“พี่ใหญ่ ที่ว่าเย่เทียนเฉินเป็นคนฆ่าเสี่ยวหาวรึเปล่า เรื่องนี้ไม่กล้ายืนยัน แต่เจ้าหมอนี่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ…” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
“เย่เทียนนเฉิน? ไอ้ตัวตลกแห่งเมืองหลวง ไอ้ลูกหลานไม่เอาไหน ไอ้เศษสวะ มันบังอาจมาลองดีกับฉันเฉินหู่ ฉันจะเอามันให้ตาย” เฉินหู่ใช้หมัดทุบจอแอลซีดีเบื้องหน้า
“พี่ใหญ่ ผมว่าเรื่องนี้เรายังต้องปรึกษากันก่อน ลูกน้องที่มีความสามารถสามสิบกว่าคน และก็ห้าวจื่อ แค่ฝีมือของห้าวจื่อก็ไม่อ่อนไปกว่าพวกเราแล้ว แต่มันกลับโต้ตอบไม่ได้เลยสักนิด ไม่ว่าเย่เทียนเฉินจะเป็นคนทำหรือไม่ ก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญ ยังไงซะตระกูลเย่ก็เป็นตระกูลชั้นสามของเมืองหลวง หากฆ่าเย่เทียนเฉินไปจริงๆ จะต้องมีผลกระทบไม่มากก็น้อย” ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งกล่าวด้วยความกังวล
เฉินหู่ขมวดคิ้ว ลูกชายถูกคนฆ่าตายไปแล้ว ตายอย่างอนาถ ในใจของเขาโกรธถึงขีดสุด ไม่ว่าคนที่ฆ่าลูกชายของเขาจะเป็นใคร เขาจะต้องแก้แค้นคนๆ นั้นให้ได้ ต่อให้เป็นตระกูลเย่เขาก็จะทำ เนื่องจากเฉินหู่เองก็ใช่ว่าไม่มีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
หากว่ากันตามปกติ เฉินหู่เป็นเพียงงูเจ้าถิ่นในเขตใต้ของเมืองหลวง ต่อให้ตระกูลเย่ตกต่ำลง แต่อย่างไรอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า เฉินหู่ไม่สามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน แต่ว่าฟังจากน้ำเสียงของเฉินหู่ กลับไม่เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นเย่เทียนเฉินที่เป็นคนฆ่าลูกชายของเขาจริงๆ เขาเฉินหู่ก็กล้าลงมือล้างแค้น
“เฮอะ ตระกูลเย่ตกต่ำลงตั้งนานแล้ว ต่อให้ไม่ตกต่ำ ฉันฆ่าเย่เทียนเฉิน ตระกูลเย่ก็ไม่กล้าทำอะไรหรอก!” เฉินหู่เอ่ยขึ้นอย่างชั่วร้าย
“พี่ใหญ่ พวกเราควรจะบอกพี่หลี่ไหมครับ หากว่าลงมือกับตระกูลเย่จริงๆ อาจจะเกิดปัญหาก็ได้ บอกให้พี่หลี่ไปทักทายเบื้องบน เพื่อให้เบื้องบนคุ้มครองพวกเรา!”
“ไม่ต้อง ฆ่าก่อนแล้วค่อยรายงานก็ไม่มีปัญหา ที่จริงพี่หลี่ก็เตรียมลงมือกับเย่เทียนเฉินเหมือนกัน เพียงแต่ไม่นึกเลยว่าตระกูลเย่มันจะมาหาเรื่องฉัน สมควรตาย”
แม้ว่าจะกล่าวเช่นนี้ แต่เฉินหู่ก็ได้ไตร่ตรองมาแล้ว เขาเป็นเพียงเจ้าถิ่นในเขตใต้ของเมืองหลวง แน่นอนว่าเหนือเขายังมีพี่ใหญ่อยู่อีก เหนือพี่ใหญ่ก็มีกลุ่มอิทธิพลกลุ่มหนึ่ง เขาตัดสินใจลงมือกับเย่เทียนเฉินก็เพราะ ข้อแรกเขาต้องการแก้แค้นให้ลูกชายสอง ข้อสองเพราะเขารู้ว่าพี่ใหญ่หลี่ของตนก็กำลังคิดหาวิธีจัดการตระกูลเย่อยู่ ถ้าหากว่าตนฆ่าเย่เทียนเฉินและกำจัดตระกูลเย่ได้ ก็จะถือว่าเป็นผลงานชินใหญ่ ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับรางวัลจากบุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดก็เป็นได้
“พี่ใหญ่ บอกมาเถอะ พวกเราจะฟังพี่ จะให้ทำยังไงครับ?”
“ดี การตายของลูกหาวไม่ว่าจะเป็นฝีมือเย่เทียนเฉินหรือไม่ ก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ แค่ไอ้ลูกล้างผลาญ แค่เศษสวะ ฉันเฉินหู่ไม่เห็นอยู่ในสายตา พวกแกสามคนไปที่ตระกูลเย่ ไปฆ่าเย่เทียนเฉินให้ฉันซะ แล้วจับน้องสาวของมันกลับมาให้ฉันด้วย ผู้หญิงที่ลูกชายอยากได้แต่ไม่ได้ ฉันจะช่วยเขาจัดการเอง!” เฉินหู่กล่าวเสียงเข้มอย่างดุร้ายยิ่ง
ชายฉกรรจ์ด้านล่างทั้งสามคน เมื่อได้ยินคำพูดของลูกพี่เฉินหู่ ก็พากันหัวเราะออกมาอย่างชั่วช้าลามก พวกมันรู้ว่าหากครั้งนี้จับเย่เชี่ยนเหวินน้องสาวของเย่เทียนเฉินกลับมาได้ เฉินหู่จะต้องสร้างความอัปยศให้กับเธอแน่ๆ ไม่แน่ว่าพวกมันทั้งสามคนก็อาจจะได้ร่วมดอมดมด้วยก็ได้
แต่ว่าในตอนนี้เอง รอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของเฉินหู่และชายฉกรรจ์ทั้งสามก็แข็งค้าง พวกมันได้ยินเสียงของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ไม่รู้เลยว่าชายคนนี้มาอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไร เป็นไปได้มากว่าจะได้ยินคำสนทนาของพวกเขาทั้งหมด
“ไม่ต้องไปที่ตระกูลเย่หรอก เพราะพวกแกจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้อีกแล้ว!”
“ใคร?” เฉินหู่ตกใจ ขมวดคิ้วพลางกล่าวถาม
อันธพาลทั้งสามคนที่เหลือต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน มองไปยังมุมมืดของห้องอย่างระแวดระวังในทันที แล้วพบว่าที่ตรงนั้นมีเงาของคนๆ หนึ่งอยู่ เห็นได้อย่างลางๆ ว่ากำลังพิงอยู่ตรงมุมกำแพง คาบบุหรี่มวนหนึ่งอยู่ในปาก เดินออกมาทางพวกมันอย่างสบายอารมณ์
“เพราะเรื่องชั่วๆ ที่พวกแกสองพ่อลูกทำมีเยอะเกินไป ท่านพญายมเลยบอกให้พวกแกลงไปนรกพร้อมหน้ากัน”
เย่เทียนเฉินกล่าวพลางปรากฏตัวออกมาอยู่ในสายตาของพวกเฉินหู่ มือทั้งสองล้วงกระเป๋ากางเกง คาบบุหรี่มวนหนึ่งไว้ในปาก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอบอุ่น ไม่มีไอสังหารโผล่ออกมาเลยแม้แต่น้อย
“หือ? หรือว่าแก แกคือเย่เทียนเฉินงั้นเหรอ?” เฉินหู่กัดฟันถาม
“ถูกต้อง!” เย่เทียนเฉินนั่งลงบนโซฟา ยกขาขึ้นมาไขว่ห้างพร้อมกับมองเฉินหู่
เริ่มแรกเฉินหู่แปลกใจ ต่อมาจึงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาที่มุมปาก โบกมือครั้งหนึ่ง หนึ่งในชายฉกรรจ์ก็วิ่งไปปิดประตูห้อง ราวกับกลัวเย่เทียนเฉินจะวิ่งหนีไป
“ไอ้สวะ สวรรค์มีทางแกไม่เดิน นรกไม่มีประตูแกก็เสือกเข้ามา วันนี้จะเป็นวันตายของแก” ดวงตาทั้งสองของเฉินหู่แดงก่ำ คำรามใส่เย่เทียนเฉิน
“ฉันมีคำถามอยากจะถามแกสักข้อ ลูกพี่ของแกเป็นใคร เหนือลูกพี่ของแกยังมีใครอีก?”
เมื่อเย่เทียนเฉินได้ยินบทสนทนาของเฉินหู่กับอันธพาลทั้งสาม ก็คิดว่าตนเองมาถูกที่แล้ว หากว่าคืนนี้ตนเองไม่มากำจัดวัชพืชที่เหลืออยู่ล่ะก็ พ่อและน้องสาวของตนก็อาจจะมีอันตราย ถึงยังไงตัวเขาก็ไม่สามารถอยู่กับพวกเขาทั้งสามคนได้ตลอดเวลา อีกอย่างยังได้รับรู้ถึงแผนชั่วมาอีกด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในเมืองหลวงมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่กลุ่มหนึ่งต้องการจะกำจัดตระกูลเย่ ดูเหมือนจะเป็นแผนที่วางเอาไว้มานานแล้วด้วย
เย่เทียนเฉินไม่ใช่คนประเภทที่จะปล่อยให้อันตรายที่ซ่อนอยู่ทิ้งไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อคนในบ้านหลักตระกูลเย่ แต่จะอย่างไรก็ยังเป็นญาติกัน รวมกับพ่อเขาเป็นคนกตัญญู จะมากจะน้อยก็ต้องใคร่ครวญถึงบ้าง ที่สำคัญกว่านั้นคือ หลายคนคิดว่าตระกูลเย่ตกต่ำลงแล้ว จึงดูถูกตระกูลเย่ เย่เทียนเฉินรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้างกับการถูกปฏิบัติเช่นนี้ ดูเหมือนว่าหากมีโอกาสจะต้องทำให้ตระกูลเย่บ้าระห่ำขึ้นสักหน่อย เชิดหน้าขึ้นมา มิฉะนั้นก็จะถูกผู้อื่นดูถูก ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น แค่พ่อแม่และน้องสาว ในใจเขาก็รับไม่ได้แล้ว!
“ฆ่าไอ้โง่นี่ซะ ให้มันได้รับรู้ถึงความร้ายกาจของฉัน ให้ตระกูลเย่ได้รู้ว่า ถ้ากล้ามาลองดีกับเฉินหู่ มันต้องต้องตายทั้งตระกูล!”
คำพูดของเฉินหู่ทั้งแกร่งกร้าวและวางท่า ถ้าหากว่าคนอื่นได้ยินเข้าล่ะก็ จะต้องหัวเราะจนฟันร่วงหมดปากแน่ๆ เจ้าถิ่นตัวเล็กๆ ในเขตใต้ของเมืองหลวงกล้าท้าทายคนตระกูลเย่ ต่อให้ตระกูลเย่จะย่ำแย่ แต่ก็ไม่ใช่ตระกูลที่เฉินหู่จะมางัดข้อด้วยได้ แต่นี่ก็ยิ่งพิสูจน์ว่าตระกูลเย่ได้ตกต่ำลงแล้วจริงๆ ตกต่ำจนกระทั่งอยู่ในขั้นที่อันธพาลคนหนึ่งกล้ามาระรานแล้ว ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกไม่พอใจจริงๆ
อันธพาลสามคนรับคำสั่งของเฉินหู่ พากันพุ่งเข้าหาเย่เทียนเฉิน ชายฉกรรจ์คนที่พุ่งอยู่ข้างหน้าสุดนั้นไม่ได้เห็น เย่เทียนเฉินอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย หากดูจากภายนอก เขามีร่างกายกำยำกว่าเย่เทียนเฉินมาก ตัวเขาเองคิดว่าแค่หมัดเดียวก็สามารถทำเย่เทียนเฉินฟันร่วงหมดปากได้ จึงพุ่งเข้าไปที่เบื้องหน้าของเย่เทียนเฉินพลางระเบิดหมัดใส่ตรงๆ
เพียะ!
เทียนเฉินดีดก้อนบุหรี่ที่อยู่ในมือขวาใส่หน้าผากของอันธพาลที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าสุด น่าสงสารที่ชายฉกรรจ์คนนั้นเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าหน้าผากของตนถูกก้นบุหรี่ลวกจนเจ็บปวด ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไร เขาก็ถูกซัดจนปลิวไปทั้งตัว ถูกเย่เทียนเฉินใช้หมัดต่อยใส่บริเวณหน้าอก จนกระดูกหักไปหลายซี่ แล้วตกลงไปบนพื้นห่างออกไปหลายเมตร ดิ้นรนสองสามครั้งแต่ก็ลุกไม่ขึ้น
เพียงหมัดเดียวเท่านั้นก็จัดการอันธพาลไปได้คนหนึ่ง เฉินหู่และอันธพาลสองคนที่เหลือตกใจจนนิ่งอึ้ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าไอ้ลูกล้างผลาญและเศษสวะอย่างเย่เทียนเฉิน จะมีฝีมือแข็งแกร่งแบบนี้
“มัวแต่อึ้งอะไรกันอยู่ แทงมันเลย!” มือขวาของเฉินหู่กำปืนพกเบื้องหน้าเอาไว้ คำรามสั่งอันธพาลทั้งสองคนที่เหลือ
อันธพาลอีกสองคนที่เหลือได้สติกลับมา ต่างก็ควักมีดสั้นอันคมกริบออกมาจากข้างหลัง พุ่งเข้ามาหาเย่เทียนเฉินพร้อมกัน ครั้งนี้เย่เทียนเฉินเข้าไปรับหน้าด้วยตัวเอง แต่แค่ประทะหน้ากับคนทั้งสองเท่านั้น ขณะเดียวกันก็พุ่งเข้าไปหาเฉินหู่อย่างรวดเร็ว
เฉินหู่ตกใจจนหน้าถอดสี พอเห็นเพียงเงาร่างร่างหนึ่งพุ่งฟิ้วเข้ามาหาตนเอง ก็รีบยกปืนพกในมือขวาขึ้นเตรียมลั่นไก แต่เขาไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น มีดสั้นของเย่เทียนเฉินจ่อเข้าบริเวณลำคอ แล้วกดเขาจนติดกับกำแพง
“อย่าง…อย่าฆ่าฉัน…” ในที่สุดเฉินหู่ก็หวาดกลัว พูดพลางมองเย่เทียนเฉินอย่างหวาดผวา
ตึง ตึง!
ด้านหลังของเย่เทียนเฉิน ชายอันธพาลสองคนที่เดิมทียืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ก็ล้มลงไปบนพื้นในชั่วพริบตา หลอดลมของพวกเขาต่างถูกมัดสั้นเฉือนจนขาด เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมา
“โอกาสสุดท้ายแล้ว ลูกพี่ของแกคือใคร กลุ่มอิทธิพลที่อยู่เหนือกว่าลูกพี่แกคือใคร?” เย่เทียนเฉินเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
“ฉัน…ฉัน…ฉันไม่รู้จริงๆ…” เฉินหู่ยังปากแข็ง ถึงอย่างไรการขายลูกพี่ของตน และกลุ่มอิทธิพลใหญ่ ไม่เพียงแต่ตนเองจะตาย เกรงว่าคนในครอบครัวทั้งหมดของเขาก็จะต้องตายด้วย
เสียงฉัวะดังขึ้น เย่เทียนเฉินยกมือขึ้แล้วฟันมีดลง แขนขวาของเฉินหู่ถูกฟันขาดออกมาทั้งดุ้น เมื่อต้องต่อกรกับอันธพาลแบบนี้ เย่เทียนเฉินย่อมไม่อ่อนข้อให้ และในโลกแห่งความวินาศ เย่เทียนเฉินก็ไม่อ่อนข้อให้ศัตรูเด็ดขาด
“อ้าก แขนฉัน…อ้าก!” เฉินหู่ร้องโหยหวนออกมาราวกับหมูถูกเชือด อยากจะทรุดตัวลงกับพื้น แต่กลับทำไม่ได้ เนื่องจากมือซ้ายของเย่เทียนเฉินบีบคอของมันเอาไว้ ทำให้เขาเกือบจะหายใจไม่ออก
“แกอยากจะมองโลกนี้เป็นครั้งสุดท้ายมากสินะ?” มุมปากของเย่เทียนเฉินกล่าวขึ้นพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาตรงมุมปาก
“ฉัน…ไว้ชีวิตด้วยเถอะ ไว้ชีวิตด้วย…ฉันบอกแล้ว ฉันจะบอก”
เฉินหู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เดิมทีเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่า เย่เทียนเฉยที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ และดูท่าทางไม่เป็นอันตราย พอลงมือกลับเลือดเย็นแบบนี้ เกรงว่าจะไม่มีใครที่ตกอยู่ในกำมือของเขาแล้วยังกล้าไม่พูดความจริงออกมา
“พี่ใหญ่ของฉันคือหลี่เถีย กลุ่มอิทธิพลที่อยู่เหนือหลี่เถียก็คือตระกูลฉิน!” เฉินหู่กล่าวอย่างเจ็บปวด
ในตอนนี้เองเย่เทียนเฉินก็เข้าใจเสียที ตระกูลฉินต้องการจัดการกับตระกูลเย่มาโดยตลอด เพื่อแย่งชิงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการแห่งเมือง H กับพ่อของตน ตระกูลฉินถึงกับกล้าส่งมือสังหารมา เพื่อให้ตระกูลฉีถอนหมั้นกับตระกูลเย่ เกรงว่าเรื่องเลวๆ ที่ตระกูลฉินทำไปคงจะมีไม่น้อย ดูเหมือนว่าตระกูลฉินจะเห็นว่าเย่เทียนเฉินเป็นลูกพลับนิ่ม อยากจะบีบอย่างไรก็บีบ!
“ขอบคุณ!”
เย่เทียนเฉินกล่าวพลางยิ้มให้กับเฉินหู่ จากนั้นจึงหันกายเดินไปยังประตู เตรียมจะผละไปจากที่นี่ เฉินหู่กัดฟันกรอด พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ใช้มือซ้ายหยิบปืนพกขึ้นมาจากพื้น คิดจะลั่นไกใส่ศีรษะของเย่เทียนเฉิน
ฉึก!
ในขณะเดียวกันกับตอนที่เฉินหู่ยกปืนขึ้น มีดเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามา โดยที่เย่เทียนเฉินไม่หันกลับไปด้วยซ้ำ มีดสั้นที่มีพลังพิเศษผสมอยู่ก็ทะลุลำคอของเฉินหูไปตรงๆ
แรงกระแทกอันรุนแรงสายหนึ่งที่อยู่บนมีดสั้น พาร่างของเฉินหูไปกระแทกกระจกบริเวณกลางห้องจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วตอกร่างของเขาไว้บนกำแพงอย่างฝืนธรรมชาติ เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากปากของเฉินหู่ ส่วนเย่เทียนเฉินนั้นหายไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว…
…………………………………….