“คนที่เห็นเหตุการณ์?”
“ใช่แล้ว คนที่เห็นเหตุการณ์”
“ถ้าตอนนั้นมีคนเห็นเหตุการณ์ ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้?”
คำพูดของเจี่ยนถงเฉียบขาด เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เธอต้องถามให้ชัดเจน
“เห้อ” คุณหญิงเจี่ยนถอนหายใจ มองไปที่เจี่ยนถงและพูดว่า “คนคนนั้น หนูก็รู้จัก คนในครอบครัวของเธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอเห็นเรื่องสกปรกแบบนั้น”
คำพูดของคุณหญิงเจี่ยนเป็นนัย เจี่ยนถงเข้าใจแล้ว……ถ้าคนคนนั้น เป็นคนที่เธอรู้จัก และคนในครอบครัวของคนคนนั้นไม่อยากให้ใครรู้เรื่องพวกนี้ อย่างนั้น ก็เป็นไปได้ที่……
“เป็นนายน้อยของตระกูลไหน?”
เธอถามคุณหญิงเจี่ยนอย่างตรงไปตรงมา หลังจากผ่านเรื่องราวมาแล้วหลายเรื่อง มันยากที่จะมีความอบอุ่นของแม่และลูกสาวเหมือนแต่ก่อน
“ไม่ใช่นายน้อยของตระกูลไหน เธอคือคุณหนูรองของตระกูลถัง”
ทันใดนั้นเจี่ยนถงก็นึกขึ้นได้!
ที่แท้แล้วก็เป็นผู้หญิง!
งั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีเสียงลมอะไรหลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย ลูกสาวของตระกูลที่มีชื่อเสียง หากไปเห็นเหตุการณ์อะไรที่สกปรกแบบนั้น มันคงจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของเธอมากนัก
มันไม่ใช่ที่เหตุการณ์ธรรมดา แต่เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ชายสองสามคนข่มขืนผู้หญิงคนเดียวอย่างไร้ยางอาย!
ในขณะที่เจี่ยนถงนึกขึ้นได้แต่เธอกลับไม่สามารถยอมรับได้ “คุณบอกว่าเธอเห็นเหตุการณ์ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตัดสินว่าฉันเป็นคนผิด?” เธอยิ้มอ่อน “คุณหญิงเจี่ยน ฉันถามหน่อยได้ไหมว่าตอนนั้นเธอเห็นอะไรบ้าง ถึงได้กลายเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตัดสินว่าฉันเป็นคนผิด?”
“หรือว่าคุณหนูรองของตระกูลถังเห็นว่าฉันอยู่ในที่เกิดเหตุเหรอ?”
เจี่ยนถงยืดหน้าอกขึ้น เธอพยายามสงบสติอารมณ์……เจี่ยนถงนะเจี่ยนถง บอกว่าใช้สติสัมปชัญญะไง บอกว่าจะไม่ใจร้อนไง ทำไมถึงไม่ได้เรื่องแบบนี้ ทำไมถึงได้อารมณ์แปรปรวนเพราะเรื่องนี้?
“เรื่องนี้ประธานเสิ่นไม่ได้บอกหนูเหรอ?”
เจี่ยนถงยิ้มมุมปากเล็กน้อย……รู้แล้วยังจะถาม
ถ้าเสิ่นซิวจิ่นเล่าเรื่องคุณหนูรองของตระกูลถังให้เธอฟัง ตอนนี้เธอยังจะไม่รู้อีกหรือ?
เธอมองดูคุณหญิงเจี่ยนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง……คนคนนี้ คือแม่แท้ๆของเธอ!
รู้อยู่แล้วยังจะถาม แกล้งทำเป็นโง่……เพื่ออะไร?
“อะแฮ่ม…… ประธานเสิ่นยังไม่ได้เล่าให้หนูฟังจริงๆด้วย เห้อ ประธานเสิ่นก็จริงๆเลย เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่บอกหนูนะ?”
“ใช่สิ เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมพวกคุณถึงไม่บอกฉันล่ะ?” เจี่ยนถงถามกลับอย่างเฉยเมย คุณหญิงเจี่ยนก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เอ่อ…… เราก็คิดว่าประธานเสิ่นจะบอกหนูแล้ว ใครจะรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้”
เจี่ยนถงไม่อยากพูดเรื่องที่เสิ่นซิวจิ่นไม่เล่าเรื่องนี้ให้เธอ และทำไม่ถึงไม่เล่าให้เธอฟังกับคุณหญิงเจี่ยนต่อ เธอเลยถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ในเมื่อคุณหญิงเจี่ยนก็รู้เรื่องนี้ งั้นก็รบกวนคุณหญิงเจี่ยนช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อย คุณหนูรองของตระกูลถังเห็นอะไรในที่เกิดเหตุ?ทำไมแค่คำพูดเดียวของคุณหนูรองของตระกูลถัง ถึงได้กลายเป็นหลักฐานว่าฉันเป็นคนผิด?”
เธอพูดเตือนคุณหญิงเจี่ยนอีกว่า “ในตอนนั้น ฉันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ คุณหนูรองของตระกูลถังเห็นอะไรถึงได้บอกว่าฉันเป็นคนผิด!”
“เอ่อ…ตอนนั้นคุณหนูรองของตระกูลถังไม่ได้จะพูดออกมาทันที แต่ว่าเซี่ยเวยเหมิงฆ่าตัวตาย คุณหนูรองของตระกูลถังเห็นคนตาย เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่ตายไป เธอเลยเล่าเรื่องที่ตัวเองเห็นเหตุการณ์ให้กับคนอื่นฟัง เธอบอกว่าเธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอได้ยินเสียงร้องของเซี่ยเวยเหมิง”
เธอพูดพร้อมกับมองไปที่เจี่ยนถงอย่างระมัดระวัง
“เซี่ยเวยเหมิงถูกผู้ชายสองสามคนกดทับบนตัว ปากเอาแต่ตะโกนว่า: เจี่ยนถง เธอ! เธอทำร้ายฉัน! เธอต้องไม่ตายดี!”
“ฮ่า………ฮ่าๆๆๆๆ……” เจี่ยนถงฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าหัวเราะขึ้นฟ้า
คุณหญิงเจี่ยนตกใจ “เสี่ยวถง เสี่ยวถงเป็นอะไรไป?”
เจี่ยนถงยื่นมือผลักคุณหญิงเจี่ยนออกไป “ฉันไม่เป็นอะไร……อย่าแตะต้องฉัน ให้ฉันหัวเราะแปปหนึ่ง”
เธอผลักมือของคุณหญิงเจี่ยนที่ยื่นออกมาพร้อมกับกุมท้องหัวเราะ หัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา “ฮ่าๆๆๆ……ฮ่าๆๆ……”
“เสี่ยวถง……เสี่ยวถง……หยุดหัวเราะได้แล้ว หยุดหัวเราะได้แล้ว……” คุณหญิงเจี่ยนตกใจกับเสียงหัวเราะของเจี่ยนถง เธอบอกให้เจี่ยนถงหยุดหัวเราะแต่เธอก็ไม่สนใจ ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ คุณหญิงเจี่ยนหงุดหงิดกับเสียงหัวเราะนี้ สายตาที่หมดความอดทนของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดัง:
“ฉันบอกให้หยุดหัวเราะ!ไม่ได้ยินเหรอ!”
พึ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็หายไป
คุณหญิงเจี่ยนเอามือปิดปาก มองตาของเจี่ยนถงที่มองมาที่ตัวเอง สายตาของคุณหญิงเจี่ยนวอกแวก
“ไม่ใช่……ไม่ใช่……เสี่ยวถง แม่แค่รักหนูมากเกินไป”
เจี่ยนถงไม่พูดไม่จา มองไปที่คุณหญิงเจี่ยนเงียบๆ
และสายตาคู่นั้น มันไม่ได้เฉียบแหลม แต่มันกลับทำให้คุณหญิงเจี่ยนรู้สึกเจ็บปวด
“เสี่ยวถง……” คุณหญิงเจี่ยนสีหน้าซีดเซียว
เจี่ยนถงยืนขึ้นมา ยืนตัวตรง และพ่อบ้านหวังก็เดินเข้ามา เธอโบกมือให้พ่อบ้านหวัง “ไม่เป็นไร ไม่ได้เจอคุณหญิงเจี่ยนนานแล้ว เมื่อกี้คุณหญิงเจี่ยนเล่าเรื่องตลกให้ฉันฟัง”
พ่อบ้านหวังพยักหน้า ไม่พูดไม่จาและเดินกลับไปอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยอีกครั้ง
จากนั้นเจี่ยนถงก็มองไปที่คุณหญิงเจี่ยน เธอยิ้มมุมปาก “คุณเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง มันก็แค่พิสูจน์ว่าฉัน——เจี่ยนถง คือฆาตกรที่ชั่วร้าย”
“ไม่ใช่แบบนั้น แม่เชื่อหนู เสี่ยวถง พ่อของหนูและแม่เชื่อว่าหนูคือผู้บริสุทธิ์ ตอนนั้นเพราะว่าไม่มีหลักฐาน แม่กับพ่อของหนูก็กลัวอำนาจของประธานเสิ่น เราเลยไม่กล้ายืนขึ้นมาต่อต้านประธานเสิ่น
แต่ตอนนี้ประธานเสิ่นดีกับหนูขนาดนี้ หนูก็กลายเป็นภรรยาของประธานเสิ่นแล้ว และไอ้สารเลวที่ก่อเรื่องพวกนั้นก็โผล่อยู่ที่เมืองSอีกครั้ง แค่เราหาตัวไอ้สารเลวพวกนั้นเจอ เราก็จะรู้ความจริง คืนความยุติธรรมให้หนูได้อย่างแน่นอน”
เจี่ยนถงอยากจะหัวเราะดังๆต่อ……คุณหญิงเจี่ยนพูดอะไร? บอกว่าพวกเขาเชื่อว่าเจี่ยนถงเป็นผู้บริสุทธิ์? แต่แค่ตอนนั้นไม่มีหลักฐาน?
เธอส่ายหน้า เธอคิดว่าหัวเราะดังออกมาก็แค่ขจัดความโมโหและความผิดหวังในใจของเธอตอนนี้เท่านั้น
“คุณหญิงเจี่ยน ที่นี่ลมแรง ฉันง่วงแล้ว”
เธอพูดพร้อมกับหันหลังเดินออกไป
คุณหญิงเจี่ยนรีบจับแขนของเจี่ยนถงมาจากด้านหลัง “เดี๋ยวก่อน เสี่ยวถง!”
เจี่ยนถงไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกคุณหญิงเจี่ยนจับแขนเธอจึงหันหน้ากลับไปมอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในสายตาก็เขียนไว้ชัดเจนว่า“มีเรื่องอะไรอีก?”
คุณหญิงเจี่ยนจับมือเจี่ยนถงไว้แน่น สายตาของเธอนุ่มนวล เธออ้อนวอนด้วยความรู้สึกผิด “เสี่ยวถง ครั้งนี้พวกเราอยากจะช่วยหนูจริงๆ แม่กับพ่อของหนูรู้สึกผิดจริงๆ
ตอนนั้นช่วยอะไรหนูไม่ได้ ทำให้หนูต้องลำบากขนาดนั้น
เดิมทีหนูเป็นลูกสาว เป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลเจี่ยน แต่กลับถูกรังแกในสถานที่แบบนั้น
พ่อของหนูรักในศักดิ์ศรี หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับหนูเขาก็กลายเป็นตัวตลกของเซี่ยงไฮ้ ดังนั้น หลังจากเกิดเรื่องขึ้น เขาถึงได้……โหดร้ายกับหนูแบบนั้น
แต่ในใจของเขาก็รู้สึกผิด อยากจะชดเชยให้หนูตลอด
ครั้งนี้พระเจ้าสงสารความรักของเขาที่มีต่อลูกสาว ในที่สุดก็ให้โอกาสเขา
เสี่ยวถง หนู……เชื่อใจพวกเราสักครั้งได้ไหม”
เบ้าตาของคุณหญิงเจี่ยนเปียกชื้น เธอจับมือเจี่ยนถงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย กลัวว่าปล่อยมือแล้วเธอจะวิ่งหนีไป
เจี่ยนถงมองไปที่คุณหญิงเจี่ยนอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้ซาบซึ้งอะไร
เธอไม่เชื่อว่าสามีภรรยาคู่นี้จะรู้สึกผิดต่อเธอ จะสงสารเธอ คำพูดที่ไม่ว่าจะแสนหวานแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าช่วงเวลาสามปีที่เหมือนตายทั้งเป็น ช่วงเวลาที่เธอใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับหมา มันล้วนแต่เป็นเรื่องที่เหลวไหลและน่าขำ
แต่ว่า หากมีโอกาสที่จะสืบหาความจริงตอนนั้น สามารถเอาเรื่องจริงออกมาเปิดเผย สามารถทำให้เธอหลุดพ้นจากการเป็นนักโทษ และสามารถคืนความยุติธรรมให้กับเธอได้!
เธอกะพริบตา “คุณหญิงเจี่ยน คุณจะช่วยฉันยังไง?”
รอบตัวเธอตอนนี้ เธอไม่มีอะไรให้เสียแล้ว!
ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว……