกจากจะสวยแล้วยังหัวไวซะด้วย” ซูเถาเทไวน์ใส่แก้วให้เวร่า จากนั้นเขาก็พูดต่อ “เธอคิดยังไงกับย่านถนนเก่านี่ล่ะ ? ที่นี่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของพวกเราใช่มั้ย ?”
เวร่าเงยหน้าขึ้นก่อนที่เธอจะดื่มไวน์ชั้นดี ซึ่งมันทำให้ซูเถามองเห็นต้นคนของเธอ
เวร่าใช้นิ้วโป้งเช็ดไวน์ที่ริมฝีปากของเธอ ก่อนที่จะยิ้ม “นายต้องการให้ชั้นรักษาที่นี่เอาไว้งั้นสิ ?”
เวร่าได้มองทะลุความคิดของเขาอีกครั้ง ซูเถายกนิ้วโป้งให้เธอ “ชั้นเชื่อว่าเธอมองเห็นโอกาสในการลงทุนธุรกิจในย่านถนนเก่านี่ มีเพียงแค่อุตสาหกรรมซึ่งมีเบื้องหลังเท่านั้นที่จะสามารถแข่งขันและสร้างรายได้ให้มากขึ้นได้”
เวร่ายิ้ม เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าซูเถาสามารถวิเคราะห์แบบมุมมองนักธุรกิจได้ด้วย เธอจ้องไปที่เขา “ขอฟังข้อเสนอของนายหน่อยสิ ถ้ามันฟังดูเข้าท่า ชั้นอาจจะลงทุนกับมัน ในเมื่อโครงการการลงทุนยังไม่ได้ข้อสรุป เพิ่มการลงทุนเข้าอีกอันสองกันก็ไม่เสีนหายไร”
ซูเถาควักเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไฟล์บางอย่างแล้วส่งให้เวร่าดูซึ่งมันทำให้เธอประหลาดใจ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเตรียมการเอาไว้แล้ว
ซูเถาอธิบายอย่างละเอียด “ทุกคนในประเทศนี้ต่างก็ให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมภาพยนต์ แต่ส่วนใหญ่พวกเขาก็เปลี่ยนแปลงมันทุกอย่าง มีไม่มากนักที่จะรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ ถึงย่านถนนเก่านี่ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่มันก็เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ซึ่งถ้าหากรากฐานของที่นี่ถูกสร้างขึ้นใหม่ มันจะทำรายได้ให้เธอได้”
ซูเถาได้แอบตรวจสอบข้อมูลของเวร่า เธอเป็นนักธุรกิจสาวที่หลงไหลในวัฒนธรรมจีน อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้ชำนาญในภาษาจีนกลางมากนัก
เวร่าหยุดไปแป็ปนึงก่อนที่จะอธิบาย “เลือดของชั้นเสี้ยวหนึ่งมีเชื้อสายจีน แม่ของปู่ชั้นเป็นคนจีน ซึ่งมันค่อนข้างมีอิทธิพลต่อชั้นมาก เพราะอย่างนั้นชั้นถึงรักวัฒนธรรมจีน เดี๋ยวชั้นจะให้คนวิเคราะห์ตามที่นายเสนอมาดู ถ้ามันดูเข้าท่า ชั้นอาจจะรับเอาไว้พิจารณา”
ซูเถาดีดนิ้วพลางยิ้ม “มันต้องอย่างนี้สิ เรามากินข้าวฉลองกันดีกว่า”
อาหารของหางโจวนั้นถือเป็นหนึ่งในอาหารของเจียงหนานที่แตกแขนงออกมา ซึ่งมันมีรสชาติอ่อนโดยเน้นทักษะการใช้มีดเป็นหลัก ไม่เหมือนกับอาหารทางเหนือที่มีลูกชิ้นนึ่ง ซุปถั่วแห้งหั่นฝอย กะหล่ำปลีอ่อน และซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ฝีมือของเจ้าของร้านไม่ได้เล็กตามไปด้วย
เวร่าเคยลองดื่มไวน์ขาวมาก่อน แต่ส่วนใหญ่ที่เธออลองจะเป็นไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นเหมาไท่ ไวน์แดงนั้นมีฤทธิ์แรงและค่อนข้างเผ็ด ก่อนที่เธอจะทันได้รู้ตัว เธอก็เมาไปเรียบร้อยแล้ว
ซูเถารีบเข้าไปช่วยพยุงเวร่าอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาเห็นเธอโอนเอนไปมา และท้องส่วนล่างของเขานั้นได้ไปโดนบริเวณก้นของหล่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เพียงการสัมผัสเบาๆก็ทำให้เขาสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น
เวร่าทำเสียงฮึออกมาทางจมูก ลมหายใจขออเธอโดนหน้าซูเถา มันทำให้ใจเขาหวั่นไหว
พอเขาตัดสินใจได้ว่าจะพาเวร่ากลับไปยังที่ตำหนัก ก็ได้มีรถสีดำขับเข้ามาก่อนที่เลขาหลี่พร้อมกับหญิงชาวรัสเซียอีกคนลงมาจากรถ เมื่อเธอเห็นเวร่าเมาไม่ได้สติ เธอจึงเข้าไปพยุงเวร่าเข้าไปในรถ
เลขาหลี่เดินเข้ามาหาซูเถาและกระซิบ “คนนี้คือคนที่ดูแลเวร่า , ตำแหน่งของเธอสูงกว่าชั้นอีก”
ซูถาเอายาออกมาจากกระเป๋า ก่อนที่จะส่งยาให้ “เอานี่ให้เธอหลังจากเธอตื่น มันช่วยแก้อาการเมาค้างได้”
เลขาหลี่รับขวดยามาก่อนที่จะโบกมือให้ซูเถาเข้ามาในรถ
ซูเถาส่ายหัวก่อนที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง “มีคำกล่าวที่ว่าหญิงวัยกลางคนชาวรัสเซียกับหญิงสาวนั้นเป็นลักษณะทั้งสองแบบของคนท่าจะจริง”
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเขาลองคิดดุว้เวร่าจะกลายเป็นแบบคนดูแลเมื่อเธออายุมากขึ้น มันช่างน่าเสียดายจริงๆ
เมื่อรถขับออกไป เวร่าสร่างเมาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดออกมา “ชาร่า , นี่เธอมาทำอะไรที่นี่”
ชาร่าถอนหายใจก่อนที่จะตอบกลับ “นายหญิง คุณทำให้ชั้นเป็นห่วงแทบตาย คุณออกไปไหนกับผู้ชายสองต่อสองแบบนี้ได้ยังไง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณแล้วชั้นจะไปบอกคุณท่านได้ยังไง”
“ที่นี่ประเทศจีนนะ ศัตรูของเราไม่กล้าเคลื่อนไหวที่นี่หรอก” เวร่ามองไปที่กระจก ก่อนที่แววตามรกตของเธอจะเปล่งประกาย “อ้อจริงสิ , ชั้นคิดว่าตอนนี่ชั้นกำลังมีความรักล่ะ”
คำพูดของเวร่านั้นเหมือนเป็นการบีบคอชาร่า ก่อนที่ชาร่าจะตอบกลับ
“แต่เธอมีคู่หมั้นแล้วนะ!”
เวร่ายิ้มเล็กน้อย “ชั้นไม่หนีงานแต่งหรอกน่า แต่ก่อนที่จะแต่งงาน ชั้นอยากจะรู้ว่าความรักนั้นเป็นยังไง อย่างไรก็ตาม ชั้นก็รู้สึกเบื่อกับงานแต่งที่ถูกเตรียมเอาไว้แล้วนั่นแหละ”
ชาร่าหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะพูดต่อ “นี่คุณป่วยหรือเปล่า ? คุณทำให้ชั้นกังวลนะ คุณบอกว่าคุณจะกลายเป็นคนที่ไม่สนใจความรักแล้วคิดว่าความรักนั่นไร้สาระงั้นเหรอ นี่มันไม่ได้นะ ชั้นต้องรายงานเรื่องนี้ให้คุณท่านได้รับทราบ แล้วคุณจะต้องกลับรัสเซียเดี๋ยวนี้”
คิ้วของเวร่ากระตุกก่อนที่เธอจะพูดแกล้ง “ฮ่าฮ่า , คิดว่าคนอย่างชั้นจะพูดเรื่องความรักงั้นเหรอ ? ชั้นแค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเองน่า”
ชาร่ามองไปยังเวร่าด้วยสายตาที่สับสน เธอมองดูการเจริญเติบโตของเวร่าซึ่งดูเหมือนจะไม่ถูกทางซักเท่าไหร่ นั่นทำให้เธอรู้สึกกังวล
เวร่ามองไปยังกระจกรถ ก่อนที่จะถอนหายใจ
มันไม่สำคัญหรอกว่ารักจะสวยงามเพียงใด สักวันนึงก็ต้องจากกันอยู่ดี
ซูเถาเดินอย่างช้าๆเมื่อเขาถึงที่ตำหนัก ทันใดนั้น ได้มีรถเข้ามาจอดที่หน้าตำหนัก ไฟหน้าสีแชมเปญของรถกระพริบ เขาไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนักพลางหยิบกุญแจอออกมา ใช้แสงไฟของรถในการช่วยเปิดประตู
ในตอนนั้นเอง ได้มีผู้หญิงคนนึงเดินออกมาจากรถ “ประธานของเราต้องการที่จะคุยกับคุณ”
ผู้หญิงคนนี้ดูสวยมาก ด้วยคางที่แหลมคมกับใบหน้าเรียวได้รูป เอาไป 80 แต้ม ! อย่างไรก็ตามซูเถาเลิ่กคิ้วก่อนตอบกลับไป “ตอนนี้ไม่ว่าง !”
หล่อนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกหักหน้า เธอชี้ไปยังซูเถาก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถ
เมื่อซูเถาเปิดประตู ได้มีผู้หญิงตัวสูงอีกคนซึ่งดูอายุน่าจะน้อยกว่าสามสิบ , เธอสวมเสื้อเชิ้ตโปร่งแสงซึ่งทำให้เห็นเสื้อในของเธอลางๆ ด้วยรูปร่างและสะดืออันน่าดึงดูดของเธอ ขาของเธอเรียวยาวสวย และใบหน้าอันทรงสเน่ห์ ราวกับว่าทุกการแสดงออกบนใบหน้าของเธอนั้นต่างมีเบื้องหลังทั้งสิ้น เจอจัดออยู่ในหมวดหมู่คนที่อันตรายต่อชายทุกเพศทุกวัย
“ชื่อของชั้นคือหยานจิ้ง เป็นหุ้นส่วนของเนี่ย เว่ยถิง” หยานจิ้งยิ้ม ทำให้ซูเถาลืมไปชั่วครู่ว่าหล่อนนั้นเป็นศัตรูกับเขา
หากมองจากลักษณะของเธอ ตัวตนของหยานจิ้งดูไม่เหมือนกับหุ้นส่วนของเว่ยถิงเอาซะเลย เธอดูเหมือนกับเป็นคนที่คอยชักใยเว่ยถิงอยู่เบื้องหลังซะด้วยซ้ำ
ซูเถาตอบกลับ “ตื้อไม่เลิกเลยนะ เธอน่าจะรู้สภาพของเว่ยถิงดี แล้วยังคิดจะมากวนใจชั้นอีกงั้นเหรอ ?”
หยานจิ้งส่ายนิ้วก่อนจะยิ้มด้วยใบหน้าทรงสเน่ห์ “ไม่เลย ไม่เลย เว่ยถิงได้พยายามแล้ว ชั้นแค่สนใจในตัวนายน่ะ เนื่องจากชั้นไม่รู้ประวัติของนายในช่วงสิบปีที่แล้วเลย อย่างไรก็ตาม ทักษะทของนายมันสุดยอดมาก ชั้นเลยมานี่เพื่อจะให้นายมาเป็นหุ้นส่วนของชั้นแทนยังไงล่ะ”
ซูเถาเลิ่กคิ้วขึ้นก่อนจะยักไหล่ “เธอนี่มีวิสัยทัศน์ดีใช้ได้ ชั้นอาจจะตกลงนะแต่…พอดีชั้นไม่สนใจที่จะร่วมมือด้วยน่ะ เธอไปได้แล้วล่ะ”
ไม่ว่าเธอจะแสดงออกอย่างไรก็ตาม ซูเถาก็ยังคงคาดการณ์ความคิดของเธอได้อย่างแม่นยำ หยานจิ้งต้องการที่จะทดสออบซูเถาโดยการชวนเป็นหุ้นส่วนเพื่อที่จะประเมินตัวเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ซูเถาก็ยังคงมีภาพลักษณ์ทั่วๆไป โหดเหี้ยมและไร้ซึ่งความกลัว !
หยางจิ้งมองดูซูเถาปิดประตูไปโดยปราศจากความลังเล สายตาแห่งความเย็นชาปรากฎขึ้นในตาของเธอ เธอจึงได้กลับไปที่รถและเริ่มจุดบุหรี่ ก่อนที่จะคีบบุหรี่ด้วยนิ้วพลางขมวดคิ้ว
เลขาของเธอค่อนข้างงงกับท่าทางของหยานจิ้ง หล่อนจึงได้ถามขึ้นมา “ด้วยฐานะของคุณแล้ว ทำไมต้องลดตัวลงมาเพื่อพบเจอเขาเป็นการส่วนตัวด้วยล่ะ?”
ในสายตาของเลขา ซูเถาก็แค่คนชั้นต่ำเท่านั้น ซึ่งหากเขาคิดจะสู้ขึ้นมาจริงๆ เขาจะรับมือกับแม่ม่ายพิษและอิทธิพลความมั่งคั่งในเวลาเดียวกันได้ยังไง ?
หยานจิ้งตอบกลับ “ไม่ใช่แค่พวกเจี่ยงเท่านั้นหรอกที่ต้องการสืบหาข้อมูลของเขา มันตีความได้อย่างเดียวว่าเขานั้นต้องมาจากองค์กรที่ทรงอิทธิพลมากแน่ๆ”
“พวกกรงเล็บมังกรงั้นเหรอ ?” เลขาอุทานขึ้นมา
หยานจิ้งไม่ได้ตอบคำถามนั้น เธอได้สั่งเลขาของเธอ “จับตาดูการเคลื่อนไหวของเขาให้ดี ไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งนั้น เราต้องจัดการย่านถนนเก่านี่ให้ได้”
หยางจิ้งรู้ดีว่าซูเถานั้นไม่ธรรมดา ซึ่งการแสดงออกของชายปกติทั่วไปต่างหลงไหลเธอทั้งนั้น แต่ซูเถาไม่ เขามีจิตใจที่แข็งแกร่งและไม่หลงสเน่ห์ของเธอ
คลองที่แยกหางโจวออกเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก อำเภอเฉียงตงนั้นพัฒนาขึ้นอย่างรวดเรียวด้วยสิ่งปลูกสร้างอาคารสูงต่างๆ ในขณะที่อำเภอเฉี่ยวฉีนั้นเต็มไปด้วยบ้าน มีรถยนต์สีดำจอดอยู่ใต้สะพานข้ามคลอง โดยมีเงาคนสองคนกำลังคุยกันอยู่ใต้โคมไฟสะพาน
“นายต้องเอานี่ไปไว้ที่สำนักงานของซูเถาในตอนที่เขาไปทำงาน จำไว้ให้ดี เรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้ ชั้นได้เตรียมโชว์เจ๋งๆเอาไว้แล้ว” เฉียวเต๋อหัวอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
เซี่ยเฉงรับกระเป๋ามาจากเฉียวเต๋อหัวก่อนจะตอบกลับ “หลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้ว…”
เต๋อหัวตบไหล่เซี่ยเฉงเบาๆ “วางใจเถอะ , นายจะได้ตำแหน่งของซูเถาหลังจากที่มันออกไปแล้ว ในมุมมองของชั้น นายเป็นคนที่มีความสามารถมาก หลังจากตำแหน่งของชั้นลงตัวแล้ว ชั้นจะให้นายเป็นรองประธานโดยมาเป็นมือขวาของชั้น”
ข้อมือของเซี่ยเฉงสั่นไหว เขากำลังทำบางอย่างที่ขัดต่อจิตสำนึกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจเขา แต่ถ้าเขาไม่ทำ ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงได้ยังไงกัน ?
ซูเถาได้ช่วงชิงโอกาสของเซี่ยเฉงไป จิตใจของเขาถูกความริษยาครอบงำ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะยอมให้เฉียวเต้อเหาหลอกใช้ “เลขาฯเฉียว ผมจะทำงานนี้ให้สำเร็จ วางใจได้เลย !”