“ได้สิ ก็เรียกคุณเซียวมาสิ เขามาแล้วก็ให้เขาดูเพื่อซี้ที่เขาพูดถึงเนี่ย ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเขาเลย”
เจี่ยนถงอยากจะหัวเราะ ผู้ชายคนนี้ เอาอะไรมาคิดว่าความคิดของเขาก็คือความคิดของตัวเอง และเอาอะไรมาคิดว่าเธอไม่อยากบอกทุกอย่างให้เซียวเหิงรู้
ออ…สงสัยในสายตาของผู้ชายคนนี้ ตัวเองเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย!
“แก…” สายตาของคาย์อันเปลี่ยนแล้ว กลายเป็นยิ่งรังเกียจกว่าเดิม “แกนี่ทุเรศจริงๆ แกบอกว่ากูไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเซียวเหิง ตอนที่แกพูดประโยคนี้ออกมา ก็บ่งบอกถึงแกไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเซียวเหิงเลย เสียดายความจริงใจของเซียวเหิงที่มีต่อแก ฝากไว้ให้ผิดไปแล้วจริงๆ”
ในใจเจี่ยนถงพูดว่า ใช่แล้ว ฝากไว้ให้ผิดไปแล้ว
“ฉันเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ คุณคาย์อัน”
คาย์อันคาดคิดไม่ถึง เจี่ยนถงจะยอมรับโดยที่ไม่ปิดบังอะไรเลยแบบนี้!
ในใจโมโหสุดๆ! รู้สึกไม่คุ้นแทนเซียวเหิง!
“แกอย่าดีใจเกินไปเลย! กูจะให้เขาเห็นว่าแกเป็นผู้หญิงแบบไหนแน่นอน! ผู้หญิงอย่างแก ก็เหมือนกับเนื้อหงอกมีพิษ กูไม่ยอมให้เนื้อหงอกมีพิษอย่างแกแบบนี้อยู่ข้างเพื่อนกูและทำร้ายเขาหรอก!”
พูดจบ ปล่อยมือออก
……
เจี่ยนถงและคาย์อันแทบจะกลับมาห้องส่วนตัวพร้อมกัน
ลูกตาของเซียวเหิงเปลี่ยนไป คาย์อันเพิ่งนั่งลง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอตาอันลึกซึ้งของเซียวเหิง
“ตัวแกไม่มีกลิ่นบุหรี่” ริมฝีปากบางดิ้นเล็กน้อย เซียวเหิงมองคาย์อันอยู่ตรงข้ามอย่างเย็นชา
บอกว่าไปสูบบุหรี่ บนตัวกลับไม่มีกลิ่นบุหรี่สักนิดเลย แล้วยังกลับมาห้องส่วนตัวแทบจะพร้อมกับเจี่ยนถง บวกกับคำพูดเหล่านั้นที่หาเรื่องเจี่ยนถงก่อนหน้านี้ เซียวเหิงย้อนกลับไปคิดอีก ก่อนหน้านี้คาย์อันก็ออกไปจากห้องส่วนตัวตามหลังเจี่ยนถงเหมือนกันด้วย
ทันใดนั้น สีหน้ายิ่งเย็นชากว่าเดิม
ลู่เชนอยู่ข้างๆ มือที่ถือแก้วกาแฟอยู่นิ่งงันตรงริมฝีปาก
“ฉันไปทักทายคุณเจี่ยนแล้ว ไหนๆ เราก็รู้จักกันที่ตงหวง ก็ถือว่าเป็นคนรู้จักกัน ไม่ใช่เหรอ”
เซียวเหิงเหล่ตาลง “ฉันรู้ว่าเธอทำงานที่ตงหวง แกไม่ต้องทำตัวแปลกๆ”
คาย์อันเกือบโมโหจนหัวเราะออกมา นิ้วมือเรียวยาวควักกล่องบุหรี่ออกมา จุดบุหนี่หนึ่งม้วน แช็กเสียงหนึ่งต่อหน้าเจี่ยนถง สูบคำหนึ่งอ่อนๆ
เซียวเหิงยกคางขึ้นมาอีกนิด หันไปทางคาย์อัน “ทีนี้ไม่ไปสูบบุหรี่ข้างนอกแล้วเหรอ”
เมื่อกี้ไปทำอะไรเหรอ
เขาว่าแล้ว คนอย่างคาย์อันเคยสนใจความคิดเห็นของคนอื่นสักที่ไหน
ลู่เชนเห็นว่าแปลกๆ ลุกขึ้นมาทันที “ฉันนึกได้แล้ว ฉันยังมีเรื่องต้องทำ เมื่อกี้ฉันดื่มเหล้าแล้วนิดหน่อย คาย์อัน แกไปส่งฉันหน่อย”
ดึงคาย์อันขึ้นมาก็จากไปโดยที่ไม่ให้โอกาสพูดอะไรอีก “คุณเจี่ยน ไว้เจอกันคราวหน้า”
คนไปแล้ว เซียวเหิงหันหลัง ดูเจี่ยนถงตั้งแต่หัวจรดเท้า “เมื่อกี้แกทำอะไรคุณ”
“ไม่มี”
“แล้วแกพูดอะไรกับคุณเหรอ”
“ก็แค่ทักทายคำหนึ่งเฉยๆ”
เซียวเหิงขมวดคิ้วมองเธอ เห็นได้ว่าไม่เชื่อคำพูดหลอกผีนี้
เจี่ยนถงก็ไม่อธิบายอะไรมาก แล้วแค่เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
“เรื่องช่วงนี้ของผมยุ่งยากหน่อย แค่สถานการณ์เปลี่ยนดีขึ้นมาเล็กน้อยเอง เสี่ยวถง รอผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็สามารถพาคุณออกมาจากตงหวงแล้ว”
ออกจากตงหวง? …มีชั่วขณะหนึ่ง เธอรู้สึกดีใจมาก
แต่ว่า ถ้าออกจากตงหวงง่ายขนาดนั้นจริงๆ เธอก็ออกมาตั้งนานแล้ว
ถ้าเสิ่นซิวจิ่นไม่ยอมปล่อยเธอไป ถึงแม้เธอจะออกไปจากตงหวง คนนั้น ก็สามารถหาเธอให้เจอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบัตรประชาชนที่เป็นใบเดียวที่สามารถพิสูจน์ตัวตนของตัวเองได้ยังอยู่ในมือของเขาอยู่เลย ถ้าออกไปตอนนี้ เธอไม่มีบัตรประชาชน ก็เท่ากับไม่สามารถไปไหนได้เลย
……
หลังจากคาย์อันจากไป ไม่ได้กลับบ้านก่อน นัดคุณหนูคนหนึ่งเจอกันที่ร้านกาแฟ พูดอะไรสักอย่าง ตอนที่จากกัน คุณหนูคนนั้นยังพยักหน้าไม่หยุดพูดว่า “ไว้ใจได้เลย ฉันจะช่วยคุณ ทำให้เพื่อนของคุณเห็นตัวจริงของผู้หญิงคนนั้นแน่นอน
แต่ว่า ที่คุณตกลงกับฉัน…อืม หนึ่งคืน อย่าลืมนะ”
คาย์อันยิ้มเยาะคำหนึ่ง แนบชิดติดกับใบหูของคุณหนูคนนี้อย่างยั่วยวน “แน่นอนสิ คนสวยอย่างคุณเว่ย ผมจะเทนัดได้ยังไงล่ะ”
เสียงทุ้มต่ำ บวกกับใบหน้าที่ผู้หญิงเจอแล้วก็จะถูกสะกดจิตของคาย์อันใบนั้น คุณเว่ยคนนี้หลงใหลกับสิ่งนี้มากจนไม่อยากจะจากไป “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงกันแล้วนะ ฉันจะลงมือคืนพรุ่งนี้ พอถึงเวลา คุณก็ต้องมานะ เดี๋ยวใครบางคนจะได้ไม่มาบอกว่าฉันทำงานไม่ดี”
“เป็นไปได้ไง คุณเว่ยงดงามร่ำลือกันทั่วทั้งเมือง ความสามารถยอดเยี่ยม ผมเชื่อใจความสามารถในการทำงานของคุณเว่ยแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…ล้มเหลวแล้ว สาวสวยอย่างคุณเว่ย ผมก็ไม่พลาดอยู่แล้ว”
แกล้งจนคุณเว่ยดีใจสุดๆ
“เช่นนั้น ยินดีล่วงหน้าให้กับคุณเว่ยที่สำเร็จนะ” พูดอยู่ วินาทีที่หันหลังจากไป ในลูกตาสีน้ำตาลของคาย์อันมีความรังเกียจลอยผ่าน ไม่ยอมอยู่ต่ออีก รีบจากไปทันที
……
กลางคืน
เซียวเหิงไม่เคยบอกเจี่ยนถง ทำไมถึงให้เธอลา
“คุณเซียวให้ฉันลา ก็เพราะจะพาฉันมานั่งชิงช้าสวรรค์เหรอ” เจี่ยนถงดูชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไป ผมเคยสัญญากับคุณ จะพาคุณมานั่งชิงช้าสวรรค์”
มือของเซียวเหิงยื่นมา เจี่ยนถงกลับถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างระวังตัว
“เสี่ยวถง?” หรือว่าเธอไม่อยากนั่งชิงช้าสวรรค์เหรอ
เจี่ยนถงมองเซียวเหิงอย่างระมัดระวัง “คุณเซียว…ขอโทษ”
ขอโทษ ที่ฉันเหลือให้คุณมีแค่ “ขอโทษ” คำเดียว
เซียวเหิงอึ้งอยู่กับที่ ผ่านไปสักพัก บนใบหน้าเคร่งขรึมมีรอยยิ้มโผล่ออกมา “ไม่เป็นไร วันนี้ไม่ได้นั่ง สักวันเราต้องไปนั่งชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน” คำพูดนี้ มีอีกความหมายแอบแฝงอยู่
เจี่ยนถงเงียบ เงยหัวขึ้นมองท้องฟ้า จากนั้นจึงพูดว่า “คุณเซียว ฉันเหนื่อยแล้ว คุณส่งฉันกลับไปหอเถอะ”
พอได้ยิน เซียวเหิงมองเจี่ยนถงแวบหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ในที่สุด เสียงอันมีเสน่ห์ดังขึ้นมา “ได้”
รอมาถึงข้างล่างหอของเจี่ยนถง
“ฉันมีเรื่องอยากบอกคุณเซียว คุณเซียว ฉันไม่ชอบ…” ฉันไม่ชอบคุณ
“รอแป๊บหนึ่งนะ!” ผู้ชายที่อยู่ตรงเบาะคนขับ จู่ๆ ก็บอกให้หยุด “ผมมีสายโทรเข้ามา เจี่ยนถง คุณลงรถก่อน”
“คุณเซียว ทำไมคุณไม่ยอมฟังฉันพูดให้จบก่อน” สายตาของเจี่ยนถง ตกอยู่ที่หน้าของเซียวเหิง เธอเคยได้ยินเสียงเรียกเข้ามือถือของเขาหลายครั้งมากแล้ว แต่เมื่อกี้นี้ไม่มีวี่แววอะไรเลย เขากลับโกหกว่ามีสายโทรเข้ามา–นอกจากว่าเขาไม่อยากให้เธอพูดจบ เธอหาเหตุผลอย่างอื่นไม่ได้อีกแล้ว
“เจี่ยนถง ลงรถเถอะ ช่วงนี้เรื่องที่บ้านและเรื่องที่บริษัทมีเยอะมาก ยุ่งเหยิงมากเลย” เขาพูดอยู่ กลับเห็นหน้าตาดื้อรั้นของเจี่ยนถง พอใจอ่อน สีหน้าก็อ่อนลงตามแล้ว “เสี่ยวถง ถ้ามีเรื่องอะไร รอผมจัดการเรื่องที่อยู่ในมือเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อนค่อยพูดได้ไหม…ไม่ต้องรีบตอนนี้…ได้ไหม”
แววตาที่เขามองเธอนี้ เหมือนเป็นการขอร้องนิดหน่อย หัวใจของเจี่ยนถงสั่นทีหนึ่ง สติบอกตัวเองว่าควรพูดให้ชัดเจน ณ ตอนนี้ แต่…เธอมองไปที่ความเหนื่อยล้าและการขอร้องในตาของชายหนุ่มคนนี้อีกครั้ง คำพูดที่เตรียมไว้ตั้งนานเหล่านั้น วินาทีนี้กลับยังไงก็พูดไม่ออกอยู่ดี
ถอนหายใจเบาๆ เธอไม่ได้พูดอะไรเลย ลงจากรถอย่างไร้คำพูด
วันถัดมา
ระหว่างทางที่เจี่ยนถงไปทำงานตอนกลางคืน จู่ๆ ก็มีรถกี่คันขับผ่านเธอ และยังจอดลงตรงที่อยู่ใกล้เธอไม่ถึงเจ็ด แปดเมตร
ท่ามกลางเสียงเบรก เจี่ยนถงค่อยๆ จ้องตาโตขึ้นมา มองใบหน้าอันคุ้นเคยลงมาจากรถทีละคนๆ
“เอ๋ นี่มันเจี่ยนถงไม่ใช่เหรอ” ผู้หญิงที่เดินนำ การแต่งหน้างดงามและละเอียดอ่อน ใส่รองเท้าส้นสูงเข้าใกล้เจี่ยนถง สีหน้าตกใจ “เป็นเจี่ยนถงที่โด่งดังในหาดเซี่ยงไฮ้เมื่อตอนนั้นจริงๆ นะเนี่ย แต่ว่า” ผู้หญิงคนนี้พับจมูก “ทำไมแกกลายเป็นหน้าตาแบบนี้ไปแล้วอ่า ฉันยังจำความสวยงามในตอนนั้นของแกได้อยู่นะ”
เจี่ยนถงรู้จักผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าคนนี้แน่นอนอยู่แล้ว–เว่ยซือซาน
รอบข้างใบหน้าที่คุ้นเคยเข้ามารวมตัวกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“เอ๋ๆ นี่มันเจี่ยนถงจริงๆ เลยนะเนี่ย! เมื่อกี้แกบอกว่านี่คือเจี่ยนถง ฉันยังไม่เชื่อเลย ตอนนี้ดูดีๆ แล้ว ใช่เจี่ยนถงจริงๆ เลย”
“แต่ว่าเจี่ยนถง…ทำไมแกถึงกลายเป็นหน้าตาแบบนี้เหรอ”
“ใช่สิ พี่เจี่ยนถง”
“ยังเรียกพี่อยู่เหรอ แกไม่อายเหรอที่มี ‘พี่สาว’ เคยติดคุกอ่ะ” เว่ยซือซานพูดเยาะเย้ย เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง รีบทำหน้าใส่ใจถามเจี่ยนถง “เจี่ยนถง แกออกมาจากคุกตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ออกมายังไงอ่ะ ทำไมไม่บอกพวกเราสักคำเลย อย่างน้อยๆ เมื่อก่อนก็เคยเล่นด้วยกัน ออกมาแล้วก็บอกพวกเราหน่อยสิ พวกเราจะได้รับขวัญให้แก”
สีหน้าของเจี่ยนถงซีดขาวลงเรื่อยๆ…เรื่องแบบนี้ ยังจะรับขวัญอยู่เหรอ เธอเงยหน้าขึ้น กวาดสายตาไปที่เว่ยซือซาน เธอจงใจอยากให้ตัวเองเสียหน้า อยากให้ตัวเองอายชัดๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงวันนี้ก็เจอกันแล้ว อย่างนั้นก็จัดงานเลี้ยงรับขวัญย้อนหลังให้วันนี้เลย” เว่ยซือซานพูดอยู่ โอบไหล่เจี่ยนถงไปด้วย “ไป เจี่ยนถง วันนี้พวกเราก็เตรียมงานเลี้ยงรับขวัญให้แก ไปๆๆ”
“ฉันไม่ไป!” เจี่ยนถงผนึกแนบอยู่กับที่ ไม่ยอมไปกับเว่ยซือซานพวกเธอ
“แบบนี้มันได้ที่ไหนเล่า แกไม่ไปได้ยังไง นี่คืองานเลี้ยงรับขวัญที่เตรียมให้แกโดยเฉพาะเลยนะ ไม่มีนางเอก เป็นไปได้ยังไง”
เว่ยซือซานพูดอีก ดึงเจี่ยนถงไปด้วย ยัดเธอเข้าไปในเบาะหลังรถของเธอ “เจี่ยนถง นี่แกทำแบบนี้คือไม่ให้หน้าพวกเราพี่น้องนะ”
จากนั้นพูดอยู่ก็ควักมือถือออกมา “ถ้าแกไม่ให้หน้าพวกเราพี่น้อง ฉันจะปล่อยคลิปนี้ออกไปแล้วนะ”
พูดอยู่ ก็ถือมือถือไปที่ข้างหน้าเจี่ยนถง
ทันใดนั้น!
เจี่ยนถงจ้องตาโตขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ “แกมีได้ไง! ทำไมแกถึงมีอันนี้! ทำไมแกถึงมีคลิปนี้!” ใบหน้าเธอไม่มีสีของเลือดเลย “เอามาให้ฉัน! เอามาให้ฉัน!”
มือถือในมือของเว่ยซือซานโยนไปที่มืออีกคน “อยากแย่งเหรอ แย่งสิ แย่งอันนี้ไป ฉันยังมีสำรองอยู่” พูดอยู่ก็เอาสองมือกอดอกพร้อมกับยิ้มเยาะ ดูเจี่ยนถงขายหน้าชัดๆ “ก็ถามแกเองสิ จะให้หน้าพวกเราพี่น้องไหม งานเลี้ยงรับขวัญนี้ แกไป หรือไม่ไป”
ไป หรือไม่ไป?
สีหน้าเจี่ยนถงสิ้นหวัง “ฉันไป! แกเอาเอกสารสำรองมาให้ฉัน”
“ส่วนอันนี้เหรอ…ก็ต้องดูแกทำตัวในงานเลี้ยงรับขวัญยังไงแล้ว”
“แก…มีคลิปนี้ได้ยังไง” แต่ละฉากที่ถูกอัปยศในคลิปนี้ ใจของเจี่ยนถงทะลุเป็นรูพรุนตั้งนานแล้ว คลิปนี้เหมือนพาเธอย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้วอีกครั้งหนึ่ง
“เรื่องนี้แกไม่จำเป็นต้องรู้” ความจริงเธอก็ได้มาโดยบังเอิญเหมือนกัน
“วันนี้พวกแก ตกลงอยากจะทำอะไร”
เว่ยซือซานหัวเราะพูดว่า “ทำอะไรเหรอ จะทำอะไรเดี๋ยวแกไปถึงก็รู้แล้ว” เธอพูดต่อว่า “ใครให้แกไม่มีดวงร่ำรวย แต่กลับอยากบินบนกิ่งไม้และกลายเป็นนกฟีนิกซ์ล่ะ แกก็อย่ามาโทษฉันนะ ฉันก็ทำตามที่คนอื่นสั่งแค่นั้นเอง”
“ทำตามที่คนอื่นสั่ง…เขาเป็นใคร”