บทที่ 4 บังเอิญเจอลักลอบพลอดรัก
เจี่ยนถงได้ทำงานในตงหวงเป็นเวลาสามเดือนแล้ว
เมื่อยามราตรีมาถึง เมืองศิวิไลซ์ที่รุ่งเรืองจนมากเกินไปนี้ ว่ายวนในแสงสียามราตรี ไฟนีออนสว่างไสวจิตใจผู้คน เจี่ยนถงเพิ่งทำความสะอาดเศษอาเจียนของหญิงสาวที่เมาเหล้าคนหนึ่ง แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะเชื่องช้า แต่มือเท้าก็ยังคงคล่องแคล่ว จุดกำยานอีกครั้ง และวางไว้ที่มุมห้อง
ไม้ถูพื้นในมือถูผ่านช่องสุขาแต่ละช่อง มาถึงช่องสุดท้าย ที่นี่ เป็นที่สำหรับเก็บเครื่องมือทำความสะอาด และเป็นที่พักชั่วคราว เมื่อเธอว่างจากการทำงาน
ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
พนักงานเสิร์ฟที่จับเธอมา ได้วิ่งหนีหายตัวไปตั้งนานแล้ว เจี่ยนถง ก็ไม่ได้สนใจ จัดเก็บไม้ถูพื้นและถังน้ำให้เรียบร้อย เธอก็นั่งในช่องกั้นแล้วเหม่อลอย
เจี่ยนถงทุกอย่างเป็นคำสั่งของคุณเสิ่น
เจี่ยนถง เธอไม่ได้เป็นอะไรอีกต่อไปแล้ว วงศ์ตระกูลที่น่าภาคภูมิใจไม่มีแล้ว ความสวยงามที่น่าหลงใหลไม่มีแล้ว การศึกษาที่โดดเด่นไม่มีแล้ว ตอนนี้เธอเป็นเพียงนักโทษคนหนึ่งเท่านั้น!
เจี่ยนถง เชื่อฟังทำตามคำสั่งอย่างสงบเสงี่ยม อย่าต่อต้านพวกเรา คุณเสิ่นได้สั่งให้กับพวกเรา จะต้อง “ดูแล” เธอให้ดี
เจี่ยนถง เธอมันนักโทษที่เคยติดคุก จะมีไตสองอันไปทำไม? เอาออกมาอันหนึ่ง ยังสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ ชดใช้ความผิดให้กับผู้บริสุทธิ์ที่โดนเธอฆ่าตัวพอดี
เจี่ยนถง……ยอมแพ้เถอะ อย่าดิ้นรนเลย……
เสียงเหล่านั้นเหมือนคำสาป ใบหน้าพวกนั้น น่าเกลียดน่ากลัว สยดสยองยิ่งนัก ต่อให้ เจี่ยนถงจะขับไล่ยังไง ก็ยังไม่สามารถขับไล่ออกไปได้
“เจี่ยนถง ออกมา ห้อง VIP 606 ชั้นหก” ประตูห้องถูกคนเปิดออกจากด้านนอกกะทันหัน ขมวดคิ้วมุ่นเร่งให้ เจี่ยนถงรีบหน่อย “”เร็วๆ หน่อย เอ้อระเหยลอยชาย นางแบบชั้นนำในนี้ ยังไม่ได้วางมาดเหมือนเธอ”
เจี่ยนถงโดยปกติแล้วจะเป็นคนเงียบขรึมพูดน้อย ให้เธอทำอะไร เธอก็ทำอย่างนั้น ต่อให้จงใจรังแกเธอ เธอก็ไม่เคยที่จะตอบโต้เถียงกลับเลย นี่คือความลับที่เปิดเผย ที่ทุกคนในนี้รู้กันหมดแล้ว ถ้าใครอารมณ์ไม่ดี ล้วนสามารถมาหา เจี่ยนถง “ปลดปล่อย” อารมณ์เสีย
“ในห้องส่วนตัว คือสาวนั่งดริ้งก์เป็นผู้รับผิดชอบ” เจี่ยนถง เพียงพูดตามความจริง แต่ประโยคนี้ เมื่อพนักงานเสิร์ฟได้ยินเข้า ก็คือ “ต่อต้าน” ชัดๆ สีหน้าเคร่งในทันที กอดอกไว้ “ลูกค้าอาเจียน เธอจะให้พี่ลู่น่า ไปทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนั้นเหรอ?”
พี่ลู่น่าทำเรื่องน่าขยะแขยงไม่ได้ แต่เจี่ยนถงทำได้ พนักงานเสิร์ฟไม่สนใจเลย ว่าคำพูดนี้จะทำให้เจี่ยนถงบาดเจ็บหรือไม่
เป็นไปตามคาด
เจี่ยนถงไม่ได้ปฏิเสธ พูดคำว่า “อืม” ท่าทางซื่อบื้อนั่น ทำให้พนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้างๆ ในใจยิ่งดูถูกเธอมากมากขึ้น
เจี่ยนถงก้มหน้าลง เดินตามหลังพนักงานเสิร์ฟคนนั้น เข้าไปในลิฟต์ ทันใดนั้น ก็ถูกคนผลักออกจากลิฟต์ เจี่ยนถงไม่เข้าใจ พนักงานเสิร์ฟคนนั้น ชำเลืองมอง เจี่ยนถง ด้วยท่าทางรังเกียจยิ่งนัก “ทำอะไร? เธอเดินบันไดหนีไฟขึ้นไป ก็ไม่สูง แค่หกชั้นเอง” พนักงานเสิร์ฟคนนั้น ชำเลืองมองเจี่ยนถงอย่างดูถูก “ลดน้ำหนักหน่อย”
อันที่จริงเจี่ยนถงไม่อ้วน ไม่เพียงแต่ไม่อ้วน ยังผอมจนผิดปกติ แต่ทุกวันที่เธอมาทำงาน บนตัวถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าหนาๆหลายชั้น ทำให้เธอดูแล้วเกะกะยุ่งยาก
เห็นได้ชัดว่าจงใจหาเรื่อง เจี่ยนถง ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ก็ต้องทะเลาะกันแน่ แต่คนคนนี้คือ เจี่ยนถง พนักงานเสิร์ฟมั่นใจมาก การทะเลาะครั้งนี้ จะไม่เกิดขึ้น
เป็นไปตามคาด เห็นว่าเจี่ยนถง ไปขึ้นบันไดอย่างเชื่อฟังแล้ว ตอนที่ ประตูลิฟต์ปิดลง พนักงานเสิร์ฟเบะปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ไม่มีประโยชน์จริงๆ
ในบันไดช่วงเย็น เงียบสงบจนเหลือเพียงเสียงรอยเท้าของ เจี่ยนถง เท่านั้น
นี่คือทางช่องทางปลอดภัย คือบันไดหนีไฟ โดยทั่วไปแล้วจะไม่เดินที่นี่ จะนั่งลิฟต์ขึ้นลงทั้งนั้น
แสงสลัวเหลืองนวลคลุมเครือ ที่นี่นอกจากจะหลบหนีเมื่อจำเป็นแล้ว ยังใช้ประโยชน์ได้อีกอย่างหนึ่ง ลักลอบพลอดรัก
เจี่ยนถงเดินอย่างเชื่องช้า ปีนขึ้นไปชั้นบนทีละก้าว ตอนที่ขึ้นไปถึงชั้นห้าครึ่ง เธอหมดแรงเล็กน้อย เลยหยุดบนบันไดครึ่งชั้น พักผ่อนสักพัก ข้างหูได้ส่งเสียงครางเบาๆ ราวกับกำลังหอบ…… ในใจ เจี่ยนถง “สะดุด” ชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นมอง ที่มุมโค้ง ชายคนหนึ่งกดผู้หญิงคนหนึ่งจูบที่บันได ท่าทางนั้นเร้าใจและคลุมเครือ
จากมุมมองของเธอ เห็นด้านหลังของหญิงสาว และใบหน้าครึ่งหนึ่งของผู้ชายคนนั้น
แอบพูดพึมพำว่าโชคร้าย ได้บังเอิญพบกับการลักลอบพลอดรักจริงๆด้วย กำลังจะถอยกลับ ดวงตาที่ปิดสนิทของชายหนุ่มคนนั้น ก็ลืมขึ้นทันที กำลังจ้องมองเธอด้วยเสน่ห์ที่ชั่วร้าย
หัวใจของเจี่ยนถงเต้นระรัวเสมือนตีกลอง กะพริบตาถี่ๆจ้องมองไปที่ชายคนนั้น ชายคนนั้นสังเกตเห็นสายตาของเธอ แล้วยิ่งจับหลังศีรษะของหญิงสาวที่ไม่รู้จักชื่อไว้ จูบผู้หญิงด้วยท่าทางคลุมเครืออ่อนโยน ดวงตาสีดำสนิทของใบหน้าด้านข้าง เจิดจ้ายิ่งกว่าดวงดาว กำลังจ้องมองตัวเองอย่างหยอกเย้า
เจี่ยนถงสั่นสะท้านในหัวใจ ก้มหน้าลง ยกเท้าขึ้นหันกลับแล้วจะลงบันไดทันที
“หยุด”เจี่ยนถงได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง หนังศีรษะขนลุก…… เธอไม่อยากสร้างปัญหา แต่ว่าคนในโลกแห่งอำนาจเงินทองพวกนี้ จะทำอะไรได้บ้าง เธอไม่แน่ใจ
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอหันกลับมา โค้งคำนับด้วยความเคารพ “สวัสดี คุณผู้ชาย รบกวนความสนุกของคุณ ต้องขอโทษจริงๆ” เจี่ยนถงพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่ประตูหนีไฟชั้นหก แล้วพูดว่า “ฉันเป็นพนักงานทำความสะอาด ที่ถูกเรียกให้ไปทำความสะอาดในห้อง 606 ทั้งหมดเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ รบกวนถึงความสนุกของคุณผู้ชาย ได้โปรดคุณผู้ชายยกโทษให้ด้วย”
ชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะได้ยินเรื่องที่แปลกใหม่ และไม่ได้ตกใจสะดุ้งกับเสียงที่หยาบกร้านของเธอเลย “เธอเป็นพนักงานทำความสะอาด อายุน้อยขนาดนี้?” ดวงตาเสน่ห์ชั่วร้ายคู่หนึ่ง มอง เจี่ยนถง พิจารณาหัวจรดเท้า “เธอจะไปห้องส่วนตัว 606 ?” เจี่ยนถง กำลังจะตอบว่า “ใช่” อีกฝ่ายก็โบกมือให้เธอ “มาสิ ฉันพาเธอไป”
ห๊า?…… เจี่ยนถงมองชายหนุ่มคนนี้อย่างมึนงง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยกเท้าตามไป
หญิงสาวที่อยู่กับชายหนุ่มคนนั้น เจี่ยนถงรู้จัด เป็นนางแบบสาวหน้าใหม่ ชื่อในวงการเรียกว่าเจินเจิน เจินเจิน เห็นว่าชายคนนั้นเดินเข้าไปในประตูหนีไฟ ก็ตามไปด้วย
ชายคนนั้นหยุดกะทันหัน หันกลับไปพูดกับเจินเจิน “ฉันบอกว่าจะพาเธอไป แต่ไม่ได้บอกว่าจะพาคุณไปด้วย คุณไม่ต้องตามไปแล้ว”
เจินเจินพูดกับชายคนนั้นอย่างออดอ้อน “คุณชายเซียว คุณไม่รักเค้าสักนิดเลย……” ขณะที่พูดอยู่ “ฉึก” เช็คใบหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ ชายคนที่ถูกเรียกว่า “คุณชายเซียว” ยิ้มหรี่ตาแล้วพูดว่า “ตอนนี้ไปได้หรือยัง?” ดวงตาของ เจินเจินสว่างขึ้นทันที แม้แต่เสียงออดอ้อนที่รุนแรงก็หายไปแล้ว หยิบเช็คแล้วหัวเราะกล่าวขอบคุณ
เจี่ยนถงมองเห็นได้อย่างชัดเจน คุณชายเซียวคนนี้ ดูเหมือนจะยิ้มยื่นเช็คให้ แต่รอยยิ้มในดวงตาคู่นั้น เป็นการหัวเราะเยาะอย่างดูหมิ่นชัดๆ ราวกับว่ารับรู้ถึงสายตาของเจี่ยนถง คุณชายเซียวยกเปลือกตาขึ้นในทันใด ดวงตาคู่นั้นมีเสน่ห์เย้ายวนไร้ที่ติ จ้องมองบนตัวเธอ “ทำไม? หลงรักฉันแล้ว?”
“ห๊า?”
คุณชายเซียวมีพลังความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้บีบเข้าใกล้ เจี่ยนถงแล้ว เจี่ยนถงเองก็ไม่สูงมากอยู่แล้ว ทันทีที่ คุณชายเซียว ขยับเข้าใกล้เธอ ก็ทำให้เธอดูเตี้ยลงอีก
คุณชายเซียวหรี่ตาที่มีความลุ่มหลงชั่วร้าย ก้มสายตา ก็เห็นหัวสีดำตรงหน้าอกของเขา ทันใดนั้นก็โน้มตัวลง แนบหูของเธอไว้ “รักฉันแล้วจริงๆเหรอ? คือตกหลุมรักฉัน หรือตกหลุมรักเงินของฉัน?”
เจี่ยนถงรู้สึกเพียงว่า ลมหายใจอุ่นๆ พ่นในหูของเธอ ทันใดนั้น หูก็แดงทั้งใบ! โดยสัญชาตญาณ เธอก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว แต่ลืมไปว่าขาและเท้าของเธอ เคยได้รับบาดเจ็บ ถอยรวดเร็วและรีบร้อนเกินไป ใต้เท้าเดินสะดุดโซเซ ยืนไม่มั่งคง เธอได้เตรียมใจพร้อมที่จะล้มแล้ว
ตรงเอวมือใหญ่ข้างหนึ่ง ปรากฏกะทันหัน กอดเธอไว้ทันเวลา
…………….