ผู้จัดการที่ชื่อว่าฉีฉีตกตะลึงไปด้วยคำพูดประโยคนั้น หล่อนแกล้งอันซย่าซย่าเพราะเด็กสาวเป็นคนหน้าใหม่และเป็นเป้าหมายที่เหมาะเหม็งที่จะแกล้ง แต่ฉีฉีไม่เคยคิดเลยว่าหรงเช่อจะช่วยเหลือยัยเด็กใหม่คนนี้!
ถ้าหากหลีฝานซิงของเธอเป็นนักแสดงชั้นสามละก็ หรงเช่อก็ถือเป็นชั้นหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
หล่อนปั้นหน้าอ่อนหวานทันที “ถ้าอย่างนั้นก็กรุณารับคำขอบคุณจากฉันแทนฝานซิงด้วยนะคะ”
หรงเช่อยิ้มด้วยรอยยิ้มดุจสายลมเย็นของเขา “ด้วยความยินดี”
ฉีฉีรับขวดน้ำมาจากหรงเช่อด้วยมืออันสั่นสะท้านก่อนจะปลีกตัวไป
อันซย่าซย่าเฝ้ามองดูหรงเช่อด้วยหัวใจสีชมพูที่กำลังโบยบินออกมาจากดวงตาของเธอ
เมื่อชั่วโมงก่อน เธอยังคิดอยู่เลยว่าหรงเช่อเป็นไอดอลในฝันที่เธอไม่อาจเอื้อมถึงได้
แล้วชั่วโมงถัดมา หรงเช่อก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วในตอนนี้ มิหนำซ้ำยังมีน้ำใจช่วยเธออีกด้วย!
โอ๊ย! แล้วยังไงละทีนี้! เธอตื่นเต้นเสียจนพูดอะไรไม่ออกเลย!
หรงเช่อยิ้มให้เธอ ซึ่งในตอนนั้นเองที่เธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาได้เปลี่ยนเป็นชุดจีนโบราณแล้ว วิกผมของเขายาวลงมาเหนือหัวไหล่อย่างสง่างามและใบหน้าก็แต่งเบาๆ เอฟเฟกต์ทั้งหมดนั้นช่วยส่งให้เขาดูเหมือนเซียนผู้ถูกเนรเทศให้ลงมาจุติบนโลกมนุษย์และเลิศล้ำเกินกว่าจะเป็นคนของโลกนี้
อันซย่าซย่ากลืนน้ำลายดังเอื้อกขณะที่จ้องใบหน้าเขา “ขอบคุณค่ะ”
หรงเช่อยิ้มอย่างอ่อนโยน “ได้เลย ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็มาหาผมได้ตลอดนะ”
อันซย่าซย่าดีใจจนตัวลอย!
เห็นไหม ไอดอลของเธอช่างสุดยอด! เขาช่างน่ารักยิ่งกว่าเจ้าบ้าเซิ่งอี่เจ๋อซะอีก หล่อล้ำซ้ำยังเข้าถึงง่าย!
“เอ่อ…ฉันเป็นแฟนคะ… ฉะ-ฉัน…” อันซย่าซย่าพูดตะกุกตะกัก แก้มนั้นแดงปลั่ง อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคเต็มๆ ได้
หรงเช่อดูเหมือนจะอ่านใจเธอออก เขาถาม “อยากได้ลายเซ็นผมไหม”
ฮะ อย่างได้สิ! อันซย่าซย่าพยักหน้าหงึกๆ
เธอควานหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กออกมาจากเป้สะพายหลักซึ่งหรงเช่อก็เซ็นให้อย่างสละสลวย จากนั้นเขาก็ยื่นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้น “เรามาถ่ายรูปด้วยกันไหม”
โอ๊ยตาย โอ๊ยตายแล้ว—
อันซย่าซย่าคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมเพราะความดีใจนั้น
เธอหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาและเตะเปิดหน้าจอ หรงเช่อแอบเหลือบมองโทรศัพท์เธอและเห็นว่าภาพหน้าจอไม่ใช่ใครอื่นใดนอกจากรูปของเขาเอง
ฮ่าๆ … อย่างนั้นเธอก็เป็นแฟนของเขาจริงๆ สินะ
หญิงสาวตัวเตี้ยกว่าหรงเช่อมากจนการถ่ายภาพเซลฟี่ไม่สามารถจับใบหน้าทั้งสองคนเอาไว้ได้ในหน้าจอเดียว หรงเช่อแกล้งแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจมากแค่ไหน— เขาหยิบเอาโทรศัพท์ของเธอมาถือไว้ จัดแจงหามุมภาพดีๆ นับ “หนึ่ง สอง สาม” แล้วก็กดถ่ายรูป
“ขอบคุณค่ะ!” อันซย่าซย่าดีใจมาก และดูน่ารักมากตอนกระโดดไปรอบๆ
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องแต่งตัวของสตาร์รี่ไนต์ก็เปิดออกมา และร่างสูงๆ ร่างหนึ่งก็เดินมาหาอันซย่าซย่า ด้วยเรียวคิ้วงดงาม ดวงตาสดใส ท่าทีสง่างามและชุดเสื้อผ้าสีดำที่เขาสวมอยู่นั้น เขาดูมีภาพลักษณ์ของค่ำคืนที่มึดมิด
เซิ่งอี่เจ๋อนั่นเอง
ชายหนุ่มนิ่วหน้าใส่อันซย่าซย่า ท่าทางดูไม่พอใจ “เธอมายืนทำอะไรอยู่แถวนี้ เข้าไป”
อันซย่าซย่ายิ้มอย่างปลื้มปริ่ม
“อี่เจ๋อ ฉันเห็นว่านายเป็นกันเองกับผู้ช่วยตัวน้อยเหลือเกิน” อยู่ๆ หรงเช่อก็ตั้งข้อสังเกต
เซิ่งอี่เจ๋อยังคงสวมสีหน้าเมินเฉย “อ้อ มีอะไรหรือเปล่า”
เจ้าหน้าที่ต่างก็หยุดกิจกรรมที่พวกเขากำลังทำอยู่ และเงี่ยหูรอฟังเอาเรื่องไปซุบซิบ
ข่าววงนอกว่ากันว่าทั้งสองเคยมีประเด็นกันมาครั้งหนึ่งแล้วในงานอีเวนต์ ซึ่งยังคงมีข่าวลือให้เมาท์กันมากมายเลยทีเดียว!
“ฉันไม่อยู่ในฐานะจะทำอย่างนั้นหรอก แต่ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ นี่เป็นครั้งแรกของพวกนายที่ได้ถ่ายละครใช่ไหม มันมีกฎพื้นฐานเกี่ยวกับการถ่ายรูปโปรโมตนะ ให้ฉันแนะนำให้สักหน่อยไหมล่ะ” หรงเช่อยิ้มให้เขา เหมือนเยาะเย้ยเป็นนัยๆ ว่าสตาร์รี่ไนต์น่ะเป็นเด็กหน้าใหม่และเทียบเขาไม่ติด
เซิ่งอี่เจ๋อตอบแค่ “อ้อ” แล้วจากนั้นก็พูดต่อ “แน่นอน แต่ว่ารุ่นพี่ นายแน่ใจนะว่านายจะเล่นบทครูได้”
หึ—
แล้วทั้งหมดก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา